Midterm Fantasy - ตอนที่ 6
รอนวางหนังสือลงบนเตียงหินและหันไปสนใจกับของในมือขวา … เขาวางห่อของลงกับเตียงแล้วแกะออกหยิบที่ด้ามจับและยกขึ้น มือสัมผัสเส้นเอ็นที่ขึงตึงอย่างพึงพอใจ
ไม้แบตมินตันคู่นี้เขาเห็นแขวนในร้านขายของราคาถูกหลายเดือนแล้วโดยไม่มีใครสนใจซื้อแต่อย่างใด ในเมื่อมันอยู่ในห่อมาเป็นเดือนๆแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาหากเขาจะนำมันข้ามฝั่งมาทั้งชุด
ที่รอนซื้อไม้แบตมินตันมา ก็เพราะเขาคิดว่าหากค้างคาวบินจู่โจมใส่ โอกาสที่เขาจะยิงด้วยหนังสติ๊กโดนน่าจะน้อยถึงน้อยที่สุด การใช้อาวุธที่ถือในมือน่าจะเหมาะกว่า … ทีแรกเขาเองคิดว่าจะซื้อไม้เทนนิสที่หนาหนักมาใช้ แต่เมื่อลองเหวี่ยงไม้ดูเขาก็รู้ว่าเขาไม่มีทางเหวี่ยงไม้เทนนิสให้ทันค้างคาวที่บินได้เร็วแน่นอน ไม้แบตมินตันเลยเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
ยิ่งไม้ราคาถูกนี่อยู่ในห่อ มีสองไม้ แถมมีเส้นเอ็นตกปลาแถมมาให้ใช้ซ่อมด้วย ยิ่งเหมาะใหญ่
รอนทดสอบหวดลม4-5ครั้ง หยิบไม้หนังสติ๊กและลูกกระสุนเหล็กมาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ แล้วถือไฟฉายและไม้แบตเดินไปที่ประตู เขาเปิดประตูออกช้าๆ ที่พื้นไม่มีอะไรอยู่เช่นเดิม ส่วนที่เพดานห่างไปประมาณ5เมตร ตาสีแดงเล็กๆนับสิบคู่มองตรงทางเขา … เด็กหนุ่มวางของในมือลง จากนั้นหยิบไม้หนังสติ๊กและลูกเหล็กออกมา เหนี่ยวเต็มที่ไปยังเป้าหมายแล้วปล่อยมือ
‘ผึง’
โดยไม่รอดูผลลัพธ์ เขาล้วงหยิบอีกลูกจากกระเป๋าแล้วใส่ ยก ยิงอีกครั้ง
‘ผึง’
เขาทันเห็นค้างคาวตัวนึงกระเด็นไป ค่าพลังชีวิตลดฮวบเหลือเพียงแถบสีแดงเล็กน้อย ส่วนอีกตัวปลิวตกร่วงสู่พื้นเหมือนผลไม้สุกที่ตกจากต้น โดยแถบสีเขียวหล่นเป็นสีเหลือง แดง และหายไป เขาโยนไม้หนังสติ๊กลงกับพื้นแล้วดันประตูปิดทันที
‘ปะ ปะ ปะ ปะ’ เสียงกระแทกเบาๆดังที่ประตูอีกฝั่งอันเกิดจากค้างคาวที่บินเข้าใส่ รอนไม่รอช้ากระโดดหลบออกด้านข้าง คว้าไม้แบตที่พื้นขึ้นมาถือตั้งไว้ที่ด้านหน้าระดับคอ ร่างสีดำเล็กๆร่างหนึ่งที่หวังกัดคอของเขาพุ่งชนเกาะติดเข้าที่แผงเอ็น เขามองหน้าตาน่าเกลียดของมันก่อนจะตวัดไม้เหวี่ยงเต็มแรง ร่างเล็กๆของค้างคาวเหวี่ยงไปตามโมเมนตัม ก่อนจะหลุดลอยออกออกไปปะทะเข้ากับฝาผนัง … มันกระเด็นออกมาพร้อมพลังที่ลดลงเกินครึ่ง และขณะที่มันกำลังกระพือปีกตั้งตัว เงาจางๆของไม้แบตมินตันก็พาดผ่านลงมา
“แปะ กร็อบ”
เสียงค้างคาวกระแทกพื้นตามด้วยเสียงรองเท้ากีฬาที่เหยียบซ้ำลงไป รอนไม่สนใจค้างคาวที่แน่นิ่งไปแล้ว เขาส่ายสายตามองหาค้างคาวที่เหลือก่อนจะหวดไม้อีกครั้ง
[Critical hit!]
