สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 200 ซื้อที่ดิน
สามีข้า…คือพรานป่า ตอนที่ 200 ซื้อที่ดิน
ตอนที่ 200 ซื้อที่ดิน
ใบหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านถึงกับบิดเบี้ยว ลูกสาวเขามีคุณธรรมนั้นหรือ? แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูกเขาจึงไม่กล่าวโต้แย้งเรื่องนี้
อีกด้านหนึ่งหยุนเถียนเถียนกลับมานั่งดื่มน้ําที่ลานบ้าน เมื่อคิดถึงความอัดอั้นตันใจเมื่อครู่นางก็เอ่ย “ผู้ใหญ่บ้านสมควรตาย นี่มันเรื่องอะไรกันถึงลากข้าลงน้ําเช่นนี้”
หยุนเคอเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จึงอดไม่ได้ที่จะลอบชื่นชม แม้ห ยุนเถียนเถียนจะโชคร้ายแต่นางสามารถไล่เจียวเจียวออกไปจากหมู่บ้าน และดึงตัวเองออกมาจากเรื่องนี้ได้ด้วย
แต่เหมือนว่าสายตาของหยุนเคอจะเผยความปลาบปลื้มมากเกินไปจนหยุนเสียนเถียนรู้สึกได้
“มีอะไรรึ? ข้าให้คนที่จงรักภักดีต่อเจ้าไปเป็นนางบําเรอแก่ผู้อื่น เจ้าไม่มีความสุขงั้นหรือ?”
หมายความว่าอย่างไร หยุนเคอสับสนมากความเงียบของหยุนเคอเผลอไปยั่วยุห ยุนเถียนเถียนเสียแล้ว
เวลาผู้หญิงอารมณ์เสียมันควรเงียบที่ไหนกัน? เหมือนกับหยุนเถียนเถียน ยิ่งเขาไม่ตอบนางนางก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น
“หึ! ถ้าเจ้าชอบเฉินเจียวเจียว ข้าจะบอกสูตรเนื้อให้เจ้าไปช่วยนาง นางจะได้กลับมาอยู่เคียงข้างเจ้าข้าคิดว่าเฉินเจียวเจียวคงจะมีความสุขนัก”
แม้หยุนเคอจะไม่รู้ทําไมหยุนเถียนเถียนถึงพูดแบบนี้ออกมา แต่เขาไม่ได้มีความคิดที่จะพาเฉินเจียวเจียวมาอยู่ข้างกาย ยิ่งไปกว่านั้นนางชอบคนที่ฐานะเกรงว่าที่เข้ามาหาเขาก็เพราะสูตรอาหารซะมากกว่า
“ไม! เฉินเจียวเจียวต้องการคนร่ํารวยเท่านั้น นางต้องการเพียงแค่สูตรเนื้อเราอย่ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”
หยุนเถียนเถียนกลั้นหายใจในลําคอเสมือนหายใจไม่ออก นางรู้สึกหยุนเคอตั้งใจช่วยชีวิตคนแต่ก็ไม่อยากรับปัญหาเข้าตัว
“ถ้าเจ้าชอบเฉินเจียวเจียวจริง ๆ ข้าหาวิธีช่วยเหลือได้ นางชอบเงินเจ้าก็แค่มีเงิน!”
หยุนเคอมองหยุนเสียนเถียนอย่างประหลาดใจ เขาทําตัวเหมือนคนชอบเฉินเจียวเจียวตอนไหนกัน?
“ข้าไม่ได้ชอบเฉินเจียวเจียว ข้า”
เมื่อพูดถึงตรงก็หยุดไป หยุนเคอไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ ริมฝีปากเขาสั่นสะท้าน รู้สึกราวกับมีประโยคติดอยู่ในใจแต่ไม่สามารถปล่อยคายออกจากปากได้
ในที่สุดหยุนเถียนเถียนก็ยอมแพ้ ช่างมันเถอะ…. ด้วยนิสัยของหยุนเคอจะพูดมาสักประโยคช่างชักช้าจนน่ารําคาญ นางควรคาดหวังอะไรจากปากของเขากัน?
เมื่อตระหนักอย่างนั้นแล้ว หยุนเถียนเถียนหมุนตัวเข้าไปในห้องโดยไม่พูดจา
หลังจากนั้นไม่นานหยุนเคอก็พึมพํากับตัวเองอย่างแผ่วเบา “คนที่ข้าชอบก็คือเจ้า!”
น่าเสียดายที่หยุนเถียนเถียนปิดประตูไปนานแล้วทําให้ไม่ได้ยินประโยคที่เขากล่าวออก
หยุนเถียนเถียนที่เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ได้ทําสิ่งใดแต่กลับตรงไปที่มิติแทน
เสี่ยวเถาใส่แป้งไว้ในมิติแล้ว ขอเพียงหยุนเถียนเถียนคิดก็สามารถหยิบมันออกมาได้
แป้งชุดแรกถูกหลีชื่อฮวาเอาไป เขาถึงกับนํารถม้ามารับ เสี่ยวเถากล่าวว่าข้าวมาจากธรรมชาติบริสุทธิ์ไม่สารปนเปื้อนดังนั้นราคาของมันจึงสูงเป็นพิเศษ
แป้งชุดแรกถูกนําออกมาอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าหยุนเคอจะรู้ว่ามีบางอย่างผักปกติกับร่างกายของเถียนเถียนแต่เขาก็ไม่เคยรู้ว่ามันคืออะไร!
เรื่องนี้เช่นนี้เพียงแค่ครั้งสองครั้งก็เพียงพอแล้ว หากว่านานเกินไปอาจจะมีคนสงสัยได้ของแปลกปลอมเช่นนี้ห้ามเปิดเผยต่อสาธารณะเด็ดขาด
ผู้ใหญ่บ้านล่วงเกินนาง ถ้านางต้องการซื้อที่ดินแน่นอนว่าไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านได้ ด้วยความไร้ยางอายของอีกฝ่ายอาจจะสร้างปัญหาให้นางอีกครั้ง
แล้วใครจะช่วยนางเรื่องนี้ได้
หยุนเถียนเถียนตัดสินใจที่จะไปหาหลีชื่อฮวาในเมือง นางจะขอซื้อภูเขาบางส่วนโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างเขา จากนั้นจะจ้างคนปลูกเมล็ดข้าวสาลีและจ้างคนเก็บเกี่ยวต่อไป
เมื่อตัดสินใจได้ หยุนเสียนเถียนจึงใช้เวลาพักผ่อนทั้งคืนอย่างสบายใจ
เช้าตรู่วันถัดมา หยุนเสียนเถียนจัดการตัวเองเรียบร้อยแน่นอนว่าไม่ลืมที่จะทาครีมบนใบหน้าทําให้ความงามของนางเปล่งประกายออกทั้งหมดทําให้นางกลายเป็นหญิงสาวชาวนาที่งดงาม
ขณะที่นางเดินออกจากบ้านไป หยุนเคอก็ออกมาเช่นกัน เขารู้สึกงงเล็กน้อยทําไมเด็กคนนั้นถึงไม่เรียกเขาไปด้วยกัน?
เมื่อคิดถึงสิ่งที่สาวน้อยคนนั้นทําไว้ เขาก็พลันตื่นตระหนก เมื่อเร็ว ๆนี้มีแต่เรื่องอย่างเช่นผู้ใหญ่บ้านจ้องจะทําร้ายนางมิใช่หรือ? หยุนเคอจึงรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
เกวียนของลุงเฉินโยกเยกไปมา ขณะที่หยุนเถียนเถียนกําลังจะหลับก็พบว่านางเข้ามาถึงในเมืองแล้ว
คราวนี้หยุนเวียนเถียนไม่ได้ไปที่ร้านอาหาร เพราะตรงนั้นสะดุดตาเกินไปนางตรงไปยังโรงน้ำชาที่เฉินไม่อี้นัดดูตัวก่อนหน้านี้
เมื่อหลีชื่อฮวาเห็นหยุนเสียนเถียนมาพบ เขารู้สึกราวกับเห็นเทพแห่งโชคลาภดวงตาเป็นประกายอย่างปลื้มปิติ
“แม่นางหยุน เจ้ามาที่นี่มีอะไรเป็นพิเศษงั้นหรือ?”
หยุนเถียนเถียนยิ้ม “ท่านไม่ต้องกล่าวให้มากพิธี ข้ามีธุระกับท่าน”
“ต้นกําเนิดแป้งของข้ามันลึกลับมากจนข้าไม่สามารถบอกได้ว่ามันมาจากไหนและก็ไม่สามารถบอกคนอื่นได้เช่นกัน ข้าต้องปกปิดมันไว้ แป้งสองชุดนี้ควรมีแหล่งที่มาตอนนี้ข้าเลยคิดว่าเราต้องปลูกมันขึ้นมา”
“แต่การปลูกพืชย่อมต้องมีที่ดินเพราะปลูก ขาตั้งใจจะปลูกมันด้วยตัวเอง ยังไงซะหมู่บ้าน เทพธิดาก็มีที่ราบลุ่มอยู่มากมายข้าจึงอยากให้ท่านช่วยซื้อที่ดินสักสามสิบไร่”
หลีชื่อฮวาได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย “เป็นความคิดที่ดี ถ้าเจ้าสามารถปลูกข้าวสาลีได้จริง ๆ เจ้าอยากได้สิ่งใดข้าจะหามาให้”
“แต่ตอนนี้ข้ามีปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งข้าเลยมาหาท่านเพื่อขอความช่วยเหลือ”
หลี่ชื่อฮวายิ้ม ยกแก้วดื่มชาไปอีกหนึ่งแล้วพูดช้า ๆ ว่า “พูดมาสิ ตราบใดที่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องข้าก็ช่วยเจ้าได้ทุกอย่าง”
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เมื่อวานเจ้าก็น่าจะเห็นแล้ว ข้าทําให้ผู้ใหญ่บ้านไม่พอใจมากการซื้อที่ดินในหมู่บ้านต้องผ่านมือเขา มันจะไม่มีปัญหางั้นหรือ?”
“เจ้าหมายถึงให้ข้าซื้อที่ดินให้เจ้างั้นหรือ?”
หยุนเถียนเถียนยิ้มหวาน นางจิบชาไปอีกหนึ่ง นางไม่รู้ว่าใบชานี้ทํามาจากอะไร มันต่างจากที่นางเคยมอบให้หลี่ซื่อฮวาก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
“ชานี้ไม่ค่อยดีนัก แต่โรงน้ําชาหรูยีนั้นนับว่าดี ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถหยิบของล้ําค่าออกมาได้ง่าย ๆ ในเมืองเล็ก ๆ น้ําชานี้ก็นับว่าไม่เลวร้ายนัก”
“แล้วท่านจะช่วยข้าซื้อที่ดินหรือไม่? หากไม่ก็ช่วยแนะนํานายอําเภอให้ข้าสักคน ข้ารู้ว่าพ่อค้าเช่นท่านต้องรู้จักกับทางการบ้าง…”
ท่านผู้พิพากษาก่อนหน้านี้แต่เดิมคือนายอําเภอเป็นความเข้าใจผิดของนักแปล จึงขอเปลี่ ยนแปลงมา ณ ที่นี้