สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 - บทที่ 79.1 ถ้าเจ้าไม่ไหว เดี๋ยวข้าจัดการเอง! (1)
เหยียนหลิงจวินทำหน้านิ่งแข็งทื่อ รีบยกมือปิดตานางเอาไว้พลางดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก
ฉู่สวินหยางเองก็ไม่ทันได้รู้สึกตัว ดวงตาของนางเบิกโพลงมองกว้าง จู่ๆ ภาพตรงหน้าก็ถูกแทนที่ด้วยความมืดมิด ตอนนี้นางยังคงมึนงงไม่ได้สติเท่าไร
ใบหน้าเหยียนหลิงจวินแดงก่ำ เวลานี้เขาทำอะไรยากลำบากเหลือเกิน ทั้งยังไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับนางดี
ก่อนหน้านี้เขาทิ้งเสื้อผ้าเอาไว้ด้านข้างบ่อน้ำจนหมด ไม่เหลือแม้แต่ผ้าสักผืนให้ปิดบังร่างกาย หากฉู่สวินหยางลุกขึ้นไปอีกเขาคงมีแต่กายเปลือยเปล่าไม่เหลืออะไรบดบังแล้วเป็นแน่
แต่จะให้พวกเขาสองคนจะกอดกันอยู่ในน้ำแบบนี้ต่อไปตลอดก็ไม่ได้หรอก?
เขาลังเลอยู่นานสองนาน ฉู่สวินหยางเองก็ค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นมา ชนหน้าอกของเขาเข้าไปเต็มๆ เกยคางบนซอกคอของอีกฝ่ายแล้วหัวเราะออกมา
นางยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข ยกไหล่ขึ้นลงบนผิวน้ำ ร่างกายสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
จู่ๆ หน้าของเหยียนหลิงจวินก็ดำมืดมนราวกับก้นหม้อ จู่ๆ มือขวาที่โอบเอวของนางไว้อยู่ก็ออกแรงฉุดร่างของอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ๆ อย่างแรง
ฉู่สวินหยางร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด ถูกกระชากแรงจนแทบหายใจไม่ออก
“เจ็บนะ!” นางหยุดหัวเราะลงในทันที พลางเงยหน้าขึ้นจากซอกคอมองเขา ใบหน้าเล็กๆ นั้นขมวดคิ้วขึ้นมา ผลักไหล่เขาออกอย่างไม่สบอารมณ์
เหยียนหลิงจวินเห็นสีหน้านั้นของนาง เขาถึงได้ค่อยๆ ค้นพบความสมดุลในใจขึ้นมาทีละน้อยๆ
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาความรู้สึกที่เขาถูกหัวเราะเยาะเย้ยแบบนั้นก็ยากที่จะทำให้หายดีขึ้นอยู่ดี แววตาของเขาเบือนออกจากใบหน้าแดงระเรื่อที่ถูกไอน้ำร้อนนั้นของนาง แล้วดวงตาของเขาพลันส่องประกายขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นแววตาความเจ้าเล่ห์ออกมาทันใด
นิ้วมือของเขาที่โอบเอวนางเอาไว้อยู่ยกขึ้นเขี่ย จากนั้นก็กระตุกเข็มขัดของนางลง
ร่างกายของฉู่สวินหยางเซจนทรงตัวไม่อยู่ นางรู้สึกตกใจตามขึ้นมาทันทีเงยหน้ามองอีกฝ่าย ก็สบตาเข้ากับแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเจ้าเล่ห์นึกสนุก
นิ้วมือของเหยียนหลิงจวินเพียงแค่ขยับหนึ่งที เข็มขัดของนางก็หลุดออก เขาสะบัดออกไปไกลจนมันตกลงไปที่กลางบ่อน้ำพุร้อน
