สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 91 ล่าสัตว์อีกครั้ง
ตอนที่ 91 ล่าสัตว์อีกครั้ง
ตะวันกําลังจะลับขอบฟ้า หยุนเคอยังคงแวะเวียนมาที่บ้านของเถียนเถียน วันนี้เขาไม่มีอารมณ์ใด ๆ เลย แม้ว่าคําพูดของหมอเฒ่าจะดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา ตอนนี้เขาอยากจะชะโงกหน้าไปดูว่าเพื่อนบ้านตัวน้อยกําลังทําอะไรอยู่
เมื่อแสงอาทิตย์หมดลงความมืดมิดเริ่มปกคลุม แต่ผู้คนยังคงวงเวียนอยู่ไม่ขาดสาย หยุนเคอตัดสินใจได้แล้ว เขามีข้อแก้ตัวที่ยอดเยี่ยมออกมาได้นั่นคือการชวนเด็กคนนั้นให้ไปออกล่าสัตว์ด้วยกัน!
ยามเงียบสงัด หยุนเคอเคาะประตูเสียงดัง หยุนเถียนเถียนไม่ลืมว่าตอนนี้นางเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวร้องตะโกนตอบเสียงดัง “ผู้ใด!?”
ด้านหลังประตูนางแอบถือท่อนไม้ยาวและหนาไว้ในมือร่างกายเริ่มเกร็งตั้งรับ!
“ข้าเอง!”
เมื่อได้ยินเสียงแหบแห้งของหยุนเคอ หยุนเถียนเถียนก็ผ่อนคลายความเกร็งลงจนมือที่ถือไม้อยู่อ่อนแรง ท่อนไม้หล่นลงกับพื้นกระแทกเข้ากับหลังเท้าของหยุนเถียนเถียน ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทําให้นางจับเท้าและกระโดดไปมาด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย!”
หยุนเคอตื่นตระหนกพร้อมหัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเกิดอะไรขึ้นกับนาง! เขารีบร้องตะโกนอย่างเป็นห่วง “เถียนเถียน เกิดอะไรขึ้น?”
หยุนเถียนเถียนกัดฟันกรอดพร้อมตอบกลับ “ไม่เป็นไร ข้ากําลังจะไปเปิดประตูให้!”
ตอนนี้หยุนเคอสามารถทําอะไรได้บ้าง? เขาทําได้เพียงอดทนรอเท่านั้น หากบุก
เข้าไปได้จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่านางจะคิดเช่นไรกับเขา!
ไม่นานหยุนเถียนเถียนก็เปิดประตู แล้วเดินอ่อนปวกเปียกไปนั่งลงที่เก้าอี้
ชายร่างใหญ่มองดูท่อนไม้บนพื้น และภาพของเด็กผู้หญิงนั่งอยู่บนเก้าอี้โดยขาของนางอยู่ในอ้อมแขน เขาเริ่มจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว จึงอดที่จะหัวเราะกับภาพตรงหน้านี้ไม่ได้!
“พี่ชายหยุน ทําไมจู่ ๆ ถึงมาหาข้าที่นี่ล่ะ?”
แม้จะมีแสงจันทร์ในยามค่ำสาดส่องเข้ามา แต่ใบหน้าของหยุนเคอกลับถูกหนวดเคราขวางไว้ ไม่มีใครสามารถเห็นสีหน้าของเขาได้
“ข้ามาถามเจ้า คืนนี้จะไปล่าสัตว์กับข้าไหม?”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็หันไปมองเท้าที่หยุนเถียนเถียนจับแน่น
“แต่ดูเหมือนวันนี้เจ้าจะไปไม่ได้ ถ้างั้นข้า”
หยุนเถียนเถียนรีบร้อนตะโกนออก การค้าของนางกําลังเริ่มขึ้นเพราะฉะนั้นการล่าสัตว์ยังต้องดําเนินการต่อ
“ไม่ ไม่ ข้าไปได้ ช่วยรอข้าดีขึ้นสักประเดี๋ยว เมื่อหายดีข้าจะไปทันที!”
