Midterm Fantasy - ตอนที่ 34
“คุณรอนคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” โรล่าพูดทั้งน้ำตา ” ลาก่อนค่ะ …”
สิ้นเสียงพูด ร่างของรอนที่อยู่ตรงหน้าก็นิ่งเหมือนเกิดการกระพริบ จากนั้นก็หายไป
โรล่ามองซ้ายขวา ไม่เห็นเด็กหนุ่มอีก …. เธอถอนหายใจ
เขาคงจะมีเวทมนตร์เคลื่อนย้ายที่ช่วยในการหนีออกจากสถานการณ์คับขันสินะ …
แต่ก็ดีแล้วแหละ เด็กสาวคิด …. ถึงเขาจะอยู่ตรงนี้ ก็คงไม่แตกต่างอะไร ให้เขาปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกคนนึงก็พอแล้ว
กลุ่มก็อบลินชะงักไปครู่นึงที่จู่ๆเหยื่อของมันก็หายไปหนึ่งคน แต่ครู่เดียวเมื่อยังเห็นเหยื่ออีกสามคนยังอยู่กับที่ พวกมันก็เดินต่อเข้ามาอีก จนห่างออกไปราวๆ20เมตร
ก็อบลินเมจไม่อยากเสี่ยงเสียกำลังพลของมันเพิ่ม … มันร่ายเวทย์ลูกไฟอีกครั้งหมายจัดการทั้งสามคนในคราวเดียว
จบสิ้นแล้วสินะ … โรล่าคิด
ลูกไฟใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ …. แต่ตรงหน้าจู่ๆก็เหมือนมีภาพกระตุกอีกครั้ง ก่อนที่จะปรากฎร่างๆนึงขึ้นมาอย่างพร่าเลือน ก่อนจะชัดขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ
“โรล่า มาเรีย ก้มต่ำๆ” รอนตะโกน เขาปล่อยถุงในมือลงพื้น ดึงมีดทั้งสองเล่มออกจากเข็มขัดโยนลงพื้นแล้วเปลี่ยนมือไปกุมด้ามกระทะทั้งสองมือเตรียมรับลูกไฟลูกเท่าลูกบาสที่พุ่งเข้ามา
ว้องงงงงงงงงงง เสียงลูกไฟหมุนในกระทะใบใหญ่เป็นเสียงดังกังวาน รอนจับมุมแล้วเหวี่ยงกลับ ลูกไฟพุ่งกลับไปแบบไม่ติดกระทะ ลื่นยิ่งกว่ากระทะใบที่แล้ว 400%
“กี๊ซซซซซซซซซ” ก็อบลินแถวหน้าสุดหลบไม่ทันเจอลูกไฟกระเด็นใส่จนไฟลุกไปสามตัว ส่วนตัวที่เหลือวิ่งหลบกันวุ่นวาย
“โรล่า มาเรีย รีบถือขวดนี้ในมือไว้ … ระวังอย่าให้น้ำข้างในโดนตัว …. มันมีพิษ” รอนเปิดฝาหมวกกันน็อคแล้วร้องบอก เขาฉีกพลาสติกหุ้มน้ำยาล้างห้องน้ำแบบแข่งกับเวลา เปิดฝาส่งให้เด็กสาวทั้งสอง
“ข้างในเป็นยาพิษ ถ้ามีก็อบลินตัวไหนเข้ามาให้สะบัดให้น้ำข้างในขวดเข้าหน้าเข้าตาพวกมัน ….ระวังอย่าโดนกันเอง”
รอนรีบบอกพลางฉีกถุงพลาสติกน้ำตาลหนึ่งกิโลแล้วเทน้ำตาลทรายขาวลงในเป้สะพายหลังเปิดซิบทิ้งไว้แล้วสะพาย …. แบบหันหน้าออก
ก็อบลินที่ตื่นตกใจเมื่อครู่รวมกลุ่มกันได้บ้าง บางส่วนวิ่งเรียงหน้ากระดานถือหอกเข้ามา รอนคว้าขวดน้ำยาล้างห้องน้ำที่เปิดฝาอยู่ เหวี่ยงวาดเป็นครึ่งวงกลมไปข้างหน้าในอากาศ …. น้ำยาล้างห้องน้ำพุ่งไปเป็นเส้นสาย ลอยลงมาสาดหน้าก็อบลินที่กำลังพุ่งเข้ามา พวกมันกรีดร้องยกมือขึ้นขยี้ตาด้วยความแสบร้อน
