สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก - บทที่ 132 ไม่ใช่สมัยโบราณเสียหน่อย
ตอนกลางคืน ณัฐณิชาเพราะว่าได้รับความตกใจ เลยกลับห้องไปตั้งนานแล้ว
เธอคิดแล้วคิดอีก ไม่ว่ายังไงก็รู้สึกว่าเมื่อก่อนตัวเองตาบอดมาก เฮ้อ เธอดูสายตาย่ำแย่ขนาดนั้นเลยหรอ? ถึงได้ตกหลุมรักรเณศผู้ชายสารเลวคนนั้น
แล้วก็เอื้อมมือไปกอดหมอนที่อยู่ข้างๆ ณัฐณิชาหยิกลงไปสองทีอย่างเคียดแค้น จู่ๆก็นึกถึงธราเทพขึ้นมา
ต่อให้ต้องตกหลุมรัก ก็ควรตกหลุมรักธราเทพผู้ชายแบบนี้สิ? จนกระทั่งณัฐณิชาตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไร ก็รีบเอาหมอนในอ้อมแขนตัวเองโยนออกไป ไม่ไม่ไม่ นี่เธอกำลังกอดหมอนของธราเทพทำไมเนี่ย? อนาจารหรือไง?
ถูกช่วยเอาไว้ครั้งหนึ่งก็จะมอบหัวใจให้แล้วได้ยังไง นี่ไม่ใช่สมัยโบราณเสียหน่อย!
อีกอย่าง ต่อให้เธออยากจะมอบหัวใจให้ ธราเทพผู้ชายเย่อหยิ่งทะนงตัวแบบนั้น ไม่มีทางชอบตัวเองแน่นอนอยู่แล้ว ณัฐณิชาสูดจมูก เตือนตัวเองให้เลิกบ้าผู้ชายได้แล้ว
เพิ่งจะสงบลงได้ไม่กี่นาที ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดัง“แกร๊ก” ณัฐณิชานั่งอยู่บนเตียงยังคิดไม่ออกเลยว่าจะทักทายเขาด้วยท่าทางอะไรดี รีบดึงผ้าห่มมาปิดขาและเท้าของตัวเอง
“อันนี้ แม่บุญสิตาเอาให้คุณ”
“……คะ?” ณัฐณิชามองดูถุงใบนั้นที่ถูกโยนลงบนเตียง ที่บรรจุอยู่ข้างในแทบจะเป็นยารักษาแผลฟกช้ำทั้งหมด แม่บุญสิตารู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บแล้วหรอ?
ณัฐณิชายังไม่ทันจะถาม ธราเทพก็ถอดเน็คไทออกเอง แล้วหมุนตัวเข้าห้องอาบน้ำไปแล้ว
สักพักก็มีเสียงน้ำไหลซ่าๆดังออกมาจากห้องอาบน้ำ
ณัฐณิชาคุกเข่าคลานไปหยิบยามา มุมปากปรากฏรอยยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นแม่บุญสิตาหรือ ธราเทพเตรียมให้ ความรู้สึกที่ถูกคนห่วงใยแบบนี้อบอุ่นดีจัง
รอจนธราเทพออกมา ณัฐณิชายังคงรักษาท่าทางไว้ดังเดิม เขาขมวดคิ้ว สายตาตกไปอยู่ที่ยาเหล่านั้น “คุณไม่ใช้?”
“อันนี้……ที่จริงบนร่างกายของฉันเป็นแผลเล็กๆทั้งนั้น ไม่ต้องทายาหรอก”
เมื่อก่อนณัฐณิชาก็มักจะได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องสำคัญอะไร
แต่กลับเป็นธราเทพ เขาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ บนตัวสวมชุดอยู่บ้านสีเทาอ่อนชุดหนึ่ง เวลานี้ความดุดันบนตัวลดลงไปไม่น้อย ตรงกันข้ามกลับมีความรู้สึกอ่อนโยน…ของผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ถ้าไม่ใช่เพราะดวงตาคู่นั้น คงจะเลี่ยนตายไปแล้ว
“แผลเล็กๆ?” ธราเทพเดินเข้าไปนั่งลงข้างเตียง จากการกระทำของเขาเตียงนุ่มๆก็ยุบลงทันที “ณัฐณิชา คนของผม บนตัวแม้แต่แผลเล็กๆก็ห้ามมี เข้าใจนะ?”
พูดจบเห็นณัฐณิชากระพริบดวงตากลมโตกำลังจ้องมองตัวเองอย่างบ้องแบ๊ว ธราเทพใช้ความแขนยาวของตัวเอง ดึงเธอเข้ามาเลย บางทีอาจเป็นเพราะท่าที่สะดวก วินาทีต่อมาณัฐณิชาก็ตกลงไปในอ้อมแขนของธราเทพแล้ว
แต่เขายังไม่ทันรู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่เหมาะสม จับณัฐณิชากดไว้ “อย่าขยับ”
พูดจบก็ก้มหน้าบิดฝายาออก ทาลงบนมือ แล้วค่อยๆเอื้อมไปบนคอของณัฐณิชาอย่างนุ่มนวล…
“ฉัน ฉันทำเองได้!”
ณัฐณิชาตะลึงค้าง เธอเคยสนิทสนมกับผู้ชายคนหนึ่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้ยังหล่อมากขนาดนี้อีกด้วย
เธอยืดคอทันทีอยากจะหนีออกไปจากอ้อมแขนของธราเทพ กลับถูกธราเทพดึงกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำเสียงกลับออกคำสั่งเข้มขึ้นเล็กน้อย “ผมบอกคุณว่าอย่าขยับ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง?”
ธราเทพเดิมทีไม่ใช่คนพูดไร้สาระ เรื่องที่เขาตัดสินใจไปแล้วน้อยมากที่จะเปลี่ยนแปลงเพราะคนอื่น ในเมื่อณัฐณิชาไม่ยอมทายาเอง ตอนนี้เขาว่างไม่มีอะไรพอดี เลยไม่ถือสาที่จะทำแทนให้
วิธีทาของธราเทพอ่อนโยน กระทำอย่างแผ่วเบา ณัฐณิชาจู่ๆก็ไม่กล้าพูดอะไร เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ
รู้สึกถึงมือคู่นั้นที่กำลังขยับอยู่บนคอของตัวเอง ใบหูก็ค่อยๆแดงขึ้นมา……