สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 915 ตบหน้า
บทที่ 915 ตบหน้า
……….
กู้เจียวไม่ตอบคำถามของกู้จิ่นอวี๋ และมองไปทางคนส่งของพร้อมกับร้องอ๋อ “จริงรึ เจ้าก็คิดว่ามันใหญ่มากเลยเหมือนกันใช่ไหม”
กู้จิ่นอวี๋มองหน้ากู้เจียวหนึ่งทีพร้อมหัวเราะ ก่อนอธิบายต่อ “ก็ต้องยิ่งใหญ่สิ ระดับลูกสาวท่านกั๋วกงจะจัดงานเล็กๆ ได้อย่างไรล่ะ ตอนนั้นที่ท่านพี่แต่งงานที่ชนบท คงไม่ได้สินสอดเลยสักชิ้นสินะ ไม่แปลกที่ท่านพี่จะรู้สึกตงิดใจ ถ้าข้าเจอแบบนี้เองก็คงรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน สามีที่ดูแลกันมาหลายปีสุดท้ายต้องมากลายเป็นของคนอื่น ความพยายามที่ผ่านมากลายเป็นสูญเปล่า ถ้ารู้แบบนี้ ท่านพี่น่าจะฟังคำของท่านพ่อแต่แรกก็ดี ตัดสัมพันธ์กับเซียวเหิงเสีย ให้ดูเหมือนว่าท่านพี่ไม่ต้องการเขาแล้ว อย่างน้อยท่านพ่อจะได้ช่วยหาสามีใหม่ให้ แต่ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าท่านพี่กำลังจะถูกทิ้ง แล้วทีนี้ใครจะกล้าแต่งงานกับพี่อีกล่ะ”
ขณะเดียวกัน มีกล่องกล่องหนึ่งติดอยู่กับรถม้า ทุกคนเข้ามาช่วยกันเอาออก แต่ก็เอาออกมาไม่ได้
กู้เจียวเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปช่วย
กู้จิ่นอวี๋กำลังจะเอ่ยห้ามกู้เจียวแต่ไม่ทัน จึงได้แต่วิ่งตามไปดู
“คุณหนูรองเจ้าคะ!” คนใช้ของกู้จิ่นอวี๋เห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปติดๆ “คุณหนูรองจะไปไหนเจ้าคะ ไหนว่าจะเข้าเมืองไปเอาเครื่องประดับแล้วก็ไปแก้ชุดแต่งงานมิใช่หรือเจ้าคะ”
กู้จิ่นอวี๋มองแผ่นหลังกู้เจียว ก่อนจะหันมาตอบสาวใช้ แล้วหันไปตะโกนไล่หลังกู้เจียว “เดี๋ยวค่อยไปก็ได้ ตอนนี้ข้าต้องไปช่วยพี่ข้าก่อน ดูสิ ไม่รู้นางกำลังจะไปก่อเรื่องออะไรอีก ท่านพี่! จะทำอะไรน่ะ อย่าเพิ่งใจร้อนสิ!”
จากนั้นก็วิ่งตามกู้เจียวมาที่รถม้าคันนั้น
สารถีที่อยู่ในรถกำลังขนของลง เขาดันกล่องออกมาอย่างแรง แต่กล่องยังติดแน่นอยู่
กู้เจียวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจหยิบกริชออกมาเพื่องัดกล่องออก ทว่าจู่ๆ กู้จิ่นอวี๋ก็เข้ามาคว้าข้อมือไว้พร้อมกับเอ่ย “ท่านพี่! นี่คิดจะทำอะไรน่ะ ถึงท่านพี่จะเจ็บปวดแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรทำลายข้าวของของคนอื่นนะ!”
