สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 51 ข้าสอนเอง!
เฉินเฉินกระตุกแขนเสื้อของเฉินเฉิงเยี่ยเบา ๆ เพื่อเรียกพี่ชายของเขา
“เด็กบ้า! ใครสั่งให้เจ้าเข้ามาในห้องของข้า!”
เมื่อเฉินเฉิงเยี่ยลืมตาขึ้น เขาก็ผลักเด็กชายคนนี้ออกไปอย่างแรง
“พี่ใหญ่… ท่านบอกว่าจะสอนข้าอ่านหนังสือ”
เฉินเฉิงเยี่ยยกยิ้มอย่างดูถูก “คนอย่างเจ้าสามารถเรียนรู้ที่จะอ่านได้งั้นเหรอ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าชื่อของเจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
เฉินเฉินไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดจึงทำได้เพียงส่ายหัวเบา ๆ
เฉินเฉิงเยี่ยยกยิ้มร้ายกาจก่อนจะกล่าวต่อ “เฉินเฉินหมายถึงฝุ่น! เจ้าคิดว่าฝุ่นมีประโยชน์อะไรหรือไม่? เพราะแม่เกลียดเจ้าจึงไม่อยากให้เจ้าไปโรงเรียน จากนี้ไปเจ้าก็เป็นได้แค่ชาวบ้านคนหนึ่งและเป็นเพียงโคลนตมให้ผู้อื่นเหยียบย่ำ!”
เฉินเฉินไม่เข้าใจที่พี่ชายบอกว่าเขาเป็นเพียงโคลนตม เขาจึงตอบกลับเสียงดังอย่างไม่พอใจ “ไม่เป็นเช่นนั้นแน่! พ่อบอกว่าต้องการส่งข้าไปเรียนเพื่อจะได้เป็นขุนนางในอนาคต!”
เฉินเฉิงเยี่ยยิ้มอ่อนจะตอบกลับ “เด็กสกปรกเช่นเจ้าต้องการไปโรงเรียนเพื่อสิ่งใดกัน? ช่างน่าขัน!”
เฉินเฉินรู้สึกเสียใจยิ่ง เขายืนน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตรงนั้น
เฉินเฉิงเยี่ยเผยสีหน้าเหยียดหยาม “หากอยากเรียนนัก… เอาแบบนี้ก็แล้วกัน! หากเจ้ายอมให้ข้าทุบตีเจ้าหนึ่งครั้ง ข้าจะสอนเจ้าอ่านหนึ่งคำ… ดีไหม?”
เฉินเฉินร้องไห้เสียงดัง “ข้าจะบอกพ่อว่าพี่ใหญ่ตีข้า!”
เฉินเฉิงเยี่ยโกรธจัดจึงเตะร่างเล็ก ๆ ของเฉินเฉินกระเด็น จากนั้นปล่อยหมัดตรงใส่น้องชายอย่างไร้ปรานี!
ในที่สุดเสียงร้องไห้ของเฉินเฉินก็ปลุกเฉินเถียนเถียนที่กำลังหลับสนิทอยู่ในโรงเก็บไม้ให้ตื่นขึ้น
หลังจากระบุแหล่งที่มาของเสียงอย่างรอบคอบแล้ว เฉินเถียนเถียนก็เข้าใจสถานการณ์ทันที
เฉินเถียนเถียนเกรงว่านี่จะเป็นอุบายของเฉินเฉิงเยี่ยที่บอกว่าจะสอนหนังสือน้องชาย แต่ที่จริงแล้วกลับใช้โอกาสนี้เพื่อรังแกเขา!
เจ้าหน้าที่ตำรวจเฉินซึ่งยังคงมีความรู้สึกยุติธรรมอยู่ในใจรีบวิ่งเข้ามาและถีบประตูให้เปิดออก แน่นอนว่าภาพที่เห็นคือเฉินเฉิงเยี่ยกำลังต่อยและเตะเด็กชายตัวเล็กอยู่!
“หยุดมือเดี๋ยวนี้!”
