สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก - บทที่ 91 ผู้หญิงสามคนในละครหนึ่งฉาก
ณัฐณิชารู้สึกตื่นเต้น จิกเล็บลงฝ่ามือตัวเองแน่น
ถ้าพบพ่อแม่จริงๆ……
เธอต้องถามว่าทำไมพวกเขาถึงทอดทิ้งตัวเอง!
ทว่า แม่บุญสิตากลับส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง “นายท่านพิเชษฐใช้ชีวิตอย่างสันโดษมาตลอด เกรงว่าคงมีเพียงคุณชายเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้”
“อย่างนั้นเหรอคะ……”
ณัฐณิชายิ้มอย่างหมดหวัง ดูเหมือนว่าเธอคงได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ธราเทพ
……
เช้าวันรุ่งขึ้น เฟอร์รารีสีแดงสุดหรูจอดหน้าสถานีตำรวจ นภสรณ์นั่งบนที่นั่งคนขับสวมหมวกกันแดดใบใหญ่ แว่นกันแดดสีดำตั้งบนดั้งจมูก ปกปิดมิดชิด แทบไม่มีใครจำได้
“คนที่อยู่ข้างใน ใกล้ออกมาแล้ว”
นภสรณ์ชำเลืองมองคนที่นั่งข้างคนขับ ก่อนจะบ่นว่า “คุณมาหาคนนี้ทำไม เธอสารภาพซัดทอดฉันต่อหน้าพี่ธราเทพ!”
พูดถึงตรงนี้แล้วนภสรณ์โกรธมาก เมื่อวานพี่ธราเทพพูดกับตนอย่างเย็นชา ต่อจากนี้จะเข้าใกล้เขาก็ยิ่งยากเข้าไปอีก!
“คุณนภสรณ์ เราร่วมมือกันอยู่ เรื่องที่เกิดขึ้นคุณจะมาโทษคนอื่นไม่ได้หรือเปล่า”
ฐิติกานต์นั่งตรงที่นั่งข้างคนขับส่งเสียงเยาะ ถ้าตนไม่หมดทางไป เธอจะไม่มาหานังเศษสวะนภสรณ์นี่เลย!
ไม่นานเสียงเปิดประตูรั้วเหล็กของสถานีตำรวจก็ดังขึ้น จากนั้นผู้หญิงผมกระเซอะกระเซิงก็ถูกผลักออกมา นภสรณ์ดันฐิติกานต์อย่างรังเกียจ “คุณไปรับเธอมาซะสิ”
สองคนนี้เป็นผู้ร่วมทีมที่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย!
นภสรณ์ขมวดคิ้ว แต่ยังไงซะ……พวกเธอก็ยังมีค่าให้หลอกใช้ เธอทำได้แค่ต้องทนไปสักพัก
เมื่อปณิตาขึ้นมาบนรถแล้ว นภสรณ์จึงขับรถตรงออกไป……
ผู้หญิงสามคนในละครหนึ่งฉาก ณัฐณิชาเวลานี้ยังคงอยู่ในความฝัน โดยไม่รู้เลยว่าพวกเธอจะกลายเป็นนางมารอีกครั้ง
“คุณพ่อ คุณแม่ อย่าทิ้งฉันไป!”
ทันใดนั้น เธอพูดขึ้นในฝัน ใบหน้าเล็กเหยเก เรียวคิ้วขมวดมุ่น เหมือนกำลังพบกับเรื่องน่าเศร้า ณัฐณิชาส่ายหน้าไม่หยุด “คุณยาย……” อย่า อย่าทิ้งเธอไป
เธอมีแค่คุณยายคนเดียวเท่านั้น!
เหงื่อไหลลงมาตามคางแหลม ณัฐณิชาตกใจตื่น และก็เห็นธราเทพกำลังจ้องมองตนด้วยสีหน้านิ่งสงบ “ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ”
“อืม……” เธอกลืนน้ำลายในลำคอแห้งผาก ธราเทพยื่นน้ำให้เธอแก้วหนึ่ง ณัฐณิชาสายตาหม่นหมอง หลังจากรับมาดื่มเสร็จไปหนึ่งอึก ลำคอก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง “ขอบคุณ”
เหมือนว่าเธอดูน่าสงสาร ธราเทพจึงคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ตอนนี้นายท่านพิเชษฐไม่ได้อยู่ในประเทศนี้ รอเขากลับมา ผมจะจัดการให้”
จัดการ……?
จัดการอะไร จัดการให้พวกเขาได้พบหน้ากันเหรอ!
เมื่อได้เข้าใจณัฐณิชาจึงลืมตาขึ้นทันที คว้าจับแขนของธราเทพอย่างตื่นเต้น ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง “จริงเหรอ คุณจะจัดการให้ฉันได้พบกับนายท่านพิเชษฐคนนั้นเหรอ”
แม้ไม่รู้ว่านายท่านพิเชษฐเป็นใคร แต่ณัฐณิชาคิดได้โดยจิตใต้สำนึกว่านายท่านพิเชษฐจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับตัวเอง เมื่อรู้สึกสนิทใจต่อเขาขึ้นมาบ้าง ดังนั้นจึงโพล่งออกมา
“ผมเหมือนพูดโกหกเหรอ” ธราเทพยิ้มเยาะ เหมือนไม่พอใจที่ณัฐณิชาไม่เชื่อตัวเอง
ณัฐณิชารีบประจบเยินยอเป็นสุนัขรับใช้ทันที “จะเป็นไปได้ยังไง คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองSเลยนะ ธราเทพ ต่อไปฉันจะไม่ด่าคุณอีก!”
“หืม? พูดอย่างนี้ แสดงว่าก่อนหน้านี้คุณเคยด่าผมเหรอ” ทันใดนั้นธราเทพก็มีสายตาไม่พอใจขึ้นมาทันที
ณัฐณิชาตระหนักได้ว่าตัวเองพูดผิดไป รีบปล่อยแขนของเขา แล้วโบกมือไม่หยุด “เปล่าสักหน่อยๆ……”