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต่างพากันมองมาที่สองสาว
คนที่มาที่นี่เพื่อส่งสินค้าคือเสมียนร้านค้าในพื้นที่ พวกเขาไม่รู้จักกู้เจียว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่านางคือเจ้าของจวนแห่งนี้
กู้จิ่นอวี๋รีบเอ่ยกับทุกคน “ขออภัยทุกท่านด้วย ข้าคือคุณหนูรองแห่งจวนติ้งอันโหว ส่วนนางเป็นคุณหนูใหญ่ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยที่พี่สาวของข้าบุกเข้ามาโดยพลการ”
หลังจากฟังอยู่นาน ทุกคนก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อพวกเขาเห็นกริชในมือของกู้เจียว และรวมกับคำเอ่ยของกู้จิ่นอวี๋ พวกเขาจึงคิดว่ากู้เจียวมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา
แปลกจริง เจ้าของจวนนี้เพิ่งย้ายเข้ามาหยกๆ ก็มีเรื่องทะเลาะกับคนอื่นแล้วรึ
กู้จิ่นอวี๋เอ่ยเตือนด้วยท่าทีจริงใจ “ท่านพี่ อย่าทำเรื่องโง่ๆ น่า ข้ารู้ว่าท่านพี่อิจฉาลูกสาวของท่านกั๋วกงที่แย่งสามีของท่านพี่มา แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ท่านพี่ไม่สามารถทำแบบนี้ได้ นึกถึงตระกูลเราด้วย”
คราวนี้ทุกคนเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้มากขึ้น
ที่แท้ผู้ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ก็คือท่านกั๋วกงและลูกสาวของแคว้นเยี่ยนนี่เอง ว่าแต่ ใช่คนที่กำลังจะแต่งงานกับท่านโหวเหย่น้อยหรือไม่นะ
ที่แท้ท่านโหวเหย่น้อยเคยแต่งงานแล้วอย่างนั้นรึ
กู้จิ่นอวี๋ทำเสียงสะอื้น “ท่านโหวน้อยเคยใช้ชีวิตอย่างลำบากที่ชนบท และได้ท่านพี่ช่วยเขาไว้ อีกทั้งขอให้เขามาเป็นสามีของท่านพี่ แต่ว่าตอนนี้ เขาได้ตำแหน่งกลับคืนมาแล้ว…แม้ข้าจะรู้สึกเสียใจที่ท่านพี่เพิ่งจะมารู้ความจริงในวันนี้ แต่ว่า…”
แสดงว่าครั้งหนึ่งแม่นางคนนี้เคยช่วยเหลือท่านโหวน้อยและขอให้เขาแต่งงานกับนางอย่างนั้นรึ
อีกทั้งนางไม่เคยรู้เรื่องตัวตนที่แท้จริงของเขามาก่อน
ในเมื่อไม่ยอมบอกตัวตนที่แท้จริง แสดงว่าที่แต่งงานกันไป ก็ไม่ได้จริงจังอะไรสินะ
สงสัยตอนนั้นคงถูกแม่นางคนนี้ข่มขู่บังคับให้แต่งงานด้วยแน่ๆ
กู้เจียวหันมาถามกู้จิ่นอวี๋ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เอ่ยจบรึยัง”
กู้จิ่นอวี๋ทำหน้าอ้อนวอนพร้อมกับส่ายศีรษะ “ท่านพี่…ข้าขอร้องละ…อย่าทำเรื่องโง่ๆ เลย…ท่านพี่กลับไปสารภาพกับท่านปู่และท่านพี่คนอื่นๆ จะดีกว่า…ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะต้องให้อภัย…”
คราวนี้ทุกคนอึ้งกว่าเดิม ที่ผ่านมาจวนโหวไม่เคยยอมรับนางเลยหรือนี่
ผู้ช่วยร้านคนหนึ่งกระซิบกับคนอื่นๆ ด้วยเสียงแผ่วเบา “อ่า เหมือนข้าเคยได้ยินมาว่า… คุณหนูใหญ่โตมาในชนบท… คนในตระกูลรับไม่ได้…”
กู้เจียวดึงมือกู้จิ่นอวี๋ออก จากนั้นใช้กริชแทงเข้าไปที่ใต้กล่องที่ติดอยู่
“ท่านพี่…” กู้จิ่นอวี๋หน้าถอดสี!
ทว่าในที่สุด กู้เจียวก็งัดกล่องขึ้นมาได้สำเร็จ สารถีถึงกับถอนหายใจโล่งอกหลังจากที่เจ็บมืออยู่นาน
ถ้ามาช่วยช้ากว่านี้ มีหวังมือของเขาจะใช้การไม่ได้แน่ๆ !
ด้านนอกรถม้า เด็กขนของมองดูกล่องที่กู้เจียวนำมาลงมาและเอ่ยด้วยความตกใจ “โอ้ แย่ละ! กล่องแตก! นี่มันเป็นกล่องไม้หอมชั้นดี! ภายในบรรจุเครื่องประดับราคาแพงที่ผลิตประจำปีนี้ไว้ทั้งหมดเลยนะ! ของข้างในจะเสียหายด้วยไหมเนี่ย!”
อันที่จริง ของข้างในพังตั้งแต่ระหว่างการขนส่ง ให้คนพวกนี้รับผิดชอบแม้ว่าจะต้องแลกด้วยทั้งชีวิตก็ไม่อาจจ่ายไหว!
