สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 102 ลิตตี้ถูกฝึกโดยอิลิซิส
102 ลิตตี้ถูกฝึกโดยอิลิซิส
สมาคมนักเวทย์ ในแง่หนึ่ง เป็นสมาคมอาชีพที่เข้ายากมากที่สุดเพราะถ้าคนหนึ่งไม่มีระดับพลังเวทมนตร์เหนือระดับหนึ่ง พวกเขาจะถูกปฏิเสธทันที
และโดย“เหนือระดับหนึ่ง” พวกมันหมายถึงระดับเป็นไปได้ที่ต่ำที่สุด แม้ว่าถ้าผู้สมัครได้รับชื่ออาชีพนักเวทย์ ถ้าพลังเวทมนตร์ของพวกเขาต่ำ จะไม่มีที่สำหรับพวกเขาที่จะทำหน้าที่อย่างแข็งขันในสมาคม
ในหลายปาร์ตี้ นักเวทย์ถูกคาดหวังให้เป็นพลังการยิงหลัก และสุดท้ายพวกเขาบางคนกลายเป็นนักผจญภัยถูกเนรเทศเพราะพวกเขายอมรับกับสถานการณ์ของพวกเขาในเรื่องนี้ไม่ได้
“เวทมนตร์ไฟระดับกลาง – กระสุนระเบิด…”
“อย่างที่คาดกับมามุซามะ!”
สมาธิคือกุญแจสู่ความสำเร็จเมื่อร่ายเวทมนตร์
มีหลายสิ่งให้พิจารณา เช่นการสร้างสูตรเวทมนตร์และการควบคุมพลังเวทมนตร์
ขึ้นอยู่กับเวทมนตร์และแต่ละบุคคล การร่ายจำเป็น และยิ่งท้าทายมากกว่าเมื่อนั่นไม่ได้ถูกรับรู้
มามุผู้ถูกเลือกมาโดยนาตาชา ผู้สำเร็จจากสมาคม ถูกพิจารณาว่าเป็นอัจฉริยะ
ลูกบอลไฟเกือบห่อหุ้มทั้งตัวของมามุหยุดกลางอากาศ ส่องสว่างหน้าตาที่ทึ่งของผู้ฝึกสอนและผู้ฝึกหัดด้วยแสงสีแดง
“…ลบ”
มามุพูดเบาๆ และลูกบอลไฟใหญ่ย่อส่วนและหายไป สูตรเวทมนตร์ในการควบคุมและดับพลังเวทมนตร์ทำให้คนดูรอบข้างตกใจยิ่งขึ้น แม้แต่ผู้ฝึกสอนก็ยังไม่มีความมั่นใจในการทำความสำเร็จนี้อย่างลื่นไหล
เพิ่มเติมจากความสำเร็จนี้ หมวกไม่ปรกติและไม้เท้าไม้มอบภาพลักษณ์มืออาชีพเต็มตัว
“ทำได้ยอดเยี่ยมมาก มามุซามะ ไม่เพียงแค่เธอเชี่ยวชาญเวทมนตร์ระดับกลางในระยะเวลาสั้นๆ แต่เธอก็ควบคุมมันได้อย่างดี มาให้เราได้ปรึกษาการสอบสุดท้ายของเธอกัน”
“การสอบสุดท้ายเหรอ? ว้าว! ฉันทำมันได้!”
