Midterm Fantasy - ตอนที่ 61
นกพิราบขาวบินเหนือเมืองอยู่รอบหนึ่ง ก่อนที่จะบินไปทางทิศใต้ มันบินสอดส่ายสายตามองกองทัพเบื้องล่าง ก่อนจะตรงกลับไปหาผู้ที่ร่ายเวท
“ที่พวกมันเฮกันเมื่อครู่ เพราะมีการเตรียมพร้อมที่ประตูทิศตะวันตกอยู่แล้วรึนี่ ” ดราซัคพูดกับนกตัวนั้น ก่อนจะตบมือ …. นกพิราบขาวหายวับไป
ดราซัครู้สึกผิดปกติ …. เขาส่งทัพย่อยไปทัพเดียวทางทิศตะวันตก และทัพใหญ่มาทางทิศใต้ …. และเมื่อดูจากการจัดกำลัง ทัพหลักของเมืองก็อยู่ที่ทิศใต้ซึ่งไม่แปลกอะไร เพราะฝ่ายมนุษย์รู้อยู่แล้วว่าเขากำลังมาจากทิศใต้ … แต่ทำไมมนุษย์ถึงไปตั้งกำลังที่น้อยกว่าอยู่ที่ทิศตะวันตกพอดี
หรือเทพีแห่งโชคจะเข้าข้างพวกมัน
แต่เท่าที่ดูจากบนฟ้า มนุษย์มีกำลังน้อยกว่าออร์ค กำลังที่ป้องกันมีเพียงไม่ถึง3000คน ดูจากบนฟ้าเป็นชาวบ้านเกินกว่าครึ่ง ที่กำแพงเมืองมีปั้นจั่นขนก้อนหิน แต่หินยังกองอยู่ที่กำแพงด้านล่างอยู่เลย …..
พวกมนุษย์เอ๋ย … ถึงปั้นจั่นยกหินจะมากเพียงใด ถ้าประตูเมืองแตกออกเมื่อไหร่พวกแกก็ต้องตายทั้งหมด ไม่มีโอกาสได้ทุ่มหินหรอก
แล้วนี่ดูธงที่ปักไว้ ปักเพื่อเตรียมยิงธนู แต่โล่กับกระบวนทัพแบบนี้ ธนูแค่ไหนก็ไม่ครนามือ
นี่ดูจากสภาพที่ไร่นาถูกเผา และซากศพของออร์คไรเดอร์และโทรลที่บุกมาก่อนหน้านี้ … ดราซัคเดาได้ไม่ยากว่า ออร์คน่าจะบุกเผาไร่นา แล้วจากนั้นไปเสียเวลาบุกโจมตีหอสัญญาณ ก่อนที่ทหารในเมืองจะออกมาสู้
เจ้าพวกนั้นมันน่าจะขัดคำสั่งเขา จนเสียท่าเจอล้อมแน่ๆ …. ถ้ายอมทำตามคำสั่งดีๆ ป่านนี้ทหารเคลื่อนที่เร็วคงมีมากกว่านี้ แต่มาคิดตอนนี้ก็สายไปแล้ว
“กองหน้าซ้ายบุกได้” ดราซัคสั่งสั้นๆ ออร์คแถวหน้าด้านซ้ายเดินหน้าไปช้าๆเป็นจังหวะทันที
ทหารออร์คจำนวน400นาย เดินถือโล่บังอย่างเป็นระเบียบเหยียบข้ามพื้นที่ธงแดง เหยียบย่ำทุ่งข้าวสาลีที่เผาไหม้ รอนสั่งทหารบนกำแพงเมืองให้ยกธงแดงทางด้านนั้น
“พลธนู เตรียมตัว!”
ทหารถือธนูวิ่งขึ้นมาบนกำแพงเมือง ยืนเรียงแถวที่ด้านนั้น ทหารคนหนึ่งเหนี่ยวธนูเต็มที่จากนั้นยิงลูกศรออกไป ลูกศรลอยออกจากแล่งปลิวไปตามลมก่อนจะตกบนโล่ของออร์ค
“เตรียมตัว ระวัง ระวัง ยิง!”
ลูกศร50ดอกลอยไปตามลมก่อนจะตกปักลงบนโล่ … เสียงร้องของออร์คบางตัวดังออกมาอย่างโกรธเคืองเมื่อธนูบางดอกทะลุโล่ลงไปถูกแขนของมัน
“ยิง!”
“ยิง!”
“ยิง!”
ทหารออร์คเดินเรียงเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง มีเพียงสองตัวที่ตายจากธนูที่ลอดผ่านเข้าไปในช่องว่างเท่านั้น และตอนนี้พวกมันค่อยๆเข้าใกล้พื้นที่ธงสีเหลือง ….
“เตรียมธนูไฟ!” รอนตะโกน …. ธนูไฟถูกนำขึ้นมา ธนูหัวพันผ้าชุบยางไม้ติดไฟถูกแจกจ่ายให้ทหาร … ทหารบนกำแพงเริ่มโยกธงสีเหลือง
“รอก่อน!”
ดราซัคนั่งบนหลังม้ามองไปบนกำแพง คนสั่งการใส่หมวกสะท้อนแสงกลมทรงประหลาด ชูมือห้ามยกค้างไว้ …. จอมเวทความมืดหรี่ตามองว่าทำไมข้างบนจึงไม่สั่งให้ยิง
และแล้วทหารออร์คด้านหน้าสุดกลุ่มหนึ่งก็เดินสะดุดรั้วลวดหนามสั้น! มันล้มลงพาดลงไปบนลวดหนาม เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้น … อีกครู่หนึ่งออร์คอีกด้านก็สะดุดหกล้มเช่นเดียวกัน
รอนโบกมือลง
“จุดไฟ ……… ยิงได้!”
ธนูไฟลอยขึ้นฟ้าก่อนตกลงไปใจกลางกลุ่มออร์คที่ล้มลง โล่ที่เปิดว่างเป็นช่องโหว่ทำให้ธนูไฟตกลงไปตรงกลางและเกิดการไหม้ได้ เสียงร้องของออร์คดังไปทั่ว
ดราซัคโบกไม้เท้าขึ้นสูง ไอน้ำจับตัวเป็นม่านหมอกเหนือกลุ่มออร์คที่อยู่ตรงกองหน้าก่อนจะควบแน่นเป็นละอองน้ำลงมา …. ไฟที่ติดบนตัวพวกมันจางดับลงอย่างรวดเร็ว
“กองหน้าทั้งหมด บุกได้” ดราซัคร้องบอก กองหน้าที่เหลืออีก800นายทางปีกขวาและตรงกลางเดินถือโล่เข้าไปอย่างเป็นระเบียบ …. ธงแดงบนกำแพงโบกขึ้นอีกครั้ง ทหารถือธนูวิ่งขึ้นกำแพงเมือง และเริ่มระดมยิงใส่เช่นเดียวกัน
“ท่านรอน พวกมันมาแล้ว จะเริ่มยิงหินหรือยังคะ!” มีอาถาม
“ยังครับ รอก่อน” รอนสั่ง
ออร์คทางปีกซ้ายเดินข้ามลวดหนามอย่างยากลำบากเพราะพื้นที่ที่เปียกน้ำหลังจากดราซัคใช้เวทน้ำมาดับไฟ ในขณะที่ทางปีกขวาก็เข้ามาถึงโซนสีเหลือง ทหารที่ยิงธนูเริ่มเปลี่ยนไปใช้ธนูไฟ …. เช่นเคย ดราซัคใช้เวทเรียกน้ำทำให้พื้นดินตรงบริเวณนั้นเปียก … ไฟที่กำลังลุกไหม้ก็ค่อยๆดับลง
“ขนก้อนหินเล็กขึ้นมาวางบนกำแพง” รอนตะโกนสั่ง “ทหารถือหอก … ขึ้นมาบนกำแพง”
ทหารอีกกลุ่มถือหินขึ้นมาบนกำแพงมุ่งไปทางซ้าย วางก้อนหินไว้และยกหอกชูจนเห็นเด่นชัด
