สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 772-3 ตระกูลการละคร (3)
บทที่ 772 ตระกูลการละคร (3)
ฮ่องเต้หันขวับไปหาพระราชนัดดา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า อย่ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง!”
“เสด็จปู่ ข้าแค่สงสัยอะไรบางอย่าง เมื่อครู่นี้ไท่จื่อทรงขออนุญาตท่านให้ตรวจร่างกายนักโทษผู้นี้ เหตุใดพอเห็นจดหมายลับนั้นแล้วถึงรีบเปลี่ยนเรื่องกะทันหันแล้วไม่ตรวจร่างกายต่อพ่ะย่ะค่ะ”
สิ้นเสียงพระราชนัดดา ทุกคนต่างนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ พลางนึก ดูเหมือนจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ
อาจเป็นเพราะเจอหลักฐานคามือเช่นนี้ อีกทั้งคำพูดจากปากกู้ฉังชิง จึงคิดไปว่าไม่จำเป็นต้องตรวจร่างกายอีก
เซียวเหิงค่อยๆ ย่างเท้าเข้าไปทางกู้ฉังชิง แต่อีกฝ่ายกลับถอยห่างออกไปเรื่อยๆ
พอเซียวเหิงยื่นมือไปหาเขา กู้ฉังชิงรีบสะบัดตัวออกจากทหารผ้าแพรสองนาย ก่อนจะบุกโจมตีเซียวเหิง!
กู้เจียวเห็นดังนั้นจึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงออกไปให้ไกล จากนั้นใช้มืออีกข้างคว้าคอเสื้อของกู้ฉังชิงไว้จนขาด
เมื่อเห็นแผ่นอกที่ถูกผ้าพันแผลเปื้อนโลหิตพันไว้ของกู้ฉังชิง กู้เจียวไม่รอช้า รีบดึงผ้าพันแผลของเขาออกอย่างอุกอาจ
กลายเป็น เรือนร่างของเขาแทบไม่มีบาดแผลอะไรเลย
ผ้าพันแผลเปื้อนโลหิตถูกทำหลอกขึ้นมาเท่านั้น
ไท่จื่อเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น แผลหายไปไหนแล้ว!
เซียวเหิงทำท่าราวกับเข้าใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะหันมาจ้องเขม็งไท่จื่อ “เสด็จน้าเล่นละครเก่งเหมือนกันนะขอรับ หากกระหม่อมไม่เอะใจแต่แรกคงถูกท่านตุ๋นจนเปื่อยแล้ว นี่ท่านเกลียดเสด็จแม่ของข้าจนถึงขั้นต้องทำกันขนาดนี้เลยหรือ!”
“ข้าไม่ได้ทำ!” ไท่จื่อเริ่มตามเหตุการณ์ไม่ทัน เหตุใดเนื้อตัวของหลงอ้าวเทียนถึงไม่มีรอยแผลอะไรเลย
หรือว่า พวกเขาจะแอบสับเปลี่ยนคน
เป็นไปไม่ได้ ก็ตรวจทั่วแล้ว ไม่มีที่ซ่อนอื่นในนี้แล้ว
อีกอย่าง เจ้านี่แหละคือหลงอ้าวเทียนตัวจริง ทั้งน้ำเสียง ท่าทาง การพูด ไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้แน่ๆ
ขณะที่ไท่จื่อกำลังครุ่นคิดอย่างหนักอยู่นั้น กู้ฉังชิงก็เดินมาที่บานประตูใหญ่ จากนั้นเขาเค้นกำลังภายในทั้งหมดที่มีเพื่อปิดมันลง!
กั๋วซือ เย่ชิงอวี้เหอ และคนอื่นๆ ถูกกันอยู่ด้านนอก
ขณะที่ในห้องมีเพียงแค่ฮ่องเต้ ซ่างกวานเยี่ยน เซียวเหิง กู้เจียว กู้ฉังชิง ไท่จื่อและหัวหน้าทหาร
“เจ้าคิดจะทำอะไร” ไท่จื่อถามด้วยความระแวง
กู้ฉังชิงยกมุมปากขึ้นช้าๆ ก่อนระบายความในใจออกมา “นายท่านยังดูไม่ออกอีกหรือว่าตาเฒ่าหง่อมผู้นี้ไม่เคยนึกถึงหัวอกของท่านเลยสักนิด! ในใจของเขามีแต่ซ่างกวานเยี่ยนผู้เดียว! องค์หญิงใช้สารพัดวิธีเพื่อกำจัดท่าน คิดหรือว่าจะทรงดูไม่ออก ที่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ก็เพราะว่าทรงต้องการเข้าข้างนางอย่างไรล่ะ! แผนการของเราถูกเปิดโปงขนาดนี้ ยังทรงเลือกฝั่งอย่างออกหน้าออกตาเลย นายท่านหนีความผิดไม่พ้นอย่างแน่นอน! ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเรามาปิดฉากทุกอย่างให้จบๆ เสียดีกว่า! กำจัดพวกมันให้หมด แล้วโยนความผิดให้ซ่างกวานเยี่ยนเสีย!”
“ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือ นี่ท่านต้องการปลงพระชนม์ฝ่าบาทรึ!” เซียวเหิงรีบเถียงกลับทันทีโดยไม่ปล่อยช่องว่างให้ไท่จื่อได้พูด
“ข้า…” เปล่านะ!
และดูเหมือนว่ากู้ฉังชิงจะไม่เว้นช่องโหว่ให้ไท่จื่อเอื้อนเอ่ยใดๆ เช่นกัน “ถ้าใช่แล้วจะทำอย่างไร! จงรับไปซะ!”
กู้ฉังชิงชักดาบออกและพุ่งไปทางฮ่องเต้ทันที!
ขณะที่ทรงกำลังโมโหกับคำที่อีกฝ่ายเรียกเขาว่า ‘ตาเฒ่าหง่อม’อยู่
เมื่อเห็นปลายดาบพุ่งมาทางนี้ก็ทรงผวาอย่างหนัก
และแล้ว จู่ๆ ซ่างกวานเยี่ยนก็รีบวิ่งเข้ามาโดยใช้ร่างของตัวเองสกัดดาบให้เขา
กู้เจียวรีบกระโดดเตะกู้ฉังชิงทันที!
ดาบที่ปักเข้าไปในร่างของซ่างกวานเยี่ยนถูกดึงออก!
เกิดเป็นสายโลหิตพุ่งพวยออกจากร่างของนาง และกระเด็นเปื้อนพระพักตร์ของฮ่องเต้
ร่างของฮ่องเต้แข็งทื่อทันที ก่อนจะเข้าโอบร่างของซ่างกวานเยี่ยนที่เซล้มมาทางเขา
นางเริ่มอาเจียนเป็นเลือด
ฮ่องเต้พยายามใช้ฝ่ามือกดรอยแผลของนาง แต่ก็ไม่เป็นผล เลือดยังคงไหลไม่หยุด
ฮ่องเต้ผู้ทรงหนักแน่นมาโดยตลอดบัดนี้ถึงคราวสั่นไหว “เยี่ยนเอ๋อร์…เยี่ยนเอ๋อร์…”
เขาไม่ได้เอ่ยเรียกชื่อนี้ของนางมาเป็นสิบปีแล้ว
ซ่างกวานเยี่ยนพยายามใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายเอ่ยลาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้ม “หม่อมฉัน…ไม่ได้อยากปกป้องท่าน…หม่อมฉันไม่…ยกโทษให้ท่าน… แต่…ท่านคือ…เสด็จพ่อของหม่อมฉัน …หม่อมฉัน…สูญเสียแม่ไป…หม่อมฉันไม่สามารถ…ไม่มี…พ่อได้…”
“เยี่ยนเอ๋อร์…” คำพูดของนางช่างบีบรัดหัวใจของเขาเหลือเกิน
อุณหภูมิร่างกายของซ่างกวานเยี่ยนลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งน้ำตาและเลือดต่างหลั่งไหลพร้อมกัน “หม่อมฉันเกลียด… เกลียดที่ท่านไม่เชื่อหม่อมฉัน… หม่อมฉันรอท่านอยู่ที่สุสานกษัตริย์…ตั้งหลายปี…แต่ท่านไม่เคย …มาพบหม่อมฉันเลย…หม่อมฉันเกลียด…เกลียดเสด็จพ่อที่สุด…”
องค์หญิงร่ำไห้ท่ามกลางกองโลหิตของตัวเอง
คนเรามักจะเห็นค่าสิ่งใด ก็เมื่อตอนสูญเสียมันไปแล้ว
เขาไม่เคยรู้ซึ้งถึงการสูญเสียได้อย่างชัดเจนเท่านี้มาก่อน ทันใดนั้น เขาก็ตระหนักได้ว่าเขากำลังสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวระหว่างเขากับเซวียนหยวนหายไป
เรื่องที่เคยบาดหมางกันในอดีตพลันสลายหายไปราวกับควัน ทิ้งไว้เพียงแค่ความดีงามของนาง
ฮ่องเต้โอบกอดร่างของนางไว้ในอ้อมอกพร้อมกับพรั่งพรูความอึดอัดภายในใจ “ข้าคิดมาตลอดว่าเจ้าเกลียดข้า ไม่อยากเห็นหน้าข้า”
ขณะที่สองพ่อลูกกำลังจมอยู่ในความเศร้าโศก ตัดภาพมาที่กู้ฉังชิงและกู้เจียวที่กำลังสู้กันอย่างเมามัน
ไท่จื่อได้แต่อ้ำอึ้งกับภาพที่เห็น
เขาทำตัวไม่ถูกจริง ๆ
สัญชาติญาณบอกเขาว่าเป็นแค่การจัดฉาก
แต่มันสมจริงเกินไป
กู้เจียวยกเท้าเตะกู้ฉังชิงอีกครั้ง จนร่างของเขาลอยไปชนกำแพงก่อนที่จะล้มลง!
กู้ฉังชิง…ไม่สิ กู้เฉิงเฟิงยกมือกุมหน้าอกพร้อมกับสบถในใจ
เจ้าเด็กบ้า จะจริงจังเกินไปแล้วนะ
กู้เจียว เฮอะ ก็ต้องเล่นให้ถึงบทสิ ข้าเป็นมืออาชีพนะ!