Midterm Fantasy - ตอนที่ 285
“เป็นยังไงบ้างคะคุณรอน” โรล่าถามด้วยน้ำเสียงกังวล
รอนมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าอย่างหนักใจ ภาพสีขาวดำบนหน้าจอแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ในโพรงมดลูก เขาเห็นจุดที่ไข่มาเกาะฝังตัว มองเห็นเนื้อรก หากแต่มองไม่เห็นส่วนที่เป็นตัวอ่อนหรือหัวใจแต่อย่างใด
“ยังมองไม่เห็นเด็กน่ะ แต่โรล่าอย่าเพิ่งกังวลไปก่อนนะ ผมไม่ใช่หมอ เครื่องนี้ก็ไม่ใช่เครื่องที่ละเอียดนัก เด็กอาจจะตัวเล็กมากจนมองไม่เห็นก็ได้”
โรล่าหน้าเสียลง ทำท่าจะร้องไห้
“แท้งอีกแล้วเหรอ โรล่าเสียลูกอีกแล้วเหรอ”
“อย่าเพิ่งคิดแบบนั้นนะโรล่า … ถ้าไม่เจอตัวอ่อนก็แปลว่าไม่มีเด็กตั้งแต่แรก อย่าเพิ่งคิดว่าเสียเค้าไปเลย … ในนี้ไม่มีเด็กมาตั้งแต่แรกต่างหาก” รอนปลอบด้วยคำพูดตามที่หมอเคและคุณแม่อารยาแนะนำมา
ตั้งแต่โรล่าแต่งงานกับจักรพรรดิดีโอมา เวลาก็ล่วงเลยมาแล้ว 8 เดือน
ตอนแรกหลังจากงานอภิเษกได้เพียง1เดือน ประจำเดือนของเด็กสาวก็หายไป ทางนักบวชประจำปราสาทต่างใช้เวทDetection ตรวจสอบแล้วก็ได้ผลไม่ตรงกัน บ้างว่าตั้งครรภ์แล้ว บ้างว่ายังไม่ตั้งครรภ์ … รอนเองเอาที่ตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจพบผลว่าตั้งครรภ์
แล้วขณะที่ทุกคนกำลังลุ้นกันว่าจะได้รัชทายาทหรือไม่ … โรล่าก็แท้ง
รอนปรึกษากับอารยาดูเรื่องเวท Detection รายงานผลแบบนี้แล้วก็ได้คำตอบว่า โรล่าน่าจะตั้งครรภ์แบบ Blighted Ovum หรือการตั้งครรภ์ชนิดไม่มีตัวอ่อน
“เวท detection น่ะ จะรายงานผลตามความรู้ความเข้าใจของคนตรวจ … อย่างแม่ที่เป็นหมอ ถ้าไปตรวจก็จะรายงานผลว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ตั้งแต่แรก แต่คนที่โลกโน้นน่ะไม่มีความรู้ด้านนี้ เวลารายงานผลก็เลยบอกว่าตั้งครรภ์”
“แล้วจะทำยังไงดีครับ”
“ก็ไม่ต้องทำอะไร แค่รอเฉยๆ รกที่ไม่มีตัวอ่อนจะฝ่อและหลุดไปเอง”
“ไม่ใช่ครับ คือ … ผมกังวลเรื่องความรู้สึกของโรล่า … พอรู้ว่าแท้ง เค้าร้องไห้ไปตั้งหลายวัน”
“เรื่องนั้นเธอก็ต้องอธิบายให้เขาฟังว่าไม่มีตัวอ่อนตั้งแต่แรก … ถ้าจะให้ดี ก็ลองเอาหัวอัลตราซาวน์แบบพกพาไปด้วย ไถท้องให้เค้าดูไปเลยว่าไม่มีตัวอ่อน”
หลังจากโรล่าแท้งไป เดือนถัดมาประจำเดือนก็ไม่มาอีก คราวนี้ผ่านไปได้สองเดือนก็แท้งอีกครั้ง … เดือนถัดมาก็ไม่มาอีกแต่ครั้งนี้นานขึ้น … ล่วงเข้าเดือนที่ 4 ก็คือตอนนี้
“ทำไมเป็นแบบนี้กัน หรือว่าโรล่าไม่ดีพอเลยเป็นแบบนี้”
“ไม่ใช่หรอก เรื่องนี้น่าจะเป็นเพราะดีโอมากกว่า”
“เห?”
