สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 516-2ฟื้น (2)
บทที่ 516 ฟื้น (2)
ความคิดผุดวาบขึ้นในหัวของหมอ เขารีบลุกขึ้นพรวด ทว่ามือกลับถูกมือขาวที่เย็นเฉียบไร้ความอบอุ่นคว้าหมับเอาไว้
หมออ้าปากค้าง “ใครก็ดะ…”
ยังเอ่ยไม่ทันจบ ข้อมือเขาก็มีใบมีดพิเศษจ่อไว้ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบได้
หมอทำอะไรไม่ถูกกับการกระทำนี้ทันที!
เกิดอะไรขึ้น
ไหนบอกว่าแข็งใกล้ตายแล้วมิใช่รึ
เหตุใดจู่ๆ จึงฟื้นขึ้นมาได้เล่า
ฟื้นก็ฟื้นสิ นี่ยังเอาใบมีดจากไหนไม่รู้มาปาดข้อมือเขาอีก!
กู้เจียวฟื้นขึ้นตอนที่เฟิงสือถือเชือกมามัดนาง นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ในเมื่ออีกฝ่ายถือเชือกมามัดนาง ก็คงไม่ได้มีเจตนาดีต่อนางแน่นอน
หลังจากเฟิงสือออกไป นางก็ค่อยๆ เอาใบมีดที่ซ่อนไว้ในแขนชุดเกราะออกมาเงียบๆ
จะว่าไปแล้ว ก็เพราะเกราะตัวนี้ทำได้ดีมาก สามารถซ่อนอาวุธลับไว้ได้ทุกที่ ราวกับทำขึ้นเพื่อให้นางใช้โดยเฉพาะ
แววตากู้เจียวเย็นเยียบไร้ความอบอุ่นเช่นเดียวกับมือของนาง สองขาของหมอเริ่มสั่นเทา
กู้เจียวส่งสายตาให้เขาไปยังทหารที่นอกประตู
หมอกระจ่างแจ้ง ปาดเหงื่อเย็นฉาดหนึ่ง กลืนน้ำลายดังเอือก ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ “สหายท่านนั้นน่ะ เจ้าช่วยไปเอาน้ำร้อนมาให้ข้าสักถังได้หรือไม่”
ทหารคนนั้นอยากพูดว่าเหตุใดเจ้าไม่ไปเอาเอง
อย่างไรเสียก็เป็นหมอ ทหารจะมาล่วงเกินไม่ได้ จึงข่มอารมณ์แล้วออกไป
พอทหารคนนั้นไปแล้ว กู้เจียวก็ตัดเชือกทันที “ห้ามส่งเสียง! มิฉะนั้นจะปาดคอเจ้า!”
หมอถูกข่มขู่ไว้สำเร็จ
กู้เจียวหยิบเชือกมามัดเขาไว้ แล้วควักนุ่นในหมอนมายัดปากเขาด้วย
จากนั้นกู้เจียวก็มองปราดไปเห็นกล่องยาที่เผาไหม้ในกระถางไฟ แววตานางพลันเย็นเยียบ ดึงกล่องยาออกมา
โชคดีที่ยังไม่ไหม้จนเสียหาย
กู้เจียวเดินไปปิดประตูห้อง ทหารคนนั้นต้องตักน้ำหนึ่งถังเต็มๆ ไม่มีทางกลับมาเร็วแน่ แต่ก็ไม่มีทางช้าเกินไปด้วย เวลาที่นางมีจึงไม่ได้มากมาย
สถานการณ์ของนางไม่ค่อยสู้ดีนัก
น่าจะเพราะแข็งอยู่บนพื้นหิมะเป็นเวลานาน นางจึงมีอาการแทรกซ้อนเล็กน้อย อย่างการหายใจไม่ค่อยสะดวก
นางเปิดกล่องยาใบน้อยออก หยิบเครื่องวัดความดันออกมาวัดความดันเลือดให้ตัวเอง
ความดันสูงเกินไป
“แค่ก!”
จู่ๆ นางก็คันคอขึ้นมา จึงไอเอาฟองออกมาเต็มปาก
หมอที่นั่งอยู่บนเตียงเห็นภาพนี้ก็ตกตะลึง นางหยิบของแปลกๆ ออกมาจากกล่องยังพอทน นึกไม่ถึงว่ายังไอเอาของพรรค์นี้ออกมาด้วย
นะ…นี่มันโรคปอดนี่!
หลังจากตัวแข็งเพราะหนาวแล้วจะง่ายที่จะเกิดโรคหนึ่งขึ้น โดยปกติแล้วรักษาไม่หาย!
กู้เจียววัดความดันเลือดให้ตัวเองอีกครั้ง ครานี้ความดันเลือดนางเริ่มลดลงฮวบฮาบ
เป็นภาวะปอดบวมน้ำเฉียบพลัน
เพียงไม่นานนางจะเข้าสู่ภาวะช็อกจากโรคหัวใจ
สถานที่พรรค์นี้ หากตนช็อกขึ้นมาคงไม่มีทางฟื้นอีกตลอดไปแน่
กู้เจียวล้วงผ้าออกมาปิดปาก ไอเอาฟองออกมาอีกครั้ง
นางเริ่มแสดงอาการคล้ายหัวใจล้มเหลวแล้ว ไม่นานก็จะเข้าสู่ภาวะช็อกจากโรคหัวใจ
มือนางสั่นระริกอย่างคุมไม่อยู่
มือหนึ่งบีบผ้าเอาไว้ อีกมือหยิบอะดรีนาลีนออกเข็มหนึ่ง
ไม่มีเวลาเปิดเส้นเลือดแล้ว และเปิดไม่ได้ด้วย
กู้เจียวคว้าเข็มฉีดยา ใช้มือที่ถือผ้าเช็ดหน้าแง้มเกราะออก ก่อนจะเล็งต้นขาตัวเองแล้วปักเข็มลงไป!
…
“หมอ น้ำร้อนเจ้ามาแล้ว” ทหารคนนั้นมาถึงหน้าประตู “เอ๋ เหตุใดจึงปิดประตูเล่า”
ทหารเปิดประตูเข้าไป เอ่ยกับแผ่นหลังหมอที่นั่งบนม้านั่ง “หมอ น้ำร้อนของเจ้า”
“เอาเข้ามาสิ” หมอเอ่ยเสียงขรึม
ทหารคนนั้นเบ้ปาก ให้เขาไปตักน้ำมาก็พอทนแล้ว ยังจะให้เขาเอาเข้าไปให้อีก ตัวเองไม่มีมือมีเท้าหรือไร
ทหารคนนี้ค่อนข้างสนิทชิดเชื้อกับผู้ดูแลข้างกายยี่อ๋อง เย่อหยิ่งกว่าทหารทั่วไปมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
หากสถานการณ์มันไม่จนใจหมอก็คงไม่เรียกใช้เขาหรอก
ทหารวางน้ำไว้บนพื้นข้างตัวหมอ ไม่ลืมเหลือบมองทหารแคว้นเจาที่หลับสนิทบนเตียงแวบหนึ่ง ก่อนถาม “เหตุใดจึงยังไม่ฟื้นอีกเล่า”
หมอเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตัวแข็งนานเพียงนี้ จะให้ฟื้นก็ฟื้นเลยได้อย่างไร ต้องรักษาก่อนสิ”
“เช่นนั้นเจ้าก็รักษาเสียสิ”
ทหารมีท่าทีจะดูหมอรักษาให้กู้เจียว
หมอพยายามส่งสายตาให้เขาสุดชีวิต
ทหารถาม “เจ้าทำอะไรน่ะ ตากระตุกรึ ใต้เท้าให้เจ้ารักษาเขามิใช่หรือไร เจ้าก็รีบรักษาเข้าสิ!”
หมอกัดฟันกรอด “เออ เออ!”
เจ้าไปเสียทีสิ!
ทหารไม่ยอมไป เขาจะดูว่าหมอช่วยคนตายให้ฟื้นอย่างไร
คนผู้นี้ถูกขุดออกมาจากกองหิมะ แข็งทื่อด้วยกันกับศพเทียนหลังแล้ว เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะฟื้นขึ้นมาได้
“เหตุใดเจ้ายังไม่รักษาอีกเล่า รักษาไม่ได้ใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าจะไปบอกรองแม่ทัพเฟิง ให้เขาไปเปลี่ยนหมอคนอื่นมา!”
ทหารเพิ่งจะเอ่ยจบ เข็มเงินเล่มหนึ่งก็เฉียดผ่านข้างหูของหมอไปปักบนหว่างคิ้วเขา ทหารถลึงตากว้างโต พร้อมกับล้มตึงลงกับพื้น
ในขณะที่เขาใกล้จะกระแทกกับพื้นจนเกิดเสียงโครมครามใหญ่โต กู้เจียวก็ยื่นเท้าไปขวางไว้ แล้วค่อยๆ ปล่อยลงพื้นเบาๆ
หมอลอบถอนหายใจโล่งอกเงียบๆ
เตือนเจ้าแต่แรกแล้วก็ไม่ฟัง
กู้เจียวเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วลงจากเตียง
ครานี้กู้เจียวไม่ได้ใช้ใบมีดข่มขู่หมอแล้ว เพราะใช้ไม่ได้แล้ว ไม่นานหลังจากที่เขาเห็นกู้เจียวแทงเข็มใส่ตัวเอง ไม่เพียงแต่ไม่ฆ่าตนให้ตายเท่านั้น ยังแทงให้ตนฟื้นอีกด้วย หมอจึงมองกู้เจียวไม่ต่างอะไรกับการเห็นผีแล้ว
“ข้าวของอื่นๆ ของข้าเล่า” กู้เจียวถามหมอ
หมอส่ายหน้าเป็นกลองป๋องแป๋ง “ข้าน้อย ข้าน้อยไม่ทราบ แต่ว่า! น่าจะ…น่าจะถูกรองแม่ทัพเฟิงเอาไปแล้ว เขาเป็นคนมาส่งเจ้าที่นี่”
กู้เจียวดึงเข็มเงินเก็บให้เรียบร้อย
“ยามนี้คงยังไม่มีใครมาหรอกกระมัง” กู้เจียวถาม
หมอแบมือเอ่ย “ไม่มีหรอก ไม่มี ที่นี่เปลี่ยวมาก เป็นที่ของพวกคนรับใช้ทั้งสิ้น แต่ด้านนอกมีทหารมากนัก ต่อให้เจ้าหายดีก็หนีไม่รอดหรอก”
หมอ ‘…เหตุใดข้าต้องเตือนด้วยล่ะ’
กู้เจียวเปิดกล่องยาออกอีกครั้ง
สำหรับอาการบวมน้ำที่ปอดเฉียบพลันนั้น นอกจากการใช้เข็มเจาะหัวใจเพื่อป้องกันภาวะช็อกจากโรคหัวใจแล้ว ต้องรีบกำจัดน้ำในปอดออกโดยเร็วที่สุดด้วย
กู้เจียวหยิบแมนนิทอลมาขวดหนึ่ง ให้น้ำเกลือตัวเองพลางถามข้อมูลจากปากหมอไปด้วย
ที่แท้ ยี่อ๋องก็พ่ายแพ้ในศึกเมืองหลิงกวนจริงๆ ยี่อ๋องทิ้งเมืองหลบหนีมา พาราชบุตรเขยและกองทัพห้าพันนายหลบหนีจากเมืองหลิงกวนตลอดทั้งคืน ระหว่างทางมาเจอนางเข้า ราชบุตรเขยเป็นคนพานางกลับมา…
ก็จริง
เส้นทางที่องค์หญิงหนิงอันใช้เดิมทีราชบุตรเขยก็เป็นคนจัดการให้นางอยู่แล้ว ราชบุตรเขยจะหาเจอก็คงไม่แปลก
ส่วนเป้าหมายของราชบุตรเขยก็เดาได้ไม่ยาก ไม่ใช่เพราะราชบุตรเขยเห็นอกเห็นใจ แต่นางน่าจะยังมีประโยชน์ต่อเขาอยู่ต่างหาก
กู้เจียวเอ่ยคล้ายกำลังคิดบางอย่างอยู่ “ดังนั้นที่นี่คือรังของยี่อ๋องรึ”
หมอ ‘หยุดถามข้าจะได้หรือไม่ ข้าบอกไปเยอะแล้ว หากบอกอีกมโนธรรมข้าจะไม่มีชิ้นดีแล้ว!’
“ใช่” หมอเอ่ย “ที่นี่ล่ะ!”