ค้างคาวตัวหนึ่งที่บินเข้ามาปะทะเข้ากับเอ็นของไม้แบต แรงบวกสวนทางกันทำให้เอ็นตัดร่างของมันจนตายติดคาที่ไม้ … ส่วนเงาอีกเงาหนึ่งบินหลบผ่านเข้ามาได้
[-0.3]
ค้างคาวงับที่ต้นแขนขวา รอนคว้าจับด้วยมือซ้ายปาลงพื้นก่อนที่จะเหยียบซ้ำ แถบพลังค้างคาวหล่นไปเหลือสีเหลือง สีแดง และดับสนิทเมื่อเหยียบครั้งที่3
เขามองสอดส่ายสายตาค้นหาสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีแล้วเขาก็กวาดซากค้างคาวไปไว้มุมห้องไว้เป็นกองเดียว หยิบหนังสติ๊กมาเหน็บที่กางเกงก่อนที่จะเปิดประตูอีกครั้ง
‘พั่บๆๆๆ’
เสียงกระพือปีกและเงาเล็กๆ4เงาบินเข้ามาในห้อง มันค้นหาศัตรูอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมีเสียงดังขึ้น
‘วู้ส’
ค้างคาวตัวที่บินรั้งท้ายถูกฟาดตกพื้น ก่อนที่จะถูกเหยียบซ้ำจนพลังชีวิตหมด
‘วู้ส’
[Critical hit]
ค้างคาวตัวที่โดนยิงตั้งแต่คราวแรกจนพลังเหลือขีดแดงเล็กๆ ถูกฟาดอีกครั้งจนตายคาไม้
ตอนนี้เหลือค้างคาวอีกสองตัว มันรู้แล้วว่าของในมือเด็กหนุ่มนี้ไม่ธรรมดา …. ความจริงพวกมันสามารถใช้หูรับเสียงสะท้อนและหลบอาวุธได้ …
ถ้าอาวุธมีขนาดใหญ่ มันก็หลบได้ง่าย
ถ้าอาวุธมีขนาดเล็ก มันอาจจะหลบลำบากบ้าง แต่ก็ยังพอหลบได้อยู่
แต่เมื่อต้องมาเจอกับอาวุธที่ขนาดเล็กแต่มีลักษณะเป็นร่างแหตาราง พวกมันก็หลบได้ลำบาก
ทั้งสองตัวเห็นความยาวของไม้แบตมินตันแล้วเลยบินวนตั้งหลักตรงมุมห้องฝั่งตรงข้าม และเมื่อแน่ใจว่าไม้ท่อนนั้นสั้นเกินไปทีจะโจมตีพวกมัน ทั้งสองตัวก็เกาะที่เพดานที่มุมห้องเพื่อพักกะจะรอเวลาที่เด็กหนุ่มเผลอ
แต่รอนหยิบหนังยางขึ้นมา ใส่ลูกเหล็กเล็ง แล้วยิง…
[Critical hit]
ค้างคาวที่ถูกลูกเหล็กยิงที่หัว ตายโดยไม่ทันรู้ตัวว่ามันโดนอะไร … ส่วนเจ้าตัวสุดท้ายเห็นเพื่อนตายทั้งๆที่เจ้าหนุ่มนั่นยังอยู่ไกล ก็เลยออกบินแบบเร็วที่สุด มันบินฉวัดเฉวียนแบบไร้ทิศทาง ตั้งใจว่าอย่างน้อยต้องจู่โจมมนุษย์ตรงหน้านี้ให้ได้
‘พั่บ’
อะไรบางอย่างสีขาวลอยขึ้นมาในทิศทางพุ่งขึ้น มีขนเหมือนนก เจ้าค้างคาวไม่สนใจแล้วว่านั่นคืออะไร ถ้าไม่ใช่พวกมันมันก็จะโจมตีทั้งหมด เจ้าค้างคาวรวบรวมกำลัง บินพุ่งเข้าหานกสีขาวนั้น กางตัวเกาะหมับแล้วอ้าปากฝังเขี้ยวลงไป …
‘ผัวะ’
ลูกขนไก่ที่มีค้างคาวกัดคาอยู่ ปลิวไปตามแรงหวด รอนวิ่งเข้าไปเหยียบซ้ำจนพลังชีวิตของค้างคาวหมด
[การต่อสู้ประชิดตัว Lv 3 5/100]
[Blunt weapon Lv2 5/100]
[Range weapon Lv2 25/100]
ดูเหมือนว่าถ้าอยู่ในระหว่างการต่อสู้ จะไม่มีการรายงานการเลื่อนระดับแต่ไปรายงานทีเดียวตอนสู้เสร็จ … ก็ดีเหมือนกัน เพราะจะได้ไม่เสียสมาธิ
รอนเขี่ยซากค้างคาวไปไว้ที่มุมห้องเป็นกองเดียว จากนั้นเปิดประตูอีกครั้ง …ในคราวนี้ไม่มีอะไรบินเข้ามา เขาฉายไฟฉายไปตามช่องทางเดินไม่เห็นอะไรอีก คราวนี้เลยเดินไปยังพื้นจุดที่มีซากค้างคาวตกอยู่ หยิบมันขึ้นแล้วเดินต่อไปจนสุดทางเดิน … สุดทางเดินไม่ได้เป็นทางตัน แต่มีช่องทางเดินยาวต่อออกไปอีก รอนฉายไฟเข้าไปตามพื้นให้แน่ใจว่าไม่มีตัวอะไรแล้วเหลือบตามองข้างบน … ดวงตาสีแดงนับสิบคู่มองมาทางต้นกำเนิดแสง
เด็กหนุ่มตัดสินใจถอยกลับมาก่อน เขากลับเข้าห้องแล้วปิดประตู
ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าห้องๆนี้ไม่ได้เป็นห้องตันๆที่ไม่มีทางออก หากแต่เป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้เพราะมีช่องทางให้ค้างคาวบินเข้ามาได้ … รอให้สอบจนเสร็จแล้วค่อยสำรวจอีกครั้งก็ได้ว่าข้างนอกมีอะไร
รอนกลับมาที่ซากค้างคาว ลองค้นดูในซาก ก็พบว่าทุกตัวล้วนมีผลึกสีแดงเล็กๆฝังอยู่ในตัว รอนเลยค่อยๆแคะออกมาทีละอัน ทีละอัน
[แกนมอนสเตอร์ x 10]
เขาวางผลึกทั้งหมดไว้บนโต๊ะ จากนั้นจัดการเอาซากค้างคาวทั้งหมดไปไว้ที่นอกห้อง … พร้อมกับหยิบซองผงปรุงรสของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปเพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง5-6ซอง
รอนนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบต่อ จนกระทั่งมองนาฬิกาอีกครั้ง เข็มชี้เวลา11:50
เขาเปิดประตูออกดู ฉายไฟไม่พบตัวอะไร … เดินตรงไปที่ที่วางซากค้างคาวไว้ ตอนนี้ซากหายไปหมดแล้ว
และผงชูรสที่เขาโรยไว้โดยรอบกลับปรากฎมีรอยเท้าขนาดเล็กหลายรอยปรากฎอยู่
นั่นแสดงว่า ทางเดินนี้ไม่ได้มีแต่ค้างคาว…