หยุนเคอถอนหายใจอย่างปลงตก สายตาของนางมีแต่เงินอยู่ในนั้นหรือ?
หลังจากหยุนเคอพูดจบ เขาจึงไม่สนใจหยุนเถียนเถียนและหันหลังกลับบ้านไป
หยุนเถียนเถียนมองไปยังแผ่นหลังของคนที่กําลังจากไป ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นในใจจนยากจะอธิบาย ยุคสมัยนี้มันไม่ง่ายเลย!
เจ้ายักษ์หยุนเคอมันไม่รู้จักความสงสารหรือเห็นใจหรือไง เขารู้ว่าเท้าของข้าบาดเจ็บอยู่แต่ก็ไม่คิดจะมาปลอบโยนข้า
หยุนเถียนเถียนคิดเช่นนั้น จากนั้นเริ่มที่จะไม่ยอมรับตัวเอง ระหว่างการฝึกตํารวจ
พิเศษได้รับบาดแผลมากมาย แล้วตอนนี้สิ ดูเหมือนว่าข้าจะได้รับผลกระทบจากยุคนี้มากไปแล้ว!
ไม่นานหลังจากนั้นหยุนเคอก็กลับมาในมือถือขวดยารักษากระดูกขนาดเล็กอยู่
คราวนี้เขาเปิดประตูโดยที่ไม่ต้องเคาะ ชายร่างใหญ่เดินเข้ามาแล้ววางขวดยารักษากระดูกลงบนโต๊ะ
“เจ้าป้ายยาขวดนี้ลงบนแผล ข้าจะรอด้านนอก!”
หยุนเถียนเถียนรู้ได้ทันทีเลยว่าเขาเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี! แม้ชายผู้นี้จะไม่มีความสงสารและปลอบโยนใด ๆ แต่สุดท้ายเขาก็ช่วยเหลืออยู่ดี
นางหยิบขวดกระเบื้องเล็ก ๆ นี้ขึ้นมา จากคําสั่งสอนของท่านปู่ นางรู้ดีว่ายาจีนโบราณชนิดนี้เหมาะกับการรักษากระดูกมากกว่าอาการที่นางเป็นอยู่มาก!
หยุนเถียนเถียนเทยาลงบนมือ กลิ่นฉุนลอยที่จมูก จากนั้นค่อย ๆ กดลงไปที่เท้าอย่างระมัดระวัง แม้ว่ามันจะเจ็บแต่นางต้องทนให้ได้
นางใส่รองเท้าและถุงเท้าอย่างระมัดระวัง พร้อมกับเดินออกจากประตู แม้ว่าอาการเจ็บยังมีอยู่แต่มันก็ไม่ส่งผลกับการเดินมากนัก
หยุนเคอลังเลเล็กน้อย นางได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ยังสมควรที่จะพานางไปที่ภูเขางั้นหรือ? แต่ไม่รู้ทําไมเขารู้สึกไม่เต็มใจนักถ้าหากพลาดโอกาสนี้
จู่ ๆ ก็นึกถึงคําพูดของหมอชรา “ทําให้คนที่เจ้าโอบกอดเป็นคนที่เจ้าห่วงใยเสมอ ใครคือดวงใจงั้นหรือ? หนุ่มสาวสมัยนี้น่าผิดหวังเสียจริง”
หยุนเคอหลับตาตั้งสติและก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง “เจ้าแน่ใจหรือว่าไปได้ อย่ามากล่าวโทษว่าข้าเป็นคนลากเจ้าไปในภายหลัง!”
ประโยคแสนเย็นชานี้ทําให้หยุนเถียนเถียนผิดหวังเล็กน้อย แม้แต่ตอนนี้นางก็ไม่เข้าใจว่ากําลังคาดหวังอะไรอยู่?
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปได้แล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ทั้งสองก็เดินออกจากห้องและรีบหันหลัง
ปิดประตู
ในความมืด ทั้งสองร่างกําลังจะเดินทางไปยังภูเขา
หมูบ้านตอนนี้เงียบสงัด แต่หยุนเคอและหยุนเถียนเถียนกลับเดินเข้าไปในป่าที่มีดมิด
ไม่ช้า หยุนเถียนเถียนก็หาเหยื่อที่อยู่ด้านหน้าเจอ หยุนเคอคอยระวังด้านหลัง เขาพร้อมที่จะฆ่าเหยื่อด้วยเพียงหมัดเดียว
สัตว์ขนาดใหญ่อย่างหมีและเสือมีมากมายเต็มไปหมด แม้ว่าภูเขาเทพธิดาจะสูงใหญ่ แต่ก็มีแต่ป่าขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าอีกด้านหนึ่งของป่าอยู่ที่ไหน!
สัตว์กินเนื้อตัวอ้วนมากมายอาศัยอยู่ที่นี่ แต่นับจากที่หยุนเคอออกล่า ไม่มีสัตว์ตัวใดกล้าออกมาที่ภูเขาด้านนอกอีกเลย
ในหมู่บ้านเทพธิดาก็ไม่มีผู้กล้าเดินเข้าไปในป่า ดังนั้นสัตว์และผู้คนจึงใช้ยอดเขาเทพธิดาเป็นแขตแดนที่อยู่อาศัยซึ่งทั้งสองฝ่ายก็อาศัยอยู่อย่างสงบมาช้านาน
หยุนเคอถามตัวเองว่ากล้าหรือไม่ ในป่านี้มีสิ่งของลึกลับขนาดที่เขาก็ยังไม่กล้าแตะต้องยั่วยุ… นั่นคือหมาป่าตะวันออก สัตว์ต่าง ๆ มีอาณาเขตของตัวเอง ภูเขาที่อยู่อีกด้านของภูเขาเทพธิดาเป็นอาณาเขตของหมาป่าตะวันออก
ถ้าหากหมาป่าตะวันออกข้ามอาณาเขตมาที่ภูเขาแห่งนี้ หยุนเคอจะฆ่ามันให้ตาย เพราะเป็นมันที่ข้ามเขตแดนมาก่อน
แต่เขาไม่กล้าไปที่ภูเขาตรงข้ามเพื่อยั่วยุหมาป่าตะวันออก พวกมันมีหวงอาณาเขตของตัวเองมาก และมีกลิ่นอายความแค้นมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น
ถ้าหากเขาข้ามพรมแดนและฆ่าหมาป่าตะวันออก เกรงว่าหมู่บ้านจะเป็นอันตรายจากการคุกคามของพวกมันแน่
สิ่งนี้ทําให้กิจกรรมของพวกเขาถูกขัดขวางในภูเขาเทพธิดา ตราบใดที่ไม่มีหมาป่าตะวันออก แต่ใครจะกล้านําเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ร่างกายอ่อนแอไปยังที่แห่งนั้น? เกรงว่าพวกเขาจะไปไม่ถึงภูเขาอีกฝังด้วยซ้ำ
ทั้งสองคนเดินไปบนภูเขา ไม่ช้านานพวกเขาก็ล่าไก่ฟ้าและกระต่ายได้เต็มตะกร้า
“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้เถอะ บนภูเขาลูกนี้เริ่มมีเหยื่อน้อยลงทุกที พี่ใหญ่หยุนข้าว่าเราไม่มีทางพึ่งพาแค่การล่าสัตว์ได้แล้ว เราต้องหาวิธีเลี้ยงดูครอบครัวที่ดีกว่านี้กันดีกว่า!”
หยุนเคอเงียบ… เขาไม่ใช่คนช่างพูด ที่เขาเรียกนางออกมาด้วยกันเพียงแค่อยากเจอนางมากกว่านี้เท่านั้น
แล้วไม่ให้เมินเฉยได้อย่างไร นางกําลังฝันถึงอะไรอยู่ นางเป็นเพียงผู้หญิงจะเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างไรกัน?
“เหยื่อทั้งหมดในวันนี้ ข้ายกให้เจ้า!”
เสียงทุ่มต่ำติดเย็นชาของหยุนเคอดังขึ้นท่ามกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืน แต่น้ำเสียงนั้นกลับทําให้หยุนเถียนเถียนรู้สึกโกรธ!