“ช่างเป็นความเร็ว! ไม่! เร็วเกินไป ฉันไม่ได้คาดหวังที่จะเป็นพยานการเติบโตเช่นนี้…”
นาตาชา ผู้กำลังดูแลมามุในชื่อของการติดตามคุ้มกันเธอ กำลังคิดอย่างเดียวกันกับผู้ฝึกสอน
เธอเป็นนักเวทย์มาปีครึ่งหลังจากได้ชื่ออาชีพในสมาคมนักเวทย์ และสองปีในสมาคมนักสู้ เธอก็เป็นอัจฉริยะ แต่เมื่อเป็นเรื่องเวทมนตร์ มามุนั้นเหนือกว่า
ในกรณีของมามุ มันเป็นแค่ต่ำกว่าครึ่งปีตั้งแต่เธอเริ่มฝึกแม้แต่เป็นผู้ฝึกหัด เธอมีความเข้าใจเวทมนตร์ดีกว่า เพิ่มเติมจากบ่อพลังเวทมนตร์ที่เธอมีในตัว
“ในท้ายที่สุด มันคือพลังการทำลายที่ถูกนับ แม้ว่าฉันเก่งควบคุบฉันยังขาดในหลายที่” (มามุ)
“ต่อไป คูฟา”
ทันทีหลังจากคูฟาถูกเรียก มามุสั่นกับเวทมนตร์ที่ลอยไร้จุดหมายอย่างอ่อนโยน
มันเหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็น ที่เยือกแข็งไปถึงแก่นดวงใจ เธอแม้แต่รู้สึกถึงความรู้สึกเจ็บดั่งน้ำจำนวนมากถูกเทเข้าจมูกและปาก
โดยพื้นฐานแล้ว พลังเวทมนตร์จำนวนรวมยิ่งใหญ่กว่าที่คนหนึ่งมี พวกเขาชอบรับรู้พลังเวทมนตร์มากกว่า ณ เวลาเดียว นักเวทย์จะสามารถค้นพบความจริงว่ามีความต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างคนเหล่านั้นที่มีบุญด้านเวทมนตร์จริงๆ
หนึ่งในผู้ฝึกหัดมองดูหลังคูฟาขณะเขาก้าวออกไปข้างหน้า แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อได้สักหนึ่งอย่าง
“อะไรกับคนนี้เนี่ย?”
มามุสงสัยว่าคูฟาได้ยินคำพึมพำของเธอ ผู้ฝึกสอนมองดูความกลัวของสาว ผู้เด็กกว่าเขา
คูฟาเมินเขา ยื่นมือออกมา และจากนั้นลูกบอลน้ำปรากฏ
สอง, สาม, สี่, ห้า, ไม่มีลูกบอลน้ำสักลูกเดียวที่เป็นขนาดเดียวกัน แต่จำนวนเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีหยุด
ผู้ฝึกสอน บางทีตัดสินใจว่านี่น่าจะเป็นความคิดที่ไม่ดี โบกไม้เท้าเขาด้วยมือหนึ่ง และทรายห่อหุ้มลูกบอลน้ำ เวทมนตร์ทรายแยกมาจากธาตุดินดูดน้ำ กระนั้นมันไม่สามารถลบลูกบอลน้ำ
จำนวนของน้ำมากกว่าจำนวนทราย เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ แม้แต่หัวใจผู้ฝึกสอนก็แตกสลาย
“นั่นพอแล้ว! เธอหยุดได้แล้วตอนนี้!”
“คะ, ค่ะ!”
โดยไม่ได้ออกคำสั่งโดยคำพูด คูฟาพยายามระงับเวทมนตร์ที่เธอใช้งาน
ถ้าอะไรกลายเป็นผิดพลาด ลูกบอลน้ำจะกลายเป็นมากกว่าพอที่จะท่วมคนในห้อง แต่โชคดี ทีละหนึ่งลูก พวกมันหายไป เมื่อเวลาที่ทุกอย่างเบาบางลงแล้ว คูฟาห่อไหล่
ถ้ามันเป็นหลังจากนั้นนิดหน่อย บริเวณฝึกจะท่วมในน้ำอย่างสิ้นเชิง
ไม่ใช่แค่น้ำท่วม
“…ควบคุมเวทมนตร์นั้นท้าทาย ไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันยังไม่สามารถทำมันได้ดี…”
มันเป็นการนำทางที่ดีที่สุดที่ผู้ฝึกสอนมอบให้ได้ ครั้งนี้ คูฟาไม่ได้ใช้พลังของอควาเรีย ภูติน้ำกำลังยืดตัวและคิดอย่างไม่มีประโยชน์ต่อจากนาตาชา
พูดอีกอย่าง นีคือแค่ผลลัพธ์ของพลังเวทมนตร์จำนวนมหาศาลของคูฟา
ผู้ทำสัญญาที่ถูกรู้จักว่าพระัเจ้าน้ำโกรธแค้นและเกือบมีพลังเวทมนตร์ไม่จำกัดทำให้คูฟาเหมาะสมกับความไม่มีจำกัดของธาติน้ำ
มันถูกมองเป็นโครงสร้างพรสวรรค์ที่ยิ้งใหญ่ไม่ได้อีกแล้ว แต่เป็นภัยพิบัติเดินได้ถ้าโมโห จะเปลี่ยนเป็นภัยพิบัติเดินได้
ผู้ฝึกสอนขอบคุณสันติสุขและความสงบที่เขามีจนถึงทุกวันนี้ สงสัยว่าทำไมเด็กที่เก่งจนไร้สาระไม่เคยถูกพบมาก่อน
ไม่อยากทำให้เธอคิดว่าเธอถูกเมิน ผู้ฝึกสอนพยายามพูดกับคูฟา แต่มามุยืนตรงหน้าของเธอ
“โอ้ อืม!”
