สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 89 การกดขี่มีอยู่ทุกหนแห่ง
ตอนที่ 89 การกดขี่มีอยู่ทุกหนแห่ง
พูดได้ว่าการที่หลินชวนฮวาไม่สนใจก็เป็นประโยชน์เช่นกัน อย่างน้อยหนังสือที่ซ่อนไว้ในห้องก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกนางนําออกไป
ทั่วทั้งลานบ้าน หลินชวนฮวาตั้งใจทําความสะอาดเพียงไม่กี่ที่ แล้วนับประสาอะไรกับห้องของเฉินเฉิน?
ทั้งสองอ่อนเพลียจากการงีบหลับในตอนกลางวัน ขณะที่เฉินผิงอันกําลังจะลุก หลินชวนฮวาก็ฝังความคิดที่ว่าเฉินเฉิงเยี่ยนั้นร่ําเรียนอย่างยากลําบากใส่หัวเขาอีกครา
เฉินผิงอันที่เชื่อคนง่าย ก็ยึดถือว่าเรื่องพวกนี้เป็นความจริง! ยิ่งนังเด็กน่าตายนั่น พูดจาดูถูก ยิ่งต้องพิสูจน์ให้คนอื่นได้เห็น!
ขณะที่หลินชวนฮวาลุกขึ้นรอเฉินผิงอันแต่งตัว นางพลันถอนหายใจว่างานบ้านนั้นเหนื่อยเกินไปและไม่มีใครคอยช่วยสักคน
เฉินผิงอันรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่ไม่ควรมาเสียเวลา กับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงนึกถึงเฉินเฉิน!
เขาไม่ทันเห็นแววตาของหลินชวนฮวาที่ฉายความพึงพอใจออกมา และตรงไปเรียกเฉินเฉินที่กําลังพักผ่อนอยู่ในห้อง!
“เฉินเอ๋อ ออกมา!”
เนื่องจากท่านพ่อเรียก แม้ว่าเฉินเฉินจะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เขาก็ยังเดินออกไปอย่างสงบ!
“ท่านพ่อเรียกข้าทําไมหรือ?”
สิ่งที่เฉินผิงอันไม่ชอบมากที่สุดคือรูปลักษณ์ที่ขี้อายของเขา รอยยิ้มอ่อนโยนเลือนหายไปทันที “เฉินเอ๋อ ตอนนี้ เจ้าก็อายุกว่าเจ็ดหนาวแล้ว! เจ้าอ่านเขียนไม่เก่งก็ควรเรียนรู้ที่จะทําอะไรอย่างอื่น ดูสิว่าบ้านรกแค่ไหน แม่ของเจ้าเหนื่อยมาก เพราะฉะนั้นเจ้าควรหัดทําความสะอาดบ้านด้วย!”
เฉินเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็รับปากอย่างเฉยชา
เด็กอายุเพียงเจ็ดขวบ สูญเสียความมีชีวิตชีวาที่เด็กวัยนี้ควรมีไปนานแล้ว เฉินผิงอันไม่เคยรับรู้เลย เขาลูบหัวของเฉินเฉินและชมเชยในความเชื่อฟังของอีกฝ่าย
เฉินผิงอันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการกระทําของเขาเอง ทําให้ชีวิตของเฉินเฉินแย่ลงไปอีกตั้งแต่นั้น
ตามที่คาดไว้ ต่อหน้าเฉินผิงอัน หลินชวนฮวาเริ่มบอกกล่าวให้เฉินเฉินไปที่ห้องฟืนเพื่อขนฟืนออกมา และปล่อยให้เด็กยืนอยู่ในห้องครัวที่เต็มไปด้วยควัน เพื่อให้เขาดูว่าต้องทําอาหารอย่างไร!
เฉินเฉินมองไปยังมารดาที่ยืนภาคภูมิใจอยู่ตรงหน้า หัวใจของเขาหนาวเหน็บ ตอนนี้พี่สาวจากไปแล้ว คงถึงเวลาของเขาบ้าง ลูกชายผู้ไม่เป็นที่โปรดปรานกําลังถูกพวกเขากดขี่ข่มเหง!
เขารู้วิธีการของผู้เป็นแม่แล้ว ก่อนอื่นแกล้งทําเป็นสอนงานบ้านให้เขา จากนั้นก็จะดุด่าทุบตีเขาได้อย่างเปิดเผย!
แม้ว่าจะไปฟ้องพ่อในภายหลัง หลินชวนฮวาก็จะมีข้อแก้ตัวบอกว่าเขาไม่เชื่อฟัง แม้แต่งานบ้านเล็กๆน้อยๆก็ทําไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องสั่งสอน!
เป็นเรื่องปกติที่แม่จะสอนลูกชายที่ไม่เชื่อฟัง เฉินผิงอันย่อมไม่สนใจเรื่องนี้ หรือไม่อย่างนั้นเฉินผิงอันก็คงไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีใครสามารถลงมือกับลูกชายของตัวเองได้เช่นนี้
วันรุ่งขึ้น เป็นไปดังที่คาดคิดไว้น
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เขารีบร้อนไปที่บ่อนทันทีหลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ
เมื่อหลินชวนฮวาเห็นเฉินผิงอันออกจากบ้าน รอยยิ้มที่เดิมที่แสนจะอ่อนโยนกลับกลายเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวอีกครั้ง
นางตบประตูห้องของเฉินเฉินอย่างรุนแรง!