รอนทิ้งขวดน้ำยา คว้ามีดทำครัวโยนไปที่ปลายเท้าโรล่า แล้วคว้ามีดร้านอาม่าที่เพิ่งซื้อมาขึ้นมาถือไว้ แล้วตรงไปหาหมู่ก็อบลิน ฟันแนวขวางเต็มแรงด้วยสองมือ
‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ เลือดสาดกระเซ็น ก็อบลิน4ตัวล้มลงตาย ข้อมือขาด คอขาด อกแหว่ง
‘ฉัวะ ฉัวะ เคร้งฉัวะ ฉัวะ’ เสียงมีดทองแดงที่พยายามยกกันแตกหักก่อนที่มีดของรอนจะตัดผ่านคอของก็อบลินตัวนั้น
รอนถอยกลับมาหยิบกระทะ เปลี่ยนไปถือมีดดาบมือเดียว จากนั้นพุ่งตรงเข้าไปหาก็อบลินเมจที่เริ่มร่ายเวทย์อีก
ว้องงงงงงงง ลูกไฟหมุนในกระทะอีกครั้งก่อนจะถูกรอนเหวี่ยงกลับเข้าไปในหมู่ก็อบลินอีก ท่ามกลางความวุ่นวายเขาพุ่งสวนเข้าไป
<Charge>
[-1]
[-3]
มีดของก็อบลินและขวานของก็อบลินกัปตันเฉือนเนื้อที่ขาของเด็กหนุ่มจนเลือดซึม แต่รอนไม่สนใจ เขาทิ้งกระทะจากนั้นพุ่งเข้าไปใช้สองมือจับมีดดาบเงื้อและฟาดลงไปบนตัวก็อบลินเมจสุดแรง
“อี๊ดดดดดด” เสียงร้องสุดท้ายของก็อบลินในชุดแดงก่อนที่หัวของมันจะแยกเป็นสองส่วน
ก็อบลินในสนามรบหยุดตะลึงกันครู่นึงก่อนที่กัปตันที่เหลืออีกสองตัวจะส่งสัญญาณให้จัดการมนุษย์ที่ถือมีดดาบนั่น
รอนมองดูก็อบลินร้อยกว่าตัวที่พุ่งเข้ามารอบทิศ …. เดิมพันสุดท้ายอยู่ที่สิ่งนี้
เขาล้วงมือเข้าไปในเป้ กำน้ำตาลมาทั้งกำแล้วกรอกซัดเข้าปาก
[-1]
[-1]
[-1]
มีดในมือก็อบลินปักเข้าตามจุดต่างๆของขา ขณะที่รอนกลืนน้ำตาลลงไป
[+1][+1][+1][+1][+1][+1]
[-1]
[+1]
[-1]
[+1]
เลขสีเขียวและแดงวิ่งสลับกันไปตรงหน้า
‘ได้ผล!!! Spam Healing ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า’ รอนคิดในใจพลางเคี้ยวน้ำตาล ก่อนจะเหวี่ยงมีดเลือกฟันก็อบลินทีละตัวสองตัวอย่างไม่หยุดยั้ง
จิ้มพุงเรอะ ฮ่าฮ่าฮ่า แทงไม่เข้าใช่ไหม (ฉัวะ)
แทงหลังเรอะ ฮ่าฮ่า ไม่เข้าโว้ยเสื้อดี (ฉัวะ)
จิ้มขาเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า จิ้มไปเลย จิ้มให้ทันที่เราฮีลแล้วกัน (ฉัวะ)
เฮ้ยจะจิ้มเป้าเรอะ ไม่ได้ ตายๆๆๆๆๆๆ (ฉัวะๆๆๆๆ)
ทีแรกก็อบลินกัปตันทั้งคู่คิดว่าไม่นานก็จัดการได้ แต่ผ่านไปครู่ใหญ่ๆเด็กหนุ่มที่เจอแทงนับสิบที่ก็ยังเดินหน้าต่อไปทิ้งไว้แต่ซากของก็อบลินเป็นทางยาว มันทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะพุ่งเข้าไปร่วมวงด้วย
สำหรับโรล่า เหวี่ยงสาดน้ำยาล้างห้องน้ำใส่ก็อบลินที่พยายามเข้าใกล้ กรดที่เข้าตาทำให้พวกมันปิดตาขยี้ร้อง ก่อนจะหยุดไปเมื่อถูกมาเรียใช้หอกจิ้มคอ การสู้ดำเนินแค่ครู่เดียวก็จบเพราะก็อบลินที่เหลือเลิกสนใจเด็กสาวทั้งสองหากแต่มุ่งไปหารอนเพียงคนเดียว เด็กสาวทั้งคู่มองไปทางรอนอย่างกังวล
” โรล่า ดูนั่น ” มาเรียชี้ไปที่รอนที่ควงมีดหั่นก็อบลินอยู่ ร่างของเด็กหนุ่มปรากฎแสงที่เกิดจากการHealingแบบต่อเนื่อง แสงสว่างมากขึ้นเรื่อยๆจนเป็นลำสูงขึ้นไป6-7เมตร
“Healing Aura!” เด็กสาวอุทาน
รอนกวาดตามอง ก็อบลินรอบตัวหายไปหมดแล้วเหลือแต่กัปตันสองตัว พวกมันส่งสัญญาณบุกอีกครั้ง รอนคว้าน้ำตาลในกระเป๋ามาอมและกินไว้ในปากอีกครั้งก่อนจะหันไปมองก็อบลินถือขวานที่เดินเข้ามา รอนกะจังหวะที่มันเงื้อขวาน เขาใช้มีดฟันเฉียงๆเข้าที่ด้ามจับขวาน มีดแฉลบไปตามไม้ด้ามขวานตัดนิ้วก็อบลินที่กำไว้
“กี๊ซซซซ”
ก็อบลินกับตันอีกตัวหวดดาบลงมาที่หมวกกันน็อค มีดแฉลบออกข้างเฉียดบ่าของรอนไป
[-0.1]
“เปล่าประโยชน์ๆ ย้าก” ‘ฉัวะ’ … มีดฟันตัดผ่านแขนของก็อบลินกัปตันจนขาดและฝังเข้าไปที่สีข้างจนดึงไม่ออก เด็กหนุ่มใช้เท้ายันศพก็อบลินออกไป รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างทุบลงมาที่หมวกกันน็อคแล้วแฉลบไปโดนไหล่ไหล่[-0.3]
รอนเคี้ยวน้ำตาลในปาก กลืน…[+1][+1][+1][+1][+1][+1]ก่อนจะหมุนตัวสะบัดขวานที่ฟันคาไหล่ ฟาดมีดสวนกลับไปที่คอของก็อบลินกัปตัน
ก็อบลินที่เหลือมองหัวของกัปตันตัวสุดท้ายที่ลอยขึ้นไปในอากาศแล้วตกลงมาที่พื้น จากนั้นหันไปมองรอนที่มีแสงสว่างสีขาวส่องประกายขึ้นมา
“กี๊ซซซ” “กี๊ซ”
1ใน3ของก็อบลินหนีไปทางอื่นทันที ที่เหลือเกือบทุกตัวชาร์จเข้าใส่รอนอย่างบ้าคลั่ง
“เข้ามาเลย”รอนตะโกนเรียกก็อบลิน เขาพยายามดึงAggroมาที่ตัวเองให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ก็อบลินไปทางเด็กสาวทั้งสอง
[+1][+1][+1][+1][+1][+1]
[-1]
[-1]
[+1]
[-1]
[+1]
[+1][+1][+1][+1][+1]
[-1]
[+1]
[-1]
[+1]
ที่ถนนไม่ไกลออกไป ม้า30กว่าตัววิ่งเหยาะๆมาในระยะที่มองเห็นหมู่บ้าน บนหลังม้ามีทหารในชุดเกราะหนัง ทุกคนถือหอกยาวสำหรับการรบบนหลังม้า ตาจับจ้องไปที่ก็อบลินที่กระจายอยู่เต็มทุ่ง
“พวกเรามาทันหรือเปล่า” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ากลุ่มถามผู้ช่วย
“ผมคิดว่าทัน … หมู่บ้านยังอยู่ดี …ดูเหมือนเกิดการสู้กันตรงนอกหมู่บ้าน”
ทุกสายตามองลงไป พยายามหาว่าใครกำลังสู้อยู่ แต่แทนที่จะเห็นชาวบ้านที่กระจายสู้กับก็อบลินพวกเขากลับมองเห็นแต่ก็อบลิน
“นั่น มีคนสู้อยู่คนนึง” ผู้ช่วยชี้อย่างตื่นเต้น “ชายในชุดเกราะเงินคนนั้น เขามีHealing Aura!”
ทหารที่นั่งบนหลังม้าต่างจ้องมองไปตรงกลางสนามรบ ร่างๆหนึ่งกำลังฟาดฟันกับก็อบลินหลายสิบตัวโดยไม่ได้สนใจป้องกันตัวเอง เน้นแต่การโจมตี … ร่างของชายคนนั้นตั้งแต่ชุด เสื้อสีน้ำเงิน และหมวกเกราะสีเงินเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงของก็อบลิน … โดยมีแสงสว่างลักษณะเดียวกับการHealเปล่งประกายออกมา
แสงนี้จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมีการใช้เวทย์ Heal ต่อเนื่อง
แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าตอนนี้ในสนามรบ นอกจากชายคนนั้นแล้ว มีแต่ผู้หญิงและคนบาดเจ็บอีกสองคน ไม่มีนักบวชหรือใครคนอื่นที่ใช้เวทย์รักษาให้
ตัวชายคนนั้นก็ง่วนกับการต่อสู้โดยไม่ได้แสดงท่าทางการร่ายเวทย์แต่อย่างใด
อธิบายได้อย่างเดียวคือ Healing Aura. ซึ่งมีในเฉพาะอัศวินPaladin หรือในนักบวชบางกลุ่มเท่านั้น ….และดูท่าทางการเข้าไปฟาดฟันดาบและชุดเกราะแบบนี้ย่อมไม่ใช่นักบวชแน่ๆ
“ทั้งหมดจัดขบวนโจมตี ไม่ต้องสนใจก็อบลินกลุ่มอื่น เข้าไปช่วยPaladinคนนั้นก่อน”
เสียงเป่าเขาสัตว์ส่งสัญญาณโจมตีดังขึ้น ก็อบลินทั้งหลายหันไปมองทหารม้าที่กำลังควบเข้ามา
[+1]
[-1]
[-1]
[-1]
[-1]
[-1]
ตายล่ะ!
กระเป๋าเป้ที่ใส่น้ำตาลไว้ถูกฟันขาดหลุดตกพื้น ผลก็คือเขาล้วงน้ำตาลกินต่อไม่ได้ ทำให้การรักษาเริ่มช้าลงจนแสงสว่างจากการรักษาเริ่มหายไป แต่ยังดีที่ก็อบลินเริ่มผละออกจากเขาและเริ่มวิ่งหนีแล้ว …เด็กหนุ่มต่อสู้ต่อไปจนฟันหัวก็อบลินตัวสุดท้ายที่ยังพยายามสู้กับเขา จากนั้นค่อยๆเดินเขยกไปทางโรล่าและมาเรีย …เด็กสาวทั้งสองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร …เพียงแต่ตอนนี้รอบๆตัวของทั้งสองมีก็อบลินที่นอนตายหรือไม่ก็กุมดวงตามองไม่เห็นอะไรหลายตัว กลิ่นกรดของน้ำยาล้างห้องน้ำลอยฟุ้งทั่วไปหมด
รอนจัดการแทงก็อบลินที่ยังไม่ตายจนหมด ก่อนจะหันไปทางกลุ่มทหารที่กำลังเข้ามา ทหารม้าในชุดเกราะหนังสีน้ำตาลควบเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบนัก ใช้หอกยาวแทงก็อบลินเฉพาะที่ขวางทางหรือไม่ยอมหนีไปไกล
” ทหารมากันแล้ว เรารอดแล้วล่ะ ” รอนบอกกับโรล่ามาเรีย ” คุณเบรเซอร์เป็นยังไงบ้างครับ ”
” ยังไหวอยู่ ” เบรเซอร์บอกและยกมือโบกให้รอนดู ขาของเขายังถูกหอกปักทะลุคู่กับตัวก็อบลินข้างใต้
“พอลพาท่านรอคโค่มาแล้วครับ คุณเบรเซอร์รอเดี๋ยวนะครับ ” เด็กหนุ่มบอกแล้วลุกขึ้นใช้มีดดาบตัดซากก็อบลินออก เขาตัดไปจนถึงกระดูกแล้วเฉาะๆๆจนหลุดออกมา เบรเซอร์กัดฟันด้วยความเจ็บปวด
พอลและชาวบ้านอีก20กว่าคนถืออาวุธออกมา ตาจับจ้องไปที่หมู่ก็อบลินที่นอนตายเผื่อว่าจะมีตัวใดที่แกล้งตายหรือไม่ รอคโค่เดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆ ให้ชาวบ้านที่มาด้วยช่วยกันจับ
“หนึ่ง สอง สาม ดึง”
“อร้าค์” เบรเซอร์ร้องอย่างเจ็บปวด
“ข้าแต่เทพไฮจีเน่ โปรดรักษา <Heal> ” แสงเรืองขึ้นที่มือ เลือดที่ไหลออกมาหยุดลง นักบวชรอคโค่พูดต่อ ” ข้าแต่เทพไฮจีเน่ โปรดมอบพลังให้แก่ผู้ที่เชื่อและรักษาให้หายดี <High Heal> ”
แสงสว่างเรืองขึ้นอีกครั้ง แผลที่บริเวณนั้นหายเกือบสนิท เบรเซอร์ลองขยับขาและลองลุกยืนเดินดูได้เป็นเกือบปกติ
“พวกเรา …. ” เบรเซอร์ถาม “ชนะแล้วรึ”
“ใช่ครับ … ก็อบลินเมจและก็อบลินกัปตันทั้งหมดตายไปแล้ว …ตอนนี้ที่เหลือก็เป็นก็อบลินธรรมดาเท่านั้น” รอนบอก ” โชคดีที่ทหารมาช่วยไว้ได้ทัน”
ทหารม้าที่ไล่ก็อบลินไปจนหมดแล้วกลับไปรวมกลุ่มกัน และค่อยๆพาม้าเดินตรงมายังกลุ่มชาวบ้าน ทหารคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มลงจากหลังม้าและเดินตรงมา
“ข้าคือกัปตันเรย์หัวหน้าหน่วยทหารม้าเบาของเมืองกาล่า …ท่านไหนคือหัวหน้าหมู่บ้านเบรเซอร์ครับ” ชายหนุ่มคนนั้นบอก
“ข้าเอง” เบรเซอร์ตอบ
“เมื่อสองวันก่อนพ่อค้าเร่คนหนึ่งส่งคนไปแจ้งข่าวว่ามีกลุ่มของก็อบลินกำลังโจมตีหมู่บ้านอัลเลน ….ท่านเจ้าเมืองได้ส่งหน่วยของข้ามาก่อน” กัปตันแห่งหน่วยทหารม้าบอก “พวกเราเดินทางไปที่หมู่บ้านอัลเลนและพบว่าถูกทำลายไปแล้ว จึงได้ตามรอยของก็อบลินมาที่หมู่บ้านของท่านต่อ ….. และท่านนี้คือ ….”
เขาหันมาทางรอน
“ท่านนี้คือท่านรอน เป็นนักเดินทางที่ผ่านมาและช่วยหมู่บ้านของเราไว้” เบรเซอร์แนะนำ
“สวัสดีครับ ผมรอนครับ” รอนกล่าว “ขอบคุณมากที่พวกท่านช่วยเอาไว้ … หากไม่ได้พวกท่านมา พวกเราคงไม่รอดแน่ๆ”
“นักเดินทาง?” กัปตันเรย์ทวนคำพูด
‘ขอบคุณที่ช่วยเอาไว้ …. หากไม่ได้มาช่วยคงไม่รอดแน่ๆ??? ‘
เหล่าทหารบนหลังม้ารวมถึงกัปตันเรย์ยิ้มแหยๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ …
ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาตัดสินใจเข้ามาช่วยจนกระทั่งถึงตอนนี้ ทหารม้าจัดการก็อบลินที่กำลังวิ่งหนีไปไม่ถึง 20 ตัว
แต่ซากก็อบลินที่นอนเกลื่อนอยู่ตรงจุดที่รอนตะลุมบอนเมื่อครู่ นับคร่าวๆก็น่าจะ80-90ตัว และที่กระจัดกระจายอีกหลายจุดอีก30กว่าตัว … มีก็อบลินเมจและกัปตันอีกสองตัว
‘ถ้าพวกเรามาช่วยช้ากว่านี้ เกรงว่าท่านจะฆ่าพวกมันกองโตกว่านี้มากกว่า’
ทหารทุกคนคิด แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เรย์สั่งให้ทหารแยกย้ายกันตรวจดูบริเวณสนามรบเพื่อหาก็อบลินที่อาจจะซ่อนอยู่ … เขาไม่เข้าใจว่าทำไมรอนจึงบอกว่าตนเองเป็นนักเดินทางแทนที่จะบอกว่าเป็น Paladin
หรือว่า Healing Aura ที่เห็นเมื่อครู่จะตาฝาดไป
รอนเช็คสเตตัสของตนเอง
[พลังชีวิต 25/58]
เกือบไป เกือบไป …. เมื่อกี้ถ้าทหารมาไม่ทันและก็อบลินไม่ผละออกจากเขาไป มีหวังเขาต้องแย่แน่ๆ
เด็กหนุ่มเดินไปหยิบเป้ที่ขาดตกอยู่ ล้วงมือลงไปในกระเป๋าหยิบน้ำตาลมาเปิดพลาสติกบังหน้าของหมวกกันน็อคแล้วใส่ปากเคี้ยวๆๆ
[+1][+1][+1][+1][+1][+1][+1][+1][+1]
แสงสีขาวเรืองสว่างขึ้นรอบร่างของเด็กหนุ่ม ….
ชัดเลย…..กัปตันเรย์มองและรู้เลยทันทีว่าเขาไม่ได้ตาฝาดไป