สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 184 ความอัปยศ
สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 184 ความอัปยศ
ตอน 184 ความอัปยศ
ทุกสิ่งที่ทั้งสามคนพูดคุยกันด้วยนเป็นบทสนทนาปกติในแวดวงการค้า แต่ใครจะคิดว่าสําหรับเฉินไฉ่อีจะเป็นสิ่งที่หญิงไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง!
เฉินไฉ่อีเสียหน้าและลําบากใจเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นปฏิกิริยาของหลี่ซื่อฮวายิ่งทําให้นางอับอายมากกว่าเดิม!
“หากเจ้าหมายใจจะคุยเรื่องกิจการจริงๆ ข้าคงไม่พูดจาเช่นนี้ แต่… เห็นได้ชัดว่าเจ้ากําลังยั่วยวนนายน้อยหลี่แม้จะมีคู่หมั้นแล้วก็ตาม! หยุนเถียนเถียน เหตุใดเจ้าจึงไร้ยางอายเช่นนี้?”
หยุนเถียนเถียนไม่พอใจต่อคําดูถูกของเฉินไฉ่อีเป็นอย่างมาก จึงยืนขึ้นตะโกนด้วยความโมโห!
“เสี่ยวชื่อ ช่วยข้าที่ได้ไหม? ไปตามหัวหน้าหมู่บ้านมาให้ข้าที!”
เสี่ยวซื่อหันมองเจ้านายของตนเพื่อรอคําสั่ง เมื่อเห็นว่าหลี่ซื่อฮวาพยักหน้าเขาจึงรีบวิ่งไปยังบ้านหัวหน้าหมู่บ้านทันที!
เฉินไฉ่อีมองนายน้อยหลี่พร้อมพูดทั้งน้ําตา “นายน้อยหลี่ นอกจากใบหน้าแล้วหญิงผู้นี้มีอะไรดีหรือ? นางเทียบอะไรข้าไม่ได้เลยด้วยซ้ํา! ไม่เข้าใจจริงๆว่าเหตุใดท่านจึงหลงใหลนางนัก?”
หลี่ซื่อฮวาแสยะยิ้ม “ดูเหมือนว่านางเฉินจะไม่รู้จักตนเองเอาเสียเลย! ข้ามีสนมมากมายในบ้าน ไม่จําเป็นต้องกระเสือกกระสนไปหาใคร และข้าก็ไม่ได้สนใจในตัวเจ้า! เจ้าเป็นเพียงห
ญิงชนบทที่ไม่ได้รอบรู้หรือเก่งกาจเช่นหยุนเถียนเถียน เหตุใดข้าต้องสนใจคนงี่เง่าเช่นเจ้าด้วย?! เอาล่ะ… ไปเรียกหัวหน้าหมู่บ้านมาเร็วๆ ถิด ปล่อยให้เขาจัดการลูกสาวด้วยตนเอง ส่วนนางหยุน… ข้าว่าเราย้ายโรงงานไปที่หมู่บ้านอื่นดีกว่า อย่าทนอยู่ให้ใครดูถูกเช่นนี้เลย!”
ขณะเดียวกันเสี่ยวซื่อและหัวหน้าหมู่บ้านก็เดินทางมาถึง แต่เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้นทําให้เขาไม่กล้าก้าวขาเข้าไป
ทว่าเสี่ยวซื้อกลับไม่ปล่อยให้หัวหน้าหมู่บ้านหนีไปได้ เขาจะโกนเสียงดังทันที “หัวหน้าหมู่บ้าน! ท่านควรเข้าไปข้างในเพื่อดูสิ่งที่ลูกสาวของท่าได้กระทํา! เจ้านายของข้ามาที่นี่เพื่อเจรจากิจการ แต่นางกลับเข้ามาก่อเรื่องวุ่นวาย!”
ใบหน้าของเฉินซ่งแดงกําด้วยความละอายก่อนจะก้มเดินเข้าไป ในบ้านทันใดนั้น! เฉินไฉ่อิที่เห็นว่าพ่อมาถึงแล้วก็ก้มลงพร้อมใบหน้าซีดเผือดทันที!
“พูดต่อสิ! เฉินไฉ่อี… ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าเจ้าใส่ร้ายข้าเพื่อสิ่งใดกัน? ข้าเพียงเจรจาธุรกิจกับเขา ยิ่งไปกว่านั้นข้าเองก็มีคู่หมั้นแล้ว คิดว่าข้าจะกล้ายั่วยวนนายน้อยหลี่ต่อหน้าคนรักอย่างนั้นหรือ?! และแม้นายน้อยหลี่จะวิเศษมากสําหรับเจ้า แต่เขาก็เป็นเพียงคู่ค้าสําหรับข้า ความหึงหวงทําให้เจ้าสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นถึงเพียงนี้เลยหรือไร?! ทั้งยังกล่าวหาว่าข้าไม่รักษาศีลธรรมและวิถีสตรีอีกด้วย เฉินไฉ่อี… พ่อแม่เจ้าอบรมสั่งสอนเจ้ามาอย่างไรกัน?”
เมื่อได้ยินดังนั้นหัวหน้าหมู่บ้านก็นิ่งเงียบ แม้จะเห็นว่าหยุนเถียนเถียนกําลังชี้หน้าตําหนิลูกสาวของตนก็ตาม
“แม่นางเถียน… ข้าขอโทษที่ลูกสาวทําให้เจ้าเดือดร้อน แต่โปรดอย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เลย ข้าสัญญาว่าจากนี้ไปจะไม่ยอมให้นางมาก่อความวุ่นวายอีก ไม่ต้องกังวล ไม่อีกําลังจะแต่งงานกับชายอื่นในไม่ช้า”
เฉินไฉ่อีรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ทําให้ผู้เป็นพ่อต้องก้มหน้าขอโทษต่อพวกเขาซึ่งอายุน้อยกว่า
ทว่าความรู้สึกผิดกลับพ่ายแพ้ความเห็นแก่ตัว “พ่อ! จะขอโทษพวกเขาเพื่อสิ่งใดกัน?! นางอาจท้องก่อนแต่งและไม่รู้ว่าใครคือพ่อเด็ก จนต้องหาชายมารับผิดชอบเช่นแม่ของนาง เห็นได้ชัดว่าหยุนเถียนเถียนกําลังยั่วยวนนายน้อยหลื่อย่างน่าไม่อาย นางไม่เหมาะสมกับเขาด้วยซ้ํา! เหตุใดท่านจึงต้องกล่าวเช่นนั้นทั้งๆที่ข้าไม่ผิด!”
“หากเจ้ายอมรับผิดและแต่งงาน พ่อและแม่จะไม่ลงโทษเจ้า กลับบ้านกับข้าเดี๋ยวนี้!”
อันที่จริงหัวหน้าหมู่บ้านไม่ต้องการตําหนิลูกสาวต่อหน้าผู้อื่น ทว่านางไม่ฟัง เขาจึงจําเป็นต้องทํา
“ข้าไม่กลับ!”
“เจ้าจะอยู่ที่นี่เพื่อสิ่งใดกัน?! ไฉ่อี… พ่อขอร้อง… อย่าทําเรื่องน่าอายเช่นนี้อีกเลย หากเรื่องในวันนี้แพร่สะพัดออกไป ต้องเป็นผลเสียต่อการแต่งงานของเจ้าในอนาคต
“อันที่จริงนายน้อยหลี่ไม่ได้สนใจนางเลยด้วยซ้ํา ยิ่งเมื่อเห็นเช่นนี้ยิ่งทําให้เขาเกลียดชังหญิงราคาถูกคนนี้! หญิงที่คอยสร้างเรื่องเดือดร้อนและไร้ค่าเช่นนี้ ไม่คู่ควรกับนายน้อยหลี่แม้แต่น้อย!”
หยุนเถียนเถียนโกรธเคืองต่อคําพูดของเฉินไฉ่อีเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าแม่ของนางจะเคยทําสิ่งใดไว้ในอดีต แต่นางก็ได้ตายจากไปแล้ว จึงไม่สมควรได้รับคําวิจารณ์เสียหายเช่นนี้
“ข้าไม่รู้ว่าข้าคู่ควรกับนายน้อยหลี่หรือไม่ แต่เฉินไฉ่อี เจ้าคิดจริงๆหรือว่าหญิงชนบทธรรมดาเช่นเจ้าจะคู่ควรกับลูกชายตระกูลใหญ่?! ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังด้อยกว่าแม่ของขามาก และนางยังอาวุโสกว่าเจ้า เหตุใดจึงกล้ากล่าวถึงนางเช่นนี้?!”
“นางทั้งไร้ยางอาย ท้องไม่มีพ่อ และผิดวิถีสตรีจนให้กําเนิดลูกสาวผู้ชั่วร้ายเช่นเจ้า ยังจะให้ข้านับถือว่านางประเสริฐอีกหรือ?!”
หยุนเถียนเถียนพุ่งเข้าตบเฉินไฉอีทันที่ด้วยความโกรธ!
ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยมีใครกล้าตบตีเฉินไฉ่อีมาก่อน แม้กระทั่งพ่อแม่ของนาง ทว่าหยุนเถียนเถียนไม่สามารถระงับอารมณ์ได้จนพลั้งมือตบนางไปอย่างรุนแรง
เฉินไฉอียืนนิ่งด้วยความงุนงงพร้อมเลือดที่ไหลออกจากมุมปาก
เมื่อเห็นดังนั้น หัวหน้าหมู่บ้านรีบอ้อนวอนแทนลูกสาวทันที “แม่นางหยุน… โปรดเมตตานางด้วย!”
เฉินซ่งตกตะลึงจนปากอ้าค้าง แม้จะต้องการขอโอกาสแต่ก็ไม่สามารถทําได้ เพราะลูกสาวของเขาทําผิดมหันต์ทั้งยังกล่าวหาและด่าทอหยุนจิงเอ๋อผู้ล่วงลับที่เป็นที่รักของชาวบ้านทุกคน