หลังจากเฉินเถียนเถียนตะโกน เฉินเฉิงเยี่ยจึงหยุดมือ
เมื่อเฉินเฉินเห็นว่าพี่สาวมาปกป้อง เขารีบคลานอย่างรวดเร็วและซ่อนอยู่ข้างหลังพี่สาวทันที
“เฉินเฉิงเยี่ย… โธ่ พ่อขุนนางในอนาคต พ่อแม่ของเจ้าสอนมาแบบนี้หรือ? ทำร้ายน้องชายของตนเองได้อย่างไร?”
เฉินเฉิงเยี่ยนั้นเป็นชายหนุ่มแสนเจ้าเล่ห์ เขาจะไม่ยอมให้ใครกล่าวถึงตนในทางที่ไม่ดีแน่
“อีขี้ครอก เจ้ากำลังพูดถึงอะไร? ในฐานะพี่ชายใหญ่ก็เปรียบเสมือนพ่อ ข้าทุบตีสั่งสอนน้องชายของตนเองมันผิดปกติอย่างไรหรือ?”
“พี่ชายก็เป็นเหมือนพ่องั้นหรือ? งั้นเจ้าโง่เหมือนพ่อด้วยหรือไม่? ถ้าเช่นนั้น เหตุใดจึงกล้ามาสอนและทำร้ายเขาทั้งที่เจ้าก็ไร้ปัญญา?”
เฉินเฉิงเยี่ยหัวเราะอย่างประชดประชัน “ใฝ่สูงอยากจะเรียนหนังสือทั้ง ๆ ที่เป็นแค่โคลนตมอย่างนั้นหรือ?”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เป็นโคลนตมเช่นกัน! กล้าใช้เงินของตระกูลเฉินในการศึกษาแต่กล้าคิดว่าพวกเขาเป็นโคลนตมอีกรึ?”
เฉินเฉิงเยี่ยหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง “แล้วอย่างไร? เฉินผิงอันก็ไม่คัดค้านอะไรนี่!”
เฉินเถียนเถียนไม่อยากสนทนากับขุนนางไร้ปัญญาผู้นี้อีกต่อไป นางจึงหันหลังกลับและลากเฉินเฉินออกไปด้วย!
อย่างไรก็ตาม เฉินเฉินหันไปมองยังพี่สาวของตนและกล่าวว่า “พี่สาว… ข้าไม่อยากเป็นโคลนตม… ข้าอยากเรียนหนังสือ!”
เฉินเถียนเถียนลากเฉินเฉินออกไปยังสนามหน้าบ้านก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเขาและพูดอย่างเหลืออด “เฉินเอ๋อ… หากเจ้าต้องการเรียนหนังสือจริง ๆ เจ้าก็จงหาหนทางให้กับตนเองเสีย ดีกว่าปล่อยให้คนเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเช่นนั้นมาสอนเจ้า ในเมื่อเขาเป็นคนไม่ดี เขาจะสอนเจ้าได้อย่างไร? เจ้าควรเข้าใจว่าการอ่านและการเรียนเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญที่เจ้าต้องเรียนรู้และเข้าใจคือคุณธรรมแห่งชีวิต!”
เฉินเฉินพยักหน้ารับ เขาจดจำสิ่งที่พี่สาวพูดไว้ในใจ… เรียนรู้หลักธรรมของชีวิต!
“ในเมื่อเจ้าอยากเรียน ข้าจะสอนให้! แต่เจ้าต้องจำไว้ว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด… เข้าใจไหม?”
เฉินเฉินกระโดดตัวโยนอย่างดีอกดีใจ จากนั้นจึงลดเสียงลงแล้วกระซิบถาม “พี่สาวรู้หนังสือด้วยหรือ?”
เฉินเถียนเถียนนึกได้ทันทีว่าทั้งสองยุคอยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันมาก จึงไม่รู้ว่าตัวหนังสือหลาย ๆ อย่างจะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ ดังนั้นจึงสั่งน้องชายอย่างเคร่งขรึมว่า “คืนนี้เจ้าจงไปขอหนังสือจากพ่อเพื่อจะใช้ในการเล่าเรียน! พรุ่งนี้ให้นำหนังสือเล่มนั้นมาให้ข้าและข้าจะดูว่าควรสอนเจ้าอย่างไร!”
เสี่ยวเถากระซิบเฉินเถียนเถียนอย่างลับ ๆ ว่า “ผู้คนในยุคนี้ค่อนข้างแตกต่างจากโลกของเจ้า ว่าแต่… เจ้ารู้ตัวอักษรจีนโบราณไม่ใช่หรือ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เถียนเถียนจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เนื่องจากในโลกปัจจุบันนางมีคุณปู่เป็นพ่อค้าของเก่าจึงทำให้นางหลงใหลในตัวอักษรจีนโบราณเป็นอย่างมาก!
แม้การทานอาหารร่วมกันสองสามมื้อระหว่างเฉินเถียนเถียนและเฉินเฉินจะทำให้ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น แต่เขาก็อายเกินกว่าจะรบกวนพี่สาวในเรื่องอื่น… นอกจากการสอนหนังสือ!
ทว่าเฉินเฉินกลับความคุมความหิวของตนเองไม่ได้ ทันใดนั้นเสียงคำรามในท้องของเด็กชายก็ดังขึ้นอย่างโจ่งแจ้ง
“ผู้หญิงใจร้ายคนนั้น ไม่ให้อะไรเจ้ากินอีกแล้วงั้นหรือ?”
เฉินเฉินต้องการลบล้างคำพูดที่บอกว่าแม่ของเขาเป็นคนใจร้าย! แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่แม่กระทำจนเขาต้องมารบกวนพี่สาวก็ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะลบล้างคำครหานี้อย่างไร!
อย่างไรซะ ความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ๆ นั้นรุนแรงเสมอ!
เขามองผ่านเสื้อผ้าของเฉินเถียนเถียนด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่มีอะไรอยู่ในนั้น…
“พี่สาว… ใครให้ไก่ป่านี้แก่ท่าน?”
เฉินเถียนเถียนกระซิบข้างหูเฉินเฉิน “เจ้าไม่ต้องรู้หรอกว่าไก่ป่านี้มาจากไหน แต่หลังจากกินเสร็จ เจ้าควรกลับบ้านและอย่าบอกใครเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่? ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่ยอมให้เจ้ามาหาข้า แล้วเจ้าก็จะไม่ได้กินไก่ป่าอีกจนสุดท้ายต้องตายเพราะความหิว!”
หัวใจดวงน้อยของเฉินเฉินเต็มไปด้วยความกลัว จึงรีบพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
เฉินเถียนเถียนยิ้มแล้วกล่าวต่อ “ในเวลานี้ของวันพรุ่งนี้ ให้ขอหนังสือจากพ่อแล้วมาที่นี่ ข้าจะสอนเจ้าเอง!”
เฉินเฉินพยักหน้ารับราวกับไก่จิกเปลือกข้าว อ่านนิยาย novelza.com
“การที่เจ้ารู้จักใฝ่เรียนใฝ่รู้เป็นสิ่งที่ดีมาก แต่วันนี้ข้าจะสอนหลักการขั้นแรกของการเป็นมนุษย์คือให้เจ้าเรียนรู้ที่จะเป็นคนมีเมตตา ไม่ใช่เพียงการเล่าเรียนและการรู้หนังสือเท่านั้นที่จะทำให้เจ้าเป็นนักปราชญ์ได้ ในอนาคตแม้เจ้าจะได้เป็นใหญ่เพราะมีวิชาความรู้ แต่ก็จงรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น!”
“เฉินเอ๋อ… ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนเลวร้ายเพียงกระทำทุกอย่างตามคำสั่งของแม่เท่านั้นและสิ่งนี้จะทำให้เจ้ากลายเป็นคนไม่ดี จงจำไว้ว่าเจ้าต้องมีเหตุผลเสมอ ข้าไม่ได้จะปลูกฝังความคิดที่ไม่ดีต่อแม่ให้กับเจ้า แต่หากเจ้าเชื่อคำพูดของแม่ เจ้าก็จะจดจำไปจนตายว่าเพราะพี่ขโมยอาหารจึงทำให้เจ้าต้องหิวโหย!”
“การกระทำแบบนี้ไม่ใช่สิ่งดีนัก จงอย่าเลือกปฏิบัติกับใคร ลองคิดดูสิว่าพี่สาวของเจ้าจะเสียใจมากเพียงใด?”
ด้วยคำพูดเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของเฉินเฉินก็เริ่มแดงและน้ำตาไหลเอ่อเต็มดวงตาน้อย ๆ ของเขา
“พี่สาว… ข้าทราบความผิดแล้ว ข้าขอโทษ!”