สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก - บทที่ 31 แปลกประหลาดมาก
“มันอยู่ที่นี่แล้ว ข้อมือของฉันเจ็บ ช่วยคุณไม่ได้ คุณทำเองแล้วกัน” นภสรณ์เปิดประตูห้องเย็นแล้วชี้นิ้วสั่ง
ส่วนผสมวัตถุดิบล้ำค่าวางเรียนซ้อนกันในตู้เย็นอย่างเป็นระเบียบ ในตำแหน่งใกล้กับปากประตู กล่องสีขาวขนาดใหญ่วางซ้อนกันสองสามกล่อง คงจะเป็นอาหารทะเลและเนื้อวัวที่คุณปู่จะให้เธอกับธราเทพ
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็ชี้ไปยังกล่องสีขาวสองสามกล่องตรงประตู “คุณไปหยิบเอาเองแล้วกัน คุณปู่รู้ว่าคุณไม่เคยทานอะไรพวกนั้นเลย เพราะงั้นต่อให้คุณจัดการมันทั้งหมด คุณปู่ก็จะไม่ว่าคุณ พวกเราก็จะไม่หัวเราะเยาะคุณหรอกนะ”
ณัฐณิชารู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวๆ ท่าทางหยิ่งผยองของนภสรณ์ และการเสียดสีเยาะหยันพวกนี้ มันเหมือนกับการตบหน้าเธอโดยไร้เสียง
คุณปู่ปรารถนาดี แต่ในสายตาคนอื่น เกรงว่าเธอจะเป็นแค่คนบ้านนอก ไม่ว่าอะไรก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยกิน
แม้ณัฐณิชาเป็นคนใจกว้าง แต่เธอก็มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นกัน เมื่อเผชิญต่อการเสียดสีของนภสรณ์ จึงรู้สึกไม่ดีอย่างมาก
แต่ถ้ากลับไปแบบนี้ คุณปู่จะไม่ชอบใจ
เช่นนั้นจึงหยิบเอาวัตถุดิบบางอย่างขึ้นมา สำหรับใช้เหน็บแนมนภสรณ์ ณัฐณิชายิ้มให้เธอและพูดบางเบาว่า “ที่คุณพูดน่ะไม่ผิด มันจริงที่ฉันไม่เคยได้ทานของดีๆ เลย แต่ถ้าสามารถได้ทานพวกของดีๆ แล้ว ก็รู้สึกว่าตัวเองมีทุนไปหัวเราะเยาะคนอื่น แบบนั้นควรได้ชื่อว่าเป็นคนที่ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรงว่าไหม”
“คุณ…คุณด่าใครน่ะ!”
“ด่าคุณ” ณัฐณิชาสีหน้าเย็นชา ไม่เย่อหยิ่งไม่ถ่อมตัว เวลานี้ จู่ๆ นภสรณ์ก็เกิดภาพหลอนแปลกๆ เหมือนเธอเป็นสาวใช้ที่กำลังถูกสั่งสอน ส่วนณัฐณิชาเป็นคุณหนูผู้สูงส่ง?!
เธอโกรธจนกัดฟัน สีหน้าขุ่นเคืองโดนทันที แล้วทันใดนั้นก็ผลักณัฐณิชาเข้าไปในห้องเย็น
ณัฐณิชาก้าวเซถลา เพิ่งหันกลับไป ประตูก็ปิดลงตามหลังแล้ว
“นภสรณ์!!”
ณัฐณิชาหันไปตบประตู แต่ประตูห้องเย็นมีอุณหภูมิต่ำเกินไป หลังจากตบไปสองครั้งก็รู้สึกว่านิ้วมือเกร็งชา ส่วนนภสรณ์หัวเราะเยาะอยู่หลังประตู “ฉันอยากจะดูซิว่าตอนที่คุณกลายเป็นน้ำแข็ง ยังจะสามารถปากดีได้อยู่อีกไหม!”
“ถ้าเธอฆ่าฉัน คุณปู่จะไม่ยกโทษให้คุณ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันคงไม่โง่พอจะไปยอมรับว่าฉันเป็นคนทำหรอก”
จากนั้นเสียงฝีเท้าของนภสรณ์ก็ค่อยๆ ห่างออกไป ณัฐณิชากัดฟันอย่างโกรธจัด แต่ก็ไม่มีทางออก
เธอคลำเอาโทรศัพท์มือถือออกมา ต้องการโทรหาเทพ แต่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือกลับไม่ปรากฏสัญญาณเลย…
ณัฐณิชาตัวสั่น ควรทำยังไงดี
เมื่อครู่ระหว่างทางที่มาเธอก็พบว่า ฝั่งนี้ปกติแล้วน่าจะไม่มีใคร เช่นนั้นต่อให้เธอโก่งคอตะโกนก็จะไม่มีใครมาดูมาแลเธอ
ถ้านภสรณ์บอกกับคุณปู่กับลุงหัสดินว่าเธอเลือกวัตถุดิบอย่างดีแล้วออกไป เช่นนั้นก็จะไม่มีใครพบว่าเธออยู่ในห้องเย็น
บางทีอาจรอจนถึงตอนที่เชฟจะทำอาหารแล้วมาเลือกส่วนผสมวัตถุดิบ แต่ยังอีกหลายชั่วโมงก่อนอาหารเย็น และณัฐณิชารับประกันไม่ได้ว่าจะมีคนมา
เธอได้แต่ภาวนาว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่ก่อนที่จะถูกคนค้นเจอ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เธอจึงนอนขดตัวกอดเข่าตัวเองเอาไว้
เธอใส่ชุดกระโปรงเนื้อบาง ตอนนี้รู้สึกหัวเสียเป็นที่สุด ถ้าใส่กางเกงมาคงจะดีกว่า…
ณัฐณิชานึกถึงนภสรณ์อีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้กล้าเกินไปแล้ว และก็โง่มากจริงๆ คิดจริงเหรอว่าจะหลีกหนีความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไปได้
ยิ่งนานยิ่งหนาว ความโกรธที่มีต่อนภสรณ์ ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความหนาวเย็นไปเสียแล้ว
ณัฐณิชารู้สึกง่วงเล็กน้อย เธอรู้ว่าตัวเองหลับไม่ได้ แต่ร่างกายเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ เปลือกตาเริ่มหนักขึ้นและหนักขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในมุม ไม่มีแรงที่จะลืมตาอีกต่อไป