สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 219 คนป่า
ตอนที่ 219 คนป่า
และเพื่อเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรหยุนเคอจึงไม่อายที่จะเอ่ยปากพูดต่อ
“เฉินเอ๋อลองคิดดูสิมีใครในหมู่บ้านนี้คู่ควรกับพี่สาวเจ้าอีกบ้าง?นอกจากนี้ชาวบ้านทั้งหมดต่างก็นิสัยไม่ดีแต่ข้าแตกต่าง!อีกทั้งข้าก็ชอบพี่สาวเจ้าอย่างจริงใจด้วย”
“หากคิดจะฝากฝังพี่สาวเอาไว้กับคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าฝากไว้กับข้าย่อมดีกว่าเห็นๆไม่ต้องกังวลหรอกข้าไม่มีวันรังแกพี่สาวเจ้าแน่นอนและหากเจ้าลองไตร่ตรองดูเจ้าจะเห็นว่ามีแต่พี่สาวเจ้าที่รังแกข้าเสมอมา!”
เฉินเฉินเม้มปากแน่นก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงขมขึ้น“การพูดเรื่องเหล่านี้กับข้าล้วนแต่ไม่มีประโยชน์!พี่สาวข้ามิได้ให้ข้าเป็นคนตัดสินใจนี่เฮ้อแต่ข้าก็อดห่วงนางไม่ได้จริงๆ!”
“แต่เจ้าช่วยข้าได้ก็เพียงแค่พูดถึงข้าในทิศทางดีๆให้นางฟังบ้างก็เพียงพอ!”
เฉินเฉินกลอกตาไปมาก่อนจะถามตรงๆ“เรื่องนั้นมันก็ใช่แต่หากข้าทำสิ่งนั้นแล้วข้าจะได้รับอะไรตอบแทนเล่า?”
ไอ้เด็กน้อยคนนี้
บัดซบ!
“เจ้าก็คิดดูเถิดพี่สาวเจ้างดงามถึงเพียงนี้ย่อมมีผู้ชายมากหน้าหลายตาอยากจะตบแต่งด้วยเจ้ายอมให้นางถูกคนอื่นหลอกลวงได้หรือ?หากแต่งงานกับข้าแน่นอนว่าข้าจะไม่มีวันหลอกลวงนาง”
เฉินเฉินกลอกตาราวกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่ตอนนี้หยุนเถียนเถียนเดินออกมาพร้อมกับถาดอาหารในมือทั้งสองจึงต้องหยุดประเด็นสนทนาอย่างรวดเร็ว
การโกนหนวดเคราทั้งหมดออกนับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งแต่เมื่อนึกดูแล้วมันก็คุ้มค่าที่ได้เห็นว่าหยุนเกียนเถียนชื่นชมใบหน้าของเขาเพียงใด
เร็วๆนี้ที่ผ่านมามีหญิงสาวในหมู่บ้านหลายคนสร้างความไม่พอใจให้กับหยุนเลี่ยนเกียนและภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านมักจะเป็นคนตั้งต้นความรุนแรงเสมออีกทั้งลูกสาวของนางก็ไม่ยอมเลิกราเช่นกัน
ส่วนเฉินเจียวเจียวที่ออกเรือนไปเป็นนางบำเรอของหลี่เฟิงนางไม่ได้รับสินสอดแม้สักตำลึงเดียวเพราะความคับข้องใจของหลี่เฟิงนั้นมากมายเหลือเกินอีกทั้งครอบครัวของนางก็ไม่มีเงินคืนเขาเช่นกันหนึ่งร้อยตำลึงที่เคยพูดกล่าวถูกลืมไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น
แน่นอนว่าเฉินเจียวเจียวไม่ใช่นางบำเรอที่หลี่เฟิงพอใจนักเขามักจะเอาความโกรธมาลงกับนางอยู่เสมอและบางครั้งถึงกับลงไม้ลงมืออย่างบ้าคลัง
เฉินเจียวเจียวรู้สึกว่าแม่ของตนเพียงผลักตนเองออกมาเพื่อหลบหนีการจ่ายเงินร้อยตำลึงคืนหลี่เฟิงเท่านั้นนางจึงปักใจเชื่อเสมอมาว่าแม่ขายนางเพื่อเอาตัวรอด!
และเพราะถูกขายทิ้งไปแล้วครอบครัวจึงไม่คิดจะสนใจใยดีนางอีกตอนนี้เฉินเจียวเจียวไม่ได้กลับไปที่บ้านและให้ครอบครัวของตนเสวยสุขในขณะที่นางต้องทนทุกข์
แต่ภรรยาของเฉินฉ่เกินจะปล่อยให้ลูกสาวมีความสุขอยู่ฝ่ายเดียวได้อย่างไรนางก็คิดเช่นกันว่าตนเองขายหน้าและไม่ได้รับเงินสินสอดสักคำถึงแต่คนอย่างหลี่เฟิงก็ไม่อาจยั่วยุได้ง่ายเช่นนี้นางจึงไม่กล้าจะไปเรียกร้องอะไรที่เรือนของอีกฝ่ายเช่นกัน
นางสูญเสียลูกสาวไปหนึ่งคนอย่างไร้ซึ่งผลประโยชน์แม้แต่ราคาเจ้าสาวก็ไม่ได้รับความขุ่นเคืองทั้งหมดนี้จึงตกอยู่กับหยุนเสียนเถียนซึ่งเป็นต้นตอของเรื่องราวภรรยาของเฉินฉ่เกินจึงคิดที่จะแก้แค้นนางในสักวัน
แน่นอนว่าสำหรับคนที่เกลียดชังแล้วภรรยาของเฉินฉ่เกินค่อนข้างจะจับตามองอีกฝ่ายโดยไม่ละสายตา
วันนี้เป็นวันแรกที่หยุนเคอโกนหนวดเคราและนางจดจำเขาไม่ได้บวกกับไม่เห็นหน้าหยุนเคอมาหลายวันจึงคิดว่าพรานป่าร่างใหญ่ผูกคอตายไปเสียแล้ว
อีกทั้งบ้านของหยุนเวียนเถียนอยู่ใกล้กับทางเข้าหมู่บ้านมากหากมีการทะเลาะเบาะแว้งและพรานป่าหายตัวไปหญิงสาวคนนั้นจะไม่ถูกลงโทษ…
ภรรยาของเฉินฉ่เกินมองเข้าไปในบ้านของหยุนเถียนเถียนแล้วจึงรีบเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำนางพุ่งตรงไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านทันทีแต่ไม่ใช่ต้องการจะพบเฉินซึ่งนางวิ่งไปหาเฉินไปหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่แทน!
“หัวหน้าหมู่บ้านไม่ดีแล้ว!”เฉินไปขมวดคิ้วทันทีที่เห็นภรรยาของเฉินฉ่เกินวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามานางคือบุคคลที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ไม่น้อย!“มาตะโกนเสียงดังอะไรตรงนี้?”
“หัวหน้าหมู่บ้านมีสตรีไร้ยางอายอยู่ที่นี่นางมีคู่หมั้นหมายแล้วแต่ยังกล้าพาชายอื่นเข้ามาอยู่ในบ้าน!หากเป็นเรื่องนี้แล้วท่านพอจะสนใจมันหรือไม่?”
แต่เฉินไปตัดสินใจอย่างเด็ดขาดทันทีเขารู้ว่าไม่มีความจริงอยู่ในปากของภรรยาเฉินฉ่เกิน
“แล้วมาตะโกนอะไรตรงนี้?ข้าช่วยอะไรเจ้าได้งั้นหรือชื่อเสียงของเหล่าหญิงสาวนั้นสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใดหากเจ้าคิดจะทำเรื่องโง่เขลาก็อย่าได้กล่าวโทษว่าข้าหยาบคาย!”
ภรรยาของเฉินฉ่เกินเลือดขึ้นหน้าทันทีนางตะโกนเสียงดังขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้“หัวหน้าหมู่บ้าน!แม้ท่านจะเพิ่งได้รับการแต่งตั้งแต่เจ้าก็ไม่มีรัศมีใดเทียบกับหัวหน้าคนเก่าได้!ท่านยังไม่ได้เดินไปดูด้วยซ้ำแต่กลับกล่าวหาว่าข้าโป้ปดไอ้คนป่าเถื่อนคนนั้นมันหายไปแล้วและมีชายอื่นอยู่ในบ้านของนางลองไปที่นั่นสิจะได้รู้ว่าข้าพูดความจริง!”