“ก็ที่ดีโออธิบายไว้ไงว่าหลังจากเขาใช้เวท Time Stop ในระดับกองทัพแบบเกินกำลัง เลยทำให้ร่างกายของเขาแก่ชรากว่าปกติ … สเปิร์มของเขาน่าจะมีปัญหา” รอนบอก “ที่โลกของผมน่ะ มีข้อมูลว่าท้องลมแบบที่โรล่าเป็นนี้เนี่ย ยังไม่ทราบสาเหตุ มีได้ทั้งจากไข่ของผู้หญิงผิดปกติ หรือสเปิร์มของผู้ชายผิดปกติ ในเมื่อโรล่าก็อายุไม่เยอะ ดีโอมีปัญหาเซลล์แก่ชราอยู่แล้วแบบนี้ ผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะดีโอมากกว่า”
โรล่ากอดรอนเอาไว้ เอาหน้าซุกหน้าอกของเด็กหนุ่ม
“ตอนนี้คุณแพทเป็นยังไงบ้างคะ ใกล้คลอดแล้วหรือยัง” โรล่าเอียงคอถาม
“ใกล้แล้วล่ะ เหลืออีกเดือนกว่าๆก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว” รอนลูบหัวเด็กสาว
“จะว่าไป คุณรอนก็สามารถมีลูกได้ … ถ้าอย่างนั้น … คุณช่วยโรล่าได้ไหมคะ” เด็กสาวถามด้วยแววตาใสซื่อ
“เด็กโง่ ค่อยๆดูต่อไปก่อนดีกว่า ยังไม่รู้เลยว่าตกลงนี่ท้องลมหรือท้องจริง … ไม่ต้องรีบร้อนหรอก” รอนบอก “พักผ่อนก่อนเถอะ”
รอนลูบหลังเด็กสาวจนหลับไป เขาค่อยๆประคองโรล่าออกจากตัก แล้ววางลงกับเตียงนอน ห่มผ้าให้ แล้วก็เดินออกมาจากห้องอย่างเงียบๆ
“เป็นยังไงบ้าง” มาเรียยืนกอดอกอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“เหมือนเดิม…ไม่เจอเด็กในท้อง” รอนตอบสั้นๆ
เด็กหนุ่มหยิบหมากฝรั่งออกมาเคี้ยวแก้เครียด ขณะที่มาเรียครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“จะว่าไปนายไม่ช่วยกันหน่อยเหรอ นายเองก็มีลูกได้ โรล่าเค้าจะได้ท้องจริงๆซะที ไม่ต้องมากังวลกับอะไรแบบนี้” มาเรียถาม
“ไม่ได้หรอก ในเวลาแบบนี้ สภาพจิตใจแบบนี้ผมคิดว่าให้โรล่าเค้าได้พักบ้างดีกว่า” รอนบอก “อีกอย่าง ผมอยากให้ช่วงระหว่างที่ตั้งท้องขึ้นมาทุกคนรู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของใคร จะได้ไม่ต้องสงสัยไปจนถึงวันที่คลอด”
แม้โลกนี้จะยอมรับในการมีสามีมากกว่าหนึ่งคน แต่ว่ารอนก็รู้ว่าช่วงเวลาที่อุ้มท้องก็สำคัญ หากไม่รู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกใครกันแน่คนที่เฝ้ารออยู่รอบๆอาจจะสงวนท่าทีที่มีต่อโรล่า กลายเป็นทำให้โรล่าเครียดมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ ดังนั้นรอนก็เลยยังไม่เกินเลยไปกว่าที่เคยเป็นมา
“นายนี่ก็ทนดีนะ คุณแพทเค้าท้องอยู่ตั้ง 8 เดือนนายก็ทนได้นะเนี่ย สงสัยต้องมองนายใหม่ซะแล้ว” มาเรียชม ขณะที่รอนกลอกตาไปมาไม่ตอบอะไร ทำไมต้องทน ไม่ได้ทนสักหน่อย
“ว่าแต่จักรพรรดิดีโอไปไหนซะล่ะครับ” รอนถาม
“เห็นว่านำกำลังทหารไปตรวจสอบที่ป่าน่ะ มีคนไปพบว่าในป่าที่ชายขอบของเมืองหลวง มีคนพบแผ่นจารึกประหลาดเข้า” มาเรียบอก “เห็นว่ามีข้อความที่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของอาณาจักรก็เลยนำกำลังไปตรวจสอบด้วยพระองค์เอง”
“อย่างนั้นหรือครับ แปลกดีจริง ของแบบนี้ในที่ที่ใกล้เมืองหลวงแค่นี้ มันน่าจะถูกค้นพบมานานแล้วนี่นา” รอนเอ่ยขึ้น
เสียงฝีเท้าจำนวนมากวิ่งมาตามทางเดิน ท่านกิลเลี่ยนและทหารองครักษ์หลายนายพากันวิ่งมา
“แย่แล้วครับท่านรอน แย่แล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นครับท่านกิลเลี่ยน”
“จารึกที่เราค้นพบเป็นกับดักครับ จักรพรรดิดีโอและกองทหารที่เดินทางไปตกอยู่ในวงล้อมครับ”
“งั้นพวกเรารีบไปกันเดี๋ยวนี้เลยครับ” รอนร้องออกมา “มาเรียฝากดูแลโรล่าด้วย”
ท่ามกลางความมืดสลัวในยามเย็น กองทหารเพรเตอร์เรี่ยนจำนวน 4000 นาย และนักบวชนับร้อยเคลื่อนขบวนม้าออกไปโดยมีรอนขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ใจกลาง เด็กหนุ่มฟังการอธิบายของผู้บัญชาการเพรเตอร์เรี่ยนการ์ดอย่างตั้งใจ
“จารึกนี่ถูกค้นพบที่ภูเขาที่เพิ่งมีการถล่มไม่นาน พวกเราเลยคิดว่ามันถูกฝังไว้และบังเอิญปรากฎออกเมื่อมีการถล่ม แรกเริ่มก็กังวลว่าจะเป็นกับดักหรือไม่ จึงได้มีการตรวจสอบบริเวณรอบๆ แต่ก็ไม่พบกับดักอะไร” กิลเลี่ยนบอก “คราวนี้ที่จารึกระบุว่ามีความลับของราชวงศ์แอสคาลอนต้องใช้เลือดของเชื้อพระวงศ์หยดลงไปจึงจะเปิดได้ … เนื่องจากข้อความระบุว่าเป็นความลับ พระองค์จึงอยากทอดพระเนตรเป็นการลับเพียงพระองค์เดียวก่อน นึกไม่ถึงว่า…”
“นึกไม่ถึงว่าเมื่อหยดเลือดลงไป จะเป็นการกระตุ้นกับดัก … พื้นที่รอบบริเวณนั้นมีซากศพของมอนสเตอร์ถูกร่ายเวทคืนชีพไว้ล่วงหน้า อันเดทนับพันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาและล้มจักรพรรดิเอาไว้” กิลเลี่ยนบอก
“สถานการณ์แย่มากไหมครับ” รอนถาม
“ไม่แย่มากครับ ความจริงจักรพรรดิสามารถใช้เวทหยุดเวลาเพื่อหนีออกมาได้ แต่พระองค์ไม่ต้องการทิ้งทหารเหล่านั้นเอาไว้ จึงทรงต่อสู้ร่วมกันและขอกำลังเสริมแทน” กิลเลี่ยนกล่าว
ดูเหมือนไม่แย่มาก รอนคิดพลางหันมองไปนอกขบวน … จะว่าไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เหมือนมีอะไรตามมาตั้งแต่อยู่เมืองหลวงแล้ว