“ไอ้สารเลว ตื่นเร็วเข้า! สายมากแล้วยังหลับอยู่ เจ้าเป็นหมูหรือ?”
เฉินเฉินตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย เมื่อรู้ว่าไม่มีใครคอยช่วยเหลือ เขาจึงลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว เพราะประสบการณ์สอนว่าหากชักช้าอาจจะถูกเฆี่ยนตีและดุด่าเอาได้
เฉินเฉินรีบเปิดประตูและยืนอยู่ตรงหน้าหลินชวนฮวา เมื่อเห็นใบหน้านี้ หลินชวนฮวายิ่งรู้สึกอับอายมากที่แต่งงานกับเฉินผิงอัน ความโกรธจึงปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว!
“ไม่ได้ยินที่พ่อเจ้าพูดหรือ? จากนี้ไปงานบ้านเป็นหน้าที่ของเจ้า! ไปทําความสะอาดสวนให้ข้าเดี๋ยวนี้”
หลินชวนฮวาไม่อยากสนทนากับลูกชายคนนี้นัก จึงเดินกลับไปที่ห้องของและค่อยๆเริ่มแต่งตัว
เขาคนนั้นบอกกับนางว่าจะกลับมาในเมืองในวันนี้ หลินชวนฮวาจึงต้องรีบแต่งตัวให้เร็วที่สุดและไปปรากฏตัวต่อหน้าเขา!
เฉินเฉินรู้สึกเศร้าใจ เด็กน้อยมองดูลานบ้านอันกว้างใหญ่ที่เหมือนกับคอกหมู แต่ต้องยอมรับชะตากรรม เขาจึงก้มหน้าก้มตาทําความสะอาดให้เรียบร้อย
เขาจําได้ว่าก่อนหน้าคนที่ทําความสะอาดลานบ้านคือพี่สาว ตอนนี้ถึงคราวของเขาแล้ว แม้จะไม่รู้ว่าต้องทําอย่างไร แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเรียนรู้การกระทําของพี่สาวคนโตและจัดการความรกในลาน!
หลินชวนฮวาไม่ได้เหลือข้าวทิ้งไว้ให้ ปล่อยเขาก้มหน้าก้มตาทําความสะอาดด้วยความความหิว ส่วนนางออกจากบ้านไปนานแล้ว!
เฉินเฉินมองลานบ้านที่เป็นระเบียบขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจึงไปที่ห้องของเขาเพื่อหยิบหนังสือออกมา และแอบย่องไปทางภูเขาด้านหลังบ้านของพี่สาว
เขาอยากไปโรงเรียนเร็วๆ และเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเองด้วยการศึกษา!
หยุนเถียนเถียนบิดเอวอย่างขี้เกียจ แล้วเปิดประตูบ้านให้เขาเข้ามา
ทุกวันนี้เฉินเฉินเริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเองได้มากขึ้น เมื่อเจอคําถามที่ไม่เข้าใจก็สามารถถามนางได้ ดังนั้นหยุนเถียนเถียนจึงไม่สนใจมาก ทําให้นางมีเวลาว่างมากขึ้นสําหรับทํางานของตัวเอง
แม้ว่าเฉินเฉินจะไม่ได้บอกว่าหิว แต่ท้องของเขาก็ส่งเสียงร้องดังออกมา
หยุนเทียนเถียนถอนหายใจยาว “แม่ของเจ้าไม่ให้กินข้าวหรือ?”
นิ้วของเฉินเฉินสั่นเล็กน้อยแล้วพูดอย่างใจเย็น “ตอนนี้พี่สาวไม่อยู่แล้ว นางมักจะมองหาใครสักคนที่สามารถรังแกได้!!”
หยุนเถียนเถียนถอนหายใจยาว แม้ว่านางจะทนไม่ได้ที่เห็นหลินชวนฮวาทําแบบนี้ แต่มันก็เป็นเรื่องในบ้านของคนอื่น โลกนี้ไม่เหมือนชาติก่อนที่มีหน่วยงานปรับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ ไม่มีแม้กระทั่งมาตรการทางกฎหมายที่สามารถนํามาใช้เพื่อจัดการกับความรุนแรงในครอบครัว!
ในโลกนี้ ความกตัญญที่ทําให้คนเจ็บปวดก็เพียงพอแล้วที่จะกักขังผู้คนให้ตาย เว้นแต่หลินชวนฮวาจะยอมละทิ้งลูกชาย เฉินเฉินจะได้ไม่มีข้ออ้างที่จะตัดขาดจากนาง!
หยุนเถียนเถียนไม่ใจดําพอที่จะทนมองดูคนหิวโหย จึงนําอาหารเช้าที่เหลือออกมาจากครัว เดิมทีก็กลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่ได้กินข้าวเช้า จึงเก็บไว้ให้เขา!
เฉินเฉินตื่นแต่เช้าเพื่อทําความสะอาดสวน และทําหลายอย่าง แต่ไม่ได้กินข้าว เขาจึงหิวไม่น้อย พอเห็นว่ามีอะไรให้กิน ก็รีบกลืนเข้าไปทันที!
หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วและถอนหายใจยาว ก่อนจะหันไปจัดการเรื่องของตนเองต่อไป
ในบรรดาห้องที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างขึ้น มีห้องหนึ่งที่ไม่อนุญาติให้ผู้ใดเข้าไปนั่นคือห้องส่วนตัวของนาง ถ้าเฉินเฉินอยากได้อะไร ก็ทําได้แค่ยืนรอที่หน้าประตูและตะโกนเรียกเท่านั้น!