สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก - บทที่ 58 อดีต
เข้าไปในวิลล่า ธราเทพเข้าไปก่อน ณัฐณิชาลังเลอยู่ที่หน้าประตู
ที่นี่ ท้ายที่สุดแล้วอย่างไรมันก็ไม่ใช่บ้านของเธอ
“ณัฐณิชา คุณจะให้ผมอุ้มคุณเข้ามาเหรอ” ธราเทพเปิดปากพูด มองเธอด้วยสายตาลึกล้ำ
เขารู้สึกได้ว่าวันนี้ทั้งวันณัฐณิชาไม่อยู่ในสภาพที่ดี เหมือนคนที่สูญเสียบางอย่าง แค่เพราะตนดุเธอน่ะเหรอ……
เห็นธราเทพกำลังเดินเข้ามาหาตัวเอง ณัฐณิชาจึงรีบเดินเข้าไป
แต่เธอกลับเดินผ่านธราเทพไป แม้แต่อาหารก็ไม่ทาน ตรงเข้าห้องนอนเลย
ณัฐณิชาทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม ในจิตใจเหมือนถูกอะไรรบกวน ค่อนข้างไม่สบายใจ วันนี้เธอไม่ได้ทานอาหารกลางวัน เพราะไม่มีความอยากอาหาร มาถึงตอนนี้ท้องจึงเริ่มร้องหิวแล้ว
แต่ทันทีที่หลับตาในสมองก็มีธราเทพพูดกับตัวเองอย่างดุเดือดว่า “ถอดออก!”
เธอก็แค่ใส่ชุดนั้นเฉยๆ เองไม่ใช่หรือไง
หรือเพราะตนยากจน ดังนั้นจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะสวมใส่เสื้อผ้าราคาแพงอย่างนั้น?
ณัฐณิชานึกถึงตอนที่ตัวเองถูกลุงตำรวจจับไป เมื่อแจ้งชื่อไป ลุงตำรวจมองตนอย่างรังเกียจที่เคยได้เข้าสถานกักกันเยาวชน หัวใจเธอเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง ค่อนข้างอึดอัดไม่สบาย
อดีตพวกนั้น เหมือนรอยลึกฝังอยู่บนร่างกายเธอ……
กระทั่งผ่านไปนานณัฐณิชา รู้สึกหิวมาก หลังจากการต่อสู้ทางทิฐิ ถึงได้แอบลุกไปห้องครัวเพื่อหาอะไรทาน
ทว่า เธอเพิ่งออกไป ก็เห็นแสงไฟในห้องหนังสือ ต้องขอโทษที่ตาลายแปลไม่หมดค่ะ
“นายน้อย ทำไมคุณไม่บอกนายหญิงน้อยล่ะ” เสียงของแม่บุญสิตาดังรอดผ่านช่องประตู ณัฐณิชาขมวดคิ้ว คิดจะเดินผ่านไป ก็ได้ยินแม่บุญสิตาพูดต่อว่า “เรื่องที่เกิดกับนายหญิงใหญ่ในตอนนั้น……กระทบต่อคุณมาก คุณเก็บชุดนั้นไว้อย่างเป็นของสำคัญและสมบัติล้ำค่ามาโดยตลอด วิญญาณนายหญิงใหญ่รู้เข้าก็คงรู้สึกมีความสุข แต่นายน้อย เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไป เหตุใดต้องยึดติดอดีตล่ะ นายหญิงน้อยก็แค่ผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ……”
หืม?
หรือว่า ชุดนั้นเป็นของแม่ของธราเทพ
ณัฐณิชาใจกระตุก ทันใดนั้นก็ค่อนข้างรู้สึกผิด
ได้ยินธราเทพเหมือนจะหัวเราะกับตัวเอง ในน้ำเสียงดูอ้างว้างอยู่พอประมาณ “แม่บุญสิตา ผมเหนื่อยแล้ว คุณไปทำงานเถอะ”
“เฮ้อ……”
แม่บุญสิตาถอนหายใจ หันหลังเดินมาที่ประตู ณัฐณิชาหลบไม่ทัน จึงเผชิญหน้ากับแม่บุญสิตา
แม่บุญสิตาชะงักไปเล็กน้อย ณัฐณิชารีบยกมือพนมไหว้ขอร้องแม่บุญสิตา แม่บุญสิตาจึงถอนหายใจแล้วปิดประตู
ณัฐณิชาคิดไม่ถึงว่าธราเทพจะมีความรู้สึกต่อแม่ผู้ล่วงลับของตัวเองขนาดนี้
เธอนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ฟังแม่บุญสิตาเล่าเรื่องธราเทพตอนยังเด็ก แม่บุญสิตาเล่าไปด้วยน้ำตาคลอ จับมือของณัฐณิชาพร้อมกับพูดว่า “นายหญิงน้อย นายน้อยเมื่อยังเด็กได้ผ่านความทุกข์ทรมานมามาก คุณอย่าเก็บมาใส่ใจแล้วให้อภัยเถอะนะ ผู้หญิงคนนั้นที่ใส่ร้ายคุณเมื่อตอนบ่ายที่ชื่อปณิดา ถูกประธานไล่ออกไปแล้ว”
ถูกไล่ออก?
ณัฐณิชาเพิ่งรู้ว่าเรื่องเมื่อตอนบ่ายที่แท้แล้วเป็นแผนการสมรู้ร่วมคิด
ใจเธอหลากหลายความรู้สึก วันรุ่งขึ้น ธราเทพยังให้แม่บุญสิตาทำอาหารจานโปรดให้เธอด้วย “ทานเสร็จแล้วไปบริษัทกับผม”
“ฉัน……”
“คุณคิดว่าคุณยังมีสิทธิ์เลือกเหรอ” ธราเทพเลิกคิ้ว “เรื่องเมื่อวานคนในบริษัทต่างรู้ หรือว่าคุณอยากให้วันนี้มีเรื่องอื้อฉาวว่าเราสามีภรรยาทะเลาะกัน ณัฐณิชา อย่าลืมสถานะของคุณ”
“ก็ได้……”
ณัฐณิชาได้ตระหนักถึงความรู้สึกของการเป็นข่าวพาดหัวแล้ว ออกไปข้างนอกก็ถูกคนแอบมองตลอดเวลา เธอจึงได้แต่พยักหน้าตกลง เห็นเธอไม่ได้ต่อต้านตัวเองเหมือนเมื่อวาน ธราเทพจึงหรี่ตามอง ดวงตาสีดำเข้มจ้องณัฐณิชาไม่ลดละ