สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก - บทที่ 67 ท่าทีอะไร
ธราเทพเหลือบมองณัฐณิชา พลางส่งสายตาเป็นสัญญาณให้ แต่เหมือนณัฐณิชาจะไม่ได้สนใจเลย
กระทั่งเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธราเทพหายตัวไปตั้งแต่ตอนไหน เมื่อได้ยินแม่สุนิสากล่าวโทษกลับมา “เจ้าเด็กคนนี้ วันนั้นอันตรายขนาดนั้น ถ้าไม่ได้ณัฐณิชาช่วยเอาไว้ ลูกก็คง…”
“แม่” อภัสราภรณ์ยิ้มให้อย่างมาดร้าย พลางพูดต่อไป “ใช่ค่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณเธอนะ แต่คุณปู่ยังไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อก่อนพี่ณัฐณิชาเธอมีคดีติดตัวอยู่ ตอนนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคิดว่าเธอล่อลวงหนูให้ไปขายตัวเลย… พี่ณัฐณิชาเขาหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ ทำไมถึงได้จัดอยู่จำพวกค้ามนุษย์ล่ะ? แล้วทำไมถึงมีคดีติดตัวอยู่ด้วย หนูคิดว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดแล้วค่ะ”
อภัสราภรณ์ปากก็พูดไปเรื่อย นภสรณ์ก็คอยสมทบอีกคน เธอกับอภัสราภรณ์ต่างอยู่ทีมเดียวกัน และพูดว่า “นี่แกพูดผิดไปแล้วนะ พี่สะใภ้ของฉันเนี่ยเมื่อก่อนเป็นหัวขโมยชอบลักขโมยของ แต่ว่าเรื่องพวกนี้… เราไม่ต้องพูดดีกว่า เพื่อจะได้ไม่ทำให้พี่สะใภ้เธอลำบากใจไปด้วย ใช่ไหมคะพี่สะใภ้?”
หญิงสาวทั้งสองคนยิ้มเหยียดหยันตอนมองมาทางณัฐณิชา ณัฐณิชาเอาแต่ก้มหน้าลง และไม่แสดงอาการอะไรออกมา
รอยยิ้มของพวกเธอก็เหมือนเสียงเล็บที่คอยขูดขีดบนกระดานดำ ณัฐณิชาได้ยินแล้วก็รู้สึกเสียใจมาก
แต่ไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องเหล่านั้นที่ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าตนเองโดดเดี่ยวหัวเดียวกระเทียมลีบ…
การที่ต้องเผชิญหน้ากับความป่าเถื่อน เธอไม่สนใจสักนิด
แต่ความรู้สึกว่ามีแค่เธอคนเดียวที่เป็นเหมือนคนนอก มันยิ่งเสียใจหนักกว่าเก่า
“พี่สะใภ้คะ? พวกเรากำลังคุยกันอยู่นะ” เมื่อเห็นว่าณัฐณิชาไม่ยอมตอบกลับ นภสรณ์ก็ดีใจที่ได้พูดออกมา ณัฐณิชาต้องเสียใจแน่ ๆ ดีจริงเลย เธออยากจะดูว่าณัฐณิชาไม่รู้จะตอบโต้กลับยังไง!
นายท่านผู้เฒ่าเห็นเหตุการณ์นั้นเขา ถึงกลับขมวดคิ้วหากัน แต่ก็เห็นว่าทางคู่สามีภรรยาตระกูลภูริสิทธิโชคอยู่ที่นี่ด้วย ก็เลยพูดอะไรไม่ได้มาก
ทว่าจังหวะนั้นเอง แม่สุนิสาก็เอ่ยปากพูด “ณัฐณิชาจ๊ะ คุณเป็นถึงภรรยาของธราเทพเลยนะ ก็ควรจะเรียกพวกเราว่าคุณอา คุณน้าสักคำนะ ของพวกนี้ภัสหอบหิ้วเอามาจากต่างประเทศ พอเอามาวางไว้ตรงนี้มันขัดหูขัดตาชะมัดเลย คุณช่วยขนเอาออกไปทีสิ”
“เอ่อ…”
นภสรณ์อยากจะพูดว่าเรื่องนี้เดี๋ยวให้คนมาจัดการก็ได้ แต่เธอกลับถูกสายตาของอภัสราภรณ์ฟาดใส่ทันที จนเข้าใจความหมายตอนนั้นเอง
การมาของครอบครัวนี้ก็เพื่อที่จะมาแสดงอำนาจ!
อภัสราภรณ์ชอบธราเทพมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ธราเทพกลับไปแต่งงานกับณัฐณิชา ก็เท่ากับว่าเธอมองณัฐณิชาเหมือนเสี้ยนหนามที่คอยทิ่มตาอยู่หรอกเหรอ?
นภสรณ์ก็ไม่ได้ห้ามอะไร และพูดต่อทันที “พี่สะใภ้ คุณไม่รู้ว่าต้องเอาไปวางไว้ที่ไหนใช่ไหม?เดี๋ยวฉันบอกทางให้เอง พวกคนรับใช้ที่มีอยู่ก็มัวแต่ยุ่งกับทำอาหาร งั้นก็ต้องฝากพี่แล้วนะ”
ณัฐณิชาถึงได้หลุดจากภวังค์ พลันเหลือบมองของขวัญที่วางกองอยู่เต็มพื้น แต่สีหน้าไม่สะทกสะท้านอะไร
พวกเขาพูดกันอยู่นาน แต่ณัฐณิชาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองสักนิด จนอภัสราภรณ์โมโหขึ้นมา จนสีหน้าเปลี่ยนไป “นี่ ตกลงว่าแกไม่รู้จักการต้อนรับแขกใช่ไหม?”
“ฉันไม่รู้”
ณัฐณิชาเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสดใสกับเจ้าลูกกวางน้อย และยิ้มตอบ “คุณลุงพินิจ คุณป้าสุนิสาคะ เดี๋ยวตอนพวกคุณกินข้าวกันคงต้องย้ายกันไปกินที่อื่นแล้ว ของขวัญพวกนี้ก็วางเอาไว้ที่นี่แหละนะ”
“ทำไมถึง…”
อภัสราภรณ์ยังพูดไม่ทันจบ ณัฐณิชาก็ใช้สายตากวาดคมกริบกวาดตามอง น้ำเสียงนิ่ง ไม่แสดงอาการเย่อหยิ่ง “ฉันเป็นหลานสะใภ้ของตระกูลทวีศักดิ์ทินโชติ ฉันเองก็มีสิทธิ์ที่จะเอาสิ่งของมาวางไว้ที่ห้องรับแขกเช่นกัน”
“นี่แกแสดงกิริยาอะไรออกมา?” อภัสราภรณ์โมโห
เธอเตรียมจะอาละวาด จู่ ๆ ด้านหลังก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น อภัสราภรณ์หันกลับไปก็เห็นธราเทพเดินลงมาจากชั้นบน เขาก็เหมือนดวงดาวที่สว่างแพรวพราวที่สุดท่ามกลางฝูงชน
อภัสราภรณ์ดีใจ พลันเข้าประกบตัวทันที “พี่ธราเทพคะ พี่ลงมาแล้วเหรอคะ? คุณอาเขามาคุณมีธุระอะไรกันเหรอคะ? ฉันกลับมาครั้งนี้ยังตั้งใจเอาของที่คุณอาชอบที่สุดมาฝาก….”
“ปล่อย”
ธราเทพเหลือบมองแขนข้างหนึ่งที่เกี่ยวแขนของเขา พลันพูดเสียงแข็งใส่
เวลานั้นสีหน้าอภัสราภรณ์ดูไม่ดีเลย
เมื่อได้ยินคำพูดของธราเทพ สีหน้าแม่สุนิสาก็แสดงอาการตกใจออกมาแวบหนึ่ง แต่ก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว พลันพูดกับนายท่านผู้เฒ่าทันที “ดูสิไม่ทักทายผู้หลักผู้ใหญ่อย่างเราสักคำ ตอนเด็กภัสก็เล่นกับธราเทพอย่างสนุกสนานนี่ พอไม่ได้เจอกันนาน ก็เลยเหินห่างกันไปงั้นสิ เฮ้อ ธราเทพแต่งงานแล้ว ก็เหลือภัสของเราแล้วแหละ เด็กสาวคนนั้นก็ชอบ…หมกตัวอยู่กับธราเทพตั้งแต่เด็ก ณัฐณิชาหนูก็อย่าถือสาเลยนะ”
ตอนที่แม่สุนิสาพูดครึ่งประโยคแรกยังแสดงความรู้สึกเสียใจออกมา ราวกับการที่ธราเทพกับณัฐณิชาแต่งงานกันมันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมาก แต่พอณัฐณิชาได้ยินท่อนหลังแล้ว ถึงกลับเบิกตาโตทันที
นี่หมายความว่ายังไงกัน?
มาแสดงอำนาจอวดดีในบ้านของตนเองกับตนเองเนี่ยนะ?
เธออัดอั้นความโกรธเอาไว้ในอก แต่สีหน้าก็ยิ้มให้ และคอยอดกลั้นเอาไว้กับมือที่อยู่ข้างลำตัว เลยไม่ได้ยื่นมือออกไปหยิกธราเทพ
… แหะ ๆ ๆ เธอไม่กล้าต่างหาก
แต่ ธราเทพก็สะบัดแขนของอภัสราภรณ์ออก จากนั้นก็ก้าวเท้าพรวดพราดมาหาณัฐณิชาทันที
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างหยุดหายใจทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอภัสราภรณ์ เธอเหลือบมองแผ่นหลังธราเทพอย่างตกตะลึง มือของเธอยังค้างเติ่งอยู่ในอากาศ ส่วนสีหน้ากลับหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธเคือง