สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 29 ไม่มีหนทางเลยหรือ
ระหว่างทางกลับบ้าน ไม่ว่าเฉินเถียนเถียนจะเดินไปทางไหน ชาวบ้านที่เห็นนางจะหยุดมือทำทุกสิ่งและหันมองนางด้วยความสงสาร
‘เกิดอะไรขึ้น?’ เฉินเถียนเถียนไม่เข้าใจแต่ทำได้เพียงเพิกเฉยและก้มหน้าเดินต่อไปด้วยความเบื่อหน่าย
ระหว่างนั้นป้าหวงเดินเข้ามาทักทาย “เถียนเถียน… เจ้าไปที่ใดมางั้นหรือ?”
เฉินเถียนเถียนเบิกตากว้างแสร้งทำสีหน้าไร้เดียงสา “เกิดอะไรขึ้นหรือป้าหวง? เหตุใดทุกคนถึงจ้องมองข้าเช่นนั้น?”
“เอ่อ…”
แม้ป้าหวงไม่อยากจะเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเห็นแววตาอันอ้อนวอนอย่างใคร่รู้นั้นก็ทำให้นางทนไม่ได้ จึงคิดว่าหากจะปิดบังไว้ก็ไร้ประโยชน์ เพราะยังมีผู้คนอีกมากมายที่เฉินเถียนเถียนต้องพบเจอ แน่นอนว่าต้องมีใครสักคนเล่าให้นางฟัง!
“เถียนเถียน… เล่าให้ป้าฟังเถิดว่าวันที่เจ้าหนีออกมาจากบ้านของนายน้อยหลี่! คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”
“ใช่แล้ว ไม่เคยมีหญิงคนไหนหนีรอดเงื้อมมือนายน้อยหลี่มาก่อน เจ้าแน่ใจหรือว่ายังไม่เสียความบริสุทธิ์ให้กับเขา?”
เฉินเถียนเถียนถึงกับพูดไม่ออก คนพวกนี้ไปเอาความคิดเหล่านี้มาจากที่ใดกัน… ดูเหมือนว่าหลินชวนฮวาจะสร้างข่าวลือบางอย่างระหว่างที่นางไม่อยู่!
“ป้าพูดอะไร? ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย?”
“ไม่เป็นไร…”
ทันใดนั้นก็มีเสียงหญิงคนหนึ่งถามแทรกขึ้น “หญิงทุกคนที่ถูกส่งไปให้นายน้อยหลี่แน่นอนว่าย่อมไม่มีใครกลับมาพร้อมกับความบริสุทธิ์!”
เฉินเถียนเถียนบีบน้ำตาพร้อมกล่าวออกอย่างเศร้าโศก “แม่ของข้าบอกเช่นนั้นหรือ? เหตุใดแม่ต้องใส่ร้ายข้าเช่นนี้? แม่ตั้งใจจะทำลายชื่อเสียงของข้าหรืออย่างไร?!”
เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ร้องไห้ ชาวบ้านต่างรู้สึกสงสารราวกับว่าตนกำลังรังแกเด็ก!
“เจ้าเข้าไปอยู่ในบ้านของนายน้อยหลี่ถึงหนึ่งคืนก่อนจะหนีออกมา… ใครจะรู้เล่าว่าเจ้ายังบริสุทธิ์อยู่?”
แม้หลินชวนฮวาจะพยายามสร้างเรื่องเพื่อทำลายชื่อเสียงของเฉินเถียนเถียนแต่ก็ไม่มีใครเชื่อนางอย่างสนิทใจ
มีเพียงนางหยุนเท่านั้นที่เคยเป็นที่รักและชื่นชมของชาวบ้านต่อให้หลินชวนฮวาจะพยายามแทนที่แต่ก็ไม่อาจเทียบเคียงได้!
เพราะหลินชวนฮวาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและริษยา!
“ใครบอกว่าข้าเข้าไปอยู่ถึงหนึ่งคืน? ข้าหนีออกมาจากบ้านนั้นก่อนจะตกใจจนหมดสติไปในระหว่างทางและเมื่อตื่นมาก็เดินข้ามภูเขาเพื่อกลับบ้าน! ต่อให้แม่จะทราบเรื่องนี้ดี… แต่คงไม่มีทางปกป้องข้า!”
เรื่องเล่าของเฉินเถียนเถียนนั้นค่อนข้างน่าเชื่อถือ หลินชวนฮวาใช้โอกาสที่เฉินเถียนเถียนเข้าไปอยู่ในบ้านของนายน้อยหลี่เพื่อสร้างเรื่องว่านางได้เสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ว่าเรื่องคืนนั้นจะจริงหรือเท็จก็ยังนับว่าตัดสินไม่ได้
“เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้ค้างคืนที่บ้านของหลี่ มีพยานหรือไม่?”
เฉินเทียนเถียนตื่นตระหนกและไม่รู้จะทำอย่างไรจึงทรุดตัวลงร้องไห้!
“แม่รู้ดีทุกอย่าง… นางรู้ดีว่าในคืนนั้นข้ากลับมานอนที่โรงเก็บไม้ แต่ทำเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร? แม่บอกว่าจะเลิกรังแกและทำลายชื่อเสียงของข้าแล้วไม่ใช่หรือ?”
จี๋ชื่อได้ยินเสียงของชาวบ้านและเสียงร้องไห้ของเฉินเถียนเถียนแว่วมาแต่ไกลจึงฝ่าฝูงชนเข้าไปและเห็นเฉินเถียนเถียนกำลังนั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่พร้อมชาวบ้านมากมายที่ต่างรุมถากถาง!
“พวกเจ้าไม่มีอะไรทำหรืออย่างไร? เหตุใดจึงมารังแกหลานข้า?!”
จี๋ชื่อมีคู่ปรับคือป้าหลี่… เพราะทั้งสองเป็นคนขวานผ่าซากจึงมักจะมีปัญหากันอยู่เสมอ แต่เมื่อได้ยินคำถามเมื่อครู่ป้าหลี่ก็โต้กลับทันที “โอ้! สะใภ้ใหญ่แห่งตระกูลเฉินคงไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม? เด็กสาวผู้นี้ที่ไม่ได้ออกจากบ้านมาหลายปีเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว!”
“แม่นางหลี่พูดไร้สาระอะไร? เจ้าตัดสินคนจากการฟังความเพียงข้างเดียวหรือ?”
เมื่อเฉินเถียนเถียนเห็นว่าจี๋ชื่อมาถึงก็รู้สึกโล่งใจเพราะในที่สุดนางก็ไม่ต้องรับมือกับคำถามของชาวบ้านแต่เพียงผู้เดียว เช่นนี้นางจึงรีบเล่าเรื่องราวเพื่ออธิบาย “ท่านป้า… แม่สร้างเรื่องโกหกทุกคนหลังจากที่นางรับปากต่อหน้าทุกคนว่าจะเลิกรังแกข้า แต่กลับยังคงปล่อยข่าวลือเพื่อทำลายข้าอยู่!”
เมื่อจี๋ชื่อได้ยินดังนั้นก็เกิดความสงสัยว่าเหตุใดหลินชวนฮวาจึงทำเช่นนี้ นางรีบถามต่ออย่างร้อนใจ “เจ้าว่าอย่างไรนะ? เล่าให้ป้าฟังก่อนเถิด!”
“แม่รู้ดีว่าข้าหนีออกจากบ้านของตระกูลหลี่และกลับไปอยู่ในโรงเก็บไม้ นายน้อยหลี่เองก็ทราบเรื่องนี้ดี แต่แม่กลับบอกทุกคนว่าข้าค้างคืนที่บ้านของนายน้อยหลี่และเสียบริสุทธิ์ให้เขาแล้ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้นจี๋ชื่อโกรธจัดทันทีพร้อมโวยวายเสียงดัง “ข้าคิดแล้วว่านางต้องไม่จริงใจ แสร้งทำเป็นรู้สึกผิด แท้จริงแล้วกลับมีแผนการร้ายอยู่เบื้องหลัง นังผู้หญิงคนนี้… ”
ตอนนั้นเองป้าจี๋เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้จึงชะงักและหยุดโวยวาย ซึ่งท่าทางนี้ทำให้เฉินเถียนเถียนรู้สึกถึงลางร้าย
“เถียนเถียน ไปกันเถอะ! ไปบ้านข้า!”
แม้เฉินเถียนเถียนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รับรู้ได้ว่าป้าจี๋ไม่เคยคิดร้ายต่อตนเลย ดังนั้นนางจึงตามจี๋ชื่อไปยังบ้านของนาง
เฉินเถียนเถียนเดินเข้าไปในบ้านอย่างสงบเสงี่ยม ขณะที่จี๋ชื่อถอนหายใจออกด้วยความหดหู่
“เด็กน้อย… เรื่องนี้มันยากที่จะกล่าว!”
แต่เพื่อให้ไม่เป็นที่สงสัย เฉินเถียนเถียนจึงก้มลงเช็ดน้ำตาและแสร้งทำเป็นอ่อนแอให้เหมือนเฉินเถียนเถียนคนเก่า
“กล้ารังแกหลานข้าถึงขนาดนี้ได้อย่างไร?”
“ป้าอยากจะช่วยเหลือเจ้าแต่ท่านผู้เฒ่าค่อนข้างหัวโบราณนัก หากถูกหลินชวนฮวารังแกแน่นอนว่าทุกคนต้องเข้าข้างเจ้า! เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เจ้าหลบหลีออกมาจากบ้านของนายน้อยหลี่… ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดีและยังบริสุทธิ์!”
“ถึงแม้… เรื่องทั้งหมด… จะเป็นฝีมือของนังปีศาจหลินชวนฮวาแต่ท่านผู้เฒ่าก็คงไม่สนใจ เพราะพวกเขาหัวโบราณยิ่ง หากรู้ว่าชื่อเสียงของเจ้าเสียหาย พวกเขาจะคิดว่าครอบครัวเฉินเป็นเหยื่อและจะไม่มีใครช่วยเจ้าได้อย่างแน่นอน แม้กระทั่ง…”
“หลินชวนฮวามีแผนร้ายเต็มหัว! ข้าเกรงว่าทุกอย่างในมือเจ้าจะต้องตกไปเป็นของนาง เกรงว่านางจะวางแผนให้เจ้าถูกขับไล่หรือส่งกลับไปให้นายน้อยหลี่ เฮ้อ… เด็กน้อยเอ๋ย… ช่างน่าสงสารอะไรอย่างนี้นะ!”
จี๋ชื่อคอยช่วยเหลือเฉินเถียนเถียนมาโดยตลอด ทั้งยังวางแผนและวิเคราะห์สถานการณ์ให้ ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นผลดีต่อตัวเฉินเถียนเถียนอย่างมาก
เฉินเถียนเถียนเงยหน้าขึ้นไตร่ตรองก่อนจะกล่าวคำออก “ท่านป้า… ท่านทำเพื่อข้ามามากจนข้าไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไร ในเมื่อป้าช่วยข้าในเรื่องนี้ไม่ได้ ข้าก็จะหาทางออกด้วยตนเอง… ข้ารู้ดีว่าคนอย่างหลินชวนฮวาไม่มีทางคิดเรื่องดี ๆ ในหัวได้!”