สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 18 มาจากที่ใด
ถัดมายังผนังอีกฝั่งหนึ่ง พบโต๊ะหินที่มีหนังสือมากมายกองอยู่พร้อมพู่กันสำหรับเขียนและยังมีห้องครัวอีกด้วย ถ้ำเล็ก ๆ เช่นนี้กลับมีของครบครันราวกับคฤหาสน์!
“ดูเสร็จรึยัง?” หยุนเคอถามโดยไม่สนใจว่าหญิงสาวตื่นเต้นกับถ้ำแห่งนี้เพียงใด
“โอโห ที่นี่ช่างยอดเยี่ยมนัก!”
เมื่อได้ยินดังนั้นหยุนเคอจึงตกตะลึงไม่น้อย เขาคิดว่าเฉินเถียนเถียนจะตั้งคำถามว่าเหตุใดชายร่างใหญ่กำยำเช่นนี้จึงมาอยู่ในถ้ำเล็ก ๆ เพราะบ้านของเฉินเถียนเถียนเป็นบ้านที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน ถึงแม้เมื่อก่อน… ช่างเถิด… เมื่อก่อนก็นับว่าเป็นอดีตไปแล้ว!
ถึงแม้เฉินเถียนเถียนจะโดนรังแก แต่ไม่ว่าอย่างไรบ้านก็ย่อมดีกว่าถ้ำ ไม่น่าเชื่อว่านางจะประทับใจกับที่แห่งนี้!
“บ้านเจ้าเป็นบ้านที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน แต่เหตุใดกลับชื่นชมถ้ำเล็กๆ เช่นนี้เล่า?”
เฉินเถียนเถียนนิ่งไปครู่หนึ่ง เป็นความจริงที่ว่าบ้านของนางเป็นบ้านที่ดีที่สุด แต่นางเพียงได้อยู่ในโรงเก็บไม้เท่านั้น
ณ ที่แห่งนั้นมีเพียงฟืนที่นางเป็นคนเก็บมาจากภูเขา โดยคำสั่งของแม่เลี้ยงใจร้ายอย่างหลินชวนฮวา แต่ส่วนอื่น ๆ ในบ้าน เฉินเถียนเถียนไม่มีสิทธิ์ย่างกรายเข้าไปแม้สักก้าว
“ที่แบบนั้นไม่ต่างอะไรกับรังหนู แต่ถ้ำของเจ้าช่างเรียบง่ายและสบายตานัก”
หยุนเคอไม่ได้ตอบกลับอะไรและก้มหน้าจัดการสัตว์ป่าที่เขาล่าได้เมื่อวาน เฉินเถียนเถียนสังเกตเห็นว่าหยุนเคอล่าสัตว์ได้เยอะมากและเหยื่อเหล่านั้นก็ถูกวางกองเต็มพื้นจึงร้องออกอย่างตื่นเต้น “โอโห! เจ้าช่างล่าสัตว์ได้เก่งยิ่งนัก…”
หยุนเคอรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมากแต่ด้วยความน่าสงสารของนางจึงทำให้เขาอดทนฟังต่อ ส่วนเฉินเถียนเถียนพูดจาเจื้อยแจ้วสารพัดจนในที่สุดก็วนมาถึงเรื่องของเขา
“หยุนเคอ… เจ้าดูไม่ใช่คนธรรมดา มีเรื่องอะไรในใจใช่ไหม? เจ้าอยู่คนเดียวคงไม่มีใครให้ระบาย เช่นนี้เจ้าอยากเล่าให้ข้าฟังหน่อยไหม?”
คำพูดเหล่านั้นทำให้หยุนเคอโกรธเป็นอย่างมาก สายตาของเขาดูเย็นชายิ่งกว่าเดิมจนทำให้รู้สึกวังเวงไปทั้งถ้ำ ร่างกายของเฉินเถียนเถียนสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวแต่เมื่อมองหน้าหยุนเคอกลับไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“โอ้… เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดหน้าจึงรู้สึกหนาวขึ้นมาเช่นนี้?!”
หยุนเคอทนไม่ไหวและลากตัวเฉินเถียนเถียนออกจากถ้ำทันที แต่แม้เฉินเถียนเถียนจะโวยวายเพียงใดเขาก็ไม่ฟัง!
หยุนเคออุ้มเฉินเถียนเถียนมายังเชิงเขา ก่อนจะทิ้งตัวนางลงและเดินกลับไป
เฉินเถียนเถียนก่นด่าตามหลังทันที “ไม่แปลกใจที่ไร้คู่ครอง ช่างไม่รู้จักประนีประนอมเอาเสียเลย ข้าน่ะงดงามและบอบบางถึงเพียงนี้… กล้าโยนข้าลงได้อย่างไร?”
หยุนเคอได้ยินทุกคำพูดของเฉินเถียนเถียนแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอนหายใจและเดินจากไป
ขณะเดียวกันชาวบ้านต่างเดินกลับจากทุ่งนาท่ามกลางแดดแรงกล้า จุดหมายคือการพักกลางวันที่บ้านของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าเฉินเถียนเถียนกำลังเดินลงมาจากภูเขา ชาวบ้านเหล่านั้นก็ต่างสงสัยอย่างใคร่รู้ “เมื่อวันก่อนนางยังวิ่งร้องไห้ลงมาจากภูเขาไม่ใช่หรือ? เหตุใดวันนี่กลับร่าเริง? แม้ร่างกายจะดูสกปรกแต่ใบหน้ารับดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น!”
“หืม? เจ้าคือลูกสาวครอบครัวเฉินไม่ใช่หรือ? ขึ้นไปทำอะไรบนเขา?”
เฉินเถียนเถียนรีบตอบทันที “คือ… คือว่า… ข้าหิว”
หญิงสูงวัยผู้เป็นที่รู้จักกันดีในนาม ‘ป้าปากสว่าง’ ชะงักและวางจอบลงจากบ่าทันที
“หิวได้อย่างไร? ครอบครัวเจ้าร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้านนี้ไม่ใช่หรือ? ช่วงเวลานี้ทุกบ้านต่างยุ่งกับการทำไร่ไถนาเพื่อหาเงิน ยกเว้นบ้านเจ้าแต่เหตุใดยังบอกว่าหิวเล่า?”
เฉินเถียนเถียนเดินถอยหลังและก้มหน้าลงราวกับว่ากำลังถูกสอบปากคำ
“ท่านแม่บอกว่าที่บ้านมีหนูจึงต้องซ่อนอาหารไว้ เมื่อข้าตื่นมาก็ไม่มีวัตถุดิบให้ใช้ทำอาหาร ยิ่งไปกว่านั้นท่านกลับก่นด่าว่าไม่ยอมให้กินของในบ้านและข้าไล่ออกมา!”
“โธ่เอ๊ย! ช่างน่าสงสารเสียจริง พ่อเจ้าก็ไม่สนใจเลยหรือ?”
เฉินเถียนเถียนรู้กฎของยุคโบราณดีว่าการฟ้องร้องหรือให้ร้ายพ่อแท้ ๆ ของตนเป็นสิ่งไม่ดี
“ทะ… ท่านพ่อ… อาจไม่รู้…”
ป้าหวงรู้สึกสงสารเฉินเถียนเถียน “ช่างไม่ได้เรื่องเสียจริง! กล้าโยนลูกสาวแท้ๆ ของตนให้แม่เลี้ยงดูแลได้อย่างไร?!”
“ชาวบ้านต่างชมว่าหลินชวนฮวาเป็นคนดี ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่านางเพียงแสร้งทำ! ไม่เช่นนั้นนางจะปล่อยให้เด็กสาวผู้นี้ขึ้นเขาไปหาของกินทำไมกัน?”
เฉินเถียนเถียนแสร้งทำตัวสั่นสะท้านให้น่าสงสารยิ่งขึ้นและด้วยเสื้อผ้าอันสกปรกที่นางสวมใส่ยิ่งทำให้น่าเวทนาพร้อมกล่าวต่อ “ข้าหิวมากจึงไปหาอาหารบนภูเขา แต่… แม้ผลไม้ป่ายังไม่มีให้ข้ากินเลย”
ป้าหวงฟังแล้วรู้สึกสงสารเฉินเถียนเถียนเป็นอย่างมาก หากเป็นเมื่อก่อนผู้หญิงเดินขึ้นเขานับเป็นเรื่องปกติเพราะการออกไปเก็บเห็ดหรืออาหารป่ามาขายก็ยังพอทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่หลังจากที่มีคนป่ามาอาศัยอยู่ก็ไม่มีใครกล้าขึ้นไปอีกเลยเพราะหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็อาจเป็นผลเสียต่อชีวิตได้!
“เถียนเถียน หากหิวก็ให้มาบ้านข้า อย่าขึ้นไปบนนั้นอีก บนภูเขามีคนป่าและน่ากลัวยิ่ง!”
เฉินเถียนเถียนยิ้ม “ขอบคุณป้าที่เป็นห่วงข้า แต่ข้าหิวจนเกือบอดตาย… ยังจะให้สนใจเรื่องพวกนี้อีกหรือ?”
“ไม่ว่าอย่างไรป้าก็ต้องดูแลครอบครัวคงดูแลข้าไปตลอดไม่ได้ หากไปบ้านป้าบ่อย ๆ ท่านพ่อคงไม่สบายใจแน่”
ป้าหวงลูบหัวเฉินเถียนเถียนด้วยความเวทนา “เฮ้อ… เด็กน้อยผู้น่าสงสาร เสียดายที่ข้าไม่ได้ร่ำรวยไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องไปหาของกินบนภูเขาเช่นนี้”
“แต่เจ้าต้องเชื่อฟังข้า คนป่าผู้นั้นเป็นใครมาจากไหนไม่รู้ทั้งยังเป็นผู้ชายและเจ้าเองก็เป็นหญิงที่มีหน้าตาสะสวย หากเขาทำมิดีมิร้ายต่อเจ้าจะทำอย่างไร?”
เฉินเถียนเถียนตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “โธ่… ป้าไม่รู้หรือว่าข้าแข็งแกร่งถึงเพียงใด?”