ทั้งสองคนแช่อยู่ในบ่อน้ำนานครึ่งค่อนวัน ทำให้เสื้อผ้าอาภรณ์ของฉู่สวินหยางเองก็เปียกชุ่มไปจนหมด
ฤดูร้อนแบบนี้เดิมทีก็สวมใส่เสื้อผ้าไม่เยอะอยู่แล้ว เสื้อบางๆ สองชั้นแนบเนื้อ จนเผยให้เห็นทรวดทรงองเอวอรชรของนางขึ้นมาชัดเจน
ถึงแม้เข็มขัดจะหลุดไป เสื้อผ้าก็ยังคงแนบเนื้อนางอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ปิดบังอะไรเอาไว้ไม่ได้เลยสักนิด
ก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนยังคุยธุระเรื่องจริงจังกันมาตลอด ไม่มีเวลามาสนใจ แต่ทว่าตอนนี้เขากลับถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปราวกับตกอยู่ในภวังค์ที่ไม่อาจควบคุมความรู้สึกได้
สายตาของเหยียนหลิงจวินกำลังจับจ้องไปที่หน้าอกของนาง
ฉู่สวินหยางขมวดคิ้วตามขึ้นมา นางเป็นคนเข้มแข็งไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาแต่ไหนแต่ไร แต่ตอนนี้การตอบสนองของนางกลับเป็น…
การยั่วยุท้าทาย นางยืดอกผายไหล่ผึ่ง แล้วจ้องมองเหยียนหลิงจวินอย่างโหดเหี้ยม
เดิมทีเหยียนหลิงจวินเองก็คิดมโนไปไกล แต่เมื่อถูกนางทำท่าทางแบบนั้นใส่ เขาก็ยิ่งเก็บอาการไว้ไม่อยู่ จึงซุกหน้าลงไปบนหน้าอกของอีกฝ่ายแล้วหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย…
เจ้าเด็กคนนี้นอกจากจะแตกต่างกับคนอื่นแล้ว ยังมีอะไรใหม่ๆ มาทำให้น่าสนใจเรื่อยๆ มีแผนการเยอะจริงๆ
ฉู่สวินหยางถูกเขาชนเข้าใส่แบบนั้น ก็รู้สึกราวกับว่าถูกแท่งเหล็กร้อนนาบลงบนเนื้อแบบนั้น จู่ๆ หน้าก็แดงร้อนผ่าวขึ้นมาทันควัน
นางผลักเขาออก สีหน้าโกรธโมโหเต็มประดา
ริมฝีปากของเหยียนหลิงจวินเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ปิดอย่างไรก็ปิดไม่มิด เขายังคิดตั้งใจแกล้งนางเล่นต่อ แววตาสอดส่องไปทั่วรางกายของนาง ทั้งยังพูดล้อเลียนอีกว่า “ก็เจ้ายื่นมันมาให้ข้าเอง ข้าคิดว่าเจ้าจะให้ข้าแนบเข้าไปนี่นา!”
ฉู่สวินหยางรู้แต่แรกอยู่แล้ว ว่าหากต่อล้อต่อเถียงกับเขาแบบนี้ไม่มีทางเอาชนะอีกฝ่ายได้ จึงถลึงตามองเขาเขม็ง หลังจากนั้นสักพักก็เหมือนกับนึกอะไรออก หันหน้าหนีแล้วลุกขึ้นยืน “เจ้าแช่ต่อเถิด ข้าจะไปแล้ว ถ้าหากท่านอาจารย์มาพบเข้าไม่แน่ข้าอาจจะโดนทำโทษอะไรไม่รู้อีกก็ได้”
เหยียนหลิงจวินย่อมรู้ดีว่าในใจของนางนั้นคิดอะไรชั่วร้ายไว้อยู่ จึงขยับแขนแล้วคว้าตัวนางกลับเข้ามา
ฉู่สวินหยางนั่งลงบนขาของอีกฝ่าย
นิ้วมือลูบไล้ไปมาบนซอกคอของนางอย่างซุกซน เฉียดริมฝีปากนางไปจูบลงบนคอของอีกฝ่าย แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยั่วยวนนึกสนุกเบาๆ ว่า “ในเมื่อมีโอกาสอันดีงามแบบนี้แล้ว ไม่งั้น…วันนี้เรารีบจัดการเรื่องที่มันควรทำนั่นด้วยกันดีไหม?”
ลมหายใจของเขาร้อนผ่าวไหลรินอยู่หลังหูของนาง ใบหน้าของฉู่สวินหยางแดงก่ำร้อนระอุ นางยังไม่ทันได้รู้สึกตัว ก็รู้สึกว่ามือของเขาที่เคยลูบไล้อยู่บนคอค่อยๆ เคลื่อนย้ายต่ำลงเรื่อยๆ ล้วงเข้าไปในคอเสื้อตัวนอกของนาง แล้วค่อยๆ ลูบลงไปอย่างซุกซน ลูบผ่านหน้าอกจากนั้นสุดท้ายทั้งเขี่ยทั้งกระตุก จนทำให้ปมของที่มัดเสื้อตัวในของนางหลุดออกไปหนึ่งปม
ฉู่สวินหยางตัวเกร็งแข็งทื่อ เมื่อรู้สึกตัวได้ก็อยากจะตีมือเขา
แต่ทว่าเหยียนหลิงจวินกลับเตรียมตัวไว้แต่แรกแล้ว มือที่โอบเอวนางเอาไว้อยู่นั้นยกมือจับข้อมือของนางไว้แน่น
ในขณะเดียวกันก็ใช้ริมฝีปากของเขาประกบปากของอีกฝ่ายเข้าไว้
ฉู่สวินหยางเองก็ยากที่แยกสติไปจัดการทั้งสองเรื่อง จึงสะบัดมือไม้ขึ้นอย่างทำอะไรไม่ถูก
เขาประกบริมฝีปากของนางไว้อยู่ ค่อยๆ ลิ้มรส และยังตั้งใจขบฟันลงไปเบาๆ หมายจะเบี่ยงเบนสมาธิของนาง
ริมฝีปากของนางถูกเขาขบฟันใส่จนรู้สึกเจ็บชาเล็กน้อย ทำให้หัวของฉู่สวินหยางเองค่อยๆ รู้สึกชาขึ้นตามไปด้วย
มันกลับไม่ใช่รู้สึกตื่นเต้นหวาดกลัวหรือไม่ยินยอม แต่แค่ตอนนั้นความรู้สึกของนางเชื่องช้าลงก็เท่านั้น…
สุขภาพร่างกายของเหยียนหลิงจวินเป็นอย่างไร ผู้เฒ่าเหยียนหลิงพวกนั้นไม่มีใครกล้าบอกนางสักคน นางเองก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรกันแน่
คิดฟุ้งซ่านซี้ซั้วไปแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าความคิดของนางกระเจิดกระเจิงไปไกลหมดแล้ว
ซึ่งเหยียนหลิงจวินเองก็สัมผัสได้ เขาเองก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก แต่ตอนนี้เขาเองก็มีความคิดที่อยากจะทำอย่างอื่นอยู่ จึงไม่ได้คิดขัดขวางนาง
ในระหว่างที่เบี่ยงเบนสติของนางไปพลางตอนนั้น มือของเขาก็เริ่มเคลื่นไปมาอย่างเป็นระเบียบทีละขั้นตอน ปลดเชือกที่ผูกเสื้อของนางออก ถอดแขนเสื้อออก แล้วปลดเสื้อตัวนอกของนางออกมา
เสื้อผ้าหลุดออก จนเกี่ยวเอาดอกไม้ในน้ำไปจนแผ่สยาย
ความคิดของฉู่สวินหยางเองก็พลันถูกขัดจังหวะขึ้นมาทันที สติถูกดึงกลับมาฉับพลัน
เดิมทีนางก็สวมเสื้อผ้าเพียงแค่สองชั้น เมื่อเสื้อตัวนอกถูกถอดออก ก็เหลือเพียงเสื้อตัวในสีขาวบางๆ อยู่ตัวเดียวเท่านั้นและยังเปียกไปด้วยน้ำพุร้อนจนชุ่มฉ่ำ ทำให้เสื้อชั้นสีเหลืองอ่อนที่ปักลายดอกโบตั๋นนั้นที่ซับน้ำเผยให้เห็นชัดเจน
เมื่อนางรู้สึกตัวก็รีบยกมือขึ้นกอดบังหน้าอกของตนเอาไว้ ทำหน้าป้องกันตัวขึงขัง
เหยียนหลิงจวินเห็นดังนั้นก็หัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
เขาโน้มตัวเข้าหา ชนจมูกเข้ากับจมูกของนางเข้า แต่ก็ยังพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยั่วยวนเบาๆ ว่า “ทำไม? อารมณ์ไม่ดีงั้นเหรอ?”
ถึงแม้ในใจของนางจะไม่ได้รู้สึกอารมณ์ไม่ดี แต่คำถามนี้ของเขา ฉู่สวินหยางเองก็ไม่สามารถให้คำตอบได้
ฉู่สวินหยางจึงเพียงขมวดคิ้วไม่เอ่ยเสียงใดออกมา
เหยียนหลิงจวินรออยู่สักพักเห็นนางไม่ตอบอะไร เขาก็ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้พลางถอนหายใจอย่างสิ้นหวังเสียใจแล้วพูดว่า “งั้นก็ช่างมันเถอะ!”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นมือทั้งสองก็โอบเอวของนางเข้าไว้แน่น พลางอุ้มดึงตัวฉู่สวินหยางลงมา
เสื้อตัวนอกของฉู่สวินหยางตอนนี้แผ่สยายอยู่บนผิวน้ำ ทำให้บดบังแสงที่สาดส่องลงมาใต้น้ำเอาไว้
แววตาของฉู่สวินหยางกวาดตามองรอยยิ้มอันน่าเจ้าเล่ห์ของเขา จากนั้นก็เหมือนกับรู้อะไรขึ้นได้มาทันที…
คนคนนี้คิดอยากจะใช้ผ้าผืนนั้นปกปิดความเขินอาย แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากขอนางตรงๆ พูดอ้อมค้อมหยอกล้อนางไปมาอยู่ครึ่งค่อนวัน เพียงเพราะ…
ต้องการจะแย่งเสื้อตัวเดียวของนางเนี่ยนะ?
เมื่อคิดวิเคราะห์จนเข้าใจถี่ถ้วนหมดแล้ว ฉู่สวินหยางก็รู็สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
แต่เหยียนหลิงจวินยังคงทำทตัวสนุกสนานไม่รู้ร้อน ไม่มีความรู้สึกผิดเลยแม้แต่นิด
เมื่อรู้ว่าตนถูกเขาหลอกฉู่สวินหยางก็โมโหขึ้นมาทันใด
ทว่าเหยียนหลิงจวินก็ไม่คิดจะไม่สนใจนางเลย เขาเพียงแต่ดึงเสื้อตัวนอกนั้นขึ้นมาคลุมร่างกายของตนเอาไว้
ฉู่สวินหยางเอียงคอมองใบหน้ายิ้มแย้มไม่รู้สึกรู้สานั่นของเขา ก็กระตุกหัวเราะมุมปากขึ้นมา ลงมือจัดการอย่างว่องไว แย่งชิงเสื้อในมือของเขาแล้วโยนออกไปจนเสื้อตกกระทบน้ำจนน้ำกระเด็นอีกครั้ง
เหยียนหลิงจวินคาดไม่ถึง มือของเขาว่างเปล่า ในขณะที่กำลึงอึ้งตกตะลึงอยู่นั้น ฉู่สวินหยางก็บุกเข้าประชิดตัว กดตัวเขาลงบนริมขอบบ่อน้ำเอาไว้
ถึงแม้ก้อนหินในบ่อน้ำจะถูกฝนจนมนเรียบไปหมดแล้ว แต่จู่ๆ ชนเข้าไปแบบนั้นก็รู้สึกเจ็บอยู่เหมือนกัน
เหยียนหลิงจวินส่งเสียงร้องขึ้น อดใจที่รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาไม่ได้ทันใด
เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับสบตาเข้ากับแววตาเจ้าเล่ห์ส่องประกายของหญิงสาว
“ไม่ได้บอกว่าจะมาทำเรื่องนั้นด้วยกันหรือไง? จะใส่เสื้อผ้าทำไมอีกเล่า?” ฉู่สวินหยางเลิกคิ้ว เมื่อนางพูดจบก็ประชิดตัวเข้าไปประกบปากของเข้าเอาไว้ โดยไม่รอให้เหยียนหลิงจวินแสดงท่าทีตอบกลับเลยสักนิด
เหยียนหลิงจวินเกือบจะหายใจไม่ทัน เขาอยากจะผลักนางออก แต่กลับถูกอีกฝ่ายกดลงอย่างไม่อาจต่อต้านได้
ที่ฉู่สวินหยางทำแบบนี้ก็คิดอยากจะเอาคืนเขาเหมือนที่เขากับนางสินะ ทั้งขบทั้งกัดเขาโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแบบนี้น่ะ
ไม่ต้องพูดถึงฝีไม้ลายมือพวกนั้นมันไม่ถึงขั้นเอาซะเลย แต่ความร้อนแรงที่นางปลดปล่อยออกมานั้นมันช่างทำให้ยากที่จะต่อกรด้วยเหลือเกิน
ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายเป็นหญิงในดวงใจของตัวเองเข้าแล้วใหญ่
ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่านางมุ่งร้ายหวังคิดจะแก้แค้น สุดท้ายเหยียนหลิงจวินก็ยังคงยากที่จะชั่งใจไหว เขาเพียงแต่หยุดช้าลงไปชั่วครู่ จากนั้นก็ยกมือโอบกอดนางเอาไว้ เขาคลายฟันที่กัดแน่นออก แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามา
—————————-