ขบวนเดินทางอย่างรวดเร็วใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงถึงจุดที่มีการต่อสู้
จักรพรรดิและทหารนับพัน ตั้งแนวโล่ป้องกันหลังพิงภูเขา โดยมีกองทัพซากศพและโครงกระดูกล้อมกรอบอยู่
“พวกมันมีไม่เกิน 3 พัน พวกเรา จัดขบวนโจมตีได้ กองพันที่ 1 2 และ 3 บุกโจมตี กองพันที่ 4 5 และเหล่านักบวชรอก่อน” กิลเลี่ยนออกคำสั่งอย่างระมัดระวัง
“คุณกิลเลี่ยนก็รู้สึกเหมือนกันใช่ไหมครับ”
“ใช่แล้วคุณรอน ดูเหมือนจะมีกับดักอยู่อีกชั้นนึง” กิลเลี่ยนมองไปรอบๆอย่างกังวล ทหารสองกองพันและนักบวชที่ให้รออยู่ ก็เผื่อว่าจะมีการซุ่มโจมตีเพิ่มเติมนี่แหละ
[คุณรับรู้ได้ว่าถูกเฝ้ามอง]
รอน มองไปรอบๆทันที …. ที่เนินดินด้านหลังไกลออกไป ปรากฎร่างในชุดคลุมสีดำขึ้นมา เหนือศีรษะของมันมีแถบพลังชีวิตปรากฎอยู่ชัดเจน
“จงลุกขึ้นมา กองทัพของข้าเอ๋ย จงทำลายพวกมันให้สิ้น ล้างแค้นให้ท่านเวก้าของพวกเรา”
ครืนๆๆๆๆๆ พื้นดินสั่นสะเทือน ศพใต้ดินจำนวนมากลุกขึ้นมาช้าๆ และคราวนี้ไม่ใช่แค่จำนวนหลักพัน หากแต่เป็นศพนับหมื่น กองทัพอันเดทร่วม3หมื่นลุกขึ้นจากพื้นดิน
“พวกเรา ตั้งแนวป้องกัน! ป้องกันองค์จักรพรรดิ”
กองทัพม้าเพรเตอร์เรี่ยนการ์ดต้องแบ่งกำลังกันสู้ทั้งสองด้าน ทั้งกับอันเดทกลุ่มแรก และอันเดทกลุ่มหลังที่เพิ่งลุกขึ้นมา
“ย้ากกก”
บูม!
ซอมบี้โทรลขนาดยักษ์แตกกระจายเป็นชิ้นๆจากพลังหมัด4ตันของรอน …. ร่างในชุดคลุมสีดำนั่นยังคงยืนนิ่ง ขณะที่ร่างที่ติดตามเขามาจากเมืองหลวงหายไปตั้งแต่ตอนไหนแล้วก็ไม่รู้
ช่างมันก่อน ต้องฝ่าออกไปให้ได้ก่อน ต้องจัดการเจ้าคนในชุดคลุมนั่น
“มอบชีวิตเจ้ามา” รอนฝ่าเข้าไปใจกลางวงล้อม ทุกครั้งที่หมัดสัมผัสร่างอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆด้วยพลังเหนือมนุษย์
เด็กหนุ่มเข้าใกล้ชายในชุดคลุมนั้นเข้าไปเรื่อยๆ เขาเตรียมตัวระเบิดพลัง Power Overwhelming และเผด็จศึก หากแต่อีกฝ่ายยื่นไม้เท้ามาตรงหน้าแล้วร่ายเวท
“[Confuse][Vertigo]”
โลกทั้งใบของนายรอนหมุนติ้วเป็นวงกลม เด็กหนุ่มเวียนหัวอย่างรุนแรงจนไม่อาจยืนทรงตัวได้ อันเดทจากรอบข้างโถมโจมตีเข้ามา
“ฮ่าๆๆ เจ้าหน้าโง่ เจ้าคงคิดว่าเจ้าปรับกำลังการต่อสู้จนเต็มที่แล้วจะไร้ต้านสินะ” ชายในชุดคลุมบอก “เจ้าไม่รู้หรือว่าเหตุผลที่ไม่มีนักรบมังกรคนใดใส่Bonus Stat ไปที่พละกำลังอย่างเดียวน่ะเป็นเพราะอะไร”
“เพราะถ้าเจ้าไม่ปรับระดับมานาและพลังเวทล่ะก็ แค่ข้าใช้เวททำให้มึนงงเวียนหัว เจ้าก็จะไม่สามารถต่อสู้ได้ยังไงเล่า ฮ่าๆๆๆ” มันบอก “วันนี้ล่ะ ข้าจะฆ่าเจ้าและจักรพรรดิแห่งแอสคาลอน แก้แค้นให้กับท่านเวก้าให้ได้”
รอนเหวี่ยงหมัดเปะปะ ขณะที่คมหอกคมดาบพุ่งมาจากรอบทิศทาง เขาไม่สามารถทรงตัวได้จริงๆ … เขาประมาทเกินไปจริงๆ
“เฮ้! เปิ้ล! จัดการที” รอนร้องเรียกโทรศัพท์มือถือ
“กำลังจัดการ ปล่อยโดรนได้” เปิ้ลตอบ
กล่องบนหลังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เปิดฝาออก จากนั้นโดรน4ตัวก็บินออกมา ทุกลำทิ้งระเบิดเวทมนตร์รอบๆตัวรอน ก่อนที่จะพุ่งเข้าหาร่างชายลึกลับคนนั้น
“[Tornado]”
เวทพายุหมุนปรากฎขึ้นที่หน้าชายคนนั้น มันไม่ลังเลที่จะร่ายเวทพายุโจมตีท่ามกลางอันเดทของมัน … แรงลมทำให้โดรนทั้งหมดหมุนติ้วตกระเบิดไปจนหมด
“ฮ่าๆๆ ข้าศึกษาการโจมตีของเจ้าจนหมดเปลือกแล้ว เปล่าประโยชน์”
“พวกเรา สู้มัน ฝ่าไปให้ได้” กิลเลี่ยนควบม้าไปคว้ารอนขึ้นแล้วถอยกลับ เตรียมออกคำสั่งชาร์จออกไป
ครืนนนนน แนวขวากหอกไม้ถูกอันเดทดึงขึ้นจากพื้น
นี่มัน กับดักทัพม้า!
“ข้ารอเวลานี้มา 8 เดือนแล้ว … วันนี้ในอีก 1 ปีข้างหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของพวกเจ้า” ชายในชุดคลุมบอก “พวกเรา ฆ่ามัน!”
เสียงฆ่าฟันดังต่อเนื่องไม่หยุด กองทัพเพรเตอร์เรี่ยนพยายามคุ้มกันอย่างเต็มที่เพื่อซื้อเวลาให้ได้นานที่สุด
พวกเขาใช้ walkie talkie ส่งข่าวไปแล้ว แต่ว่ากองทัพม้าส่วนใหญ่ถูกนำมาที่นี่แล้ว แถมตอนนี้ก็ปาเข้าไป 2 ทุ่มกว่าแล้วสภาพทางแบบนี้กว่าทหารราบจะมาถึงก็คงอีกนาน
พวกเขาต้านทานมาแล้ว 1 ชั่วโมง จะให้ต้านทานต่อไปไม่หยุดจนกว่าทหารราบจะมาถึง ไม่รู้จะไหวไหม
“ฮ่าๆๆๆ พวกเจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งหมด”
เก๊ง เก๊ง เก๊ง เก๊ง เสียงระฆังบางอย่างดังขึ้นจากท้องฟ้าจนทุกคนเงยหน้ามองพร้อมๆกัน … ท้องฟ้ายามกลางคืนที่มืดมิดนี้ปรากฎวงแหวนเวทสีขาว เทวดาทั้ง4จรดแตรไปที่ปากแล้วเป่าออกมา
แสงวาบจากบนท้องฟ้าสาดส่องลงมาที่พื้นพิภพ ร่างของอันเดททั้งหลายดิ้นรนแล้วก็ล้มฟุบลงไป
ในเวลาเดียวกัน ที่ด้านหลังของชายในชุดคลุมนั่น ปรากฎร่างของเด็กสาว นั่งอยู่บนหลังของเสือดำ
“โรล่า ผู้กล้าแห่งแอสคาลอนงั้นเรอะ … ถ้าอย่างนั้นเจ้าจงตายเป็นคนแรกภายใต้เงื้อมมือของข้า ท่านยู..อ้ากกกก”
ร่างดำทะมึนพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ งับเข้าที่มือที่ถือไม้เท้าของมัน
และระหว่างที่มันกำลังตะลึงอยู่นั้นเอง เจนัวและลูกอีก 2 ตัวก็พุ่งเข้าใส่ งับแขนและขาข้างละตัว เสือดำและเสือดาวทั้ง4ดึงขึงพืดชายคนนั้นเอาไว้
“เป็นไปไม่ได้ ข้าคือลิชคิงผู้ยิ่งใหญ่ จะมาตายแบบนี้อย่างนั้นเรอะ ข้าผู้มีนามว่า…”
ฉัวะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
โรล่าพุ่งเข้าไปกระหน่ำแทงคอจากนั้นก็บั่นศีรษะจนหลุดออกมา เด็กสาวถือศีรษะของลิชคิงมามอง โยนทิ้ง แล้วเดินมาหาดีโอและรอน … ที่กระโปรงมีรอยเลือดที่เปื้อนเปรอะอยู่
“กลับกันเถอะค่ะ”
* * * * * * *
“โรล่า เจ้าไม่เป็นไรแน่นะ” ดีโอกุมมือขวาของเด็กสาว “ข้าขอโทษที่ทำให้เป็นภาระต่อเจ้าจนแท้งแบบนี้”
“ข้าไม่เป็นไรค่ะ รอนบอกข้าแล้วว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้ไม่มีเด็ก ยังไม่นับว่าเราเสียลูกไป” โรล่าหันไปยิ้มให้กับรอนที่กุมมือซ้ายอยู่ “แต่คราวหลังพวกท่านต้องระวังให้มากกว่านี้นะคะ”
เด็กสาวพยายามไม่แสดงสีหน้าผิดปกติอะไร แต่ทั้งรอนและดีโอก็รับรู้ได้ว่าเด็กสาวเสียใจขนาดไหน เมื่อออกจากห้องของโรล่า มาเรียยืนเท้าสะเอวตาเขียวปั๊ดรออยู่
“พวกท่านทั้งสองต้องคุยกันแล้วล่ะ นี่โรล่าแท้งครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ปล่อยไว้แบบนี้เคยคิดถึงจิตใจของโรล่าเค้าไหม” มาเรียบ่น
“แต่เรายังไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน” ดีโออ้อมแอ้ม
“ไม่รู้งั้นเหรอ” มาเรียกัดฟันบอก “งั้นท่านคิดว่าปัญหาอยู่ที่ข้ากับโรล่าอย่างนั้นเหรอ”
** ** ** **
“ปัญหาอยู่ที่ท่านดีโอจริงๆ” รอนเงยหน้าจากกล้องจุลทรรศน์ที่ขนมาจากอีกโลก “ดูนี่ครับ”
ดีโอมองดูภายในกล้อง มองเห็นสิ่งที่คล้ายๆลูกอ็อดเต็มไปหมดบางตัวหัวเบี้ยว บางตัวมีสามหาง บางตัวสองหัว และส่วนใหญ่หยุดนิ่ง
“ส่วนนี่คือของคนปกติครับ” รอนยกมือถือให้ดู เป็นภาพสเปิร์มที่ดุ๊กดิ๊กว่ายไปมาอย่างรวดเร็ว “ดูเหมือนผลกระทบของการใช้เวทเกินกำลังต่อร่างกายของท่านจะมากจริงๆ เจ้าพวกนี้เลยไม่แข็งแรง”
“ข้าก็แข็งแรงดีปกตินะ” ดีโอแย้ง “ไม่เชื่อถามมาเรียได้ ถึงช่วงนี้โรล่าจะเป็นแบบนี้ แต่ข้าก็ยังมุ่งมั่นอยู่ทุกวันไม่ขาด”
“ทุกวัน? ว่าแล้วเชียว” รอนเอามือตบหน้าผาก “ท่านดีโอ … ต่อไปให้ทำแบบนี้ ท่านต้องนอนหลับพักผ่อนเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่ขี่ม้าถ้าไม่จำเป็น … อ้อ มือถือด้วย งดไปก่อน … ที่สำคัญ ในแต่ละสัปดาห์ให้ทำอะไรแบบนี้ได้แค่ครั้งเดียว ไม่งั้นสุขภาพเจ้าตัวดุ๊กดิ๊กตะกี้จะไม่ดี”
ดูเหมือนทั้งที่นี่จะไม่มีความรู้เรื่องเพศศึกษากัน เลยเข้าใจอะไรผิดกันไปหมด
“แล้วทำอะไรอย่างอื่นได้อีกไหม” จักรพรรดิดีโอถาม
“ข้าเคยได้ยินมาว่าถ้าใช้เวท Blessing จะช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตรได้มากขึ้น” มาเรียบอก
“งั้นคุณมาเรียช่วยร่ายเวท Blessing ใส่ที่กล้องนี่ให้หน่อยสิครับ”
มาเรียร่ายเวท Blessing ใส่กล้องจุลทรรศน์ จากนั้นรอนก็เข้าไปส่องดูแล้วก็อุทานอย่างดีใจ
“ได้ผล สเปิร์มวิ่งแล้ว ที่แท้ก็มีวิธีแบบนี้ด้วย” รอนร้องออกมา “จริงสิ โรล่าใช้เวท Greater High Blessing ได้ ถ้าเราใช้เวทนั้นล่ะก็ต้องเพิ่มโอกาสได้อย่างแน่นอน”
รอนนำเอาข้อมูลนี้ไปคุยกับโรล่า … แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงเด็กสาวก็ไม่ยอม … ถ้าหากเธอร่ายเวทนี้ตอนกลางคืนในปราสาท แล้วหลังจากนั้นตั้งครรภ์ ทุกคนก็ต้องรู้กันหมดล่ะสิว่าเกิดอะไรขึ้นเวลาร่ายเวทนี้
โรล่าไม่ได้หน้าหนาเท่ากับรอน ดังนั้นเลยไม่ยินยอม
“อีตารอน เวทมนตร์ขนาดนี้มันต้องร่ายที่โบสถ์ วิหาร หรือไม่ก็ในการสู้รบ ถ้ามาร่ายในวังมันก็ต้องดูแปลกสิ” มาเรียกระทืบเท้า
“วิหาร … จริงสิ ในเมืองหลวงมีวิหารของเทพเวโรน่าอยู่ ถ้าเป็นที่นั่นล่ะก็ ต้องไม่มีใครสงสัยเรื่องวงแหวนเวทแน่”
“โอ้ ท่านเทพีเวโรน่า โปรดยกโทษให้กับท่านรอนด้วย ท่านรอนไม่ได้ตั้งใจจะลบหลู่ท่าน” ดีโอ
“เทพีเวโรน่า ได้โปรดอย่าถือสาคุณรอนเลย คุณรอนไม่ใช่คนของโลกนี้” โรล่า
“เทพีเวโรน่า โปรดลงโทษชายผู้ไม่รู้ความคนนี้และส่องทางสว่างให้เขาด้วยเถิด” มาเรีย
รอนเขกหัวตัวเองทีนึง … เขาลืมไปเสียสนิทว่าที่เขาพูดถึงมันคือวิหารของเทพที่คนในโลกนี้เคารพยำเกรง
… ว่าแต่ ยัยมาเรียนี่นะ!
“จริงสิ ถ้าเป็นวิหารที่ไม่มีเทพเจ้าก็ได้นี่นะ” รอนร้องออกมา
วันรุ่งขึ้น จักรพรรดิดีโอ เจ้าหญิงโรล่าและพระชายามาเรียได้เดินทางไปที่โอลเซ่นเพื่อประกอบพิธีกรรมที่วิหารเทพเจ้านิชลิน … วงแหวนเวทอำนวยพรขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าระหว่างการประกอบพิธีภายในเป็นการส่วนพระองค์ การประกอบพิธีนี้ดำเนินไปโดยเจ้าหญิงโรล่าอยู่ร่ายเวทที่ภายนอกไม่ได้เข้าไปด้วย
หลังจากนั้นอีก 1 เดือน สภาแห่งแอสคาลอนก็ได้ประกาศการตั้งครรภ์ของพระชายามาเรีย
จึงเป็นที่มาที่ว่าวิหารแห่งนิชลีนถึงได้เป็นสถานที่ขอพรได้ลูกที่สำคัญที่สุดในทวีปซีแลนเดีย