คนป่างั้นหรือ?เพียงถ้อยคำเหล่านี้ถึงความสนใจของคนทั้งหมู่บ้านได้ทันที
ชาวบ้านแถวนั้นเริ่มเข้ามามุงดูเหตุการณ์แม้แต่คนที่อยู่ไกลออกไปก็ยังวิ่งมาฟังข่าวอย่างใคร่รู้
ครอบครัวของป้าจี้ก็เช่นกันพวกเขาทั้งหมดทำงานอยู่ใกล้กับบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเช่นนี้จึงวิ่งตามเสียงมา
“หลี่ชุนเกียว!เจ้าคงคิดกำลังหาของมีค่าล่ะสิตอนนี้ข่าวขโมยเงียบหายไปจากหมู่บ้านนานแล้วเพราะทุกคนล้วนแต่อยู่บ้านและลงกลอน!เจ้าอย่าได้คิดทำเรื่องชั่วร้ายอีก!”
ภรรยาของเฉินฉ่เกินโต้กลับอย่างเผ็ดร้อน“ถึงตัวข้าจะไม่น่าเชื่อถือนักแต่ข้าก็จะไม่ทำเรื่องบัดสีเด็ดขาดตอนนี้มีคนป่าอยู่ในบ้านของหยุนเถียนเถียนหากไม่รีบไปตอนนี้หลักฐานอาจจะหายไปและไม่เหลือสิ่งใดเลย!”
แม้ว่าเฉินไปไม่ต้องการจะวุ่นวายกับสตรีปากสว่างผู้นี้แต่เขาก็จำเป็นต้องจัดการชื่อเสียงของสตรีในหมู่บ้านเช่นกันแม้จะไม่ต้องการสนใจแต่สุดท้ายแล้วก็เลี่ยงไม่พ้น
“ในเมื่อเจ้ามั่นใจถึงเพียงนั้นข้าก็จะลองเชื่อเจ้าดู!แต่หากเจ้าโกหกข้าจะมอบบทเรียนราคาแพงให้ถึงตอนนั้นข้าจะจัดการเจ้าด้วยกฎหมายครอบครัวเข้าใจหรือไม่?”
แม้กฎหมายครอบครัวจะน่าสะพรึงเพียงใดแต่ภรรยาของเฉินฉ่เกินไม่คิดสนใจก็ทั้งหมดนางเห็นมันด้วยตาแล้วจะผิดพลาดได้อย่างไร?
“ได้!มันย่อมถูกต้องอยู่แล้วหากหัวหน้าหมู่บ้านไม่คิดลำเอียง!”
หลังกล่าวจบภรรยาของเฉินฉ่เกินเดินตรงไปยังทางเข้าหมู่บ้านไม่ต้องบอกกล่าวกับผู้ใดก็รู้ว่านางจะตรงไปที่บ้านของใคร
“ซื้อเจ้าไม่คิดปฏิบัติต่อผู้อื่นดั่งเช่นหลานสาวตนเองงั้นหรือ?แต่น่าเสียดายนักที่หลานสาวของเจ้านั้นใฝ่ต่ำและไร้ยางอายรีบตามมาสิจะได้เห็นในสิ่งที่ข้าเห็นเช่นกันอยากรู้นักว่าคราวนี้เจ้าจะให้ท้ายนางว่าอะไร!”
ส่วนหยุนเสียนเถียนนั่งอยู่ในบ้านนางมองดูตะกร้าข้าวพร้อมกับถอนหายใจยาวในยุคโบราณคร่าครีเช่นนี้ไม่มีแม่โรงสีในข้าวทำมือยังมีเปลือกอยู่มากและต้องคอยหยิบมันออกจึงจะสามารถกินได้…
นางถือตะกร้าใหญ่ออกไปนั่งที่โต๊ะหินในสวนจากนั้นจึงหยิบข้าวเปลือกที่ปะปนกับข้าวขาวออกส่วนหยุนเคอนั่งอยู่ในแปลงผักหลังบ้านเขากำลังเหวี่ยงจอบลงดินจนเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลผุดทั่วร่างกาย
ไม่มีแม้เสียงเคาะประตูแต่มันถูกเปิดออกอย่างแรง!
ชาวบ้านจำนวนมากพุ่งเข้ามาในลานบ้านอย่างรวดเร็วหยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะเห็นว่าเป็นเงินไปที่ถูกผลักให้ก้าวออกมาด้านหน้า
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน…เกิดเรื่องใดขึ้น?เหตุใดจึงยกชาวบ้านมามากมายเช่นนี้มีสิ่งใดนั้นหรือ?”
ทว่าเฉินไปกลับลำคอตีบตันขึ้นมาทันทีเขาไม่อาจทนได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสาวงามผู้นี้“ข้า…ข้า…ข้าได้ยิน…ว่า…”