Midterm Fantasy - ตอนที่ 267
มังกรดำตัวนั้นถอยหลังช้าๆโดยไม่รู้ตัว ตาทั้งคู่จ้องไปที่วิทวัสอย่างหวาดกลัว ในเวลาเดียวกัน นักรบมังกรเวก้าก็จ้องมองวิทวัสอย่างสนใจ
“อย่าหนี อย่าหนี เข้ามาช้าๆ ว่าง่ายๆ” วิทวัสย่างสามขุมเข้าหามังกรดำ ขณะที่มันถอยกรูดๆ
คริส แคลร์ ลีออน และอัลเบิร์ตต่างมองวิทวัสและมังกรดำอย่างงุนงง
“เด็กน้อยเมื่อตอนนั้น โตขนาดนี้แล้วรึ” เวก้าพูดขึ้นมา
“หึ! เจ้าใช้สกิลSynchronizeข้ามเวลาของศิลานักปราชญ์มา ตอนนี้อายุของเจ้าน่ะน้อยกว่าข้าเสียอีก” วิทวัสบอก “ถ้าจะคุยกับข้าก็อย่าได้ใช้น้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่พูดกับเด็กเช่นนั้น”
“แล้วถ้าเจ้าไม่อยากให้มังกรของเจ้าต้องตายเปล่า ทางที่ดีเจ้าก็ควรมาสู้กับข้าด้วยตนเอง” วิทวัสยังคงเดินตรงไปที่มังกรดำ “เจ้าน่าจะจำได้ ตอนที่ข้าเป็นศิษย์คนสุดท้ายของราชาอันเดทและราชาให้เจ้ามังกรโง่ตัวนี้เป็นคู่ซ้อมกับข้า … ทุกครั้งมันต้องพักฟื้นกี่วันเจ้าคงยังจำได้ใช่ไหม”
เวก้าสะอึกไม่พูดอะไรต่อ ขณะที่เจ้ามังกรดำสบโอกาสที่วิทวัสหันหน้าไปอีกทาง โก่งคอออกเตรียมพ่นไฟใส่วิทวัสที่อยู่เบื้องหน้า
“ตายซะ [Dragon Breat…..อู้คคคค”
ร่างของวิทวัสหายไปจากเบื้องหน้าของมัน ฉับพลันนั้นเจ้ามังกรก็เจ็บปวดที่ใต้คาง แรงต่อยจากหมัดเบื้องล่างกระแทกปากที่กำลังเปิดอยู่ให้หุบลง เปลวไฟที่กำลังจะพุ่งออกมากระแทกติดคาที่เพดานปากเต็มๆ
ฟู่!!!!!
“อ้ากกกกก”
มังกรไฟสีดำดิ้นลงกับพื้นพยายามดับไฟที่ลุกไหม้ใบหน้าของตน มันไม่เพียงดิ้นเปล่าหากแต่ดิ้นกลิ้งให้หนีห่างจากชายตรงหน้า
“เท็นสไควร์ ช้าก่อน …”
“เจ้าไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องถ่วงเวลา … ข้าใช้ Power Overwhelming ได้ติดต่อกันเพียงชั่วโมงเดียว อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่”
วิทวัสเตรียมจัดการกับมังกรดำต่อ ถ้าจัดการมอนสเตอร์ที่น่ากวนใจนี้ได้ล่ะก็ คู่ต่อสู้ก็จะเหลือแค่เพียงเวก้าเพียงคนเดียว
“อันที่จริงข้าก็อยากเล่นสนุกให้นานกว่านี้ แต่ในเมื่อเจ้าไม่เปิดโอกาสให้เรารำลึกความหลังกันข้าก็คงต้องจัดการให้เรื่องมันจบไป” เวก้ายกมือขึ้น “พวกเราทั้งหมด โจมตีตามแผน”
โฮกกกกกกกก
ว๊ายยยยยยยย
กี๊กี๊กี๊
เสียงของมอนสเตอร์บนท้องฟ้านานาชนิดร้องประสาน ก่อนที่ทั้งหมดจะโจมตีลงมาพร้อมๆกัน มังกรดำอาศัยจังหวะนั้นบินหนีขึ้นท้องฟ้า
“ทั้งหมดตั้งโล่ป้องกัน ใช้หอกต่อสู้เป็นหลัก” อัลเบิร์ตสั่ง “จอมเวทเตรียมการคุมกัน”
กองทหารทั้ง4พันต่างเข้าสู่โหมดป้องกัน ทั้งหมดยกหอกขึ้นประดุจเม่น ขณะที่ไวเวิร์น ค้างคาวยักษ์ และมอนสเตอร์บินได้ต่างพุ่งโจมตีลงมา วิทวัสพุ่งเข้าเตะค้างคาวยักษ์ตัวหนึ่งจนหัวระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ต่อยเข้าใส่ปีกไวเวิร์นจนหักกระเด็น มองค้นหาเวก้าหมายจะเผด็จศึก หากแต่เวก้านั้นถอยห่างออกไปและกระโดดขึ้นหลังมังกรดำ
ก๊าซซซซซ!
เสียงร้องของไวเวิร์นที่ดังขึ้นทำให้วิทวัสฉุกใจว่าไม่เข้าท่าแล้ว เขามองไปรอบๆ
กองทหารทั้งหมดไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
เพราะการบุกโจมตีเมื่อครู่ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่กองทหาร หากแต่มุ่งไปที่ไวเวิร์นที่ใช้ขนส่ง!
เมื่อไวเวิร์นขนส่งทั้งหมดตายลง เหล่ามอนสเตอร์ที่โจมตีลงมาต่างก็ค่อยๆถอยกลับขึ้นฟ้า
“ฮ่าๆ ทีแรกข้าคิดว่าจะเล่นสนุกกับพวกเจ้าให้นานกว่านี้ แต่ในเมื่อพวกเจ้าส่งนักรบมังกรอีกคนให้มุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านนั่น ข้าก็ขอตามไปจัดการมันซะก่อนแล้วกัน” เวก้าตะโกนลงมา
เห็นได้ชัดว่าเวก้าก็ใช้สกิล Battle map ให้เป็นประโยชน์ จึงบอกตำแหน่งของทุกคนได้อย่างแม่นยำ
“เจ้า! ถ้าแน่จริงเจ้าลงมาสู้กับข้าตัวต่อตัวเดี๋ยวนี้!” วิทวัสตะโกน
“เจ้าคิดว่าข้าโง่นักหรือไง ข้ามีกองทัพมังกรที่แข็งแกร่ง มีมอนสเตอร์ในบังคับมากมาย ขอแค่ข้าถ่วงเวลาไว้ได้สักหน่อยและจัดการทุกคนที่สามารถใช้ลูกแก้วไพล่อนได้ ก็จะไม่มีอาณาจักรใดส่งกองหนุนมาช่วยแอสคาลอนได้” เวก้าบอก “ในเมื่อที่ข้าต้องทำก็แค่ป้องกันไม่ให้พวกเจ้าเข้าถึงลูกแก้วไพล่อนได้ ทำไมข้าต้องเสี่ยงลงไปสู้กับเจ้าด้วยล่ะ”
“หนอย!”
“เอาเถอะ อันที่จริงข้าจะสู้กับพวกเจ้าก่อนก็ได้ เพราะถึงไวเวิร์นตัวนั้นจะไปถึงหมู่บ้านนั่น ด้วยคนแค่นั้นก็ไม่มีทางเอาชนะฝูงมังกรที่ข้าทิ้งไว้ที่นั่นได้หรอก” เวก้าบอก
“ฝูงมังกร!” วิทวัสใจหายวาบ เพราะแพทลูกสาวของเขาอยู่ที่หมู่บ้านโอลเซ่น
“ใช่แล้วเท็นสไควร์ เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นคนที่ไม่ชอบความไม่แน่นอน ถึงข้าจะมั่นใจว่ามังกรที่ข้าทิ้งไว้ที่นั่นหลายสิบตัวจะจัดการกับนักรบมังกรที่เจ้าส่งไปคนเดียวนั่นได้ แต่ถ้าข้าไม่ได้จัดการมันด้วยมือของข้าเองข้าก็คงไม่สบายใจ” เวก้าสั่งมังกรดำให้ค่อยๆยกตัวขึ้น “เอาล่ะ ข้าขอตัวก่อน พอข้าจัดการนักรบมังกรคนนั้นเรียบร้อยแล้วก็จะกลับมาเล่นสนุกกับพวกเจ้า”
เวก้าและมอนสเตอร์ในสังกัดบินห่างออกไปเรื่อยๆ ทุกคนได้แต่มองตามอย่างทำอะไรไม่ได้
“เราจะเดินเท้าไปโอลเซ่นกันดีไหม” ใครคนนึงพูด
“ไม่ได้!” วิทวัสห้าม “ที่เวก้าพูดเมื่อครู่ มันตั้งใจจะให้เราร้อนใจเดินเท้าไป แล้วคงจะซุ่มโจมตีทีหลัง กำลังของเราเท่านี้ฝ่าไปไม่ถึงแน่ๆ”
“แล้วหมู่บ้านโอลเซ่นล่ะครับ”
“จากรายงานก่อนนี้ หมู่บ้านถูกโจมตีตั้งแต่เช้า จากที่นี่กว่าเราจะเดินทางไปถึงก็อีก1วันเต็มๆ ยังไงก็ช่วยไม่ทันหรอก” วิทวัสบอก “คงต้องฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่แพทและรอนแล้ว”
“เอาล่ะพวกเราทั้งหมด เคลื่อนกำลังเข้าแอมโบรเซีย เราจะไปเสริมกำลังป้องกันเมืองกัน”
คุณพ่อมองไปทางทิศของโอลเซ่นอีกครั้ง ภาวนาให้เด็กๆทั้งสองปลอดภัย
“มันไม่เคลื่อนกำลังตามมาแฮะ สมแล้วที่เป็นเจ้าเท็นสไควร์ คงรู้ว่าข้าตั้งใจจะซุ่มโจมตี” เวก้าปิดแผนที่รบในsystemลง
“<System> ทำไมข้าสื่อสารทางจิตกับมังกรที่กำลังโจมตีหมู่บ้านไม่ได้เลย” เวก้าถาม
“{ดูเหมือนมังกรเหล่านั้นจะมีอะไรบางอย่างขัดขวางการส่งกระแสจิตอยู่}” ศิลานักปราชญ์ตอบ
“แปลกจริง เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เวก้ารำพึง “แต่ช่างเถอะ ขอแค่จัดการนักรบมังกรที่หนีไปได้คนนั้น ทุกอย่างก็จะอยู่ในความควบคุมของข้าแล้ว”
“เหล่าไวเวิร์นเอ๋ย พวกเจ้าจงรุดหน้านำไปก่อน โจมตีไวเวิร์นขนส่งตัวสุดท้ายนั่นถ่วงเวลาไว้ให้ได้ ไป!”
สิ้นเสียงคำสั่ง ไวเวิร์นหลายสิบตัวก็เร่งความเร็วพุ่งออกไป
ขณะที่เวก้าก็สงสัย … เกิดอะไรขึ้นกับมังกรที่ทิ้งไว้ให้โจมตีหมู่บ้านกันนะ?