กู้จิ่นอวี๋ทำหน้าเศร้าอีกครั้ง “ท่านพี่ ข้าบอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้…ข้ารู้ว่าท่านพี่เจ็บปวด…แต่จะมาทำพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้นะ”
ทันทีที่เอ่ยจบ ก็เกิดความโกลาหลในฝูงชน จากนั้นก็ได้ยินสารถีเอ่ย “แย่แล้ว! ผู้ดูแลของจวนกั๋วกงกลับมาแล้ว!”
กู้จิ่วอวี้มองไปทางกู้เจียวพร้อมกับยกมุมปากด้วยความดูถูก “ท่านพี่ ต่อไปอย่าวู่วามแบบนี้อีกนะ ดูสิ คนของจวนกั๋วกงกำลังกลับมาแล้ว ถ้าท่านพี่ก่อเรื่องอีก อย่าหาว่า…”
ยังไม่ทันเอ่ยจบ ผู้ดูแลเจิ้งก็เดินเข้ามาทางกู้เจียว พร้อมกับตะโกนร้องด้วยน้ำเสียงดุ “ใครใช้ให้มาขนของแบบนี้!”
กู้จิ่นอวี๋รีบเอ่ยขึ้นทันที “ท่านผู้ดูแล อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองท่านพี่ของข้าเลย นาง…”
“แล้วนี่ มือเป็นอะไรไหม เจ็บหรือเปล่า” ผู้ดูแลเจิ้งเท้าเอวพร้อมเอ่ยถาม
กู้จิ่นอวี๋ทำหน้าอึ้ง
คนอื่นๆ ก็เช่นกัน
ด้วยความที่ผู้ดูแลเจิ้งเคยเรียนภาษาถิ่นของที่นี่ เขาจึงใช้ภาษาแคว้นเจาเอ่ยกับกู้เจียว ดังนั้นทุกคนที่อยู่ตรงนั้นสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน
นี่เขากำลัง…เป็นห่วงนางรึ
กู้จิ่นอวี๋กระพริบตาด้วยความสับสน จากนั้นเดินเข้ามาหาผู้ดูแลเจิ้งแล้วเอ่ย “ข้าขอโทษท่านด้วยจริงๆ พี่สาวของข้าทำกล่องของท่านพัง แต่ไม่ต้องกังวลไป ทางจวนติ้งอันโหวจะชดเชยให้ท่านอย่างแน่นอน โปรดอย่าตำหนินางเลย นางแค่กำลังเศร้า…และโกรธอยู่…”
ผู้จัดการเจิ้งจ้องมองที่กู้จิ่นอวี๋และเอ่ยด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร นี่ข้ากำลังคุยกับคุณหนูของข้า ไยเจ้าถึงขัดจังหวะ!”
กู้จิ่นอวี๋ทำหน้าเลิ่กลั่ก
อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองต้องหูฝาดไปแน่ๆ “…คุณหนู…ของท่านรึ”
“เอ้า ใช่สิ! นางเป็นคุณหนูของที่นี่!” ผู้ดูแลเจิ้งเอ่ย
ทุกคนต่างพากันสูดปาก
กู้จิ่นอวี๋ได้แต่ยืนเหม่อ หัวของนางมีแต่ความว่างเปล่า
ผู้ดูแลเจิ้งเป็นคนฉลาด ตั้งแต่เมื่อครู่นี้แม่นางคนนี้เอาแต่เอ่ยว่าท่านพี่อย่างนั้นท่านพี่อย่างนี้ แต่ทุกอย่างที่นางเอ่ยล้วนเป็นคำที่โจมตีกู้เจียวอยู่ล้วนๆ
เขารู้จักนิสัยกู้เจียวดี นางไม่ใช่คนชอบอวด แม่นางคนนี้ต้องการอะไรกันแน่
ให้ตายสิ ด้วยความที่จวนกั๋วกงไม่เคยมีธรรมเนียมรับนางสนมเข้ามาทำงาน ทำให้ที่ผ่านมางานจัดการหลังเรือนมีแต่ความสงบสุขมาโดยตลอด น้อยครั้งที่จะได้รับมือสถานการณ์เช่นนี้
เขายกแขนเสื้อขึ้น ก้าวสองก้าวไปทางกู้จินอวี้ และเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง “คุณหนูของข้าเป็นแก้วตาดวงใจของท่านกั๋วกง ข้าวของเหล่านี้ทั้งหมดเป็นของคุณหนู! คุณหนูเขาจะเอาไปทำอะไรก็ได้ จะเอาไปเผาเล่น หรือโยนเล่น มันก็เป็นสิทธิ์ของนาง เจ้านั่นแหละมายุ่มย่ามอะไรด้วย!”
“ข้า…” กู้จิ่นอวี๋ถึงกับเอ่ยไม่ออก
ผู้ดูแลเจิ้งก้าวเท้าไปข้างหน้าทีละก้าว ในขณะที่กู้จินอวี้ถูกบังคับให้ล่าถอยทีละก้าว
“อย่ามาทำเป็นเอ่ยท่านพี่อย่างนั้นอย่างนี้หน่อยเลย คนอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์มาเทียบชั้นกับคุณหนูของข้าด้วยซ้ำ” ผู้ดูแลเจิ้งเอ่ย
กู้จิ่นอวี๋รู้สึกสับสนอย่างหนัก เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ไหนว่าพวกเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้วไง แล้วนี่อะไร เหตุใดนางถึงกลายมาเป็นลูกสาวของท่านกั๋วกงละเฉยเลยล่ะ นางเป็นเด็กที่โตมาในชนบทไม่ใช่รึ!
ไม่ว่าจะเป็นเพราะตกใจเกินไปหรืออิจฉาเกินไป ร่างกายของกู้จิ่นอวี๋เริ่มสั่นเล็กน้อย กำหมัดแน่นจนเล็บแทงเข้าไปในฝ่ามือจนเลือดเกือบไหล
นางมองไปที่กู้เจียวด้วยสายเชื่อไม่ลง “เจ้า… เจ้าไม่ได้ไปโยวโจวหรือ ไยถึงได้…”
และในตอนนั้นเอง มีรถม้าอีกคันหนึ่งขับเข้ามาทางนี้
เป็นรถม้าของท่านเหล่าโหวกับกู้ฉังชิง
พวกเขาสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวที่หน้าจวน จึงลงจากรถม้าเพื่อมาดูสถานการณ์
“เกิดอะไรขึ้น” กู้ฉังชิงถามพร้อมขมวดคิ้ว
เมื่อกู้จิ่นอวี๋เห็นปู่และพี่ชายคนโตมาทางนี้ก็เกิดสะดุ้ง ก่อนจะปรี่เข้าไปขอความช่วยเหลือ “ท่านปู่! ท่านพี่! นางไม่ได้ไปโยวโจว! แต่นางแอบหนีไปที่แคว้นเยี่ยน! ซ้ำยังไปเป็นลูกบุญธรรมของจวนกั๋วกงด้วย!”
ท่านเหล่าโหวเป็นคนเข้มงวดกวดขัน และเขาจะไม่ยอมให้หลานสาวของเขากลายเป็นลูกสาวในครอบครัวของคนอื่น
แถมยังเกิดเหตุข้ามแคว้นอีกด้วย ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานทรยศ
เขาเป็นนายพล จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด!
กู้จิ่นอวี๋มองมาที่เขาอย่างคาดหวัง แต่เขากลับขมวดคิ้ว “ข้าบอกเจ้าไปกี่ครั้งแล้วว่าเจ้าไม่ใช่หลานสาวของข้า อย่าเรียกข้าว่าท่านปู่”
กู้จิ่นอวี๋หน้าซีดทันที!
แต่ก่อน ต่อให้เขาจะไม่ชอบนางมากแค่ไหน เขาก็จะไม่เอ่ยต่อหน้าสาธารณะ แต่มาในวันนี้ เขากลับทำให้นางขายหน้าต่อหน้าคนมากมาย!
เพราะเหตุใดกัน!
ส่วนกู้ฉังชิงรีบพุ่งตัวไปหากู้เจียวทันทีโดยไม่สนการมีอยู่ของกู้จิ่นอวี๋ “ออกมาข้างนอกทำไม แดดแรงขนาดนี้”
“ข้ามาเยี่ยมพ่อบุญธรรมน่ะ” กู้เจียวเอ่ย
ท่านเหล่าโหววางมือไว้ด้านหลัง มองดูท้องฟ้าด้วยใบหน้าที่เย็นชา และกระแอมในลำคออย่างหนัก
ท่าทีของท่านปู่ทำให้กู้จิ่นอวี๋อดคิดไม่ได้ว่าเขากำลังงอนกู้เจียวที่นางมาเยี่ยมพ่อบุญธรรม แต่ไม่ยอมมาเยี่ยมเขาเลย