สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 104 ลิตตี้ไปดูคูฟา
เมื่อลิตตี้และโรม่าไปสมาคมนักเวทย์ พวกเขาเกือบปิดประตูใส่
ลิตตี้โกรธเห็นได้ แม้ว่าเธอบอกพวกเขาว่าเธอไม่ได้อยากมาเป็นผู้ฝึก ในความจริง แม้ว่าอิลิซิสบอกเธอเป็นอย่างอื่น เธอยังอยากลองและไม่ยอมแพ้
สมาคมมีคนเฝ้าประตูหนึ่งหรือสองคนที่ทางเข้า ไม่ใช่สำหรับการป้องกัน แต่ไว้เลี่ยงปัญหาที่ต้องไล่คนไร้ความหวัง
ลิตตี้อดไม่ได้ที่จะพูด “เราไม่รู้หรอกถ้าเราไม่ลอง”
“แหมแหม… เราเตือนเธอแล้วนะ”
แม้ว่าโรม่าไม่ได้โดนไล่เมื่อเธอมาที่สมาคมนักเวทมนตร์ก่อนหน้า พวกเขาก็คิดว่าเธอเป็นพวกไม่ไหวด้วยเหมือนกัน
แม้ว่าตอนนี้เธอมีชื่ออาชีพนักสู้ วิธีที่สมาคมนักเวทย์ทำตัวกับเธอก่อนหน้าไม่ใช่ความทรงจำที่ดีของเธอ
ผลักไสความจำไว้ลึกๆในใจ เธอเข้าไปสมาคมนักเวทย์กับลิตตี้
แค่เมื่อพวกเธอกำลังจะพูดกับคนของสมาคมที่โต๊ะต้อนรับ พวกเธอได้ยินคนร้องจากหลังห้อง
“มันมาจากโถงฝึก…!”
ลิตตี้และโรม่าตามพนักงานต้อนรับหน้าซีด
เมื่อพวกเธอสามคนไปถึงบริเวณฝึก พวกเธอเจอหลังผู้ฝึก พวกเขาดูเหมือนกำลังสนใจบางอย่าง
ณ จุดนั้น ลิตตี้หาคูฟาพักหนึ่ง แต่ไม่เจอ
“เกิดอะไร!”
“โอ้ไม่…โอ้ให้ตาย สาวคนนี้ขอให้สอน… และ…”
อย่างแรกที่ลิตตี้เห็นคือมามุจับไหล่เธอ เธอเลือดไหลและกลั้นน้ำตาที่หลั่งออกมาจากตาเธอไม่ได้
ร่างกายลิตตี้เคลื่อนไหวก่อนเธอได้คิด กระโดดสู่ข้างมามุ
“มามุซัง?!”
“ลิตตี้ซัง… นี่เหรอ นี่… ไม่มีอะไร…
ลิตตี้ไม่ตกใจที่มามุอยู่ที่นั่นกับผู้คุ้มกันชื่อนาตาชา อย่างไรก็ตาม นาตาชาหน้าตาโมโหแบบที่ลิตตี้ไม่เคยเห็นมาก่อน
ผู้ชายที่เป็นผู้รับการจ้องของเธอเป็นชายเหมือนนักเวทย์ที่มีผมโมฮอกบนหัว ลิตตี้สงสัยว่าเขาเป็นผู้ฝึกสอนหรือผู้ฝึก
แต่เธอไม่ลืมว่าเธอจำเป็นต้องทำอะไรก่อนหน้านั้น
“พวกคุณสักคนใช้เวทมนตร์รักษาได้มั้ย?!”
เมื่อลิตตี้เร่ง สมาชิกสมาคมที่ดูแลการปฐมพยาบาลดีดกลับมาสู่ความจริง และเริ่มรักษามามุ
เขาบอกลิตตี้ว่าเขามีชื่ออาชีพนักรักษา แต่เขารักษามามุยาก เมื่อลิตตี้ดูแผลเธอใกล้ๆ เธอเห็นได้ว่าบางอย่างแทงไหล่มามุ
“โอ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายน่ะ” (คนผมโมฮอก)
“นายไม่ได้ตั้งใจได้ไง…”
“นายโกหก! นายจงใจเล็งเธอ!”
หนึ่งในผู้ฝึกตะโกนชี้หน้าคนโมฮอกสีแดง คนโมฮอกหัวเราเบาๆแต่น้ำเสียงกลับไปปรกติอย่างเร็ว
ลิตตี้สังเกตุผู้ชาย แต่เธอไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขานอกจากรู้ว่าเขาเป็นนักเวทย์ ลิตตี้ ที่มีพลังเวทมนตร์ต่ำ วัดพลังความสามารถฐานะนักเวทย์ของผู้ชายไม่เป็น
โรม่า ที่มีพลังเวทย์ถึงมากกว่าลิตตี้ก็ไม่ต่างกันกับเธอมากดด้วย
“ไม่ไม่ ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่คิดว่าเธอกระจอกขนาดนี้รู้มั้ยหนูน้อย?”
“เฮ้แก ทำไมไม่หุบปาก?”
“โอ้คุณนายน่ากลัวจังเลย”
กับคำขู่นาตาชา ผู้ชายถอย ดูแล้วเห็นว่าทั้งกลัวทั้งกำลังสนุก
เขาเพิ่งเข้าสมาคมนักเวทย์เป็นผู้ฝึก อย่างไรก็ตามเขาจะเป็นผู้วิเศษแล้ว พูดอีกอย่าง เป้าหมายเขาไม่ได้มาเอาชื่ออาชีพ
“อืม ฉันถูกดุโดยอาจารย์ว่าอย่างน้อยฉันควรได้ชื่ออาชีพผู้วิเศษ ฉันเลยไม่ค่อยเต็มใจมาที่นี่ แต่ปรากฏว่าฉันต้องได้ชื่ออาชีพนักเวทย์เพื่อเป็นผู้วิเศษได้ ยุ่งยากจริงๆ ฉันต้องมาที่ชวนหาวแบบนี้กับพวกกระจอกที่พยายามสุดตัว”
“…นายเป็นผู้สืบทอดของนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เอเกอร์ เอกเหรอ?”
“โอ้เธอพูดถูกต้อง เธอคิดได้นี่”
“ฉันรู้จักสัญลักษณ์ของเอกบนผ้าคลุมนาย ฉันแน่ใจว่าผู้ฝึกสอนรู้แล้วด้วย”
สัญลักษณ์ที่โรม่าชี้ส่องแสงสีทองแถวอกของผ้าคลุมชาย
ลิตตี้กังวลเกี่ยวกับผู้ชาย แต่เธอกังวลเกี่ยวกับมามุ
เธอคอยดูผู้ชายระหว่างชำเลืองบางครั้งคราวที่แสงของเวทมนตร์รักษา
“ศิษย์ของออสเว็น ทายาทนักเวทย์โบราณเอเกอร์… พวกเขาทั้งหมด ถูกรู้จักเพราะเวทมนตร์ล้ำหน้าและคุณภาพพลังเวทมนตร์”
“ช่ายเลยจ้า ตอนนี้เราถูกรู้จักเพราะพรสวรรค์เรา แต่เขาไม่ให้เป็นผู้ฝึกถ้าไม่มีชื่ออาชีพ ดังนั้นเอง ฉันเลยมาที่นี่เพราะอาจารย์เข้มงวดกับฉันมาก มันวุ่นวายน่ะ รู้มั้ย?”
“ศิษย์ชายผู้ยิ่งใหญ่ทำอะไรกับเด็กตัวเล็กๆ?”
“เดี๋ยวก่อนเลย… ฉันถูกขอว่าฉันสอนเธอได้มั้ยและเธอเห็นด้วย โทษที่ที่ฉันแรงไปหน่อย แต่เธอดวงดีที่ไม่ตายถูกป่ะล่ะ?”
“แผลรักษาช้า…! แกทำอะไรลงไป?”
นักรักษาตะโกนใส่ผู้ชาย จากนั้นนาตาชากำเสื้อใกล้หน้าอก ยกเขานิดขณะดึงเข้าเขาหาด้วยสองมือ
“เฮ้ยเฮ้ย ไม่เห็นต้องแรงมากเลย…”
“ฉันเข้าใจที่มามุซามะตกลงฝึกด้วย และเธอได้รับบาดเจ็บเพราะมัน ฉันยั้งแล้วเพราะถ้าฉันกระทืบแกที่นี่ ฉันจะทำตัวขัดกับการตัดสินใจของมามุซามะ แต่แกรู้มั้ย? การฝึกก็เป็นบททดสอบทักษะผู้สอนเหมือนกัน”
“อะไรกัน เธอคิดจริงๆว่าฉันเป็นครูไม่ดีกับเธอเหรอ?”
“ฮ่าาา แกอยากให้ฉันกระทืบความหยิ่งแกหายไปเรอะ? แกคิดว่าแกเก่งนักเหรอ?”
ความโมโหนาตาชาทำให้แม้แต่ผู้ชายเปลี่ยนท่าทาง สำหรับเขา นาตาชาคุ้มค่าให้สนใจ
สีหน้าผู้ชายเปลี่ยนหลังดึงผ้าคลุมให้เรียบหลังนาตาชาปล่อยเขาไป
“…ฉันคิดว่าพวกเขาทั้งหมดพวกขยะ แต่มันดูเหมือนมีคนเก่งๆที่นี่ ถึงว่าอย่างนั้นนะ คนที่พลังเวทมนตร์ต่ำๆแบบเธอมันน่าสมเพช”
“สมเพช? ฉันเชื่อว่าฉันยังเก่งกว่านักเวทย์ส่วนใหญ่”
“ฉันไม่ได้พูดถึงเธอคนเดียว ฉันพูดถึงผู้ฝึกและผู้ฝึกสอนพวกเขา ฉันหมายถึง พวกเขาสอนอะไร? ผู้ใช้เวทมนตร์ถูกกำหนดโดยพลังเวทมนตร์รวมมาแล้ว”
“ว้าว แกคิดว่าแกฉลาดที่ชี้บางอย่างชัดๆอยู่แล้ว”
นาตาชาตอบแอบประชด แต่ชายจริงจังจริง ส่ายหน้าม้าโมฮอกกแล้วยิ่งพูดมากกว่าเดิม
“ไม่เข้าใจเรอะ? แม้แต่แบนเดล่า คนเละเทะที่ถูกเรียกว่าแม่มดลบล้าง ไปถึงความสุดยอดแค่เพราะพลังเวทมนตร์สูงจนโง่บรมเท่านั้น การควบคุมและการปล่อยพลังเวทมนตร์มันเป็นเรื่องเล็ก ที่ฉันจะพูดบางคือคนพลังเวทมนตร์ต่ำๆไม่ควรเรียกตัวเองว่าผู้ใช้เวทมนตร์ มีพวกเขาอยู่ใกล้มันไม่ดี หรืือเธอจะรับผิดชอบนั่น? อะไรจะเกิดถ้าฉันถูกพวกนั้นลากลงที่ต่ำ?”
“นายมีความเชื่อโง่ๆและไม่ปรกติ ฉันคิดว่านายควรประเมินตัวเอง… ที่คิดว่ามันสำคัญที่จะใหญ่ให้ ‘โลกรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ฉัน’ หรือ ‘คนที่พลังเวทมนตร์สูงควรเป็นผู้ปกครอง’”
“นั่นผิดอะไรล่ะฮ๋าาา?”
นาตาชาตกใจกับคำตอบที่ไม่คาดของชาย เธอประทับใจด้วยซ้ำที่ผู้ชายถูกยั่วด้วยคำพูดธรรมดา
แต่ที่ตกใจที่สุดคือผู้ชายไม่ได้ปฏิเสธเมื่อนาตาชาเดาวิธีคิดของเขา ซึ่งบอกว่าเขาคิดว่าเขาพิเศษเพราะเขาใช้เวทมนตร์เก่งจริงๆ
“พวกแก แกเทียบฉันกับพวกบ้าผู้รู้แค่ว่าเหวี่ยงอาวุธและใช้ทักษะยังไงเหรอ! ฉันเหนือกว่าพวกนั้นทั้งหมด! ไร้สาระว่ะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผู้ใช้เวทมนตร์ควรถูกปกป้อง? เราเหนือพวกนั้น! ยุคใหม่เป็นของเรา ผู้สืบทอดนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เอเกอร์ เอก!”
ผู้ชายตะคอกบอกความคิดเขาต่อ และนาตาชาผิดหวัง
ลิตตี้กังวลเกี่ยวกับมามุแต่ฟังเงียบๆ เธอไม่มีเจตนาเถียงกับคำพูดผู้ชาย
เพราะมันเป็นโลกที่ลิตตี้ผู้มีพลังเวทมนตร์น้อยไม่เข้าใจ
มากกว่านั้นเธอเพียงไม่สนความคิดเขา
“แผลมามุซังจะรักษาได้มั้ย? เธอฝึกอีกครั้งได้มั้ย?”
“…นี่เป็นเวทมนตร์บางอย่างเหรอ? ฉันว่านั่นทำไมรักษาไปได้ไม่ดี”
“ฮ่าา สำหรับบางคนเหมือนเธอ ให้เธอยอมแพ้เหอะ เธอไร้ค่าอยู่ดีนั่นแหละ”
หลังได้ยินคำพูดเขา ตัวลิตตี้ขยับเอง เธอเกือบฟันหน้าผู้ชายแต่นาตาชาหยุดเธอไว้
เธอกันด้วยมือเดียว แม้ว่าเธอโกรธจัดเหมือนกัน ซึ่งให้เห็นว่าเธอรั้งไว้เท่าไรด้วยเหมือนกัน
“ลิตตี้จัง รอเดี๋ยว”
“นาตาชาซัง หนูไม่เข้าใจ”
“เมียย่าาาาา! เมียย่าา!”
“มามุซังแพ้ศึกเวทมนตร์ มันเลยไม่มีเหตุผลที่เธอจะจัดการเขา กลับกัน บางทีเด็กผู้หญิงคนนั้นรับมือนั่นให้ได้”
***
คูฟาเจอว่าตัวเธอเองกำลังยืนที่ทางเข้าลานฝึก
เธอมาฝึกกสายเพราะเธอค้นคว้าที่สมาคมนักอัญเชิญ
เธอจะไม่มีวันมองข้ามความรู้จากสมาคมนั้น แต่วันนี้เป็นพิเศษ เธอเสียใจที่มาสาย
“มามุซัง…?”
คูฟาแสดงสีหน้าและอารมณ์ยากตลอด แต่ครั้งนี้ ในหน้าไร้สีหน้าของเธอ ผู้ฝึกสอนรู้ว่าอารมณ์เธอคลานอยู่บนผิวของพวกเขา
ขณะคูฟาเข้าใจสถานการณ์อย่างช้าๆ พลังเวทมนตร์ของเธอจิ้มผิวคนเหมือนเข็มหมุด
เธอยังควบคุมพลังเวทมนตร์สูงๆของเธอไม่ได้ และสถานการณ์นี้มาเวลาเมื่อเธอเริ่มสนิทกับมามุขณะพวกเธอทั้งสองทุ่มเทความพยายามลงกับการเรียน
“เฮ๋ มีบางคนเก่งกว่าอยู่นี่?”
ผู้ชายสนใจคูฟา แม้สงสัย ผู้ฝึกสอนและผู้ฝึกอยากหนี
คูฟาอยู่ที่สมาคมแค่ระยะสั้นๆเท่านั้น แต่ผู้ฝึกสอนถูกพรสวรรค์เธอท่วมใจแล้ว
คนที่ไม่ควรถูกหมิ่นที่นี่ไม่ใช่ทั้งลิตตี้ ทั้งนาตาชา หรือแม้แต่ผู้ชายคนนั้น แต่เป็นคูฟา
“เยี่ยมไปเลย! ดูเหมือนพวกแกมีคนเก่ง! เข้าใจแล้ว เธอมาเพื่อชื่ออาชีพด้วยเหมือนกัน! ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจเลย!”
“…ฉันยังเป็นแค่ผู้ฝึก”
“พวกผู้ฝึกสอนพวกนี้ไม่เก่งพอสำหรับเธอ หาคนอื่นเถอะ”
“…ทำไมมาทำดีกับฉัน?”
“เพราะเธอมีจำนวนพลังเวทมนตร์เยอะ แน่นอน ฉันเเป็นคนที่เคารพบางคนที่มีพลังเมื่อฉันเห็นมัน”
คูฟาเมินผู้ชายและไปหามามุ เธอจับมือมามุและสั่น
คูฟาเสียดายที่ในเวทมนตร์รักษาได้ไม่เชี่ยวชาญ และน้ำตาเกือบเอ่อขึ้นในดวงตาเธอ
“เราเพิ่งเป็นเพื่อนกันเอง”
แม้แต่ลิตตี้ก็สังเกตสภาพคูฟาแล้วตอนนี้ เธอเกือบกลับไปอาละวาดเหมือนที่เธอทำให้เห็นครั้งหนึ่งเมื่อสู้กับโคบันซ่า
“ฉันเป็นผู้สืบทอดนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เอเกอร์ เอก ชื่อฉันแนพ ฉันจะขออาจารย์ให้รับเธอเป็นศิษย์”
คูฟายืนขึ้นอย่างช้าๆและมองแนพอีกครั้ง
ควันรวมกันแต่อควอเรียกำลังดูเพื่อดูว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าคูฟาอาละวาดตรงนี้ มันจะแสดงให้เห็นว่าเธอไม่พัฒนาจากครั้งที่แล้ว
สำหรับอควาเรีย มันสำคัญมากกว่าที่ได้เห็นการเติบโตของคูฟา
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu