สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 13 ลิตตี้ ปลดปล่อยทักษะพิเศษของเธอ
- Home
- สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster
- ตอนที่ 13 ลิตตี้ ปลดปล่อยทักษะพิเศษของเธอ
13 ลิตตี้ ปลดปล่อยทักษะพิเศษของเธอ
กัล์ฟตัวใหญ่ มันไม่ทำให้เสียเวลา โจมตีพวกเธอ กรงเล็บที่ทรงพลังของมันกวาดต้นไม้ที่ขวางทางมันลง และวิ่งมาข้างหน้าสู่คนสามคน สามคน ที่อายุไม่กี่ปี จะไม่ใช่แม้แต่อุปสรรค์
ป่าได้ถูกเติมเต็มไปด้วยกัล์ฟ ถ้ามอนสเตอร์แบบนี้อยู่อาศัยในบริเวณ มุ่งมั่นที่จะกำจัดมันไม่ว่าอย่างไร ความคิดของการหนีไปไม่อยู่ในจิตใจของโรม่า
ถ้าพวกเธอกำจัดมันไม่ได้ทันเวลา และกัล์ฟอยู่ภายใต้การควบคุมของมันมา เช่นนั้นสถานการณ์จะเป็นความเสียเปรียบมากขึ้นไปอีกสำหรับพวกเธอ
“โรม่า-ซัง ระวังกรงเล็บและขาหลัง!”
ดาบที่พวกเธอถือ จะไม่สร้างความเสียหายมากนักกับขนที่หนาของมัน
แม้ว่าสิ่งนั้นเป็นอะไรที่ลิตตี้คิดอยู่ จริงๆแล้ว มันยากที่จะเข้าไปใกล้มันและฟัน
มันยากที่จะจินตนาการว่า แม้ว่ามีตัวที่ใหญ่โต มันสามารถที่จะกระโดดสูง เท่าต้นไม้สูง กัล์ฟธรรมดา จะไม่เทียบกับครึ่งหนึ่งของพลังของมัน
ดั่งมันดูถูกมนุษย์ตัวเล็กๆสองตัว ที่พวกเธอทำเต็มที่ เพื่อหลบการโจมตีของมัน ผู้นำของป่าเขาทำการโจมตีต่อเนื่องต่อไป
“คุห์! ไม่ไหว!”
แม้ว่าโรม่าเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในหมู่ผู้ฝึกหัดของกลุ่มปัจจุบัน มันไม่ใช่ปีศาจที่เธอจะกำจัดได้
ถ้าพวกเธอทำการวิ่งไปทั่วต่อแบบนี้ พวกเธอจะหมดแรง และไม่นานหลังจากนั้น พวกเธอทำได้แค่รอการสังหาร
ทันใดนั้น โรม่าก็ได้คิดบางอย่าง และตัดสินใจจะดึงความสนใจของปีศาจไปสู่ตัวเธอเอง โดยการตะโกนเสียงดัง
“ฮ่าาาา!”
เพราะการต่อสู้ระหว่างลิตตี้และแคดด็อค เธอรู้สึกอิจฉา เทียบกับอัจฉริยะเช่นลิตตี้ เธอคือความว่างเปล่า ยิ่งเธอคิดสิ่งนั้นมากเท่าใด เธอรู้สึกว่าบางอย่างได้กลืนกินเธอมากเท่านั้น
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอเชื่อว่าเธอไม่สามารถกำจัดผู้นำของป่าเขาได้โดยตัวเธอเอง แต่บางที บางทีลิตตี้สามารถทำได้
แม้ว่ามอนสเตอร์จะไม่สามารถไล่พวกเธอทั้งสองคนได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้น โรม่า ตัดสินใจที่จะทำตัวเป็นเหยื่อที่นี่ และให้ลิตตี้ลองเสี่ยงดู
“โรม่า-ซัง!”
ลิตตี้เรียกโรม่าระหว่างที่ยังวิ่งไปทั่ว
ดั่งเธอรู้ว่าอะไรอยู่ในจิตใจของโรม่า ลิตตี้หยิบหินออกมาจากกระเป๋า และเขวี้ยงใส่หัวผู้นำป่าเขา โรม่า ไมเข้าใจ ว่าเธอทำอะไรอยู่
แต่ หลังจากนั้น ผู้นำป่าเขาหันไปหาลิตตี้
ทันใดนั้น โรม่าเข้าใจ ลิตตี้พยายามจะใช้ตัวเธอเองเป็นเหยื่อ แต่เธอเข้าใจไม่ได้ ว่าทำไมเธอถึงคิดแบบนั้น
ความเร็วของลิตตี้ ไม่ลดลงแม้แต่ตอนนี้ ตรงกันข้ามกับเธอ โรม่าดูเหมือนจะอยู่ที่ขีดจำกัดของเธอแล้ว มันชัดเจนให้เห็นว่าพวกเธอคนไหน มีแรงกายมากกว่า
นั่นทำไมลิตตี้มอบความไว้วางใจหน้าที่ของผู้โจมตี เพื่อที่โรม่าจะขยับให้น้อยที่สุด และรอเวลาที่ถูกต้อง
โรม่าประทับใจกับความคิดที่ลึกซึ้งของลิตตี้ และยอมรับสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้น ในเวลาเดียวกัน จู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเบาขึ้น
“โอเค”
ดิ้นรนที่จะไล่ตามลิตตี้ ผู้นำป่าเขาหันหลังให้โรม่า บางที นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวของพวกเธอ ในช่วงเวลานั้น ถ้าอย่างน้อยโรม่าทำให้ขามันเจ็บได้เพื่อทำให้ความเร็วของมันช้าลง พวกเธอจะมีโอกาสมากขึ้นที่จะขึ้นมาเป็นผู้ชนะ
คิดผ่านทุกอย่างที่เธอรู้ในการฝึก โรม่าย้อนนึกทักษะที่เธอขัดเกลามา
ทักษะอะไรทรงพลังมากที่สุด เธอมีในช่วงเวลานั้น? นั่นคือ…
“ลิตตี้-ซัง… แค่เธอเป็นใครบนโลกี้กัน?”