ดราซัคมองไปที่ทหารเหล่านั้น ส่ายหน้าช้าๆ … ดูเหมือนเขาจะระวังตัวมากเกินไป … ที่จริงมนุษย์เหล่านี้ก็เลือกแผนป้องกันเมืองตามปกตินี่เอง
“ทุกกอง …บุกได้ ยึดเมืองให้ได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน”
“โอ้ววววววววว” “โอออออ” “ฮร่าาาา”
ออร์คทั้งหมดร้องขานรับก่อนจะเดินหน้าเข้าไปอย่างพร้อมเพรียงข้ามโซนสีแดงเข้าไป ดราซัคร่ายเวทน้ำรดใส่ทหารทุกกองพร้อมๆกัน ธนูไฟบางดอกที่ลอยไปถึง ปักบนโล่ไม้ ก่อนจะค่อยๆดับลงเพราะความชื้นแฉะ ออร์คเกือบห้าพัน ดาหน้าเหนียบย่ำนาข้าวสาลีไหม้ๆอันเฉอะแฉะเข้าไปช้าๆ ช้าๆ
รอนยิ้มให้กับภาพข้างหน้า
“เป่าแตรได้ ”
ปู้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
เสียงแตรเขาสัตว์ดังยาวเหยียดส่งสัญญาณที่ทุกคนรอคอย รอนตะโกนบอกคนถือธงสัญญาณทั้ง22คน บนกำแพงทั้งซ้ายขวา
“สั่งการไป ยิงกลุ่มที่ใกล้กำแพงที่สุด!”
คนถือธงทั้ง 22 คนลุกขึ้นมองเล็งเป้า จากนั้นโบกธงสีของตน บ้างโบกธงเขียว แต่ส่วนใหญ่โบกธงเหลือง
“เร็วๆๆๆๆๆๆ ธงของเราโบกแล้วสีเขียว” ทหารและช่างที่คุมเครื่องยิงหินตะโกนร้องทันทีที่เห็นคนถือธงของตนยกธง
“พวกเราพร้อม หนึ่ง สอง สาม ยิง”
ควับ วูบบบ พรึ่บ
ก้านตัวถ่วงCounter weightหล่นลง ยกให้ก้านไม้ยกตวัด พาหินหนัก50กิโลกรัมลอยขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะถูกนำพาด้วยแรงโน้มถ่วงแหวกสายลมและหมอกควัน ตรงไปยังโล่ไม้เบื้องล่าง
เปรี๊ยะ! ปัง!!! แผละ
“อร้าาาก!” “โอ้คคค”
เปรี๊ยะ ปัง!
“โฮกกกกกก” “อรั่ค”
โป้งงง! ปัง ปัง ปัง!
เสียงที่ดังมาจากนอกกำแพงเมืองทำให้ชาวบ้านและทหารตื่นเต้นเลือดพล่าน … และสำหรับทหารบนกำแพงเมือง ภาพเบื้องหน้านั้นเกินจะบรรยาย … เพราะเมื่อหินหนักเท่าผู้ใหญ่ทั้งคนพุ่งตกลงไปกลางกระบวนโล่รูปเต่าของพวกออร์ค สิ่งที่ตามมาคือโล่ที่แตกกระจายขึ้นไปบนฟ้า ออร์คที่ล้มเป็นทางยาวกลายเป็นเส้นทางเลือดสั้นๆ
ทุกอันที่ตกลงไปคร่าชีวิตออร์คที่อยู่รวมกันอย่างแน่นขนัด5-10ตัวในทันที
“พวกเรา ยิงเมื่อพร้อม ยิงเมื่อพร้อม!”รอนสั่งการพลางชูดาบขึ้นฟ้า
“ธงสีเหลือง ดึง! ดึงเชือก ดึงอีก ล็อคหมุด” หัวหน้าทีมยิงตะโกนสั่ง “พวกเราพร้อม หนึ่ง สอง สาม ยิง”
ควับ วูบ พรึ่บ
“ธงเขียว ดึง เฮ้ย พอ พอ พอ ถอยก่อน เอาใหม่ ดึง ดึงอีก ล็อคหมุด …… พร้อม หนึ่ง สอง สาม ยิง!”
ทหารและชาวบ้านเบื้องล่างดึง ยึด ปล่อย ยิง … ทำตามที่ซักซ้อมกันมา เสียงไม้เหวี่ยง หินลอย ตามด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของออร์คดังมาเป็นระยะ
“ธงแดง ดึงเลยพวกเราฮ่าฮ่าฮ่า เอามันให้ตาย” หัวหน้าทีมเครื่องตรงกลางตะโกนอย่างสะใจ ทุกคนรอบๆเฮลั่นเพราะการที่เปลี่ยนจากธงเหลืองเป็นธงแดงแปลว่าศัตรูตรงจุดนั้นแตกและเริ่มถอยไปตั้งหลักแล้ว
… ข้างล่างว่าตื่นเต้นกันแล้ว ด้านบนยิ่งตื่นตาตื่นใจ รอนมองดูกองทัพออร์คที่ตอนนี้เริ่มสับสนวุ่นวาย แทบไม่เหลือกองใดที่คงสภาพของ Tetsudo Formation … แนวโล่บุกป้องกันอันแข็งแกร่งถูกทำลายลงแล้ว …
เพราะทุกครั้งที่หินหนัก50กิโลตกทับลงไป ต้องมีออร์คตายดับลง
ทุกครั้งที่ออร์คตายลง เท่ากับว่ากระบวนทัพต้องเสียเวลาจัดใหม่ ออร์คที่ตื่นกลัวบางตัววิ่งหนีกลับไปด้านหลัง ชนกับกำลังฝ่ายเดียวกันที่กำลังเดินหน้าเข้ามา
พื้นดินที่เปียกแฉะจากการใช้เวทน้ำของดราซัคเพื่อดับไฟ ตอนนี้กลายเป็นอุปสรรค ทำให้จะกลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไปไม่ไหว ออร์คทุกตัวอยู่ในความสะพรึง หรือไม่ก็ตื่นตะลึงกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ดราซัคมองไปที่กำแพงเมืองอย่างเคียดแค้น มันตกหลุมพรางจนได้ … ตอนนี้ทหารที่มันรวบรวมมาอย่างยากลำบากกำลังตกในความสับสนวุ่นวาย
“ทุกหน่วยบุกเข้าไป ห้ามถอยเด็ดขาด” พ่อมดดำประกาศก้อง ด้วยเวทขยายเสียงทำให้เสียงดังไปไกล ออร์คที่กำลังถอยหันหลังกลับแล้วบุกกลับเข้าไปใหม่
ออร์คบางกลุ่มทิ้งโล่ในมือ…. การถือโล่บังทำให้พวกมันมองไม่เห็นหินที่ลอยมา … ในเมื่อถือไปก็ลำบาก หินมาก็กันอะไรไม่ได้ พวกมันจึงทิ้งโล่แล้วพยายามวิ่งเข้ากำแพงเมือง
“พลธนู ยิง”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ
ออร์คที่วิ่งเข้ามากลายเป็นออร์คเม่นไปทันที
ดราซัคกำมือแน่น มันร่ายเวทมนตร์และมองไปที่กำแพงเมือง มองไปยังชายใส่หมวกกลมสีเงินนั่น … ระยะนี้ไกลเกินกว่าธนูเวทมนตร์จะไปถึง … เช่นนั้นคงต้องเป็นหอกเวทย์
<คุณรับรู้ได้ถึงจิตสังหาร>
“เอ๊ะ” รอนตวัดดาบพาดป้องกันศีรษะและหน้าอกด้านซ้ายทันที
แคร้ง!ฉึก!
[-25]
“ท่านรอน!”
“ไม่!น้าว์”
หอกสีดำกระทบเฉียดดาบก่อนที่จะปักทะลุหน้าอกขวาทะลุออกหลัง … กระดูกสะบักขวาปริแตกออกนอกเสื้อเป็นสีแดง
รอนทรุดลงกับพื้น … ทิ้งมีดดาบ ควักน้ำตาลในกระเป๋ากางเกงโยนเข้าปาก … ไม่มีความจำเป็นต้องดื่มน้ำตาม เพราะตอนนี้เลือดจากปอดขวาทะลักออกมาจากหลอดลมเต็มไปหมดแล้ว
[+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9]
แสงสว่างสีขาวแจ่มจ้าเจิดจรัสวาบขึ้นมา
หอกสีดำที่ปักอยู่ถูกลำแสงถอนล้างจนกลายเป็นควันสีดำลอยขึ้นไป
[+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9]
[+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9][+0.9]
รอนไอเอาเลือดออกจากปาก ก่อนจะลุกขึ้นยืนเด่นบนกำแพงเมือง เขาชูดาบขึ้นฟ้า
“ยิงต่อไปอย่าหยุด”
“เฮ!!!!”
“รอน รอน รอน”
รอนมองไปที่ดราซัคก่อนที่จะเดินหลบไปอยู่หลังเชิงเทินเพื่อป้องกันการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวอีก … เบื้องล่างชาวเมืองและทหารเฮลั่น …. แม้ว่าทุกคนจะเคยได้ยินข่าวลือว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีHealing Aura แต่น้อยคนที่จะเชื่อ เพราะว่ามีเพียงนักรบพาลาดินไม่ก็นักบวชชั้นสูงเท่านั้นที่จะมีของแบบนี้
แต่ตอนนี้ทุกคนเห็นแล้ว
หอกเวทมนตร์ของดราซัค ที่เป็นตำนานอันน่าสะพรึง หนึ่งหอกหนึ่งชีวิต บัดนี้ถูกทำลายลงแล้ว
ดราซัคกำมือกัดฟันแน่น …. หอกเวทมนตร์ที่ใช้ได้เพียงวันละครั้ง พลาดเป้า!
นอกจากศัตรูจะรู้ตัวและตั้งรับทันจนไม่ตายในทันที
เขายังไม่คาดคิดว่ามันจะมีเวทรักษาชั้นสูงที่ทำให้หายได้ในพริบตา
หยามกัน … หยามกันชัดๆ
จอมเวทความมืดแช่งชักหักกระดูกความโชคร้ายของตน … โอกาสในการฆ่าผู้นำทัพศัตรูหมดไปแล้ว … มันคงต้องสั่งถอยทัพมาตั้งหลักก่อน
แต่ก่อนที่มันจะเตรียมยกมือสั่งถอย
“เปิดประตูเมือง!”
รอนเดินไปที่หน้าประตูเมือง ทหารเซ็นจูเรี่ยน200นายที่รวมมาจาก20กองร้อยถือโล่และหอกรออยู่แล้ว
“ทั้งหมดทำตามแผนได้”
รอนเหลือบมองดูนาฬิกาที่บอกเวลา1140น. …
“เฮฮฮฮฮ”
รอนวิ่งนำหน้าเข้าไป ออร์คตรงหน้าหันมามองและเตรียมตัว
“ด้านซ้ายรึ” รอนพูด กระโดดหลบไปทางขวาหลบดาบที่ฟันลงมาตามเส้นทางสีทอง ก่อนจะตวัดฟันคอออร์คตัวนั้นเลือดสาด
สกิล<ออร์คศึกษา>อำนวยความสะดวกดีแท้
เด็กหนุ่มวิ่งเข้าไปใจกลางกลุ่มออร์ค มอนสเตอร์ที่น่าสงสารได้แต่งงว่าทำไมศัตรูตัวนี้ถึงคาดเดาทิศทางดาบของพวกมันได้อย่างแม่นยำนัก
ดราซัคได้แต่กล้ำกลืน จะสั่งถอย … ศัตรูก็เปิดประตูแล้ว แต่จะบุกเรอะ … ศัตรูก็แข็งเกินไป
พ่อมดดำดูระยะห่างจากเมือง … ถ้ามันเข้าไปในระยะหนึ่งไมล์ได้ล่ะก็ มันจะร่ายเวทเผาผลาญมานาได้ และจัดการทหารที่อยู่หลังกำแพงได้ … ดราซัคดูไปที่กำแพงเมือง ไม่มีคนโบกธง ไม่มีหินลอยออกมาแล้วเพราะมีพวกมนุษย์ออกมารบด้านนอก พ่อมดดำค่อยๆพาม้าเข้าไปช้าๆ ช้าๆ เลยธงแดงเข้าไปหน่อยนึง
มันมีเกราะที่แข็งแกร่ง จะหินสักสามสี่ลูกก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“ข้าแต่เทพเบเลนุสผู้ดูแลไฟแห่งฟากฟ้า ที่สอดส่องทั่วพื้นพิภพ …….” ดราซัคเริ่มยกไม้เท้าร่ายเวท ” …. โปรดรับเครื่องบูชามานาแห่งตัวข้า เพื่อปลดผนึกมานาในตัวศัตรูที่รายล้อมข้า ณ ที่นี้ ….. ”
“ยิงได้!” ทหารที่เฝ้ามองแต่แรกโบกธงดำและแดงชูชี้ไปทางทิศที่ดราซัคยืน
“ทหารทุกคน ถอย!” รอนตะโกน
หิน20กว่าลูกลอยขึ้นฟ้าไปยังจุดหมายเดียวกัน
“โปรดเผาผลาญมานาของศัตรูของข้า เปลี่ยนให้เป็นเพลิงที่เผาไหม้กายของพวกมันจนกว่าจะมอดไหม้”
ดราซัคยกไม้เท้ากระดูกในมือขึ้น
“จงลุกไหม้ <Mana Burn>”
“โอ้ววว”
“ร้อนๆๆๆ”
ทหารวิ่งหนีกลับเข้าเมือง แม้ว่าพวกเขาจะปล่อยพลังเวทออกไปหมดก่อนบุกออกไปตามแผนที่วางไว้ แต่พลังเวทที่ฟื้นตัวมาระหว่างการต่อสู้เมื่อครู่ก็ทำให้เกิดไฟลุกไหม้บาดเจ็บเล็กน้อย
“อ้ากกก”
“ร้อน ร้อน ร้อนเหลือเกิน”
“พวกเรา ยิงไปอย่าหยุด”
ชาวบ้านและคนที่คุมเครื่องยิงหินพยายามทำหน้าที่ต่อแม้จะบาดเจ็บ
ตุบ ตุบ ตรึ่ก ตุบ ตรึ่ก ตรั่บ ตรั่บ ตรั่บ
แคร็กๆๆ เพล้ง แคร๊กๆๆ เพล้ง เพล้ง
จอมเวทความมืดย้ายโล่เวทมนตร์มาไว้ด้านหน้าและด้านบนอย่างรวดเร็ว มันคาดไม่ถึงว่าหินเหล่านี้จะทะลุเกราะโล่ของมันเข้ามาได้
เพล้ง เพล้ง ตรั่บ
ฮรี้ๆๆๆๆ
หินก้อนใหญ่ทะลุผ่านเกราะเวทมนตร์ซัดเข้าตัวม้าเต็มแรง ม้าสีดำคู่ใจของดราซัคล้มลง พาให้จอมเวทดำล้มตามลงไปด้วย
ทุกอย่างเงียบลงทันที ไม่มีหินลอยข้ามกำแพงมาแล้ว ดราซัคค่อยๆลุกจากพื้น ชูไม้เท้าชี้ไปด้านหน้า
“ออร์คไรเดอร์ บุกเข้าเมือง … ออร์คทุกหน่วยบุกเข้าเมืองได้”
จากนั้นดราซัคถอยร่างออกจากเขตธงแดง สักครู่หนึ่งหินก็เริ่มลอยออกมาแต่ไปไม่ถึงพ่อมดดำที่ลากร่างกายออกจากเขตยิงแล้ว
“ทุกคนที่บาดเจ็บถอยไปแนวหลัง หน่วยกองหลังสลับเปลี่ยนมาด้านหน้า” รอนตะโกนสั่งการ …
ขณะที่เขาพาทหาร200นายออกรบ ทหารและชาวบ้านส่วนใหญ่ถอยเข้าไปในด้านหลังเพื่อให้พ้นรัศมีของเวทเผาผลาญมานาของดราซัค และรอนก็ให้คนถือธง แอบสังเกตการณ์ หากดราซัคข้ามเส้นแดงเข้ามา ให้โบกสัญญาณเพื่อเผด็จศึก
ทั้งการเปิดประตูเมือง
ทั้งการบุกออกไป
เป็นการทำเพื่อป้องกันการสั่งให้ออร์คถอยทัพไปตั้งหลัก และเป็นการล่อให้ดราซัคเข้ามาใช้เวทเผาผลาญมานาเพื่อหวังบุกเข้าเมืองที่เปิดประตูอยู่ …ซึ่งเป็นอยู่ในระยะยิงของเครื่องยิงหิน
“ทหารทุกคน ป้องกันประตูเมือง” มีอาตะโกนแล้วนำหน้าไป ตัดเฉือนออร์คที่พยายามบุกเข้ามา … ออร์คไรเดอร์ควบเสือสีเทาเห็นอยู่ไกลๆ ก่อนที่ประตูจะปิดลง
ตู้ม!
เสียงดังมาจากอีกฟากหนึ่งของเมือง ประตูตะวันตก! เกิดอะไรขึ้น
ตู้ม!
เสียงดังขึ้นอีกครั้งพร้อมเสียงวุ่นวายที่ฟากนั้นของเมือง รอนคิดถึงโรล่าที่อยู่ที่ด้านนั้น เธอจะเป็นยังไงบ้าง …..
“ช่างไม้และช่างทำดาบทุกท่าน ของที่ผมให้เตรียมพร้อมหรือยังครับ” รอนร้องถาม
“พร้อมแล้วครับท่านรอน” ทีมช่างไม้ชูไม้ท่อนเล็กๆที่ขัดเตรียมไว้แล้ว
“ทางนี้ก็พร้อม” ทีมช่างทำดาบมาพร้อมหมุดและค้อนรวมทั้งแผ่นริ้วหนัง
เด็กหนุ่มพยักหน้าให้ก่อนจะเดินไปที่เพิงเล็กๆใกล้ๆเตรียมการวาร์ปกลับโลกในอีก30วินาทีข้างหน้า
ตู้ม!!! เฮ! เสียงดังมาจากประตูตะวันตกอีกครั้งแต่คราวนี้มีเสียงโห่ร้องยินดี
ตู้ม!!!!!!!!
รอนหันขวับไปเพราะครั้งนี้เสียงดังมาจากประตู ควันไฟพุ่งมาจากประตูเมืองที่มีรูเกิดขึ้น
“มันใช้ม้วนเวทมนตร์<บลัสเตอร์> ทุกคนระวังให้ดี อีกไม่นานมันจะบุกแล้ว!!!
งั้นที่ประตูตะวันตก …. รอนคิดได้ถึงแค่นี้ก่อนจะวาร์ปกลับโลกไป