เมื่อเห็นว่ามามุไม่เคลื่อนไหวไปด้านข้าง ผู้ฝึกสอนรู้สึกกังวลและหวังว่าสุดท้ายมามุไม่ยั่วยุคูฟา เพราะทั้งหมด เขาไม่รู้จักคูฟาเป็นการส่วนตัว
นอกจากนี้ มันคือหน้าที่ของผู้ฝึกสอนที่จะเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างผู้ฝึกหัด โดยเฉพาะคนที่มีพรสวรรค์
“โอ้ เธอรู้ว่าเธอยอดเยี่ยมกับการควบคุมพลังเวทมนตร์… ฉันเทียบไม่ได้เลยสักนิด”
“…เอ๋“
“โอ้ ฉันไม่ได้ตั้งใจแทรกเธอ”
“อืม ฉันไม่เป็นอะไร…”
ไม่มีสัญญาณของปัญหา
ทันทีที่ผู้ฝึกสอนรู้นั่น เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
***
“ฉัน เราแพ้…”
หน้าลิตตี้ ลีลูตและอาร์วินล้มหงายหลัง บนวันที่สอง การฝึกต่อสู้สองต่อสอง ลิตตี้เอาชนะผู้บัญชาการกองทหารของหน่วยเฟนริสีเงิน
มันไม่ใช่แค่พรสวรรค์อย่างเดียวที่ทำมัน พวกเขาถูกท่วมท้นโดยความแข็งแกร่งและออราของลิตตี้ แม้ว่ามันเป็นการฝึกต่อสู้ ลิตตี้ไม่ได้แม้แต่พยายามซ่อนเจตนาฆ่าจนถึงช่วงเวลานี้
นั่นคือที่เธอรู้สึกจริงจังมากแค่ไหน แต่ทันทีที่การต่อสู้จบลง เจตนาฆ่าเธอหายไปเหมือนมันเป็นเรื่องโกหก และลิตตี้ไม่ได้ปล่อยแม้แต่ลางเล็กน้อยของมัน
“ขอบคุณ!”
บางทีเพราะการเห็นใจพวกเขา, ผู้แพ้, ลิตตี้ขอบคุณพวกเขาอย่างดัง
ลีลูตไม่ได้ยืนขึ้นดั่งเพื่อดูความพยายามของเขา เขายังจับดาบชี้สู่ลิตตี้
ท่ายืนเขาที่พยายามสู้กลับทำให้มันชัดเจนกับทุกคนที่มองเขาว่าเขาอารมณ์เสียและสิ้นหวังโดยผลที่ออกมา
อาร์วินยังคงนั่งอยู่จ้องมองพื้นในความสลดใจ พวกเขาเกิดจากครอบครัวที่ดีและมีบุญด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีตั้งแต่ยังวัยเด็ก และพวกเขาก็ทุ่มเทให้ดาบ
ทั้งลีลูตและอาร์วินเชี่ยวชาญดาบตั้งแต่อายุอายุ 16 พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทและมีความเป็นคู่แข่งแบบเพื่อนกับกันและกัน
“ลุกขึ้น ทั้งสองคน!”
“กัปตัน…”
“อย่ากังวลเกี่ยวกับมัน นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง”
“แต่…”
“ถ้าอย่างนั้นดูการฝึกต่อสู้ของฉัน มันเป็นตาฉัน ลิตตี้”
ตอนนี้มันเป็นการฝึกต่อสู้กับบอิลิซิส ลิตตี้เป็นคนเดียวเท่านั้นผู้ที่ตื่นเต้น ระหว่างเหล่าทหารยืนแข็งอยู่กับที่
ในหน่วยนี้ อิลิซิสแทบไม่ฝึกต่อสู้กับลูกน้องเธอเลย มันเป็นเพียงเพราะไม่มีใครผู้แม้แต่ทำการฝึกต่อสู้อย่างถูกต้องกับเธอ
มันจะไร้ความหมายสำหรับเธอที่จะออมมือให้พวกเขา และเธอไม่ได้ทำมันเพราะเธอคิดว่ามันจะไม่เคารพคู่ต่อสู้
“ดูให้ดีๆ จากตอนนี้ไป ลิตตี้จะถูกฉันเอาชนะ”
“มะ…!”
