สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 112 รับรู้ความจริง
สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 112 รับรู้ความจริง
หลินชวนฮวาคิดในใจด้วยความสงสัย “เด็กสาวที่เพิ่งแยกทางจากครอบครัวมาจะมีเงินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร?
“หยุนเถียนเถียน… เลิกโกหกสักที! เจ้าเพิ่งแยกจากครอบครัวข้ามาจะมีเงินได้อย่างไร? คิดพูดปดกับข้าหรือไร?”
“ข้าไม่ได้มีเวลามาล้อเล่นกับเรื่องเช่นนี้! ขายเฉินเฉินให้ข้าในiาคาห้าสิบตําลึง! เจ้าได้เงิน ข้าได้ตัวเด็ก! ไปตกลงกับเฉินผิงอันให้ได้และแบ่งเงินกันคนละครึ่ง เพราะหากตัดสินใจอะไรไปแล้วจะไม่มีโอกาสครั้งที่สองให้แก้ไข!”
หลินชวนฮวายังคงครุ่นคิดอย่างสงสัย เมื่อหยุนเถียนเถียนอีกฝ่ายลังเลจึงหยิบเงินออกมาวางบนโต๊ะทันที
“นี่คือยี่สิบตําลึงซึ่งถือเป็นเงินมัดจํา หากตกลง ข้าจะให้เพิ่มอีกห้าสิบตําลึง! ไม่ต้องต่อรองหรือสงสัยอะไร… ข้ามีปัญญาจ่าย! เจ้าต้องเก็บเงินให้ลูกคนชายคนโตไม่ใช่หรือ? แต่หากเจ้าปฏิเสธ ข้าจะไปยังหน่วยงานราชการและฟ้องร้องว่ามีแม่ฆาตกรพยายามฆ่าลูกชายของตน!”
หยุนเถียนเถียนนั่งลงและดื่มชาก่อนจะมองไปยังหยุนเคอด้วยความมั่นใจ เพราะเงินเจ็ดสิบตําลึงที่กําลังจะได้รับในวันนี้บวกกับห้าสิบตําลึงจากค่าสินสอดของเมื่อวาน ในที่สุดหลินชวนฮวาก็ตัดสินใจได้!
“เอาล่ะ ตกลงตามนั่น!”
หยุนเสียนเถียนยิ้มด้วยความพึงพอใจก่อนจะลุกขึ้นและเดินจากไปแต่ขณะนั้นเองอีกฝ่ายพลันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
หลินชวนฮวากลัวว่านางจะเปลี่ยนใจจึงรีบคว้าเงินบนโต๊ะมาเก็บไว้ทันที
“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เปลี่ยนใจหรอก และเพื่อยืนยันว่าข้าจะไม่โกหก…. จงไปเชิญท่านผู้เฒ่าและหัวหน้าหมู่บ้านมาเป็นพยานในการซื้อขายครั้งนี้เสีย!”
“ข้าเกรงว่าคงจะยากและน่าอายไปหน่อย ท่านผู้เฒ่าและหัวหน้าหมู่บ้านไม่มีทางเห็นด้วยแน่!”
หยุนเสียนเถียนแสยะยิ้ม “ มันก็ขึ้นอยู่ที่ความสามารถของเจ้า! หากทําให้เฉินผิงอันตัดสินใจที่จะขายลูกชายได้ แม้แต่ท่านผู้เฒ่าก็ไม่สามารถหยุดเขาได้เ”
หยุนเถียนเถียนเดินออกไปอย่างเย่อหยิ่ง ขณะที่หลินชวนฮวายงคงนั่งกัดฟันด้วยความโมโห แต่ก็ไม่สามารถจัดการอะไรนางได้! 4
หยุนเคอเดินตามออกไปอย่างเงียบ ๆ โดยมาได้พูดอะไร ก่อนจะเดินไปพาเฉินเฉินกลับบ้าน
ทั้งสามพบกันที่บ้านของหยุนเทียนเถียน
หยุนเถียนเถียนกระซิบสั่งหยุนเคอให้เขาพาตัวเฉินเฉินออกไป และนางจะตั้งใจฟังในสิ่งที่หลินชวนฮวาพูด เพราะนี่จะเป็นคําพูดสุดท้ายที่ออกมาจากใจ!
เฉินเฉินหน้าซีดและเต็มไปด้วยความโศกเศร้าในใจราวกับโลกทั้งใบได้พังทลายลง ซึ่งเด็กน้อยยังคงหาความหมายของการมีชีวิตต่อไปไม่ได้
“มันโหดร้ายเกินไปไหมที่จะให้เขาได้ยินเรื่องนี้ตั้งแต่ยังเด็ก?”
หยุนเถียนเถียนรู้สึกกังวลเมื่อมองดูรูปลักษณ์ของเด็กน้อยผู้นี้
“ไม่เด็กหรอก เขาโตพอที่จะเข้าใจทุกอย่างแล้ว”
“คนเราจะมีความหวังก็ต่อเมื่อเคยพบเจอกับความผิดหวังมาแล้วแต่หากข้าพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนเฉินเฉิน แต่เขากลับยกความดีความชอบทั้งหมดให้หลินชวนฮวา นี่จะเป็นสิ่งที่น่าเศร้าที่สุด!”
แต่เมื่อมองหน้าเด็กน้อยผู้น่าสงสารก็ทําให้หยุนเถียนเถียนเป็นทุกข์นางขอให้หยุนเคอเดินนําไปก่อนและนางจึงเดินแนบข้างเด็กชาย
“เฉินเอ๋อ เจ้ากําลังคิดอะไรอยู่?”
เฉินเฉินเอียงศีรษะถามด้วยความสงสัย “พี่สาว ในเมื่อแม่ไม่รักข้าเหตุใดจึงให้กําเนิดข้าเล่า?”
“เราทั้งสองต่างเรียนหนังสือมามากจนมีความรู้ความสามารถดังนั้นเจ้าต้องยอมรับความจริงและอย่าโทษตัวเองในความผิดพลาดของผู้อื่นเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าเป็นแค่เด็กและไม่สามารถเลือกเกิดได้!”
“ส่วนแม่ของเจ้า ในตอนนั้นนางถูกบังคับให้คลอดบุตรเพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีทางถูกยอมรับในฐานะลูกสะใภ้ตระกูลเฉินจึงจําเป็นต้องให้กําเนิดเจ้าเฉินเอ๋อ… แม้แม่ไม่ได้อยากจะมีเจ้าแต่เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะเมตตาและมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อตนเอง!”
เฉินเฉินดูเหมือนจะเข้าใจแต่กลับไม่เข้าใจอะไรเลย ริมฝีปากของเด็กน้อยเริ่มสั่นเทาราวกับกําลังจะร้องไห้
“เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าพี่จะซื้อเจ้ามาเพื่อแก้แค้น? ข้าไม่กล้าระบายความโกรธต่อร่างกายอันเล็กน้อยของเจ้าหรอกข้าเพียงอยาก ให้เจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ไม่ต้องอดอยากแต่ยังได้เรียนหนังสือดังต้องการแม้ข้าจะสอนหนังสือเจ้าได้แต่ไปโรงเรียนย่อมดีกว่า หากยังอยู่กับพ่อและแม่เจ้าจะไม่มีทางได้ไปโรงเรียนแม้เฉินติ งอันจะอนุญาตแต่หลินชวนฮวาไม่มีทางยอมแน่!”
เฉินเฉินพยักหน้าหยุนเถียนเถียนไม่รู้ว่าเด็กน้อยกําลังคิดอะไรอยู่แน่นอนว่ายังมีบางสิ่งที่เขาไม่เข้าใจและคงต้องปล่อยให้เขาคิดไปตามประสาเด็ก!
หยุนเถียนเถียนเอื้อมมือจับศีรษะเฉินเฉิน “พูดตามตรง… เจ้าอาจจะโกรธหรือเกลียดข้าที่ทําเช่นนี้แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ให้อยู่ที่นี่ไปก่อนเพราะเจ้ายังต้องพบหมอเพื่อตรวจร่างกายเพราะร่างกายของเจ้า”
หยุนเถียนเถียนหยุดพูดก่อนจะลากเฉินเฉินเข้าไปในห้อง
“เจ้าเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้… ทุกอย่างในอนาคตอยู่ ที่การตัดสินใจของเจ้าอยากร่ําเรียนจนได้เป็นขุนนางหรือไม่? หรืออยากเป็นเพียงชายชนบทธรรมดาที่ทําไร่ไถนาไปวัน ๆ? ทุกอย่างอยู่ที่เจ้าเลือก!”
“แม้พ่อแม่เจ้าจะเลี้ยงดูเจ้าได้ไม่ดี แต่ในอนาคตหากเจ้ามีครอบครัว ก็จงดูแลลูก ๆ ให้ดีและอย่าให้เป็นเช่นเจ้า! มีอีกหลายอย่างที่เจ้าต้องคิดและตัดสินใจ ไตร่ตรองให้ดีเถิดว่าเจ้าอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นหรือไม่!”
หยุนเถียนเถียนเดินออกจากห้องของเฉินเฉินและไปยังห้องครัว ก่อนจะพบว่าวัตถุดิบที่กักตุนไว้ในเถาเปาหมดเกลี้ยง! ต่อให้อยากทําอาหารแสนอร่อยเพียงใดก็ทําไม่ได้เสียแล้ว
แต่เด็กคนนี้ยังต้องกินอาหารดี ๆ หยุนเถียนเถียนจึงตัดสินใจไปหาหยุนเคอ แม้จะเป็นหนี้บุญคุณเขาบ่อยครั้งแต่หยุนเคอกไม่เคยปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเลย.