สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 101 ลิตตี้ เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดกายภาพ
- Home
- สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster
- ตอนที่ 101 ลิตตี้ เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดกายภาพ
101 ลิตตี้ เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดกายภาพ
“ฮ๋า?!”
“เธอไม่มีสมาธิ! โรม่าซัง? หนึ่ง! สอง!”
การฝึกของโรม่าในสมาคมนักเต้นดำเนินไปได้ดี
แม้ว่าเธอยังอยู่ในขั้นตอนการฝึกพื้นฐานจังหวะเดียว เธอแสดงสัญญาณดีแล้ว แต่จากนั้นบางอย่างไม่ปรกติเกิดขึ้นกับเธอ
“โรม่าซัง!”
“ขออภัย! ฉันจะทำต่อ!”
“จำจังหวะตอนนี้! เธอต้องหาว่าจังหวะคืออะไร! เข้าใจไหม?”
จู่ๆ โรม่ารู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่รู้เลยว่าอะไรไม่ปรกติ แต่เธอกำลังรู้สึกว่าบางอย่างเกิดขึ้นกับลิตตี้
หลังจากคิดนิดหน่อย เธอตัดสินใจขออนุญาติผู้จัดการสาขาหน้าเธอว่าขอกลับก่อน
“เฮ้! ผู้จัดการสาขา!”
“เรียกฉันว่าโค้ช! มีอะไร?”
ผู้จัดการสาขาเป็นดาราเก่าในคณะละครที่ครั้งหนึ่งเจยจับหัวใจทั้งเมืองหลวงแห่งราชวงศ์ คนนี้ชื่นชมโรม่าอย่างไม่สงวนตัว
ถ้าโรม่าขอ เธอให้ผู้จัดการสาขาอนุญาตให้กลับก่อนได้ง่ายๆโดยไม่มีปัญหาใดๆ
แต่อะไรที่คนเหล่านั้นผู้อยู่ในการเป็นผู้ฝึกเป็นปีๆจะพูดถ้าเธอกลับก่อนโดยไม่มีเหตุผลที่ดี
โรม่าสะบัดความสงสัยของตัวเองขณะเธอสังเกตการจ้องมองของผู้ฝึก
“ไม่ มันไม่มีอะไร! ฉันจะทำต่อ!”
โรม่านึกถึงการตัดสินใจของเธอเอง: เธอจะไม่แค่สู้กับลิตตี้เท่านั้น แต่เธอจะหาความเชี่ยวชาญของตัวเธอเองด้วย
เธอไม่มีเวลามาสนใจอย่างอื่น
“หืมมม? ได้เลย ถ้าอย่างนั้น มากลับไปที่จังหวะ ดีไหม? หนึ่ง! สอง! หนึ่ง! สอง!”
ผสมกับความมีเสน่ห์ของเธอ การเคลื่อนไหวของโรม่าดึงดูดคนดูโดยไม่ได้มีอะไรน่าตกใจ
นักเต้น ไม่ใช่อาชีพที่มีแค่เทคนิคอย่างเดียวเท่านั้น โดยธรรมชาติแท้จริงของมัน พลังที่ถูกแสดงออกมาได้โดยใช้มันขึ้นอยู่กับเสน่ห์ของนักเต้นเองอย่างหนัก
คุณภาพ, ออร่า, ความน่าหลงไหล…… นักเต้นแต่ละคนแสดงตัวเองออกไปต่างๆกัน แต่ทั่วไป พวกเธอจำเป็นต้องมีอะไรเหล่านี้ทั้งหมด
“เคลื่อนไหวได้ดี!”
“ขอบคุณ ผู้จัดการสาขา!”
คำพูด “เคลื่อนไหวได้ดี” ของผู้จัดการสาขาทำให้แม้แต่ผู้ฝึกตกใจ ไม่มีใครในสาขานี้นอกจากเจนนิเฟอร์ได้รับการประเมินดีภายในเดือนแรกของการฝึกจากผู้จัดการสาขา
โรม่าเพิ่งเริ่มวันนั้นเท่านั้น
ผู้จัดการสาขาทะเยอทะยานในการสอนยิ่งขึ้น ทำให้มั่นใจว่าเธอไม่ผิดพลาด
“ยอดเยี่ยม! เธอยอดเยี่ยม! เธอเข้าใจไหม?”
“อ๋า? แม้ว่ามันแค่วันแรกของฉันเหรอ!?”
“ช่าย!”
“เอ๋?”
พรสวรรค์ขของโรม่าผลิบานขณะเธอทำพื้นฐานเสร็จ
นี่คือสมาคมที่แม้แต่นักผจญภัยมีประสบการณ์มาเยือนเพื่อช่วยกับการเคลื่อนไหวของตัวเอง ผู้จัดการสาขานั้นชื่อเสียงโด่งดังที่มีดวงตาที่คมกริบในการตรวจจับแม้แต่ความผิดพลาดเล็กน้อยที่สุดในการเคลื่อนไหวของบางคน แม้แต่เมื่อเธอรับมือกับนักผจญภัยชั้นหนึ่ง
เจนนิเฟอร์จากธงแดงก็ยืนยันว่าคนเหล่านั้นที่ผู้จัดการสาขาชื่นชมมีอัตรารอดชีวิตสูงกว่าในวันแห่งการผจญภัยของพวกเธอ
“พวกเราทั้งหมดมีจังหวะที่เราตามอย่างไม่ได้ตั้งใจ! เหมือนที่มีจังหวะในชีวิตทุกอย่าง มีจังหวะในการต่อสู้! ถ้าเธอไม่มีจังหวะ เธอจะน้อยยิ่งกว่าครึ่งนักสู้! เข้าใจไหม?”
“ค่ะ!”
โรม่ายิ้ม กำลังคิดว่าลิตตี้จะดีใจมากถ้าเธอเห็นการพัฒนาของโรม่า โรม่าวางแผนบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้กับเธอ
“ได้เลย! นั่นแหละ! ขอบคุณ ทุกคน!”
“ขอบคุณมากๆสำหรับวันนี้ค่ะ!”
“เธอมีจังหวะที่สวยงาม! ถ้าเธอทำมันจนเชี่ยวชาญ ศัตรูและเพื่อนจะถูกเธอดึงดูดอย่างเป็นธรรมชาติ”
“จังหวะที่สวยงาม…”
โรม่าสงสัยว่าจังหวะของลิตตี้จะเป็นอย่างไร
และอะไรที่ผู้จัดการสาขาคนนี้จะทำให้ลิตตี้เป็น? มันเป็นสัญญาณว่าโรม่าสบายพอที่จะคิดเกี่ยวกับอะไรเช่นนั้น
“ฉันจะทำเต็มที่เพื่อยืนข้างเธอ ลิตตี้”
แม้เธอมีความกังวลเกี่ยวกับที่เธอจะทำการฝึกประจำของผู้จัดการสาขาไหวไหม ความคิดโรม่ากลับไปที่ลิตตี้
เธอไม่คิดเกี่ยวกับความรู้สึกที่ลืมไม่ได้ก่อนหน้าแล้ว นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจอย่างอื่นที่ไม่จำเป็น
“ฉันจะถูหลังเธอ”
“โอ้ ได้”
ในห้องน้ำ ลิตตี้ถูกถูหลังโดยอิลิซิส ซึ่งทำให้เธอนึกถึงอะไรที่แม่เธอเคยทำให้เธอเมื่อเธออยู่ที่หมู่บ้านรุยซ์
มันรู้สึกสบายแปลกๆ และเธอสงสัยว่าเธอควรกลับไปหมู่บ้านซักครั้งไหม อิลิซิสเอื้อมไปหาส่วนอื่นของร่างกายเธอ ทำลายความคิดต่อเนื่องของลิตตี้
“อิลิซิสซัง?”
“เพราะเราอยู่ที่นี่แล้ว มาถูมากกว่าแค่หลังเธอ”
“มันไม่เป็นไร! หนูไม่ใช่เด็กแล้ว หนูถูตัวเองได้”
“เธอยังเป็นเด็กกับฉันอยู่ รู้ไหม?”
“นี่ก็เป็นที่อิลิซิสมองหนูด้วยเหรอ?”
“ใช่ คนอื่นก็บอกนั่นกับเธอเหรอ?”
ขณะลิตตี้บอกเกี่ยวกับอะไรที่เจนนิเฟอร์พูดไว้ อิลิซิสระเบิดหัวเราะออกมา จับท้อง อิลิซิสพบว่ามันตลกจนเธอหัวเราะได้ตลอดกาล
ลิตตี้กลายเป็นงอนอย่างรวดเร็วและคิดถึงการโจมตีสวน เธอหยิบฟองน้ำและกำลังจะถูตัวอิลิซิส
“ฮู้ว ฉันไม่ได้หัวเราะแบบนั้นมานานแล้ว แม้ว่าเธอไม่ผิด ไม่มีอะไรไม่ดีเกี่ยวกับมันเลยสักนิด… อ๊าาา…”
“หนูไม่ใช่เด็ก ดังนั้นหนูจะถูพี่ด้วย”
“สั้นๆ เธอโกรธที่เธอถูกบอกโดยบางคนว่าเธอไม่มีความเป็นนักเต้นเหมือนโรม่า ถูกไหม?”
“นั่นถูกแล้วค่ะ หนูไม่ได้คาดว่าจะถูกบอกนั่นก่อนหนูแม้แต่ลอง”
“ยังไงซะ ฉันคิดว่ามันช่วยไม่ได้ที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้”
ลิตตี้ไม่เคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องว่าเธอน่าหลงไหลหรือไม่ในฐานะผู้หญิง เธอเพียงแค่ไม่ชอบถูกปฏิบัติเป็นเด็กหรือมีเจนนิเฟอร์บอกเธอว่าเธอไม่ไหว
อิลิซิสมีความรู้สึกปนเปกันเกี่ยวกับสถานการณ์ของลิตตี้ เธอรู้สึกว่าเหตุผลที่ลิตตี้อารมณ์เสียมันไม่ใช่เรื่องถูกเรียกว่าเด็กแต่เป็นที่เจนนิเฟอร์ขาดความสนใจที่จะให้เธอเป็นนักเต้น
แต่ในฐานะของผู้นำคณะอัศวิน อิลิซิสอดไม่ได้ที่จะประเมินลิตตี้เองด้วยเหมือนกัน
“ฉันก็คิดว่าโรม่าจะเป็นนักเต้นที่ดีกว่าเธอ แต่ลิตตี้ อย่าลืมเกี่ยวกับพรสวรรค์ของเธอเอง”
“หมายถึงอะไรคะ?”
“เธอเป็นสัตว์ประหลาดกายภาพ ความสามารถทางกายภาพของเธอเหนือกว่าไม่ธรรมดา บางทีแม้แต่เกินเลยเหล่ากึ่งสัตว์ มันถูกว่าไว้ว่าผู้กล้าในอดีตเกิดมาด้วยคุณสมบัตินี้”
“ผู้กล้า…”
“จำนวนอาชีพทีเขียนอยู่ในบัตรนักผจญภัยนั้นไม่ธรรมดา แม้ว่าชายผู้เก่งกล้าที่สุดก็ยังต้องเลือกระหว่างอาชีพอย่างระวัง เหมือนผู้ชายที่ถูกรู้จักเป็นเทพดาบก็อาจไม่มีพรสวรรค์สำหรับการยิงธนูทุกอย่าง”
อิลิซิสจับแขนลิตตี้และลูบมัน ลิตตี้รู้สึกจั๊กจี้ แต่ไม่ได้ต่อต้านเพราะอิลิซิสดูจริงจัง
เมื่อผ่านไป อิลิซิสตรวจเนื้อบนน่องและต้นขา
“แม้ว่าด้วยความแข็งแกร่งปัจจุบันของฉัน ฉันยังถูกพิจารณาได้ว่าเป็นคนปรกติ ฉันไม่คิดว่าฉันจะแพ้ใครก็ตามเมื่อเป็นเรื่องวิชาดาบ แต่เมื่อมันเป็นหอก… หรืออาวุธยาว ชาร์ลจากธงแดงจะเหนือกว่าฉัน”
“พี่รู้จักชาร์ลซัง?”
“ธงแดงช่วยเราหลายครั้ง ถ้าพวกเขาทำงานหนักเพื่อให้ตัวพวกเขาเองถูกรู้จักนอกประเทศ พวกเขาแม้แต่ไปถึงระดับพิเศษได้”
“พวกเขายอดเยี่ยมเลย เนาะ!”
“ฉันอยากบอกเธอ ลิตตี้ ว่าเธอมีพรสวรรค์มากกว่าที่เรามี เธอถูกพิจารณาว่าเป็นสัตว์ประหลาดได้ แม้ว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น”
ลิตตี้บอกได้จากสีหน้าของอิลิซิสว่านี่ไม่ใช่มุข เธอสะบัดการจับของอิลิซิสบนแขนเธอไม่ได้ มันรู้สึกดั่งว่าอิลิซิสจะยั้งเธอไว้กับที่
ไม่สามารถสะบัดมันออก ลิตตี้รู้สึกเหมือนเธอถูกควบคุม
“มันเหมือนกันกับการฝึกคู่วันนี้ ฉันคิดว่ามันจะใช้เวลาเธอปรับตัวนานกว่านี้ถ้าพูดตรงๆ คู่ต่อสู้ของเธอ ลีลูตและอาร์วิน แทบไม่พูดเกี่ยวกับมันหลังจากนั้น… แต่ด้วยกันกับดีมีเตอร์ พวกเขายังไม่พักและฝึกด้วยตัวเองแค่เพื่อทำให้มั่นใจว่าพวกเขาทันความเร็วของเธอ…”
ลิตตี้ไร้คำพูด เธอเข้าใจว่าพวกเธออาจรู้สึกเหมือนกันกับที่โรม่ารู้สึกเกี่ยวกับเธอบนการพบเจอแรก
มันเป็นความอับอายเดียวกันที่โรม่าได้รับประสบการณ์หลังจากปะทะกับเธอ ณ สมาคมนักสู้
“ฉันได้มาดูสองคนนั้นมาสักพักแล้ว… และฉันบอกได้ว่าหลังจากที่เจอกับเธอ พวกเขารู้สึกว่าพวกเขายังขาดบางอย่าง”
“แต่! หนูคิดว่าหนูยังไม่ถึงขั้นนั้น!”
“พี่ขอโทษถ้านี่ทำให้เธอรู้สึกโกรธ แต่ได้โปรดเข้าใจว่าเราที่เหลือนั้นรู้สึกโกรธแค้นมากกว่าที่เธอรู้สึกระหว่างการต่อสู้”
“หนูเข้าใจ”
“เธอยอมรับนั่นได้ง่ายๆ”
อิลิซิสวัดไม่ได้ว่าลิตตี้เข้าใจสถานการณ์มากแค่ไหนแต่เธอปล่อยนั่นไป
อิลิซิสปล่อยลิตตี้ไป ตัดสินว่ามันอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เธอเข้าใจว่าตัวเธอหมายถึงอะไรตั้งแต่แรก
“อา…”
“ฟุฟุฟุ เธอไม่สามารถขยับได้ ใช่ไหม? ถ้าฉันอยากทำ ฉันทำอะไรที่ฉันต้องการก็ได้กับเธอ ที่นี่ตอนนี้”
“หนูจะไม่ให้พี่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว!”
“ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ”
ลิตตี้วัดไม่ได้ว่าอิลิซิสแข็งแกร่งแค่ไหน และว่าเธอหมายถึงที่เธอพูดจริงหรือไม่
ลิตตี้คิดว่าอิลิซิสเป็นสัตว์ประหลาดกายภาพมากกว่าเธอและไม่ควรชื่นชมตัวเธอ อย่างไรก็ตามกับอิลิซิส เธอเพียงแค่มีความแข็งแกร่งและความภาคภูมิใจของนักรบผู้แข็งแกร่งที่ได้พัฒนามาในเวลานานจนกว่าได้สภาพปัจจุบัน
แม้แต่อิลิซิสก็จะถูกห่อหุ้มด้วยความอิจฉาหรือความหดหู่ถ้าไม่ใช่เพราะความภาคภูมิใจและความแข็งแกร่งของเธอ
“ฉันขอโทษที่ทางการมากเกี่ยวกับนี่ แต่ ลิตตี้ มีอย่างหนึ่งเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดกายภาพที่ทำให้คนนั้นพิเศษไม่เหมือนใคร”
“นั่นอะไรเหรอคะ?”
“พวกเขาชอบขาดพลังเวทมนตร์เป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตำนานของพวกเขาจะบอกมาว่ามีพลังพอที่จะกวาดล้างทุกอย่างด้วยการเหวี่ยงดาบเดียว”
“ด้วยดาบเดียว! มันทั้งหมด! กวาดล้างทุกอย่างเหรอ?”
“ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องนิทานหรือความจริง มีหลายทฤษฎีว่าพวกเขาดั้งเดิมแล้วเกิดมาด้วยพลังเวทมนตร์ แต่พวกเขาไปเน้นการเพิ่มความสามารถทางกายภาพ เธอน่าจะไม่มีพลังเวทมนตร์มากด้วยตัวเอง ถูกไหม?”
“ใช่…”
เวทมนตร์ไฟที่มามุใช้ในเมืองโทปาสเหนือกว่าของลิตตี้
นี่ไม่ใช่ประเด็นทักษะ แต่เป็นเพียงแค่ความต่างระหว่างจำนวนพลังเวทมนตร์รวม ถ้าลิตตี้ถูกให้พรเป็นพลังเวทมนตร์ด้วยเหมือนกัน เธออาจเป็นยิ่งมากกว่าสัตว์ประหลาด
“บางทีมันเป็นการต่อต้านเล็กๆจากโชคชะตาว่าคนเหล่านั้นผู้ถูกกำหนดในฐานะสัตว์ประหลาดไม่ถูกให้พรเป็นพลังเวทมนตร์ด้วยเหมือนกัน”
“หนูก็สนใจในสมาคมนักเวทย์ แต่หนูอาจปล่อยนั่นให้คูฟาและมามุซัง”
“เธอไม่ผิดหวังเกี่ยวกับนั่นเหรอ?”
“ค่ะ ถ้ามันเหมือนที่อิลิซิสซังพูดมาจริงๆ”
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว… เธอนี่น่ารักเหลือเกินนะ…”
“เมียน!”
เมียนถูกหุ้มด้วยฟองและนอนอยู่บนพื้นห้องน้ำพร้อมเปิดท้อง
หลังจากนั้น เธอพลิกตัวเธอกลับและคลานขึ้นร่างกายลิตตี้และรัดตัวเองรอบๆเธอ
“เมียน?!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! บางทีเธอพยายามถูลิตตี้…”
ลิตตี้ค่อนข้างตกใจโดยความสามารถอิลิซิสที่จับเมียนผู้รวดเร็วได้ในพริบตา
เมียนร้องขณะเธอห่อรอบอิลิซิสเหมือนผ้าฟองน้ำและเคลื่อนไหวไปทั่วเพื่อถูร่างกายเธอ
ลิตตี้เข้าใจทันทีว่าเจตนาเธอคืออะไร
อิลิซิสพูดว่า “เมียน พยายามทำแบบเดียวกันกับนี่ที่เธอกำลังทำตอนนี้”
“เมียน!”
“ว้าว! อ่ะ นี่อะไรกัน?” (อิลิซิส)
การเคลื่อนไหวเหมือนผ้าฟองน้ำของเมียนและความรู้สึกของผ้าถูตัวเธอนั้นคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ การถูที่วิ่งทั่วทั้งร่างกายเธอเป็นประสบการณ์ใหม่จริง
“เมียน ดูแลที่เหลือนะ”
“เมียนเมียน!”
“อ๊าา! นี่แหละ!”
“เมียน!”
ณ ช่วงเวลานี้ อิลิซิสพิจารณาอัญเชิญสัตว์ผีเมียนจริงจัง อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงที่มันไม่ถูกศีลธรรมติดมาด้วยกับความรู้สึกนี้
อิลิซิสสงสัยว่านี่เป็นสิ่งถูกต้องที่จะทำในฐานะมนุษย์ไหม
“เมียน!”
“นี่แหละ นี่แหละดี…”
“อิลิซิส มันได้เวลาเสร็จแล้วไหม?”
ลิตตี้กังวลว่าเมียนถูอิลิซิสมากเกินไป
ลิตตี้ลางฟองออกจากอิลิซิสอย่างใจเย็น
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu