สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 555-2 ตอบโต้ (2)
บทที่ 555 ตอบโต้ (2)
ตกดึก กู้เจียวมาที่โรงหมอ และตรวจร่างกายม่อเชียนเสวี่ยตามลำดับ
“ฟื้นฟูได้ดีเลย” กู้เจียวเอ่ย
ม่อเชียนเสวี่ยขานรับด้วยท่าทีเหม่อลอย ก่อนจะรินน้ำชาให้กู้เจียว “ดื่มน้ำหน่อยเร็ว ดูสิ ปากเจ้าเริ่มแห้งแล้วนะ”
“อย่างนั้นหรือ” กู้เจียวลูกริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะรับแก้วมาแล้วดื่มมันจนหมด
ม่อเชียนเสวี่ยมองดูด้วยแววตาตื่นเต้น
ตอนแรกกู้เจียวยังไม่แสดงอาการใดๆ แต่ขณะที่นางกำลังเก็บของลงกล่องยาก็พลันล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง!
…
รุ่งฟ้าสาง รถม้าคันหนึ่งมุ่งหน้าออกจากเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว
สารถีเป็นคนของหอเซียนเล่อ
โดยมีม่อเชียนเสวี่ยนั่งอยู่ในรถม้า ไม่มีใครที่โรงหมอรู้ว่านางออกมาแล้ว กว่าจะรู้ก็คงตามมาไม่ทันอยู่ดี
“เร็วเข้า!”
ม่อเชียนเสวี่ยเอ่ยเร่งสารถี
“แต่ว่า พวกเราจะไปไหนหรือขอรับคุณหนู” สารถีถาม
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฮวาซีเหยาไม่ได้บอกกับนางว่าให้พากู้เจียวไปที่ไหน แต่บอกแค่เพียงว่าให้พาออกนอกเมือง
นี่นางก็อยู่นอกเมืองแล้ว
ไม่รู้ว่าคนของนายน้อยจะรู้แล้วหรือยัง
“ข้างหน้ามีศาลาพักม้าขอรับ” สารถีเอ่ย
ม่อเชียนเสวี่ย “ไม่ต้องสนใจ เดินหน้าต่อ”
“ขอรับ!”
สิ้นเสียงสะบัดแส้ รถม้าแล่นออกไปบนถนนหิมะ
ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าใกล้ศาลาพักม้า ปรากฏกลุ่มชายชุดสีเทาควบม้าเข้ามาจากถนนเส้นรอง จากนั้นเข้ามาขวางรถม้าของม่อเชียนเสวี่ยในทันที
“คุณหนู” สารถีเอ่ยถามพลางรีบหยุดรถม้า
“หน้าที่ของเจ้าหมดลงแล้ว รีบลงไปเถอะ” ม่อเชียนเสวี่ยออกคำสั่ง “รีบไปที่จุดพักม้าตรงนั้นเร็วเข้า”
“แต่…”
“รีบไปเร็ว!”
“ขอรับ”
สารถีรีบลงจากรถม้าด้วยความมึนงง เขารู้สึกได้ถึงอันตรายจากกลุ่มคนพวกนั้น และไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตาขณะที่กำลังเดินผ่านพวกนั้น
โชคดีที่พวกมันไม่ได้ห้ามเขา
สารถีรีบจ้ำเท้าไปยังศาลาพักม้าอย่างรวดเร็ว
พอแน่ใจแล้วว่าเขาเข้าไปแล้ว ม่อเชียนเสวี่ยจึงยกผ้าม่านขึ้น “พวกเจ้าเป็นใคร”
ชายชุดเทาที่เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้น “นายน้อยสั่งให้พวกเรามารับเจ้า เจ้านำคนที่นายน้อยต้องการมาแล้วใช่ไหม”
ม่อเชียนเสวี่ยเปิดม่านเล็กน้อย เผยให้เห็นร่างที่นอนนิ่งอยู่ข้างใน “อยู่นี่ไงล่ะ”
“ส่งคนมาให้พวกข้า”
“ช้าก่อน!” ม่อเชียนเสวี่ยดึงกริชขึ้นพร้อมกับจี้ไปที่คอของกู้เจียว
ชายชุดเทาขมวดคิ้ว “เจ้าทำอะไรน่ะ”
ม่อเชียนเสวี่ยเอยตอบ “หลังจากงานนี้ ข้าคงหนีไม่พ้นความตาย ดังนั้น ข้ามีเงื่อนไข พวกเจ้าต้องไปที่ที่ปลอดภัยก่อน แล้วข้าจะส่งคนให้ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเจ้ามาฆ่าปิดปากข้า”
ชายชุดเทาที่เป็นหัวหน้าหรี่ตาลงอย่างมาดร้าย
ม่อเชียนเสวี่ยเอ่ยต่ออย่างเย็นชา “ในเมื่อนายน้อยต้องการนาง หากนางตายในเวลานี้ งานของพวกเจ้าก็ล้มเหลว ส่วนตัวข้า ข้าจะหนียังไงมันก็เรื่องของข้า อย่างไรเสียนายน้อยจะต้องตามกำจัดข้าไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งก็ไม่ใช่ธุระของพวกเจ้า!”
หัวหน้าชายชุดเทากำบังเหียนแน่น “เอาละ เจ้าจะไปที่ไหน”
“ข้าต้องการไปที่อำเภอเฟิ่ง ห่างจากที่นี่สามสิบลี้ ครึ่งชั่วยามก็เพียงพอแล้ว” ม่อเชียนเสวี่ยตอบ
ชายชุดเทาโบกมือให้คนของเขาล้อมรถม้า หนึ่งในนั้นลงจากหลังม้าและทำหน้าที่เป็นสารถีให้กับรถม้าของม่อเชียนเสวี่ย
พอผ่านไปได้ครึ่งทาง จู่ๆ ม่อเชียนเสวี่ยก็ตะโกนร้องกะทันหัน “เดี๋ยวก่อน! หยุดรถก่อน! นางกำลังจะอาเจียน! นางกินยาพิษเข้าไป ถ้าอาเจียนออกมาต้องเป็นเรื่องแน่!”
คนที่มีวิทยายุทธ์จะเข้าใจว่ามันอันตรายแค่ไหนหากอาเจียนตอนหมดสติ พวกเขาเลยจำต้องหยุดรถม้า
ชายในชุดเทาพูดกับลูกน้องที่ทำหน้าที่เป็นคนขับ “ไปดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
ลูกสมุนเปิดม่านรถม้าออก
ทันใดนั้น เข็มเงินปริศนาพุ่งออกมาจากด้านในรถม้า ด้วยระยะที่ใกล้และความเร็วของเข็มทำให้ลูกสมุนชายชุดเทาหลบไม่ทัน เขากรีดร้องและหงายหลังตกจากรถม้า
“กลลวง!”
ชายชุดเทาชักดาบขึ้นในทันที
ไม่นานฝนเข็มเงินอีกชุดก็พุ่งออกมาจากรถม้า คนที่อยู่ข้างนอกรีบใช้ดาบในการโต้กลับ
ในตอนนั้นเอง ม่อเชียนเสวี่ยรีบตัดสายบังเหียนของรถและควบม้าออกไปอย่างรวดเร็ว!
ขณะที่ชายชุดทำกำลังจะสั่งให้ลูกสมุนตามนางไป ทันใดนั้น รถม้าก็เกิดเพลิงลุกโชนและมอดไหม้ในพริบตา!
“ตัวประกัน!”
ชายชุดเทาพุ่งตัวเข้าไปในรถม้าและอุ้มร่างตัวประกันออกมาวางบนพื้นหิมะ
เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และดึงผ้าคลุมหน้าของตัวประกันลง ปรากฏไม่ใช่กู้เจียว แต่เป็นฮวาซีเหยา!
คืนนั้น ม่อเชียนเสวี่ยแอบวางยาให้ฮวาซีเหยา
รวมถึงกู้เจียวด้วยเช่นกัน เพื่อให้ตัวเองหลบหนีออกมาได้
นางทรยศต่อนายน้อย
และคงหนีไม่พ้นความตาย
แต่ม่อเชียนเสวี่ยไม่อยากตายต่อหน้ากู้เจียว
ม่อเชียนเสวี่ยเร่งความเร็วจนสุดขีด แต่ขณะที่นางหนีออกมาได้ไม่นาน จู่ๆ มีลูกธนูพุ่งเข้าใส่ม้าของนาง
เจ้าม้าร้องคร่ำครวญก่อนจะล้มลงไปข้างหน้า จนร่างของนางกระเด็นลงไปบนพื้นหิมะ
ม่อเชียนเสวี่ยเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั่วร่าง และมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างกะทันหัน ก่อนจะหันข้างพร้อมกระอักเลือดออกมา!
“ม่อเชียนเสวี่ย!”
ชายชุดเทากระโดดลงจากหลังม้า ถือดาบพร้อมคลี่ยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา
ม่อเชียนเสวี่ยพยายามจะยิงเข็มเงิน แต่กลับถูกอีกฝ่ายเตะจนโดนเข้าที่เส้นประสาท ทำให้นางขยับตัวไม่ได้และนอนนิ่งบนหิมะ
ชายในชุดเทานั่งยอง คว้าชายเสื้อของม่อเชียนเสวี่ยและกระชากงร่างของนางมาใกล้ๆ อย่างรุนแรง
เขาโกรธมากจนไม่มีที่ระบายความโกรธในอกของเขา
ดวงตาของเขาจับจ้องที่ลำคอเรียวงามของนาง เผยให้เห็นแววตาวาวโรจน์ “นางโลมอันดับหนึ่งแห่งหอเซียนเล่อ ว่ากันว่าไม่เคยมีชายใดล่วงเกินเจ้า ไหนๆ เจ้าก็จะตายแล้ว วันนี้ให้พวกข้าส่งเจ้าขึ้นสวรรค์เสียเลยดีไหม”
ม่อเชียนเสวี่ยพูดไม่ได้ ไม่สามารถขยับตัวได้ ทำได้เพียงจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาอำมหิต
ชายชุดเทาฉีกเสื้อท่อนบนของนางออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นผิวขาวท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ
เดิมทีชายชุดเทาแค่คิดจะข่มขู่นางเท่านั้น แต่พอเขาได้มาเห็นร่างกายที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้กับตา…มันช่างเย้ายวนยิ่งนัก
ชนิดที่ว่าหากขันทีได้มาเห็นคงได้คืนความเป็นชายอีกครั้ง!
จากนั้นชายชุดเทาฉีกกระโปรงของม่อเชียนเสวี่ยออก…
น้ำตาแห่งความอัปยศอดสูและความสิ้นหวังไหลลงมาจากหางตาของนาง
นางทั้งตัวสั่นและสิ้นหวัง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า
ดีแล้วที่เป็นนางเอง
ดีแล้ว…
ขณะที่ม่อเชียนเสวี่ยหลับตาลง จู่ๆ มีเสียงนกเหยี่ยวดังขึ้นอยู่บนเหนือศีรษะของนาง
ตามมาด้วยหอกพู่สีแดงที่พุ่งออกมาจากด้านข้างของชายชุดเทา ก่อนจะแทงทะลุศีรษะของเขาในทันที!