แม้ว่าลิตตี้รู้ว่าอิลิซิสเก่งกว่าเธอ เธอก็ไม่รู้สึกว่าอิลิซิสอยากพ่ายแพ้และแสดงความเหนือกว่ากับลิตตี้
จากจุดนี้ไป ลิตตี้มุ่งมั่นที่จะทำเต็มที่เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้เธอและลุยเต็มที่ อิลิซิสเป็นคู่ต่อสู้ที่ต้องการความตั้งมั่นประเภทนั้น
ลิตตี้อยากเห็นว่าเธอจะสู้อิลิซิสได้นานแค่ไหน ผู้ที่ถูกพิจารนาเป็นระดับเดียวกันกับนักผจญภัย“ระดับพิเศษ”
ลิตตี้ เธอใช้วิธีไหนที่จำเป็นก็ได้ตามสบาย และเธออาจใช้เมียนหลักๆด้วย
“…หนูไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บ”
“ฟุฟุฟุ… อย่างนั้นเหรอ กระนั้น นั่นเป็นเจตนาฆ่าจำนวนเยอะอยู่นะ”
อิลิซิสรับการข่มขู่ของลิตตี้ซึ่งหน้าโดยไม่สะดุ้งสะเทือน มันแข็งแกร่งจนแม้แต่เทียบกับอะไรที่เธอปล่อยในการต่อสู้ฝึกก่อนหน้าไม่ได้เลย และที่ทำให้คู่ต่อสู้ก่อนหน้าของลิตตี้สิ้นหวังและอารมณ์เสียมากกว่าเดิม
สัตว์ประหลาด, ตัวประหลาด, ไม่ใช่มนุษย์ นอกจากอิลิซิส ทุกคนมีภาพลักษณ์เดียวกันของลิตตี้ แม้ว่าพวกเขาไม่พูดออกมาเป็นคำพูด
ลิตตี้พร้อมดาบของเธอ
“ลุยกันเถอะ!”
เมื่อเวลาที่เธอสังเกต ดาบไม่อยู่ในมือของลิตตี้แล้ว มันบินผ่านอากาศและหมุน และแทงไกลห่างออกไป
อย่างที่คาด ลิตตี้แข็งนิ่ง มันจบแล้ว เธอแพ้ไม่มีอะไรที่เธอทำได้ มันใช้เธอไม่กี่วินาทีเพื่อรับรู้นั่น
“เกิดอะไรขึ้นน่ะเหรอ? ในการต่อสู้จริง เธอไม่ได้คาดหวังให้บางคนพูด ‘เอาล่ะนะ’ ก่อนโจมตี”
“ค่ะ”
ทันทีที่ลิตตี้หยิบดาบขึ้นมาและพยายามโจมตี ดาบหายไปจากมือเธออีกครั้ง โดยไม่มีอาวุธ เธอใช้กำลังกายเธอทั้งหมด และทำเต็มที่เพื่อที่จะเข้าประชิดอิลิซิส
เพราะเธอเอาชนะด้วยดาบเธอไม่ได้ เธอตัดสินใจสู้ด้วยการเข้าหาตรงๆ
อิลิซิสยอมรับการตัดสินใจของเธอ แต่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ลิตตี้ต้องการ
เหมือนเคย การโจมตีไม่ได้เป็นไปทางลิตตี้
“…อ๊ะ”
“นั่นเป็นการตายครั้งที่สอง ถูกมั้ย?”
ใบมีดชี้สู่คอลิตตี้ มันดั่งอิลิซิสเห็นแผนเธอได้ ถ้ามันเป็นการต่อสู้จริง ลิตตี้จะถูกฆ่าสองครั้งโดยอิลิซิส
อิลิซิสทรงพลังมากกว่าลิตตี้คาดไว้มาก
ตอนนี้ เธอถูกปฏิบัติเหมือนเด็กจริงๆ
“เธอแข็งแกร่งกว่าพวกคนของฉัน แต่หน้าฉัน มันไม่ได้ต่างกัน”
ลูกน้องอิลิซิสรู้สึกเสียใจกับลิตตี้ ทำไมเธอทำมากขนาดนี้กับลิตตี้ ผู้สมควรเป็นคนโปรดของเธอ?
ถ้าจิตใจลิตตี้เหมือนกันกับพวกเขา เธอจะเสียกำลังจะและจะบูดบึ้งไปด้วยกับกับอาร์วินและลีลูต
เมื่อเห็นลิตตี้ยืนอยู่ต่อหน้าอิลิซิสแบบยังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจ เหล่าอัศวินรู้สึกว่าใจพวกเขาแน่นขึ้น
“อาร์วิน, ลีลูต, อย่าเสียกำลังใจ นายรู้ว่าลิตตี้แข็งแกร่งกว่านายสองคน แต่นายรู้มั้ย ยังมีคนอีกมากมายในโลกแห่งความเป็นจริงที่ไปถึงที่เหนือกว่าอะไรที่ฉันทำได้ พูดอีกอย่าง ไม่มีขีดจำกัดกับความแข็งแกร่ง คนหนึ่งต้องพิจารณาว่าเป็นบางคนที่แข็งแกร่งกว่าได้ และเข้าใจกับนั่นที่จุดหนึ่ง แน่นอน มันยังสำคัญที่ต้องทะเยอทะยานด้วย”
ไม่เพียงแต่ประเทศเท่านั้น แแต่อย่างน้อยบนทวีปนี้ มีผู้คนมากมายผู้แข็งแกร่งกว่าอิลิซิส
เรดเนอร์, นางฟ้าที่ถูกอัญเชิญโดยแบดริก ผู้แข็งแกร่งพอที่จะเพียงแค่เล่นกับเรดเนอร์ และน่าจะอีกหลายบุคคลที่เธอยังไม่เคยพบเจอ
ด้วยการรับรู้นี้ ลิตตี้สรุปว่าเพื่อสู้บางคนแข็งแกร่งมากๆ เธอจะจำเป็นที่อย่างน้อยจะต้องอยู่ระดับที่คู่ต่อสู้เธอจะรับรู้ความแข็งแกร่งของเธอได้
“ลิตตี้ จะอะไรถ้าเธออยู่ระหว่างผจญภัยตอนนี้? เธอยังจะมีความสุขกับมันมั้ย?”
“ค่ะ แต่หนูอาจประหม่านิดหน่อยเกี่ยวกับมัน”
อิลิซิสพิจารณาทำลายหัวใจของลิตตี้จริงจัง ถ้าเธอทำนั่น ลิตตี้อาจพิจารณายอมแพ้กับการผจญภัยด้วยกันและเข้าฝั่งของเธอ
แม้ว่าอิลิซิสจะมีความสุขมากๆที่มีลิตตี้อยู่ข้างเธอ เธอรู้สึกว่าลิตตี้สำเร็จได้มากกว่าตามเส้นทางของเธอเอง
“ถ้าหนูตาย หนูผจญภัยไม่ได้ นั่นจะน่าเสียดาย…แต่อิลิซิสซัง ตราบใดที่หนูมีชีวิต ถ้าอย่างนั้นหนูจะกลายเป็นแข็งแกร่งกว่า”
“…เข้าใจแล้ว”
อิลิซิสเชื่อว่าลิตตี้จะไม่ร้องไห้ฟูมฟายจากบางอย่างแบบนี้ และเหล่าอัศวินก็เข้าใจ
เหล่าอัศวินได้รู้ว่าอิลิซิสพยายามซ้อมลิตตี้อย่างจริงจัง
ณ เวลาเดียวกัน ความโหดร้ายของสถานการณ์ก็ชัดเจตนอย่างเจ็บปวดแค่จากการมองดูเธอ เหล่าอัศวินบางคนคิดว่าพวกเขาจะแตกหักถ้าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งของลิตตี้
“เข้าใจแล้ว เธอแม้แต่มีความสุขกับจุดจบการผจญภัย อย่างที่คาด ความเข้าใจตัวเธอนั้นมีขีดจำกัด”
อิลิซิส ผู้ถูกลิตตี้แสดงผลง่านเกินหน้าในแง่ของความสามารถเท่าที่ผ่านมา อ้าแขน สำหรับครั้งแรก ลิตตี้รู้สึกถึงความเย็นวาบเมื่อต้องสู้กับคู่ต่อสู้มนุษย์
‘ฉันจะฝึกเธอถึงขีดจำกัด’ อิลิซิสคิดระหว่างมีรอยยิ้มน่ากลัวบนใบหน้าของเธอ
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu