Midterm Fantasy - ตอนที่ 269
เสียงโห่ร้องยินดียังไม่ทันเงียบลง แรงสั่นสะเทือนที่พื้นที่แรงขึ้นเรื่อยๆก็ทำให้ทุกคนต้องเงียบลง
“นั่นมันอะไรกัน”
“มังกร มังกรดิน!”
“นั่น ดูนั่นบนท้องฟ้า ไวเวิร์นเต็มไปหมดเลย”
“ทุกคนประจำสถานีรบ เตรียมเครื่องยิงหินให้พร้อม ตั้งเครื่องบัลลิสต้า” โรล่าสั่งการทันที เด็กสาวมองไปทางกองทหารม้าที่อยู่เบื้องล่าง “กัปตันเรย์คะ นำทหารม้าทั้งหมดไปที่คฤหาสน์เคลื่อนย้ายเด็กๆและคุณแพทออกจากที่นั่นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“แต่ว่าที่นี่….” กัปตันเรย์ตะโกนแย้ง
“มันมากันหลายสิบตัว ประตูของเราป้องกันมังกรดินไม่ได้นานแน่ๆ ไปเถอะค่ะ” โรล่าบอก “เครื่องยิงหินทั้งหมด เปลี่ยนไปใช้กระสุนระเบิดเวทมนตร์ ระยะ 600 เมตร ยิงเมื่อพร้อม เริ่มยิงได้”
ปึง ปึง ปึง ปึง ตูม ตูม ตูม ตูม
เครื่องยิงหินระดมยิงออกไปอย่างต่อเนื่อง กระสุนเวทมนตร์ลอยขึ้นไปในอากาศก่อนจะตกลงกระทบพื้น เสียงดังกัมปนาทแสงวาบจากเปลวเพลิงลุกโชติช่วง เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของมังกรดินดังขึ้นหากแต่พวกมันยังคงวิ่งตรงเข้ามาเรื่อยๆไม่หยุด
“บัลลิสต้า เตรียมตัว ยิง!”
ผึง ๆ ๆ ๆ ๆ
โฮกกกก
หอกยักษ์นับไม่ถ้วนปักลงไปบนมังกรดินตัวแรก มันร้องอย่างเจ็บปวดแต่ก็ยังคงวิ่งต่อไปจนกระแทกเข้ากับประตูหมู่บ้าน ประตูไม้บานยักษ์ถูกกระแทกอย่างแรงจนแทบจะหลุดออกจากบานพับ
“บัลลิสต้า ยิงอีก”
ผึง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
มังกรดินร้องออกมาสุดเสียง มันใช้แรงเฮือกสุดท้ายกระแทกประตูหมู่บ้าน ประตูบานยักษ์กระแทกแตกและล้มลง มังกรดินที่เต็มไปด้วยเลือดเดินต่อไปข้างหน้าก่อนจะเสียหลัก มันตกลงไปในหลุมขนาดใหญ่ที่ถูกขุดดักไว้ที่หน้าประตูหมู่บ้าน
โฮกกกกก. เสียงร้องดังออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเงียบไปตลอดกาลเพราะทั่วทั้งร่างถูกขวากไม้ใต้หลุมทิ่มแทง ชาวบ้านและนักผจญภัยต่างโห่ร้องยินดี แต่เสียงของโรล่าก็ดังขึ้น
“อย่าเพิ่งดีใจ พวกมันบุกมาแล้ว!”
ใบหน้าอันดีใจของทุกคนแปรเปลี่ยนเป็นความสยดสยอง เพราะมังกรดินมหึมาอีกนับสิบพุ่งเข้ามาตามประตูที่พังล้มลง
“เทรบูเช่ต์ ยิง!”
ควับ ควับ ก้านไม้อันใหญ่ยิ่งเหวี่ยงหมุนออก เครื่องยิงหินที่ดักรออยู่กลางถนนสองเครื่องเหวี่ยงหินหนักนับร้อยกิโลให้พุ่งตรงไปข้างหน้า หินกระแทกเข้าที่หัวของมังกรดินจนหัวสะบัด มันเสียหลักหมดสติล้มลงกับพื้น
ฉับพลันที่มังกรดินตัวที่สองล้มลง มังกรดินตัวที่สามก็ไต่ข้ามร่างที่ล้มอยู่มา แล้วพุ่งเข้าใส่เครื่องยิงหินทั้งสอง
พลประจำเครื่องเทรบูเชต์เตรียมหมุนคานเตรียมยิงครั้งถัดไป แต่เงาทะมึนที่พุ่งมาทำให้ทุกคนตาเบิกโพลง
“สละเครื่อง”
“หนีเร็ว”
“อ้ากกกก”
คนนับสิบวิ่งหลบออกจากพื้นที่ มังกรดินขนาดยักษ์เหยียบย่ำทุกสิ่งทุกอย่าง เครื่องยิงขนาดใหญ่แตกกระจาย เศษไม้และเลือดเนื้อเกลื่อนไปทั่ว
“พอล รับช่วงที่นี่ด้วย” โรล่าสั่งเพื่อน “พอมังกรดินพวกนี้ผ่านไปแล้ว ให้ทุกคนขนหินดินมาปิดประตูที่แตกนี้ให้หมด”
“โรล่า เธอจะไปไหน”
“ไปที่โบสถ์ พวกนั้นมันมุ่งเป้าไปที่โบสถ์” โรล่าบอกก่อนจะหันไปอีกด้าน ตาเรืองประกายสีดำ “เจนัว มานี่เร็วเข้า”
เสือดำกระโจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสาว เธอขึ้นขี่บนหลังของมัน
“ไปเร็วเจนัว ไปที่โบสถ์!”
เสือดำโจนทะยานไปตามตรอกซอย เส้นทางหลักที่มุ่งไปที่โบสถ์นั้นมีการตั้งสิ่งกีดขวางเป็นระยะ โดยตามมุมตึกต่างๆจะมีจุดวางกำลังซุ่มโจมตีเอาไว้ เสียงคำรามและเสียงพังทลายดังออกมาเรื่อยๆ
ความจริงแล้วมังกรดินที่ไร้ต้านควรจะพุ่งรวดเดียวไปจนถึงโบสถ์ใจกลางหมู่บ้าน หากแต่ด้วยรูปแบบแนวป้องกันและหอยิงที่รอนวางเอาไว้ทำให้มังกรดินทั้งหลายไม่สามารถเร่งความเร็วได้
โรล่าสั่งเจนัวให้พุ่งเข้าไปตามตรอกทางลัด เสียงมังกรดินเริ่มอยู่ด้านหลังเธอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าใกล้กำแพงชั้นใน เด็กสาวจึงสั่งให้เจนัวกลับเข้าถนนใหญ่ ข้างหน้าเป็นประตูทางเข้าหมู่บ้านชั้นใน
เหนือศีรษะนั้น ไวเวิร์นจำนวนมากปกคลุมท้องฟ้าในทิศทางของโบสถ์
ส่วนมังกรดินวิ่งไล่ตามมาทางด้านหลังไป300เมตร!
“ปิดประตู ปิดประตู!” โรล่าร้องบอกชาวบ้านที่คุมประตูที่เบื้องหน้า คนนับสิบช่วยกันเข็นประตูหนักอึ้งเข้าปิด เสือดำพุ่งผ่านประตูที่กำลังจะปิดได้พอดี
“ปิดประตูลงดาลให้แน่น ขนหินมาปิดทางเข้าเอาไว้” โรล่าร้องสั่ง “ถ่วงเวลาจนกว่าคนที่โบสถ์จะหนีได้หมด”
ประตูไม้ถูกลั่นดาลลงก่อนที่จะเกิดแรงกระแทกรุนแรงเข้าจนไม้ลั่นเปรี๊ยะ ชาวบ้านนับร้อยที่คุมประตูต่างช่วยกันขนสิ่งของมากองทับกันแข่งกับเวลา ส่วนโรล่าขี่เสือดำมุ่งไปข้างหน้า
เสียงเด็กๆจำนวนมากดังเซ็งแซ่มาจากที่โบสถ์ ทหารม้าที่มาถึงกำลังช่วยกันพาทุกคนมารวมกันที่โบสถ์เตรียมการอพยพ ภายในนั้นที่แท่นบูชาจิลยืนอยู่เคียงข้างแพทที่กำลังปล่อยพลังเข้าสู่ลูกแก้วไพล่อน
แกว๊ก!
“ทุกคน ระวัง!” กัปตันเรย์ยกหน้าไม้ในมือขึ้น “ยิงไวเวิร์นพวกนั้นเร็วเข้า”
ลูกดอกหลายสิบดอกพุ่งขึ้นไปในอากาศ ไวเวิร์นที่กำลังโฉบลงมากระพือปีกอย่างแรงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและถอยห่างไป ไวเวิร์นอีกหลายตัวร่อนลงมาที่พื้นห่างออกไปตั้งหลักเตรียมการโจมตี เหล่าทหารและเด็กๆมองมอนสเตอร์รอบๆอย่างหวาดหวั่น
เสือดำเจนัวดูเหมือนจะนึกอะไรออกมาได้ มันออกวิ่งอีกครั้งโดยที่โรล่าไม่ทันออกคำสั่ง
“อ๊ะ! เจนัว จะไปไหน”
เด็กสาวร้องออกมา เพราะเสือดำของเธอวิ่งตรงไปข้างหน้ามุ่งไปทางเรือนกระจกซึ่งไวเวิร์นตัวนึงกำลังร่อนลงมา
‘แม้ว แม้ว แม้ว’
เสียงลูกเสือร้องออกมาจากเรือนกระจำทำให้โรล่านึกได้ เจ้าเจนัววิ่งตรงไปที่ประตูแล้วตะกุยจนประตูเรือนกระจกเปิดออก โรล่ากระโดดลงจากหลังของเจนัวแล้วคว้าหน้าไม้ออก ยิงกระสุนเวทมนตร์ใส่ไวเวิร์นที่ใกล้ที่สุด
ปัง!
ไวเวิร์นผงะถอยอย่างแปลกใจมากกว่าเจ็บปวด
ไม่เพียงแต่ไวเวิร์นตัวนั้นที่แปลกใจ หากแต่ไวเวิร์นตัวอื่นๆก็แปลกใจเช่นกัน
ต่อหน้าไวเวิร์นนับสิบเช่นนี้ แม้แต่กองทหารที่มีกำลังนับพันก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างระวัง แต่ไฉนเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงเข้ามาในวงล้อมและโจมตีมันกัน
โครม! ครืนๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงดังลั่นมาจากทางประตูหมู่บ้านชั้นใน แรงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นตามมา พริบตาเดียวมังกรดินนับสิบก็มาถึง และยืนเรียงรายอยู่เบื้องหลังกลุ่มไวเวิร์นที่มาถึงก่อน
ตอนนั้นเองที่กัปตันเรย์และเหล่าทหารม้ารับรู้ได้ถึงความหนาวยะเยือกที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งแผ่นหลัง ไวเวิร์นและมังกรดินที่อยู่เบื้องหน้าเรือนกระจกมีจำนวนกว่า40ตัว จำนวนขนาดนี้อย่าว่าแต่พวกเขาเลย
ต่อให้กำลังทหารทั้งเมืองกาล่าก็ไม่มีทางเอาชนะในการต่อสู้แบบซึ่งหน้าเช่นนี้!
มังกรดินที่มาถึงติดอยู่เบื้องหลังไวเวิร์น พวกมันมองไวเวิร์นที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างแปลกใจ ทำไมไวเวิร์นเหล่านี้ถึงมาหยุดรอที่หน้าเรือนกระจกไม่บุกเข้าไป
‘ทำไมไม่บุก’ มังกรดินถามไวเวิร์นด้วยภาษามังกร
‘พวกเจ้าไม่รู้สึกว่าแปลกหรือยังไง เด็กมนุษย์นั่นจู่ๆก็บุกเข้ามาใจกลางกลุ่มของพวกเรา’ ไวเวิร์นตอบ
‘เด็กคนนี้ นี่มันคนที่ใช้เวทชั้นสูง คนที่เหมือนเป็นผู้นำทัพของมนุษย์ที่นี่นี่นา’ มังกรดินนึกได้
เผ่าพันธุ์มังกรเป็นพวกที่มีความชาญฉลาด พวกมันรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ
ผู้นำทัพเผ่ามนุษย์ไม่ควรจะเสี่ยงตายแบบนี้โดยไม่มีเหตุผล
กับดักรึ?
เหล่าไวเวิร์นและมังกรเคลื่อนตัวอย่างระวัง พวกมันค่อยๆกระจายกำลังล้อมเรือนกระจกโดยไม่ลืมสังเกตทหารและเด็กๆที่อยู่ในโบสถ์
ในเวลาเดียวกัน โรล่าก็แตกตื่นขึ้นมาทันที ทีแรกเธอนึกว่ามังกรเหล่านี้จะบุกเข้ามาเพื่อจัดการกับลูกแก้วไพล่อน แต่ว่าจู่ๆพวกมันก็กระจายกำลังล้อมเรือนกระจกไว้ … เกิดอะไรกันแน่
รึว่า!
โรล่าหันควับกลับไปมองภายใน
พืชปีศาจ ในนั้นมีพืชต้องสาปอยู่!
ไวเวิร์นตัวหนึ่งเงยหน้าขึ้นท้องฟ้า มันคำรามส่งเสียงไปถึงมังกรทั้ง5ที่บินอยู่เบื้องบน
“พวกเจ้าเห็นเหมือนที่ข้าเห็นใช่ไหม” มังกรแดงบอก
“ใช่ ในเวลาคับขันเช่นนี้เจ้าเด็กนั่นเลือกปกป้องเรือนกระจก” มังกรเขียวบอก
“ข่าวลือจากสายของเรา ก่อนหน้านี้มีการใช้เวท Greater High Blessingในเมืองนี้มาก่อนครั้งนึง เวทนั้นถูกใช้กับเรือนกระจกแห่งนี้” มังกรเหลืองกล่าวต่อ
“ดูเหมือนในนั้นจะมีอะไรบางอย่างที่สำคัญ สำคัญจนกระทั่งผู้นำกองทัพต้องปกป้อง” มังกรน้ำเงินบอก “พวกเรา ลงไปกัน”
มังกรทั้ง5ร่อนลงสู่พื้น ร่างมหึมาทั้ง 5 แฝงไปด้วยพลังอันน่าเกรงขาม ม้าศึกที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีล้วนส่งเสียงร้องอย่างขวัญเสีย บางตัวน้ำลายฟูมปากล้มลงหมดสติ
ออร่าแห่งมังกรนั้นอยู่เหนือสรรพชีวิต
“โรล่า หนีเร็ว” เสียงของแพทร้องออกมา
มังกรทั้งห้าตัวหันขวับไปมองทันที ตาเป็นประกายเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ
เป้าหมายของพวกมัน ! ลูกแก้วไพล่อน!
เจนัวและลูกๆยืนขาสั่น เจ้าเสือดำหน้าหงอยอย่างสำนึกผิดที่มันพาเอาเจ้านายเข้ามาอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นนี้
ขณะที่เด็กสาวก็กลัวไม่ต่างกัน หากแต่เธอนั้นเพิ่งตระหนักถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติเอามากๆ
ทำไมมังกรที่น่าจะพุ่งเป้ามายังลูกแก้วไพล่อน ถึงได้มาออกันที่หน้าเรือนกระจกนี้
แต่เมื่อนึกถึงคำที่คุณตาเบรเซอร์เคยกล่าว คุณตาสั่งให้เธอทำลายพืชต้องสาปเหล่านี้ และเธอก็ทำไม่สำเร็จ ตอนนี้ในเรือนกระจกเต็มไปด้วยพืชเหล่านั้น
ไม่ผิดแน่ มังกรนั่นมันพุ่งเป้ามาที่พืชเหล่านี้
แปลว่าพืชเหล่านี้ต้องสำคัญมาก มากยิ่งกว่าลูกแก้วไพล่อน
“โรล่า หนีเร็วเข้า” แพทร้องตะโกน
“ไม่ค่ะคุณแพท คุณแพท คุณเรย์ ทุกๆคน หนีไป เอาลูกแก้วไพล่อนไป” โรล่าตะโกนบอก กัปตันเรย์ที่นึกได้เข้าไปจับแขนแพทเพื่อดึงให้รีบหนี
“โรล่า อย่าทำอะไรบ้าๆนะ เธอสู้พวกมันไม่ได้หรอก” แพทร้องต่อ “ไปเร็วเข้า”
“ไม่ได้ค่ะ ของในเรือนกระจกนี้เป็นความรับผิดชอบของโรล่า โรล่าจะให้ของในนี้ตกอยู่ในมือของมังกรพวกนี้ไม่ได้”
มังกรทั้งห้าตัวหรี่ตามองอย่างครุ่นคิด
“เจ้าเด็กคนนี้พูดความจริง” มังกรน้ำเงินพูดอย่างแปลกใจ
“แต่ตรงนั้นมีลูกแก้วไพล่อน” มังกรเหลืองบอก “อะไรจะมาสำคัญกว่าลูกแก้วไพล่อนได้”
“เอาอย่างนี้ พวกเจ้าจัดการลูกแก้วไพล่อน ข้าจะรับหน้าที่จัดการเจ้าเด็กนี่แล้วดูเองว่าในเรือนกระจกนี่มีอะไร” มังกรแดงกล่าว
มังกรที่เหลืออีก 4 ตัวแค่นเสียงใส่
“เจ้าไม่ต้องเสียสละก็ได้ ถ้าแบบนั้นข้าจะเสียสละเอง เจ้าไปจัดการลูกแก้วไพล่อนเถอะ” มังกรเขียวกล่าว
“ข้าเอง พวกเจ้าไปเถอะ”
“ข้าเอง”
“ข้าเอง”
มังกรทั้งหลายต่างทุ่มเถียงกัน … ยังไงพวกมนุษย์ก็หนีไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าหากในเรือนกระจกคือของวิเศษมีค่า มังกรตัวที่ได้ไปย่อมได้รับผลประโยชน์กว่าตัวอื่นๆ … ทั้ง 5 ตัวจึงไม่มีใครยอมใคร
“เจนัว เจ้าพาลูกๆไปเถอะ” โรล่าตบหลัง “ไม่มีประโยชน์ที่จะมาตายที่นี่”
เสือดำมองหน้าโรล่า มันลังเลชั่วครู่ก่อนที่จะพาลูกๆวิ่งไปที่โบสถ์ ที่ซึ่งแพทถูกเหล่าทหารแบกไปอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
“โรล่า อย่าทำแบบนี้” แพทร้องเสียงหลง “รอนไง รอนกำลังมา ถ้าเธอไม่อยู่แล้วรอนจะเสียใจแค่ไหน”
“ฝากคุณรอนด้วยค่ะ บอกคุณรอนด้วยว่าโรล่ารักเขา” เด็กสาวบอกพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา “คุณแพท …มีความสุขเผื่อโรล่าด้วยนะคะ”
“โรล่าาาาา” เสียงร้องของแพทที่ถูกทหารสี่นายแบกดังมาจากท้ายโบสถ์และลับหายไป
โรล่าหันกลับมา … ต่อหน้าเธอ คือไวเวิร์น มังกรดิน และมังกร รวมกันกว่า40ตัว
มังกรทั้ง5ตัวตกลงกันได้พอดี พวกมันจะแบ่งสิ่งที่อยู่ในเรือนกระจกนี่ก่อน แล้วค่อยไล่ตามหาลูกแก้วไพล่อน
“หี่ หี่ หี่ เจ้าเด็กน้อย”มังกรแดงแสยะยิ้มและเดินเข้าไปช้าๆ
“เฮ้ๆๆ ช้าก่อน ช้าก่อน ตกลงกันแล้วไงว่าจะเข้าไปพร้อมๆกัน” มังกรเหลืองดุ
โรล่าปาดน้ำตาออก มองดูมังกรเบื้องหน้า เห็นได้ชัดว่าพวกมันหมายมั่นกับพืชต้องสาปที่เธอปลูก เด็กสาวกลั้นสะอื้นลำคอ ที่แท้พืชที่เธอปลูกเป็นสิ่งที่นำหายนะมาสู่หมู่บ้านนี่เอง พวกมันมาเพื่อพืชเหล่านี้
เธอต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
โรล่ายกมือทั้งสองขึ้นและร่ายเวท เวทโจมตีที่แรงที่สุดเท่าที่เธอจะใช้ได้ และค่อยๆเดินถอยหลัง
“ฮ่าๆๆ ยังคิดสู้เรอะ ดี ดี ข้าชอบ” มังกรแดงบอก “ข้าอยากเห็นความสิ้นหวังของเจ้า”
มังกรทั้งห้าค่อยๆก้าวเข้าไปช้าๆ แต่แล้วมังกรน้ำเงินก็เห็นความผิดปกติ
“มันไม่ได้โจมตีเรา มันตั้งใจจะระเบิดตัวเอง” มังกรน้ำเงินร้องคำรามเมื่อเห็นวงแหวนเวทไฟที่กำลังก่อตัวที่เท้าของเด็กสาว “มันจะทำลายเรือนกระจก”
โฮกกกกก
ผัวะ!
มังกรน้ำเงินพุ่งเข้าไป ฟาดร่างของโรล่าจนกระเด็น ร่างของเด็กสาวลอยไป10กว่าเมตรกระแทกเข้ากับประตูโบสถ์ดังพลั่ก
“ฟู่ เกือบไม่ทัน” มังกรน้ำเงินบอกก่อนจะชะงักกับเสียงด้านหลัง “พวกเจ้า!”
“ฮ่าๆๆ ของในนี้ต้องเป็นของข้า” มังกรแดงพุ่งเข้าใส่เรือนกระจก
“ต้องเป็นของข้าต่างหาก”
“ของข้า”
“ของข้า”
“ข้าอุตส่าห์ป้องกันไม่ให้ของถูกทำลาย พวกเจ้าหักหลังกันได้ลงคอ” มังกรน้ำเงินโถมเข้าใส่เรือนกระจกทันที
วินาทีที่มังกรทั้งหมดเห็นเด็กสาวตั้งใจจะระเบิดตัวเองไปกับเรือนกระจก พวกมันก็มั่นใจว่าในนั้นมีของวิเศษที่มนุษย์ไม่ยินยอมให้ตกอยู่ในมือของพวกมัน
ต้องครอบครอง! ต้องครอบครองให้ได้!
เพล้ง! เพล้ง!
เรือนกระจกแตกกระจาย มังกรทั้งห้าโถมกายเข้าไป ในสภาพที่แก่งแย่งกันนั้นทั้งหมดกัดงับทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างน้อยหากมีสิ่งมีค่าและมันรีบกัดกลืนลงไป มังกรที่เหลืออีก4ตัวก็จะไม่ได้มันไป
งั่ม งั่ม งั่ม งั่ม
งั่ม งั่ม งั่ม
งั่ม งั่ม
งั่ม
เสียงกัดเคี้ยวดังลั่นไปทั่ว พืชสีเขียวที่ขึ้นอยู่เต็มเรือนกระจกถูกมังกรทั้ง5แย่งกันงับกัดกินจนหมดสิ้น ขณะที่ไวเวิร์นและเหล่ามังกรดินมองอย่างเสียดายและรอเวลาว่าเมื่อไหร่พวกมันจะได้ส่วนแบ่งที่เหลือบ้าง
สักพัก มังกรทั้ง 5 ตัวก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าลง ช้าลง
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมข้ารู้สึกตัวลอยๆ”
“ข้าเหมือนกับเวียนหัว”
“ทำไมเจ้ามีสองหัว”
มังกรน้ำเงินเอะใจเป็นตัวแรก มันมองไปที่พืชที่ขึ้นในแปลง ใบ7แฉกสีเขียวขอบหยักนั่นมัน!
“ฉิบหายแล้ว หญ้าต้านมังกร”
“ห๊ะ”
“ฮะ”
“ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า ๆๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆ พวกเราเจอหลอก”
“ฮ่าๆๆๆๆ ฉิบหายแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
มังกรทั้ง 5 ตัวเริ่มควบคุมตนเองไม่ได้โงนเงนไปมา พวกมันทั้งเวียนหมุน ทั้งอยากอาเจียน น้ำมันเพลิงไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เปลวไฟพุ่งออกจากปากเผาผลาญเรือนกระจกและที่ข้างเคียง
“อะไรกัน ทำไมท่านมังกรทั้ง5ถึงเผาของในนั้นล่ะ”
“หัวเราะกันอย่างพึงพอใจเช่นนี้ แปลว่าของที่ได้มาต้องเป็นของดีย์”
“ของดีย์ แต่เผาทิ้ง คิดจะไม่แบ่งให้พวกเรางั้นเรอะ”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน แต่มังกรดินตัวหนึ่งพุ่งเข้าไปหมายจะแย่งชิง ไวเวิร์นและมังกรดินตัวอื่นๆก็พุ่งตามเข้าไป
สิ่งมีค่าที่เด็กนั่นพยายามปกป้องด้วยชีวิต
สิ่งมีค่าที่มังกรทั้ง5ได้มาแล้วพยายามเผาทิ้ง
ต้องเป็นของดีแน่นอน
เปลวไฟเผาลามไปถึงกองกัญชาอัดแท่งที่โรล่ากองไว้เท่าภูเขาย่อมๆ ควันลอยกรุ่นขึ้นมา มังกรน้ำเงินที่ยังพอเหลือสติพยายามเข้าไปจัดการ … นี่ต้องเป็นหญ้าต้านมังกรตากแห้งที่มนุษย์ตั้งใจจะใช้ทำลายพวกมันแน่ๆ
ต้องทำลาย!
ฟู่ๆๆๆๆๆ เปลวไฟมังกรเผาเข้าที่กองกัญชาตากแห้ง
พลั่ก
“อ้ากกกก ฮ่าๆๆๆ เจ้าจะทำอะไร” มังกรน้ำเงินร้อง
“ได้ของแล้วคิดทำลายงั้นเรอะ ฝันไปเถอะ ของต้องเป็นของข้า” มังกรดินตัวหนึ่งร้องขึ้นก่อนจะโถมเข้าใส่กองภูเขากัญชาอัดแท่ง
“อย่าฮ่าๆๆๆๆ อย่า”
แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ มังกรดินและไวเวิร์นต่างเห็นการห้ามเป็นสัญญาณว่าแท่งสีเขียวนั้นคือของดี พวกมันกันกลืนก้อนสีเขียวลงไป
กลุ่มควันเปลวไฟหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ มังกรทั้งหลายที่กำลังต่อสู้แย่งชิงกันต่างรู้สึกแปลกขึ้นเรื่อยๆ
“ข้าเหมือนจะบินได้ ฮ่าๆๆๆ ดีย์ ดีย์ ข้าบินได้แล้ว” มังกรดินตัวนึงหงายท้องตาแดงก่ำ น้ำลายฟูมปากขาชี้ฟ้า
“ข้าบินได้ ฮ่าๆๆๆ ข้าบินได้” ไวเวิร์นตัวนึงร้องขณะกระพือขาและเอาปีกเดินแทนเท้า “โอ๊คคคค”
มังกรดินอีกตัวเข้าจู่โจมไวเวิร์นอย่างบ้าคลั่ง กระชากจนหัวหลุดออกมา “ไวเวิร์นบินได้อยู่แล้วมันแปลกยังไง ว้ากกกก ฮ่าๆๆๆ ข้าลอยได้ ข้าไปอวกาศได้ ข้าคือมังกรอวกาศ”
เสียงวุ่นวายดังลั่นจนโรล่าที่สลบไปค่อยๆตื่นขึ้น เด็กสาวไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร ทำไมมังกรถึงสู้กันเอง ทำไมมังกรบางตัวนอนหงายน้ำลายฟูมปาก
แต่นี่คือโอกาส!
เธอเรียกหอกยาวออกมาและร่ายเวทเพิ่มพลัง
“[Might]”
เด็กสาวเดินไปที่มังกรดินมหึมาที่นอนหงายท้อง ตาเยิ้มสีแดงปากแสยะยิ้มอย่างล่องลอย เธอเงื้อหอกขึ้นแล้วจ้วงแทงไปสุดแรง
ฉึก!
หอกทะลุเข้าไปในศีรษะมังกรดินอย่างง่ายดาย มังกรหัวเราะออกมาสุดเสียงก่อนที่จะหมดลม
โรล่าดึงหอกออกมาอย่างงุนงง ไม่รู้เกิดอะไรกับพวกมัน แต่ว่าดูเหมือนเกราะเวทมนตร์มังกรที่แข็งแกร่งของมังกรพวกนี้มันหายไปเฉยๆ
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก
เสียงปักแทงหอกดังเป็นระยะ พร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของเหล่าเผ่าพันธุ์มังกร
….
ที่นอกกำแพงหมู่บ้าน แม่ทัพออร์คที่นำทัพมองเข้าไปภายในอย่างวิตก กลุ่มควันลอยขึ้นมาสักพักแล้ว เมื่อครู่มีเสียงของมังกรต่อสู้กับอะไรบางอย่าง เสียงมังกรแผดร้องดังลั่นยาวนาน
แล้วเสียงมังกรที่มากมายก็ค่อยๆเงียบลง เงียบลง ขณะที่พวกมนุษย์ยังคงสู้ไม่หยุด
เกิดอะไรขึ้นในนั้นกันแน่
โฮกกกกกก
เสียงคำรามก้องจากภายในหมู่บ้าน ร่างของมังกรสีน้ำเงินพุ่งบินขึ้นท้องฟ้าอย่างอ่อนแรง
“เจ้า เจ้าเป็นใครกันแน่” มังกรน้ำเงินร้อง “ทำไมเจ้าคนเดียว ฆ่าพวกเราได้ขนาดนี้”
ทุกชีวิตในสนามรบต่างตกตะลึง ที่ตาของมังกรน้ำเงินมีหอกยาวปักอยู่ และที่ปลายหอกนั้นคือโรล่าที่จับหอกยืนเด่นอยู่
“บอกชื่อเจ้ามา ข้าจะล้างแค้นให้พวกพ้องของข้าทั้ง 40 ตัวที่ต้องตายด้วยคมหอกของเจ้า”
“ข้าชื่อโรล่า” เด็กสาวประกาศ “จำชื่อข้าไว้ แล้วไปเกิดใหม่ซะ”
ฉึก!
หอกปักเข้าไปถึงสมอง มังกรน้ำเงินกระตุกเกร็ง ก่อนที่ร่างจะหมุนกลางท้องฟ้าแล้วควงตกลงสู่เบื้องล่างท่ามกลางสายตาของทุกคนในสนามรบ
“[Wind Break]”
โรล่าร่ายเวทสายลมลดความเร็ว มองไปรอบๆ มึนเมา และล่องลอย กองทัพออร์คนับหมื่นดูเหมือนกองทัพมดกระจ้อยร้อย
เด็กสาวร่อนลงมาที่กำแพงหมู่บ้าน ชี้หอกในมือไปที่ออร์คเบื้องหน้าไม่พูดอะไร
แม่ทัพออร์คมองหน้าเด็กสาวคนนั้น … เด็กสาวที่มังกรน้ำเงินบอกว่าใช้หอกฆ่ามังกรไปกว่า40ตัว
เชี่ยแล้วไง
มังกรยังไม่รอด
แล้วนี่จะเหลือเรอะ!!!!!!
“ฉิบหายยยยยยยย พวกเรา ถอยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
กองทัพออร์คทั้งหมดวิ่งแตกกระจาย หนีสุดชีวิตจากมัจจุราชสาวผู้ทำลายกองทัพมังกรทันที