สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 921 ฉลองงานแต่ง (ตอนต้น) (1)
บทที่ 921 ฉลองงานแต่ง (ตอนต้น) (1)
……….
กู้เจียวกลับมาถึงตรอกปี้สุ่ยหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เพื่อให้การแสดงสมบูรณ์แบบ นางจึงซื้อของติดไม้ติดมือกลับมาด้วย นั่นคือถังหูลู่หลายไม้
เมื่อนางมาถึงหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงเอ่ยคุยเบาๆ จากในตรอก
“เจ้าเข้าไปสิ”
เป็นเสียงของเสี่ยวจิ้งคง
“ข้าไม่กล้า”
เป็นเสียงของชายหนุ่ม กู้เจียวรู้สึกคุ้นหูแต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร
เสี่ยวจิ้งคงถอนหายใจอย่างกับผู้ใหญ่ “ทำผิดก็ต้องกล้าเผชิญหน้าสิ”
ชายหนุ่มลังเล “แต่ผมข้ายังไม่ขึ้น”
“เจียวเจียว! เจ้ากลับมาแล้วหรือ! เหตุใดถึงกลับดึกนัก”
ท่านย่าโจวออกมาจากบ้านท่านป้าซุน ทันใดนั้นก็เห็นกู้เจียวที่ถือถังหูลู่
เสียงสนทนาในตรอกก็เงียบลงทันที ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่วิ่งหนีไป ชายหนุ่มคนนั้นจากไปแล้ว
“ไปซื้อถังหูลู่มานิดหน่อยน่ะ” กู้เจียวย่อตัวลงแล้วยื่นถังหูลู่ให้หลานชายของท่านย่าโจว
หลานชายเงยหน้ามองท่านย่า สายตาอ้อนวอนเพราะอยากได้
ท่านย่าโจวรู้สึกอายเล็กน้อย กู้เจียวจึงเอ่ย “รับไปเถอะ พรุ่งนี้เสี่ยวเป่าจะไปเล่นกับท่าน”
เมื่อได้ยินกู้เจียวเอ่ยแบบนี้ ท่านย่าโจวก็ยิ้มและรับถังหูลู่มา พร้อมบอกให้หลานชายขอบคุณและรับไว้
หลังจากกู้เจียวบอกลาท่านย่าโจว เสี่ยวจิ้งคงก็บังเอิญเดินออกมาจากตรอก
“เจียวเจียว” เขากระโดดเข้ามาหากู้เจียว พร้อมกับกอดนางด้วยความรัก
แม้ว่าเขาจะอายุหกขวบกว่าแล้ว แต่ก็ยังดูเหมือนเด็กห้าขวบ ทำท่าทางน่ารักได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เขาเห็นถังหูลู่ที่อยู่ในมือของกู้เจียว แล้วดวงตาก็เบิกกว้าง “ว้าว! เจียวเจียว เจ้าไปซื้อถังหูลู่มาหรือ!”
กู้เจียวจำใจต้องบอกว่าใช่ เพราะถ้าบอกว่านางไปนัดพบกับพี่เขยตัวร้ายของเขา เขาคงจะหึงแน่ๆ
“พรุ่งนี้ไปโรงเรียนไหม” กู้เจียวถาม
“พรุ่งนี้หยุด!” เสี่ยวจิ้งคงตอบ
“เช่นนั้นนอนดึกหน่อยก็ไม่เป็นไร” กู้เจียวให้เขาเลือกถังหูลู่หนึ่งไม้
เขาเลือกไม้ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ส่วนอันที่ใหญ่ที่สุดเก็บไว้ให้กู้เสี่ยวเป่า นี่แสดงให้เห็นว่าเขารักน้องชายมากจริงๆ
กู้เจียวจูงมือเขาเดินกลับบ้านพลางถาม “เมื่อกี้เจ้าคุยกับใครอยู่น่ะ”
เสี่ยวจิ้งคงเลียกินถังหูลู่ที่ถืออยู่ในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งยังคงจูงมือกับกู้เจียวอยู่ เขาตอบ “พี่เฉิงหลิน”
กู้เฉิงหลิน
กู้เจียวเริ่มจำได้ว่ามีคนนี้อยู่
ลูกชายคนเล็กของอนุหลิงที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างผิดๆ เขาเข้าใจผิดมาตลอดว่าแม่นางเหยาเป็นคนฆ่าแม่ของเขา จึงมักจะกลั่นแกล้งกู้เหยี่ยนอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาถูกอนุหลิง ผู้ที่เขาไว้ใจและใกล้ชิดที่สุด แทงข้างหลัง ทำให้เขาหมดหวังในชีวิตและคิดจะบวชเป็นพระ
แต่ระหว่างที่เสี่ยวจิ้งคงกำลังโกนหัวให้เขา ท่านเหล่าโหวก็กลับมา ทำให้เขากลับหวนคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง
“เอ๊ะ ข้าจำได้ว่าผมเขางอกออกมาแล้วนี่นา”
กู้เฉิงเฟิงซื้อยาปลูกผมจากนางไปตั้งเยอะนะ
เสี่ยวจิ้งคงเอ่ย “ตอนแรกมันก็งอกออกมาแล้วแหละ แต่ตอนตรุษจีนเขาเล่นประทัด แล้วดันระเบิดผมตัวเองจนไหม้อีก”
กู้เจียวถามจี้จุด “ตกลงเล่นประทัดหรือเล่นลูกแก้วเพลิงดำของเจ้ากันแน่”
เสี่ยวจิ้งคงกระพริบตา “ลูกแกล้งเพลิงดำของข้าเองแหละ”
กู้เจียว “…”
เสี่ยวจิ้งคงเอ่ยอย่างใสซื่อ “แต่ข้าชดเชยให้เขาแล้วนะ! ข้า ข้า ข้าเห็นว่าผมเขาโดนระเบิดจนเละเทะ ข้าก็เลยโกนให้เขาใหม่เลย!”
แล้วมันก็ไม่งอกออกมาอีกเลย…
เสี่ยวจิ้งคงเลียขนมถังหูลู่ผลไม้ “อุ๊ย! เพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ให้อาหารเสี่ยวจิ่วเลย ไปให้อาหารเสี่ยวจิ่วก่อนนะ!”
เอ่ยจบ เขาก็เงยหน้าขึ้น มองกู้เจียวด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู “เจียวเจียว วันนี้เจ้าสวยมากเลยนะ ข้าตกหลุมรักความงามของเจ้าจนถอนตัวไม่ขึ้น หัวใจพองโตไปหมดเลย!”
กู้เจียว เอาสิ คำหวานของเด็กน้อยช่วยไขคดีได้จริงๆ
“เดี๋ยวก่อน” กู้เจียวเรียกเสี่ยวจิ้งคงที่กำลังวิ่งหนีเข้าไปในเรือน
เสี่ยวจิ้งคงดวงตาหลุกหลิก ยิ้มหวานแล้วหันกลับมา “เจียวเจียว มีอะไรหรือ”
ดูสิ เมื่อเจอกับเด็กที่น่ารัก เชื่อฟังและขี้อ้อนแบบนี้ ใครจะโกรธลงเล่า
กู้เจียวครุ่นคิดก่อนจะถาม “วันนี้เขามาทำอะไรหรือ”
…
วันรุ่งขึ้น กู้ฉังชิงและกู้เฉิงเฟิงตื่นแต่เช้า
เมื่อคืนกู้เฉิงเฟิงกลับบ้านดึก กู้ฉังชิงเข้านอนแล้ว เขาเพิ่งจะได้คุยกับพี่ชายเรื่องการแต่งงานกับตระกูลหยวนที่หยวนถงเอ่ยถึงเมื่อเช้านี้เอง
“พี่ใหญ่ ท่านจะแต่งงานกับคุณหนูตระกูลหยวนจริงๆ หรือ” เขาถามกู้ฉังชิง
กู้ฉังชิงเพิ่งจะซ้อมควบม้าเสร็จ หน้าตาหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาหยิบผ้าที่บ่าวรับใช้ส่งให้มาซับเหงื่อที่หน้าผากและลำคอก่อนจะเอ่ย “มีอะไร เจ้ามีปัญหาอะไร”
กู้เฉิงเฟิงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ข้าจะมีปัญหาอะไรได้ ข้าไม่ใช่พ่อของท่านสักหน่อย”
กู้ฉังชิงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
เขาหดคอลง ยิ้มเจื่อนแล้วเปลี่ยนเรื่อง “พี่ใหญ่ วันนี้ไม่ใช่ว่าเราจะไปตรอกปี้สุ่ยกันหรือ เจ้าเด็กคนนั้นก็กลับมาพักผ่อนสองวันแล้ว”
ความหมายโดยนัยคือ พวกเขาสามารถมาเยี่ยมเยียนได้แล้ว
กู้ฉังชิงเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเอ่ยอย่างภูมิใจ “เมื่อวานข้าได้เจอเจียวเจียวแล้ว”
กู้เฉิงเฟิงเบิกตากว้าง “อะไรนะ ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วว่าจะไปวันนี้! ท่านกลับไปโดยไม่บอกข้า…”
กู้ฉังชิงตอบ “ใครใช้ให้ท่านปู่เรียกเจ้าเข้าวังแล้วเจ้าไม่ไปเอง ข้ากับท่านปู่กลับจากวัง ก็เจอนางมาเยี่ยมอันกั๋วกงพอดี”
กู้เฉิงเฟิงรู้สึกเหมือนพลาดโอกาสสำคัญไปทั้งชีวิต!
แถมพี่ชายยังทำท่าทางโอ้อวดอีก
ใช่มันได้อย่างนี้สิ!
พี่ใหญ่ ท่านทำตัวเป็นเด็กเกินไปหรือเปล่า!
กู้ฉังชิงมองน้องชายแวบหนึ่ง แล้วเดินจากไปอย่างผู้ชนะ
กู้เฉิงเฟิงกัดฟันกรอด เดินกลับเรือนของตัวเอง
ขณะที่เขากำลังเก็บของ กู้เฉิงหลินก็เดินเข้ามา
“วันนี้เหตุใดตื่นเช้านัก จะไปโรงเรียนหรือ” เขาถาม
กู้เฉิงหลินเกาศีรษะ “วันนี้หยุดเรียน”
“อ๋อ งั้นกู้เหยี่ยนก็หยุดเรียนเหมือนกัน” เขาเอ่ยพลางเปิดตู้ แล้วใส่กล่องอะไรบางอย่างเพิ่มลงในห่อผ้า “ไม่รู้ว่ากั๋วจื่อเจียนหยุดเรียนหรือเปล่า”
“หยุดเหมือนกัน” กู้เฉิงหลินตอบ
กู้เฉิงเฟิงลืมถามไปว่าเขารู้ได้ยังไง แล้วใส่ของเพิ่มเข้าไปในห่อผ้าอีกชิ้น “เดี๋ยวพี่กับพี่ใหญ่จะออกไปข้างนอก เจ้าก็ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านนะ”
“อ๋อ” กู้เฉิงหลินก้มหน้าลง
“เป็นอะไรไป” กู้เฉิงเฟิงสังเกตเห็นความผิดปกติทางอารมณ์ของน้องชาย
กู้เฉิงหลินดูเหมือนจะอยากเอ่ยอะไรแต่ก็หยุดไว้ “…ไม่มีอะไรหรอก ข้าไปอ่านหนังสือแล้ว”
“แปลกๆ ” กู้เฉิงเฟิงมองน้องชายเดินจากไป แล้วเก็บกล่องผ้าไหมไปพบพี่ชายที่หน้าประตู
เสี่ยวจิ้งคงได้หยุดเรียน เหลี่ยวเฉินกับเซวียนหยวนฉีก็เลยมาที่นี่ด้วย
เหลี่ยวเฉินถูกพ่อของเขาลากมา ไม่งั้นเขาคงไม่อยากมาเจอเจ้าเณรน้อยที่เทศน์เก่งกว่าเจ้าอาวาสคนนี้หรอก
เซวียนหยวนฉีกำลังสอนวิทยายุทธ์ให้เด็กชายสามคนอยู่ที่ลานหลังบ้าน เหลี่ยวเฉินนอนเล่นอยู่บนเก้าอี้หวาย
อวี้หยาเอ๋อร์พากู้เสี่ยวเป่าไปหาหลานชายของท่านย่าโจว กู้เจียวไปที่โรงหมอ
แม่นางเหยากำลังทำขนมให้เด็กๆ อยู่ในครัว
เซวียนหยวนฉีสอนวิชามวยขั้นพื้นฐานที่สุดให้เด็กๆ โดยสาธิตให้ดูหนึ่งรอบ แล้วค่อยสอนทีละท่า
เสี่ยวจิ้งคงเรียนรู้ได้เร็วที่สุด รองลงมาคือกู้เสี่ยวซุ่น ส่วนกู้เหยี่ยนเรียนรู้ได้ช้าที่สุด คือแทบจะไม่ได้อะไรเลย
เซวียนหยวนฉีเห็นเด็กๆ เหงื่อท่วมตัว จึงคิดว่าวันนี้ก็ฝึกพอสมควรแล้ว
เขาประหลาดใจกับพรสวรรค์ของเสี่ยวจิ้งคง เสี่ยวลิ่วทิ้งลูกหลานที่เก่งกาจไว้ให้ตระกูลซวนหยวนจริงๆ
พี่น้องสองคนมาถึงสวนหลังบ้าน ทักทายเซวียนหยวนฉีกับลูกชายก่อน จากนั้นก็ทักทายกู้เสี่ยวซุ่นทั้งสามคน แล้วไปที่ห้องครัวเพื่อคารวะแม่นางเหยา
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่! ดูข้าชกมวยสิ!”
เสี่ยวจิ้งคงคงจะอยากอวดวิชาหมัดมวยที่เพิ่งเรียนมาใหม่ให้กู้ฉังชิงดูมากแน่ๆ
ทั้งกู้ฉังชิงและเซวียนผิงโหวต่างก็เคยสอนวิชาให้เสี่ยวจิ้งคงมาบ้าง เขาเลยได้วิชาหลากหลาย แต่ก็ฝึกจนชำนาญทุกอย่าง
เด็กคนนี้ขยันมาก
เขาออกหมัดต่อเนื่องอย่างคล่องแคล่ว
“โอ้ เก่งนี่” กู้เฉิงเฟิงชม
เสี่ยวจิ้งคงพยักหน้าหงึกหงัก “ใช่ ใช่ ข้าเรียนเก่งที่สุดแล้ว!”
กู้เสี่ยวซุ่นยังมีท่าที่ไม่คล่องอยู่บ้าง เลยค่อยๆ ฝึกอยู่ข้างๆ เซวียนหยวนฉีก็คอยปรับท่าให้เขาเป็นระยะ
มีเพียงกู้เหยี่ยนที่ทำหน้าบึ้งกลับเข้าห้องไป
กู้ฉังชิงเดินตามเข้าไป เอ่ยกับเขาอย่างเข้าใจความรู้สึก “จริงๆ แล้วหมัดมวยชุดนี้ข้าก็ทำได้นะ ข้าสอนเจ้าก็ได้”
กู้เหยี่ยนเบือนหน้าหนี ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ใครอยากจะเรียน”
เมื่อครู่ กู้ฉังชิงได้สาธิตท่ามวยให้ดูในห้อง เพราะท่ามวยเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มากนัก
ถึงแม้ตอนแรกกู้เหยี่ยนจะทำเป็นไม่สนใจ แต่หลังๆ เขาก็เริ่มให้ความสนใจ
“เจ้าลองดู” กู้ฉังชิงเอ่ยกับเขา
“ข้าไม่ลองหรอก” กู้เหยี่ยนปฏิเสธที่จะเสียหน้าต่อหน้ากู้ฉังชิง
กู้ฉังชิงยิ้มเล็กน้อย ยกแขนของกู้เหยี่ยนขึ้น และช่วยจัดท่าทางให้เขา
“ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่เรียน…”
“เกร็งหน้าท้อง” นิ้วเรียวของเขาแตะที่หน้าท้องนุ่มๆ ของกู้เหยี่ยน อีกมือแตะที่แผ่นหลังบางของเขา
กู้เหยี่ยนเผลอสูดหายใจเข้าลึกๆ โดยไม่รู้ตัว
“แบบนี้นี่เอง” กู้ฉังชิงเดินมาด้านหลังเขา จับแขนเขา แล้วพาเขาทำท่าแรก
เขาซบลงบนแขนของพี่ชาย รับรู้ถึงรายละเอียดของแต่ละท่วงท่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองหรือ”
ตอนที่เขาดู เขาเห็นได้แค่ด้านหน้าหรือด้านหลัง ทำให้ยากที่จะเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน แต่พอถูกกู้ฉังชิงจับแขนทำตามครั้งหนึ่ง เขาก็รู้สึกเหมือนเข้าใจขึ้นมาทันที
ด้วยการที่กู้ฉังชิงสอนกู้เหยี่ยนตัวต่อตัว กู้เหยี่ยนในที่สุดก็เรียนรู้กระบวนท่าท่อนแรกของอาจารย์เซวียนหยวนฉีได้สำเร็จ
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเรียนรู้ท่อนที่สองล่วงหน้า ถึงแม้จะเล่นได้ไม่ลื่นไหลเท่าครึ่งแรก แม้จะไม่ราบรื่น ก็ยังสามารถผ่านพ้นไปได้
เขารีบเชิดหน้าชูตาไปอวดเสี่ยวจิ้งคงทันที!
เสี่ยวจิ้งคงเหมือนโดนฟ้าผ่า หน้าตาไม่อยากจะเชื่อ!
แม้แต่ท่านพี่เหยี่ยนก็ยังทำเป็นแล้วหรือ
ไม่ได้!
เขาต้องฝึกเพิ่ม!
ตรอกปี้สุ่ยได้เริ่มต้นการแข่งขันภายในอย่างเป็นทางการแล้ว…