สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 147 เกษตรกรรม
สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 147 เกษตรกรรม
เมื่อหยุนเถียนเถียนออกมาจากบ้านของจี๋ชื่อ และผ่านบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ก็นึกได้ว่าเฉินเฉินต้องหาครอบครัวที่ไม่มีเรื่องด่างพร้อย เพื่อรับอุปการะเขา นางจึงเดินเข้าไปทันที
หัวหน้าหมู่บ้านเพิ่งต้อนรับหยุนเคอคนใหญ่โตผู้นั้นในตอนเช้า และเพิ่งรับประทานอาหารกลางวันในตอนบ่าย หญิงสาวที่ไม่ธรรมดาผู้นี้ก็มาเยือนหน้าประตู
เขาลุกยืนขึ้นประจบสอพลอ “สาวน้อย! เหตุใดถึงมาที่นี่? มีปัญหาอะไรหรือ?”
ในตอนนี้ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเดินออกมา เมื่อนางเห็นว่าเป็นหยุนเถียนเถียนซึ่งเป็นบ่อเงินบ่อทองของหมู่บ้าน จึงเผยรอยยิ้มหวานกว่าปกติ!
“เถียนเถียน! กินข้าวมาหรือยัง? มากินที่บ้านของพวกเราก็ได้!”
หยุนเถียนเถียนยิ้มและจับมืออีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ปกติแล้วภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนมีคุณธรรม แต่นางขี้งกเรื่องราคาของเล็กน้อย ไม่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่เกินไป หยุนเถียนเถียนจึงไม่คิดตอบตกลง
“ไม่แล้ว! ข้ากินข้าวมาแล้ว ข้าเพียงจะมาขอรบกวนหัวหน้าหมู่บ้าน”
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านพูดอย่างร่าเริง “ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปนั่งคุยกันที่ลานบ้าน ข้าจะไปชงชามาให้”
เฉินซ่งยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าภรรยาของเขาจะขี้โลภอยู่บ้าง แต่นางก็ไม่ใช่คนชั่วร้าย
มีภรรยาอย่างนางก็ดีกว่าบางคนที่ไม่ชอบคนจนและรักแค่คนรวย นิสัยก็ถือว่าไม่เลว!
“มีอะไรกล่าวมาได้เลย!”
หยุนเถียนเถียนยิ้ม “คืออย่างนี้ ไม่ใช่ว่าข้าส่งเฉินเฉินไป เรียนหรอกหรือ? หากเขาต้องการเข้าสอบขุนนาง บรรพบุรุษสามชั่วอายุคนจะต้องมีประวัติขาวสะอาด แต่ว่าท่านก็ เห็นปัญหาของหลินชวนฮวา เขาจึงไม่สามารถเป็นผู้บริสุทธิ์ได้อีกต่อไป! ดังนั้นข้าจึงวางแผนที่จะขอให้หัวหน้าหมู่บ้านช่วยหาครอบครัวที่ไร้มลทินและรับเขาไปอุปการะ”
“การรับอุปการะนั้นไม่ต้องทําอะไร เพียงแค่ใส่ชื่อเข้าไป เมื่อภายหน้าจะเข้าสอบขุนนางก็อย่าก่อปัญหาเหล่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆก็ไม่มีอะไรแล้ว!”
หัวหน้าหมู่บ้านครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ความกังวลของหยุนเถียนเถียนนั้นสมเหตุสมผลแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็มีลูกชายเป็นของตัวเอง และคาดว่าคงไม่มีใครยินดีรับเลี้ยง
หยุนเถียนเถียนเริ่มใจเสีย “อะไรหรือ? หัวหน้าหมู่บ้าน! ยากเกินไปหรือ?”
“เรื่องนี้ข้าคงต้องหารือกับผู้เฒ่า มีลูกหลานที่จะเข้าสอบขุนนาง พวกเขาต้องเห็นด้วยที่จะได้ทําเรื่องดี ต้องคัดเลือกคนให้ดี พวกเจ้าไม่ต้องกังวล! เจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ?”
เฉินซึ่งรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เพราะกลัวว่าหญิงผู้นี้จะรู้สึกว่าเขาช่วยงานไม่ได้
แน่นอนว่าหยุนเถียนเถียนไม่ได้คิดเช่นนั้น การรับเด็กสักคนมาเลี้ยงจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร ไม่เพียงแต่ผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาต่างๆอีกด้วย!
แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ในนาม แต่ถ้าเรื่องนี้มีปัญหาก็จะส่งผลกระทบต่อเฉินเฉิน!
“แน่นอน เรื่องนี้ต้องรอบคอบ อีกทั้งการเป็นบัณฑิตไม่ใช่เรื่องง่ายหากเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องยุ่งๆ เหล่านี้ย่อมไม่เป็นผลดี! หัวหน้าหมู่บ้านได้โปรดเชิญท่านผู้เฒ่าในหมู่บ้านมาด้วย เมื่อมีอะไรจะได้สรุปร่วมกัน!”
เฉินซ่งพยักหน้าด้วยความเคร่งขรึม
เมื่อภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านนําน้ําชาออกมา ก็ไม่เห็นหยุนเถียนเถียนแล้ว!
“หญิงผู้นี้ไปไวมาไวนัก!”
นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่แวะทําระหว่างทาง หยุนเถียนเถียนไม่ได้ต้องการทําทุกอย่างให้เสร็จในครั้งเดียว
เมื่อกลับมาที่ลานบ้าน ก็เห็นหยุนเคอกําลังสอนเฉินเฉินเขียนหนังสือ
เมื่อเห็นหยุนเสียนเถียนเข้ามา หยุนเคอรู้สึกว่าทั่วทั้งบริเวณถูกดึงดูดโดยใบหน้าของหญิงสาว!
ได้ยินมาว่าหญิงผู้นี้จะอายุครบสิบห้าปีในอีกไม่ช้า! ไม่รู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้นหน้าตาของนางจะเป็นอย่างไร!
“หยุนเคอ! ข้าไปหาเมล็ดพืชมา! บ่ายนี้ไปทําสวนกันเถอะ!
เมื่อเฉินเฉินได้ยิน เขาก็วางปากกาลงทันที และพับแขนเสื้อขึ้น เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือ
หยุนเคอเอ็ดเขาอย่างไม่เต็มใจนัก ”ข้าทํากับพี่สาวเจ้าก็พอ เจ้ามาวุ่นวายอะไรที่นี่?”
เฉินเฉินรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง พี่สาวได้สอนเขาไม่ให้เป็นบัณฑิตที่ไม่สนใจเรื่องภายนอก! เหตุใดพี่เขยถึงไม่ให้ทํางาน?
“เฉินเอ๋อ ทบทวนเนื้อหาที่ต้องเรียนก่อน! พรุ่งนี้เจ้าไปโรงเรียนวันแรก ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ยิ่งกว่านั้นไปเรียนครั้งแรกเจ้าก็ได้ข้ามชั้นถงเชิงไปเรียนชั้นซิ่วไฉ หากตามไประวังจะเรียนไม่ทัน!”
เฉินเฉินพยักหน้าเงียบๆ สิ่งที่พี่สาวพูดนั้นถูกต้อง!
หยุนเถียนเถียนมองดูเฉินเฉินนั่งลงอีกครั้ง จากนั้นก็ไปที่สวนหลังบ้านกับหยุนเคอ!
หยุนเคอมองเมล็ดพืชในห่อกระดาษน้ํามันที่หยุนเถียนเถียนหยิบออกมา รู้สึกอับอายเล็กน้อย! รู้วิธีกินสิ่งนี้ แต่จะปลูกมันอย่างไร?
หยุนเถียนเถียนมองใบหน้าที่รกรุงรังไปด้วยเครา ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา และรอยยิ้มนี้ทําให้หน้าของหยุนเคอกลายเป็นสีดําทันที!
“เอาล่ะ! ไปขุดดินเป็นหลุมเล็กๆ ข้าจะเพาะเมล็ด!”
หยุนเคอใช้เท้าของเขาแตะจอบที่อยู่บนพื้นและเอื้อมมือไปคว้าทันที!
แม้ท่าทางค่อนข้างจะทุลักทุเล แต่การทําหลุมเล็กๆก็เป็นไปอย่างราบรื่น!
หยุนเถียนเถียนเดินตามหลัง วางเมล็ดลงในหลุมทีละสองเมล็ด! จากนั้นก็ใช้เท้าข้างนึงกลบดินเพื่อคลุมเมล็ดพืชไว้
ขณะทํางาน หยุนเคอก็แอบจ้องมองหยุนเถียนเถียนจากหางตา และก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเด็กสาวนั้นดูจริงจัง!
เหตุการณ์นี้เป็นปกติมากในหมู่คู่รักในชนบท
ทุกวันมีคู่รักนับไม่ถ้วนอยู่ด้วยกันในทุ่งหญ้า
หยุนเคอไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร เพียงแต่ว่ามันหวานกว่าน้ําตาลเคี่ยวที่เขาเคยกินในเมืองหลวงตั้งแต่ยังเด็ก
หลังจากหว่านเมล็ดทั้งหมดแล้ว พื้นดินก็ยังเหลือมากกว่าครึ่ง!
หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วและไม่รู้ว่าจะทําอย่างไร
หยุนเคอทําพื้นที่ตรงนี้ให้ดีขึ้น จะตําหนิที่เขากระตือรือร้นก็คงจะไม่ดีนัก
“ข้าจะใช้บริเวณที่เหลือปลูกดอกไม้ ท่านคิดว่าอย่างไร?”
หยุนเคอพยักหน้าซ้ําแล้วซ้ําเล่า
ไม่ใช่ว่าเขาอยากเห็นดอกไม้หรือต้นไม้อะไรทั้งนั้น! แต่เมื่อเขาได้สติคืนมาก็นึกได้ว่าแปลงผักที่อื่นในหมู่บ้านนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ใหญ่โตขนาดนี้
หลังจากหว่านเมล็ดเสร็จ เขาถึงตระหนักว่าสิ่งที่ทําในตอนเช้านั้นไร้สาระเพียงใด
แต่การทํางานหนักก็ได้รับค่าตอบแทนแล้ว น่าเสียดายพื้นที่ว่างเปล่าเหล่านั้น
โชคดีที่หญิงสาวคํานวณแผนการ หรือพวกผู้หญิงชอบดอกไม้และต้นไม้เหล่านี้ เช่นนั้นปล่อยให้นางทําไป
เช้านี้คงทําให้นางไม่พอใจนัก
หยุนเคอพยายามทําความเข้าใจ หรือเขาตั้งใจทําให้หญิงสาวพอใจเพราะความชอบงั้นหรือ?
แม้ว่าตัวตนของเขาจะไม่ชัดเจน และการอยู่เคียงข้างหญิงผู้นี้จะนํามาซึ่งความหายนะแก่เขา แต่อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันของคนสองคน คาดว่าไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาไม่ผูกพันธ์กัน
“แต่การปลูกผักไม่ใช่เรื่องง่าย! หยุนเคอเจ้าแรงเยอะ ไปตักน้ําที่ลําธารในหมู่บ้านมาเถิด”