Midterm Fantasy - ตอนที่ 76
77 ผมแค่ต้องการอ่านหนังสือเตรียมสอบ
“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของท่านรอนที่เดินทางมาหา” เบรเซอร์พยักหน้า “เชิญพักที่นี่ตามสบายเลย หมู่บ้านโอลเซ่นยินดีต้อนรับเพื่อนของท่านรอนเสมอ”
“ขอบคุณค่ะ”
“นั่นคือมาเรียกับโรล่า เป็นเด็กที่อาศัยในบ้านหลังนี้” เบรเซอร์แนะนำตัวทั้งสองให้กับแพท
“สวัสดีค่ะ” โรล่าก้มศีรษะให้และมองด้วยสายตาสงสัย
ต่างจากมาเรีย
“สวัสดีค่ะคุณแพท ชั้นชื่อมาเรีย ถ้ามีอะไรที่สงสัยในหมู่บ้านนี้ก็ถามพวกเราได้เลยนะคะ” มาเรียยิ้มให้ตาเป็นประกาย “คุณแพทเป็นเพื่อนอาศัยที่เมืองเดียวกับท่านรอนเหรอคะ”
“อ๋อใช่ค่ะ เราเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน”
“แบบนี้ก็รู้จักกับท่านรอนนานแล้วใช่ไหมคะ”
“เอ่อ ค่ะ ก็รู้จักกันตั้งแต่ประถม … อ้อ รู้จักกันมา8-9ปีน่ะค่ะ….”
“แล้วก็….”
“พอ พอ มาเรีย เสียมารยาท” เบรเซอร์ตัดบทก่อนจะหันไปหาเด็กสาว “คุณแพทมาพักที่นี่นี้มีเป้าหมายหรือตั้งใจจะทำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เผื่อทางเราจะช่วยอะไรได้บ้าง”
“คือแพทต้องการหาที่อ่านหนังสือตำราเพื่อเตรียมสอบค่ะ” แพทตอบไปตรงๆ
“ว่าแต่ คุณแพทจะพักที่ไหนดี” เบรเซอร์เอ่ยขึ้นพลางนึกถึงห้องรับแขกในบ้านของตน
“ก็คงพักที่ห้องที่บ้านของรอนค่ะ” แพทตอบไป “เมื่อคืนนี้แพทก็อยู่ที่นั่นทั้งคืน เครื่องใช้เครื่องนอนในบ้านก็พร้อมแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร”
ทั้งเบรเซอร์ โรล่า และมาเรียหันไปมองแพทและรอนพร้อมๆกัน
“เอ่อ …. พอดีเมื่อคืนแพทมาถึงตอนดึกแล้ว ทุกคนหลับกันหมดแล้ว” รอนบอก “ที่พามานี่ก็กะว่าอยากจะให้แพทมาพักที่ห้องรับแขกของบ้านคุณเบรเซอร์”
“ไม่เป็นไรมั้งคะ จะเป็นการรบกวนหรือเปล่า … ที่จริงบ้านหลังนั้นก็ออกกว้างขวาง”แพทบอกอย่างเกรงใจโดยไม่ทันสังเกตสายตาของคนทั้งสาม
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะคุณแพท “มาเรียบอกพร้อมรอยยิ้ม “คุณมาพักกับพวกเราก็ได้ไม่รบกวนอะไรหรอกค่ะ”
“คุณรอนคงกลัวจะไม่เหมาะหากหนุ่มสาวจะอาศัยในบ้านเดียวกันแค่สองต่อสอง … อย่างบ้านหลังนั้นก็มีห้องนอนแค่ห้องเดียวแล้วก็เตียงแค่เตียงเดียว ถ้าจะให้คุณทั้งสองคนอยู่ที่นั่นแบบเมื่อคืนนี้ไปนานๆก็คงนอนไม่สบายแน่ๆ …. ยังไงเดี๋ยวชั้นจะจัดการเรื่องห้องที่นี่ให้แล้วกันค่ะ”
แพทลืมนึกเรื่องนี้ไปเสียสนิท …ที่จริงทั้งแพทและรอนไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าที่บ้านนั้นมีเตียงกี่เตียง เพราะว่าทั้งสองคนมีสกิลที่ไม่ต้องการการนอนหลับพักผ่อน … รอนก็ฝึกดาบทั้งคืน ส่วนแพทก็นั่งอ่านหนังสือยันสว่าง … ไม่มีใครลงนอนสักนิด
แต่สำหรับเบรเซอร์ โรล่า และมาเรีย ที่ไม่รู้ถึงสกิลนี้ ต่างมองทั้งสองคนไปมา
โดยเฉพาะโรล่าที่จ้องมองแพทเป็นพิเศษ …. เธอมองไปที่เสื้อผ้าที่ไม่คุ้นเคย และอุปกรณ์แปลกตาที่เหมือนหนังสือเวทมนตร์ของท่านรอน …. ฟังจากที่มาเรียถามเมื่อครู่ดูเหมือนทั้งท่านรอนและคุณแพทจะรู้จักกันมานานแล้วและมาจากเมืองเดียวกันจริงๆ
หลังจากนั้นพ่อเฒ่าเบรเซอร์ก็พาแพทออกเดินดูรอบๆหมู่บ้านพร้อมกับรอน เพื่อให้รู้จักสถานที่และคนในหมู่บ้าน ทั้งหมดเดินอยู่ราวๆครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะกลับไปที่บ้านของเบรเซอร์และรับประทานอาหารเช้ากัน …. แพทกินอาหารของที่นี่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ขณะที่รอนซึ่งเริ่มชินแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรมากกับข้าวโอ๊ตต้มกับขนมปังแข็งและเนื้อแห้ง
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ แพทก็เข้าไปนั่งอ่านหนังสือต่อ ส่วนรอนนั้น
“เดี๋ยวเราจะออกไปกับกลุ่มชาวบ้านที่ไปล่าหมาป่า” รอนบอก “น่าจะกลับมาอีกครั้งหลังเที่ยง”
“โอเค ระวังตัวด้วยแล้วกัน” แพทบอก
โรล่ามองทั้งสองคุยกันโดยไม่ได้พูดอะไรมาก เธอเข้าไปจัดการล้างจานชาม ส่วนรอนก็กลับไปที่บ้านเพื่อเก็บเตรียมของก่อนจะเดินไปที่ทางเข้าหมู่บ้านเพื่อรอกลุ่มที่จะไปล่าหมาป่า เด็กหนุ่มถือหอกในมือ ส่วนมีดดาบสะพายหลังใส่ไว้ในฝักดาบที่คุณวินเซนต์ซึ่งเป็นช่างไม้ทำไว้ให้ เมื่อเขาไปถึงที่ทางเข้า
“อ้าว โรล่า มาทำอะไรน่ะ” เขาถามเมื่อเห็นเด็กสาวยืนอยู่กับคนอื่นๆอีก8คน
“วันนี้จะออกไปกับกลุ่มล่ามอนสเตอร์ด้วยค่ะ” เธอตอบ ในมือถือโล่เล็กและมีมีดสั้นเหน็บที่เอว และมีถุงผ้าคล้องไว้
กลุ่มเดินออกจากหมู่บ้านไป …หลายวันมานี้รอนและกลุ่มของชาวบ้านออกล่าหมาป่าหลังเงินและจิ้งจอกหิมะได้จำนวนมากจนตอนนี้พวกมันเริ่มลดจำนวนและหายากกว่าเดิม คราวนี้กลุ่มทั้ง10คนเดินทางไปตรงริมธารน้ำที่พวกเขาทิ้งเศษซากเครื่องในหมาป่าและจิ้งจอกไว้ ทุกคนเดินเข้าไปเงียบๆ เสียงสัตว์ขู่เบาๆและเสียงฝีเท้าวิ่งไปมาดังมาจากบริเวณดังกล่าว
จนเมื่อทุกคนเดินเข้าไปถึงก็ได้เห็นว่ามีหมาป่าฝูงเล็กๆประมาณ10ตัวกำลังแย่งกินเศษซากเครื่องในที่ชาวบ้านวางล่อไว้
“พวกเราไม่ต้องล้อม … ใช้วิธีดาหน้าสู้ตรงๆเลย” รอนเสนอเพื่อให้ทุกคนได้ฝึกหัดฝีมือการต่อสู้ด้วยหอก
ทุกคนเห็นด้วยและเดินเข้าไปช้าๆออกจากพุ่มไม้ มีเพียงโรล่าที่เดินตามหลังเล็กน้อยเพราะเธอใช้โล่และมีด ไม่มีหอกในมือเหมือนคนอื่น
‘กรรรร’ เสียงหมาป่าขู่คำรามเมื่อเห็นคนเดินเข้ามา ก่อนที่หมาป่า5ตัวจะวิ่งตรงเข้าใส่ ส่วนอีก5ตัว ลังเลเล็กน้อยก่อนจะวิ่งตามมา
“เตรียมพร้อม” รอนร้อง ชาวบ้านคนอื่นๆตั้งหอกเฉียงขึ้นสูงเล็กน้อยและกะจังหวะ
ใกล้เข้ามา
ใกล้เข้ามา
ใกล้แล้ว
“แทงได้” สิ้นเสียงสั่ง หอกที่ตั้งเฉียงขึ้นสูงก็หักลงมาในระดับหน้าแข้งและระดับลำตัว หมาป่าที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่ระวังปรับตัวตอบสนองกับหอกที่เปลี่ยนทิศทางช้าเกินไป จึงพุ่งเสียบหอกเหล่านั้นอย่าถนัดถนี่
ฉึกๆๆๆ
‘เอ๊งงงง’
‘หงิงงง’
“ร่ายเวท<Wind Shield>” รอนร้องอีกครั้ง หมาป่าที่พุ่งเข้ามาชุดที่สองพุ่งใกล้เข้ามาแต่แล้วก็ชนกับกำแพงที่มองไม่เห็นจนต้องถอยไปก่อนจะพยายามพุ่งเข้าใส่มนุษย์ใหม่ ส่วนชาวบ้านก็พยายามตั้งหอกเพื่อป้องกันหมาป่าที่พยายามเข้ามา …บางตัวจับทางได้รีบวิ่งวนไปด้านหลัง
“ระวัง มันเข้ามาแล้ว” เสียงร้องเตือนดังขึ้นเมื่อทุกคนเห็นว่าหมาป่าตัวนึงวิ่งตัดมาจากด้านข้าง …แต่ก่อนที่มันจะเข้ามาได้นั้นเอง
แคร้ก ! ฉึก!
‘เอ๊ง!’
เสียงหมาป่ากระแทกเข้ากับโล่โลหะก่อนที่จะร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อถูกทิ่มแทงด้วยมีด …มีดทำครัวสีเงินปักติดไปที่กลางท้องของมัน … มันแสยะเขี้ยวจ้องมองโรล่าที่มือปราศจากอาวุธและกำลังล้วงเข้าไปในห่อผ้าก่อนจะพุ่งเข้าหาอีกครั้งทั้งๆที่มีดยังปักคาอยู่
“โรล่า ระวัง!” รอนร้อง แต่ช้าไปแล้ว หมาป่าพุ่งเข้าชน วิ่งเข้าใส่ พุ่งเข้าไปเหมือนกับลืมตัว ไม่สนใจว่ามันมีมีดปักที่พุงอยู่
ฉัวะ!
แผละ!
เสียงบางสิ่งบางอย่างตกลงบนพื้น ….. หมาป่าที่ถูกโล่กระแทกยัน หันกลับไปมองเด็กสาว … ในมือของโรล่ามีมีดทำครัวสีเงินอีกอัน ที่ปลายของมีดมีเลือดติดอยู่ …. และที่พื้นระหว่างมันกับเด็กสาวคนนั้นมีลำไส้ที่ตกลากยาวอยู่มาจนถึงแผลที่ท้องของมัน
ฉึก!
โรล่าปักมีดเข้าที่ซอกคอของหมาป่าตัวนั้น ล้วงเข้าไปในย่ามที่สะพายแล้วควักมีดทำครัวอีกอันออกมา แล้วหันไปดูหมาป่าตัวอื่น ตอนนี้หมาป่าตัวอื่นๆกำลังง่วนกับการสู้และหลบหลีกหอกของชาวบ้านคนอื่นๆ …เธอรอจนกระทั่งพวกมันตายจนหมดแล้วจึงเดินกลับไปหยิบมีดที่ปักติดอยู่ที่ซากหมาป่าตัวนั้น
“โรล่าเอามีดมาจากไหนเยอะแยะครับนั่น” รอนถาม
“คือชั้นยืมมาจากคนในหมู่บ้านคนอื่นๆน่ะค่ะ” เธอตอบ “เวลาสู้กันกับมอนสเตอร์ ถ้ามีดหลุดปักติดไปกับมอนสเตอร์ตัวนึงแล้วไม่มีอาวุธก็จะอันตรายและลำบาก เลยต้องยืมมีดมาสำรองเอาไว้”
เธอหันไปทางรอน แหวะเปิดผ้าบางเบาให้เด็กหนุ่มดู ภายในมีมีดทำครัวที่เขาเคยแจกให้ชาวบ้านโอลเซ่นไว้ป้องกันตัวอีก5-6เล่มอยู่ในย่ามใบนั้น
“อืม ผมว่าคุณโรล่าควรจะหัดการใช้มีดจะดีกว่านะครับ เพราะถ้าคุณถนัดกับการปักมีดให้ติดไปกับศัตรูแบบเมื่อครู่นี้ ถ้าต่อไปเกิดมีมีดเล่มเดียวขึ้นมา ก็อาจจะเผลอสู้แล้วปล่อยมีดให้หลุดไปได้” รอนบอก ” เอางี้ไหมครับ เดี๋ยวผมหัดการใช้มีดให้คุณเอง”
“จริงเหรอคะ …ขอบคุณมากค่ะ”
เด็กสาวยิ้มอย่างดีใจ …. รอนพยักหน้าให้ ในบรรดาหนังสือจากห้องศิลา มีหนังสือฝึกหัดการใช้มีดสั้นอยู่ด้วย ซึ่งแม้ว่าตัวเด็กหนุ่มเองในตอนนี้จะไม่ได้ใช้มีดสั้นเป็นหลักแต่เปลี่ยนมาใช้ดาบแล้ว แต่เขาก็คิดว่าเขาเองก็ควรฝึกหัดการใช้มีดเอาไว้บ้าง … เพราะไม่มีทางรู้ได้ว่าในอนาคตจะเกิดเหตุคับขันที่ทำให้เขาจำเป็นต้องใช้มีดสั้นสู้ศัตรูหรือเปล่า
“ท่านรอนฝึกมีดให้โรล่าไปก่อนแล้วกันครับ พวกเราจัดการกับซากหมาป่าพวกนี้เสร็จแล้วจะไปตรวจดูร่องรอยบริเวณฝั่งตรงข้ามธารน้ำก่อน” ชาวบ้านคนนึงบอกกับเด็กหนุ่มสาวทั้งสองคนก่อนจะเดินไปช่วยคนอื่นๆตัดเขี้ยวและถลกหนัง รอนเช็ดมือแล้วเปิดโทรศัพท์มือถือ เขามาร์คตำแหน่งของพื้นที่ที่ต่อสู้กับหมาป่าเอาไว้ก่อน จากนั้นก็เปิดตำราฝึกหัดการใช้มีดสั้นขั้นพื้นฐานแล้วเริ่มต้นการฝึกหัดไปพร้อมๆกับโรล่า
ทั้งสองคนค่อยๆฝึกไปด้วยกันช้าๆไม่เร่งร้อนอะไรขณะที่ชาวบ้านคนอื่นๆพากันข้ามธารน้ำตื้นๆไปฝั่งตรงข้าม
สำหรับการต่อสู้กับศัตรูขนาดเล็กรอนเน้นให้โรล่าจินตนาการคู่ต่อสู้และการใช้มีดต่อสู้ในระยะใกล้ ส่วนการต่อสู้กับศัตรูขนาดกลางรอนลองเป็นคู่มือให้และให้โรล่าหัดต่อสู้ดู
ทั้งสองคนฝึกหัดกันอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมง กลุ่มชาวบ้านคนอื่นๆที่ถลกหนังหมาป่าเสร็จและตรวจสอบพื้นที่เสร็จก็เดินกลับมา
“ทางด้านนั้นมีร่องรอยของหมาป่า3ตัวครับท่ารอน”
“ดีเลย งั้นพวกเราไปกันครับ” รอนบอก”ไป ไปกันครับโรล่า”
เด็กสาวพยักหน้าให้แล้วก็เดินไปด้วยกันกับทุกๆคน
** ** ** ** **
ตกบ่าย ทั้งสิบคนเดินทางกลับมายังหมู่บ้านพร้อมกับขนหนังหมาป่าสิบกว่าผืน เป็นจำนวนที่เหมือนจะมากแต่เมื่อเทียบกับวันอื่นๆแล้วนับว่าน้อยกว่าทุกๆวันที่ผ่านมามากนัก รอนเดินกลับไปที่บ้านของเบรเซอร์ เหลือบมองโรล่าที่เดินเตียงข้างมา … หลังจากฝึกหัดวิธีการใช้มีดสั้นให้เธอก็สามารถใช้มันออกได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถต่อสู้กับหมาป่าได้อย่างรวดเร็วและไม่ได้ใช้วิธีแทงมีดทิ้งไว้แบบเดิมอีกต่อไปแล้ว
ทั้งคู่ไม่ได้เข้าบ้านทันทีหากแต่ไปล้างคราบเลือดที่ติดตัวไว้ออกก่อน … ที่ข้างบ้านมีน้ำในโอ่งดินสีดำ เป็นโอ่งดินที่ทาสีดำเอาไว้เพื่อรับแสงอาทิตย์และความร้อนจากแสงแดดจะทำให้น้ำภายในไม่กลายเป็นน้ำแข็งไปในหน้าหนาว แม้นำ้จะไม่ได้อุ่นแต่ก็ยังสามารถใช้ล้างมือได้ดีกว่าการนำเอาหิมะมาถูล้าง รอนหยิบ’สบู่’ขึ้นมาถูล้างมือก่อนจะส่งให้โรล่า เด็กสาวรับไปอย่างยินดี ตั้งแต่วันก่อนที่รอนลองเอา’สบู่หอม’นี้ออกมาให้ทดลองใช้ เธอก็รู้สึกชอบเจ้าสิ่งนี้เป็นอันมาก เพราะนอกจากจะล้างมือได้ดีกว่าสบู่ขี้เถ้าที่ชาวบ้านทำเองแล้ว ยังมีกลิ่นหอมเหมือนกับได้ใช้น้ำหอมพรมเคลือบลงไปบนมือ ทำให้ไม่เหลือกลิ่นของเลือดมอนสเตอร์ติดตัวไป
เดี๋ยวคืนนี้ เธอคงต้องแอบมาอาบน้ำและใช้สบู่นี้ทำความสะอาดตัวแบบที่ลองทำเมื่อคืนนี้อีกครั้ง
ทั้งยาสีฟัน ทั้งสบู่ ทั้งการหัดใช้มีด การใช้เครื่องมือแปลกๆ ดูเหมือนคุณรอนจะมีแต่สิ่งน่าประหลาดใจที่นำออกมาให้แก้ทุกๆคนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
“กลับมาแล้วเหรอ กินอะไรหรือยัง” แพทเดินออกมาจากห้อง
“ยังเลย แพทกินหรือยัง”
“ยัง เรารอเธอกลับมาอยู่”
โรล่าเดินไปที่ห้องครัวแล้วยกเอาซุปและข้าวโอ๊ตต้มอุ่นๆออกมาก่อนจะตักส่งให้รอนและแพท เบรเซอร์นั่งเล่นกับเด็กกำพร้าสามคนที่อาศัยด้วยกันที่เตียงด้านใน ปล่อยให้ทั้งสามคนนั่งกินอาหารกันไป
“รอน เราถามอะไรหน่อยสิ” แพทกินไปถามไป “เธอคิดว่าเกรดของเธอหลังสอบFinalพอที่จะผ่านไปชั้นม.4หรือยัง”
“เท่าที่เราดู ผ่านอยู่นะ” รอนตอบ “น่าจะผ่านสบายๆอยู่ “
“แล้วที่ว่าผ่านน่ะ ผ่านไปอยู่ห้องสายไหน แล้วพอจบม.ปลายเธอจะสอบเข้าอะไร” แพทถาม
“เรายังไม่รู้ว่าจะไปเรียนต่ออะไรหรือสอบคณะไหน …. แต่ถ้าพูดถึงคะแนนผ่านไปม.4เราน่าจะไปอยู่สายศิลป์นะ”
“รอน ….แล้วเธอชอบวิชาสายศิลป์หรือเปล่า” แพทจ้องถาม
รอนค่อยๆคิดตาม จะว่าไปวิชาของม.4ทางสายศิลป์เป็นวิชาที่เขาก็ไม่ได้ชอบเท่าไหร่ ถ้าให้เทียบกันแล้วเขาชอบวิชาทางสายวิทย์มากกว่าด้วยซ้ำไป ดังนั้นรอนจึงส่ายหน้า
“แต่จะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดหรอก เพราะยังไงคะแนนเราไม่ถึงอยู่แล้ว” รอนตอบ
“รอน … เธอคิดดีๆนะ ที่เรามาอ่านหนังสือนี่ก็เพื่อที่จะไปแข่งขันงานวิชาการ ….. ที่จะไปแข่งขันก็เพื่อว่าถ้าชนะการแข่งอันดับแรกๆสักรายการ ก็จะมีคะแนนเสริมและอาจจะเลือกสายได้แม้ว่าเกรดจะไม่ดี”
“ดังนั้นถ้าหากเธอเองตั้งใจอ่านหนังสือเพิ่มแล้วไปแข่งขันได้รางวัล เธอเองก็มีโอกาสเลือกสายเหมือนเรานะ” แพทบอกแล้วเงียบไปนิดนึงก่อนจะพูดต่อ
“เธอไม่ลองเลือกสายวิทย์ชีวะแบบเราดูหน่อยเหรอ”
รอนคิดๆดูจะว่าไปสายวิทย์ชีวะที่แพทเลือกมีเรียนวิชาที่เป็นเนื้อหาท่องจำเยอะ และมีวิชาคำนวณไม่หนักเท่า ดังนั้นถ้าเขาใช้สกิลการเรียนที่มี เวลาสอบวิชาพวกท่องจำก็น่าจะสบาย
ถ้าเป็นเวลาปกติห้องวิทย์ชีวะมีแค่ห้องเดียว การแข่งขันสูงคงเข้ายาก แต่ถ้าเขาได้รางวัลจากงานวิชาการ เขาก็มีโอกาสง่ายขึ้น
“โอเค ตกลง เราจะแข่งด้วย …”
“อืม ปีหน้าเราจะได้อยู่ห้องเดียวกัน”แพทยิ้ม
“หืม … อ่อ จริงๆ ห้องวิทย์ชีวะมีแค่ห้องเดียวนี่นะ”รอนพยักหน้า
“งั้นช่วงบ่ายเธอก็มาอ่านหนังสือกับเรา”แพทบอก”เราว่าเธอเลิกเล่นได้แล้ว หันมาสนใจเรียนก่อนดีกว่า”
หลังจากที่ทำความเข้าใจกับโลกทางฝั่งนี้ แพทก็รู้ว่าที่นี่มีลักษณะของโลกแฟนตาซี เธอเลยคิดว่าที่รอนออกไปตีมอนสเตอร์นี่เป็นส่วนหนึ่งของการ ‘เล่น’ เหมือนที่เขาเคย เล่นเกม’
แต่รอนส่ายหน้าและยิ้มให้กับทั้งแพทและโรล่าที่นั่งตรงนั้นก่อนจะหยิบเอากระดาษที่วาดแผนที่หมู่บ้านไว้ขึ้นมา
“ใครว่าที่เราออกไปสู้มอนสเตอร์คือเราเล่นกัน เรากำลังเอาจริงเลยล่ะ”