สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 417-2 ไร้เทียมทาน (2)
บทที่ 417 ไร้เทียมทาน (2)
หลิ่วอีเซิงวิ่งมาหาทั้งสองในทันใด ขณะที่ชายสวมหน้ากากกำลังง้างดาบฟันแผ่นหลังของหลิ่วอีเซิง แต่กลับถูกกู้เจียวปาลูกแก้วเพลิงดำออกไปก่อนจึงต้องถอยห่างออกไป!
แน่นอนว่าเขารู้ว่าเจ้าสิ่งนี้ฤทธิ์เดชร้ายแรงเพียงใด สหายของเขาโดนแรงระเบิดเจ็บหนักไปหลายต่อหลายคนขนาดนั้น!
กู้เจียวก็รีบพุ่งตัวเขาไปพยุงร่างของหลิ่วอีเซิง
“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม” กู้เจียวถาม
“ข้าไม่…” หลิ่วอีเซิงยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ยื่นมือออกมาแล้วคว้าร่างกู้เจียวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของตน เขาใช้มืออีกข้างหนึ่งโอบกุมท้ายทอยของกู้เจียวเอาไว้
คมกระบี่ฟาดฟันลงมา นิ้วก้อยของหลิ่วอีเซิงกระเด็นออกไป
“ท่านพี่!” หยวนถังร้องเสียงหลง
เลือดสดอุ่นไหลอาบไปตามลำคอของกู้เจียว นางคว้ามือข้างขวาของหลิ่วอีเซิงเอาไว้ เมื่อเห็นบาดแผลบนตำแหน่งของนิ้วก้อยที่หายไป รังสีอำมหิตแสนเย็นยะเยือกก็แวบเข้ามาในแววตาของนาง
วินาทีนั้นเองทุกคนสัมผัสได้ว่ารังสีที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของกู้เจียวนั้นเปลี่ยนไป
ราวกับว่า…ที่ลงมือเมื่อครู่ก็แค่สู้อย่างขอไปที นางไม่ได้เดือดดาลนัก ทว่ายามนี้ราวกับเส้นขนทั่วทั้งร่างของนางกำลังลุกชูชัน
กู้เจียวไม่แน่ใจนักว่านิมิตฝันที่เห็นตัวเองกลับไปที่จวนโหวนั้นหมายความว่าอย่างไร นางรู้เพียงแค่ว่านางเริ่มไม่อาจแยกตนเองกับตนเองในความฝันออกจากกันได้อีกต่อไป
หลิ่วอีเซิงคือคนที่ปกป้องนางมาโดยตลอด คือคนที่นางเองก็จะปกป้องไปตลอดชีวิตเช่นกัน
ไม่ว่าความรู้สึกอันรุนแรงนี้มาจากตัวนางในตอนนี้ หรือว่ามาจากตัวนางในความฝัน นางรู้เพียงแค่ว่ามีเสียงหนึ่งกำลังดังก้องในหัวนาง ‘ห้ามไม่ให้ผู้ใดทำร้ายเขาเป็นอันขาด’
กู้เจียวฉีกผ้าชายกระโปรงของตัวเองเป็นแถบยาว ก่อนจะพันหุ้มบาดแผลของหลิ่วอีเซิงเอาไว้ จากนั้นก็ชักกริชที่เอวออกมา
ทุกคนต่างตกตะลึงเพราะรังสีอาฆาตที่ระเบิดออกมาจากตัวนางอย่างกะทันหัน พวกเขาจึงยืนนิ่งมองดูนางพันแผลโดยไร้การเคลื่อนไหว
เมื่อกู้เจียวเริ่มลงมืออีกครั้ง ทุกคนถึงเพิ่งจะได้สติกลับมา แต่ก็น่าเสียดายที่สายไปเสียแล้ว
กู้เจียวเดินหน้าไปสองสามก้าว ปากริชออกไปกลางอากาศก่อนร่วงหล่นลงกระทบพื้นดิน กริชของนางแทงทะลุกลางอกของมือสังหารที่ลอบโจมตีหลิ่วอีเซิงเมื่อครู่!
เลือดสดแดงชาดสาดกระเซ็นอีกครั้ง เปรอะไปทั่วใบหน้าของนาง!
นางยกมือขึ้นเช็ดมันออก แววตานั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม
ทุกคนต่างตื่นตะลึงกับภาพที่ได้เห็น
เมื่อครู่นางสู้ตั้งนานสองนาน แต่ก็เพียงแค่ตีให้สลบด้วยไม้กระบองเท่านั้น พวกเขานึกว่านางไม่มีอาวุธหรือไม่ก็ใช้อาวุธไม่เป็นเสียอีก พวกเขายังคิดอีกว่านางนั้นเป็นพวกใจเสาะ ขี้สงสาร อ่อนไหวเปราะบาง
เพราะถึงอย่างไรนางก็เป็นแค่เด็กสาวอายุสิบกว่าปีเท่านั้น
ทว่าเด็กสาวที่ ‘ใจเสาะ’ ‘ขี้สงสาร’ และ ‘อ่อนไหวเปราะบาง’ คนนั้น ใช้กริชแทงกลางอกของมือสังหารคนหนึ่ง!
ราวกับผ่านไปเพียงพริบตา แต่ก็เหมือนจะเนิ่นนาน พอนักฆ่าสวมหน้ากากดึงสติกลับมาจากความตกตะลึงได้ บรรดาพรรคพวกของเขาก็ล้มลงไปกันหมดแล้ว
อากาศมีแต่กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง
วรยุทธ์ของเขาใช่ว่าจะอ่อนหัด ห้ำหั่นกับกู้เจียวได้ อาจจะเอาชนะไม่ได้ หากจะชิงหนีไปก่อนก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่เขานั่นกำลังตาพร่าเพราะการกระทำของกู้เจียว
นี่คือเด็กสาวคนหนึ่งจริงๆ หรือ นี่มันเทพสังหารชัดๆ!
เลือดแดงสดอาบไปทั่วทั้งใบหน้าและร่างกายของกู้เจียว นางแทบจะไม่ใช่ตัวเองอีกต่อไปแล้ว เลือดไหลหยดจากปลายกริชไม่ขาดสาย
สัญชาตญาณโหดเหี้ยมจากภายในกำลังพลุ่งพล่านและโห่ร้องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงเพราะแรงกระตุ้นจากเลือดแดงสด นางกำกริชแน่น ราวกับเทพอสูรที่เพิ่งกลับมาจากนรก กำลังย่างเข้ามาใกล้ชายสวมหน้ากากทีละก้าว
ชายสวมหน้ากากสองขาอ่อนยวบ ก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น
“อย่าเข้ามา…เจ้า เจ้าอย่าเข้ามา”
มือข้างหนึ่งของเขายันกับพื้นพลางถดตัวถอยหนี ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ถือกระบี่ชี้ไปที่กู้เจียว
เสียงของเขาจะเรียกว่าโหยหวนก็คงไม่ถูก เรียกว่าแหบแห้งจนแทบหมดลมเสียมากกว่า
หลิ่วอีเซิงกับหยวนถังเองสัมผัสได้ว่ากู้เจียวนั้นผิดปกติ พวกเขาเรียกนางหลายต่อหลายครั้ง แต่เหมือนนางไม่ได้ยินแม้แต่นิด
“หมอกู้!” หลิ่วอีเซิงเรียกนางอีกครั้ง
กู้เจียวยังคงไม่ตอบสนองเช่นเดิม
หยวนถังเดินเข้าไปใกล้ ขวางหน้านางเอาไว้ “พอแล้ว! เท่านี้ก็พอแล้ว!”
กู้เจียวยื่นมือผลักหยวนถังออกไปให้พ้นทาง หยวนถังถอยหลังชนเข้ากำแพง กระแทกร่างจนเกือบกระดูกซ้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ปีศาจสิงร่างแม่หนูนี่หรืออย่างไร
หลิ่วอีเซิงเดินตามหลังกู้เจียว มองแผ่นหลังของกู้เจียว “หมอกู้…”
กู้เจียวง้างกริชในมือขึ้น
หลิ่วอีเซิงหลับตาลงอย่างขมขื่น
…
กู้เจียวจุดคบเพลิง ตามหาท่อนนิ้วที่ถูกฟันขาดบนพื้นอันแสนสกปรก
หลิ่วอีเซิงนั่งพิงกำแพง
นางนั่งลงตรงหน้าหลิ่วอีเซิง เปิดกล่องยาใบน้อย หยิบน้ำยาฆ่าเชื้อและอุปกรณ์ผ่าตัดออกมา นางล้างมือแล้วสวมถุงมือทับ
กู้เจียวล้างแผลให้หลิ่วอีเซิง ฉีดยาชาแล้วเย็บท่อนนิ้วที่ขาดกลับเข้าที่เดิม
ระหว่างที่เย็บนั้น นางไม่เอ่ยคำใด หลิ่วอีเซิงเองก็ไม่ปริปาก
แต่เป็นหยวนถังที่กำลังมองกล่องยาใบน้อย ของนางและข้าวของที่นางหยิบออกมาจากกล่องด้วยสายตาแปลกประหลาด
“นี่ ของพวกนี้คืออะไรหรือ เจ้า…เจ้าต่อกลับคืนไปแบบนี้แล้วจะใช้การได้จริงหรือ”
“เมื่อครู่เจ้าใช้อะไรแทงเข้าไปในตัวท่านพี่ของข้า เหตุใดท่านพี่ถึงไม่เจ็บเลยเล่า”
“นี่ เจ้าพูดอะไรหน่อยสิ”
“รู้หรือไม่เจ้าเป็นแบบนี้น่ากลัวยิ่งนัก”
หยวนถังแกว่งนิ้วไปมาตรงหน้ากู้เจียว แต่กู้เจียวกลับไม่ตอบสนองแม้แต่นิด
ไม่ใช่ว่าจงใจไม่แยแส แต่ว่านางนั้น…เหมือนจะมองไม่เห็นเขาจริงๆ
หยวนถังมองไปทางหลิ่วอีเซิงด้วยความสับสน “ท่านพี่ นาง…”
หลิ่วอีเซิงส่งสายตาบอกให้เขาหุบปาก
หยวนถังเงียบปากอย่างหงุดหงิด ทว่าสายตายังคงกวาดมองไปที่กู้เจียว
แม่หนูนี่โดนปีศาจสิงร่างเข้าให้แล้วจริงๆ หรือนี่ เหตุใดถึงไม่ได้ยินเขา มองไม่เห็นเขา
กู้เจียวทำการผ่าตัดอย่างละเอียดประณีต หลังจากเย็บเข็มสุดท้ายเสร็จ นางก็ตัดไหมแล้วพันผ้าพันแผลให้อย่างดี
วินาทีต่อมา ภาพเบื้องหน้าของนางก็ดำมืดก่อนจะหมดสติไป
อันที่จริงกู้เจียวไม่มีสติตั้งนานแล้ว เพียงแต่ฝืนกำลังตัวเองเย็บแผลให้หลิ่วอีเซิงจนเสร็จ
เมื่อเย็บแผลเสร็จแล้ว นางไม่จำเป็นต้องฝืนทนอีกต่อไป…ทั้งยังฝืนต่อไปไม่ไหวแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นกู้เจียวล้มลงไปกับพื้นดินสกปรก หลิ่วอีเซิงก็ยื่นมือออกไปประคองไว้ตามสัญชาตญาณ ใช้ท่อนแขนรองรับร่างเล็กของกู้เจียวเอาไว้
เขาใช้ท่อนแขนรับไว้อย่างง่ายดาย กู้เจียวล้มลงในอ้อมกอดของเขา
กลิ่นอ่อนๆ ของหญิงสาวผสมกับกลิ่นคาวเลือด ปนเปกันเข้ามาในโพรงจมูกของเขา
เขาไม่เคยใกล้ชิดกับใครเช่นนี้มาก่อน
ร่างทั้งร่างของเขาแข็งทื่อไปหมดแล้ว
ทว่าเขายังไม่ทันได้คุ้นชินกับการมีอยู่ของเด็กสาวในอ้อมกอด ร่างกำยำของคนผู้หนึ่งก็โรยตัวลงมา ก่อนจะชิงร่างของกู้เจียวในอ้อมอกของเขาไป!
“ใครน่ะ!” หยวนถังลุกพรวดขึ้นมาขวางหน้าหลิ่วอีเซิงเอาไว้ เขาคว้ามือออกไปหมายจะดึงร่างกู้เจียวกลับมา แต่กลับคว้าไม่โดนแม้แต่ชายเสื้อของนาง
“เจ้าเป็นใคร!” หลิ่วอีเซิงยันกำแพงลุกยืนขึ้น
ขณะที่ทั้งสองคิดว่าอีกฝ่ายคือมือสังหารที่ทำร้ายพวกเขาเมื่อครู่ ทว่าอีกฝ่ายกลับมุ่งไปบนหลังคาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะเกิดการปะทะกัน
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นบนหลังคา ตามมาด้วยเงาร่างนับสิบที่ร่วงตกลงมา
สีหน้าของหยวนถังพลันเปลี่ยน
จู่ๆ ก็มีมือสังหารโผล่มามากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด!
หากไม่มีคนผู้นี้ พวกเขาสามคนคงโดนฆ่าตายเป็นแน่!
ชายสวมหน้ากากผู้นั้นเป็นใครกัน
เป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่
หากเป็นศัตรู เหตุใดถึงได้ช่วยพวกเขา
หากเป็นมิตร เหตุใดต้องชิงตัวกู้เจียวไปด้วย