สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก - บทที่ 10 แน่นอนว่าสามีภรรยาต้องนอนห้องเดียวกัน
ในสมองณัฐณิชานั้นหยุดจินตนาการถึงอาจารย์ผู้มีพระคุณของธราเทพไม่ได้สักนาที
ผู้ที่สามารถเป็นคุณครูของคุณชายผู้ยิ่งใหญ่เช่นธราเทพได้จะต้องยอดเยี่ยมมากแน่นอน
เมื่อคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ของตนเองอาจจะเป็นคนที่มีคุณธรรมจากภายใน ด้านหนึ่งณัฐณิชาก็ภาคภูมิใจ อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมา และยิ่งมีความสงสัยเกี่ยวกับเหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่ทอดทิ้งเธอมากยิ่งขึ้น
ในตอนแรกทำไมถึงไม่ต้องการเธอเสียแล้วล่ะ
คืนวันเดียวกันนั้น ณัฐณิชาก็ไม่ต้องพักที่โฮสเทลอีก แต่กลับไปยังที่พักส่วนตัวของธราเทพในฐานะภรรยาเขา เป็นบ้านสีขาวสองชั้นหลังเล็กหลังหนึ่ง
หลังจากณัฐณิชามองไปรอบๆอย่างตื่นเต้นแล้ว ก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องอาบน้ำที่มีขนาดใหญ่ พลางหันไปถามธราเทพด้วยความตื่นเต้นว่า “ฉันสามารถใช้ห้องอาบน้ำห้องนี้ได้ไหม”
ธราเทพพยักหน้า “ได้ แต่ใช้เสร็จแล้วจำเป็นต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย”
“ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นฉันไปอาบน้ำนะ!”
ณัฐณิชาดีอกดีใจราวกับปลากระดี่ได้น้ำตัวหนึ่ง หยิบเครื่องอาบน้ำของตัวเองอย่างตื่นเต้นแล้ววิ่งเข้าห้องอาบน้ำไป เมื่อล็อกประตูแล้วก็พิจารณาวิธีการใช้อ่างน้ำวนอยู่ครู่หนึ่ง และเริ่มต้นแช่น้ำด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่ณัฐณิชารู้สึกจากภายในจิตใจว่า แต่งงานกับธราเทพก็เป็นเรื่องไม่เลวเรื่องหนึ่ง
ตอนที่เธอยังเด็กพักอาศัยอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรม แต่ละวันขาดน้ำตัดไฟ การอาบน้ำเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือยเรื่องหนึ่ง
ในตอนนั้น เธอเห็นหญิงสาวที่สง่างามเหล่านั้น แช่น้ำอยู่ในอ่างน้ำวนขนาดใหญ่อย่างสุขสบายในโทรทัศน์ ไม่ต้องพูดเลยว่าจะอิจฉามากเพียงใด
ดังนั้น ความฝันตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็กก็คือ มีบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง หลังจากนั้นก็แช่น้ำในอ่างที่อยู่ในบ้านหลังใหญ่
วันนี้ก็นับได้ว่าความฝันกลายเป็นจริงแล้ว
เพราะรู้สึกสบายมากเกินไป ณัฐณิชาแช่ไปแช่มาก็เผลอหลับไป และรับรู้ได้อย่างเลือนรางว่ามีคนตบเบาๆที่ใบหน้าเธอ จึงลืมตาขึ้นมา ก็เห็นใบหน้าเคร่งขรึมของธราเทพปรากฏขึ้นตรงหน้า
เขากำลังมองเธออย่างหงุดหงิด “นึกว่าคุณจะหลับจนตายไปแล้ว”
ณัฐณิชากรีดร้องออกมา ผุดลุกขึ้นยืนในอ่างน้ำ
แต่เธอลืมไปว่า ในตอนนี้การหลบซ่อนอยู่ในน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสีขาว เป็นวิธีเดียวที่จะไม่ถูกมองเห็นจนหมด…
ธราเทพมองร่างกายที่เปียกชุ่มของเธอ แสดงความเห็นอย่างจริงจังว่า “รูปร่างพอไปวัดไปวาได้ เพียงแค่หน้าอกเล็กไปหน่อย”
ณัฐณิชาปิดบังบริเวณทรวงอกแล้วย่อตัวลงในอ่างน้ำทันที กวักน้ำขึ้นมาแล้วสาดไปทางธราเทพ “ออกไปนะ! ออกไป! ออกไปเลย!”
ธราเทพปาดหยดน้ำบนใบหน้า จู่ๆก็มีอารมณ์ยั่วเย้าเธอขึ้น จึงเอ่ยเรียบๆว่า “ร่างกายของคุณมีส่วนไหนที่ผมไม่เคยเห็น ลืมเรื่องเมื่อคืนวานไปแล้วหรือ”
ณัฐณิชาปิดหูไม่รับฟัง คับแค้นใจเสียจนใกล้จะเป็นบ้า
หลังธราเทพจากไป ณัฐณิชาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะอาบน้ำแล้ว เธอรีบเช็ดทำความสะอาดร่างกายและห่อตัวด้วยชุดคลุมอาบน้ำ
ขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้องอาบน้ำ ก็นึกถึงประโยค “ก็แค่หน้าอกเล็กไปหน่อย” ของธราเทพขึ้นมา จึงอดไม่ได้ที่จะก้มมองหน้าอกของตัวเองครู่หนึ่งแล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “เล็กที่ไหนกัน…เห็นได้ชัดว่าเป็นคุณที่สายตาแย่”
ณัฐณิชาเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เมื่อไม่เห็นธราเทพที่ชั้นหนึ่ง ก็เดินขึ้นไปที่ชั้นบน “เฮ้ วันนี้ฉันนอนที่ไหน?”
ธราเทพเดินออกมาจากในห้องนอนห้องหนึ่ง อีกทั้งดูแล้วเขาก็อาบน้ำเรียบร้อยอย่างรวดเร็วแล้วด้วย เขาสวมชุดคลุมอาบน้ำ กำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมอยู่
“นอนที่นี่” เขายืนอยู่ที่หน้าประตู เปิดทางให้ณัฐณิชาเข้ามา
ณัฐณิชาเดินเข้าไปในห้องนอน ขณะที่กำลังจะปิดประตู ธราเทพกลับเดินตามเข้ามาด้วย
“ทำไมคุณถึงยังไม่ไปล่ะ?”
“นี่คือห้องนอนของผม ทำไมผมต้องไปด้วยล่ะ?”
ณัฐณิชามองธราเทพด้วยความหวาดกลัว “อะไรนะ?”
“พวกเราแต่งงานกันแล้ว ผมไม่ได้วางแผนว่าจะนอนแยกห้องกัน”