เหตุผลที่โรม่าพึมพำสิ่งนั้นกับตัวเธอเองเพราะการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์ ในเวลานั้น ได้เป็นจังหวะเดียว และมันรู้สึกว่ามันถูกนำโดยลิตตี้
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะดำเนินต่อไปได้ไม่นาน โรม่าเตรียมตัวเอง
เมื่อผู้นำป่าเขาลงพื้นเพื่อจะทำท่าต่อไป โรม่าพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วที่เธอไม่เคยเคลื่อนไหว และใส่พลังงานทั้งหมดของเธอไปสู่การฟันหนึ่งครั้ง
【{พายุเฉือดเฉือน}】
แสงที่สว่างไสว วาบขึ้นมา ขณะที่เธอฟันดาบของเธอที่มันรวดเร็วไปกว่าการฟันธรมดา มันฉีกขาหลังหนึ่งข้างของผู้นำของป่าเขา ทำให้มันหอนในความเจ็บปวดและหยุดเคลื่อนไหว การโจมตีอาจจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะตัดขาหลังมัน แต่แน่นอนว่ามันพอที่จะชิงความเร็วและกำลังของมัน ที่สร้างความปวดหัวให้พวกเธอ
ผู้นำของ่าเขาพยายามจะคืนความแค้นให้กับผู้โจมตี ที่แทงขาของมันจากข้างหลัง อย่างไรก็ตาม ตรงหน้ามัน คือลิตตี้
“ระเบิดเฉือดเฉือน!”
โรม่าแทบไม่เชื่อสายตาของเธอ ทันทีที่ขาหลังของผู้นำของป่าเขาบาดเจ็บสาหัส ลิตตี้สส่งการเหวี่ยงแนวตั้งครั้งใหญ่ออกไป พลังงานที่อัดกันจำนวนมาก ระเบิดออกจากดาบของลิตตี้ ทันที่ที่มันลงสู่หัวของผู้นำป่าเขา
ผู้นำป่าเขา ถูกตัด และระเบิดใส่ หอนขณะที่มันล้มลงด้านข้าง ลิตตี้ เมื่อเห็นสัญญานของศัตรูไม่ลุกขึ้น ถอนหายใจ
“ขอบคุณที่มันได้ผล…”
“ลิตตี้-ซั สกิลนนั่นอะไรกัน?”
“กี้ พวกเธอ…. พวกเธอโกหกมาตลอดเวลาเหรอ?!”
โรไกขัดโรม่าด้วยน้ำเสีงที่หนัก โรม่าไม่แม้แต่จะชำเลืองมองเขา
“เธอพูดว่าเธอเป็นผู้เริ่มต้นแรงค์ 6 แต่จริงๆแล้วเธอต้องเป็นบางคนที่แรงค์สูงกว่า! ไม่อย่างนั้น เธอจะไม่สามารถกำจัดปีศาจแรงค์เท่านี้ได้!”
“ชั้นไม่เคยโกหกนะ!”
“เธอไม่ใช่มือสมัครเล่น ไม่มีทางที่มือสมัครเล่นจะกำจัดปีศาจแรงค์ 4 ได้! ชั้นจะรายงานเรื่องนี้กับผู้บริหารสูงสุดอย่างแน่นอน!”
“นายรู้วานั่นจะไม่ได้ผล ทั้งหมดมันไร้สาระ!” (โรม่า)
“อะไรกันวะ เธอ…เธอ โรม่า เธอลืมตัวโดยที่พวกงี่เง่านั้นเรีกเธอว่าอัจฉริยะ ใช่มั้ย?”
ความโกรธของโรม่า เดือดเบาๆในไส้ของเธอ ทำไมพวกเธอ ที่ทะเยอทะยานอยากเป็นนักผจญภัยอย่างจริงจัง ถูกขัดขวางโดยขยะแบบนี้?
มันเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่ความโกรธของพวกเธอ จะเปลี่ยนเป็นความเป็นศัตรู
“ทั่วไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่ผู้หญิงจะเป็นนักผจญภัย พวกเธอควรจะแค่แต่งงานแล้วก็แค่นั้น”
“นาย!”
“โรม่า-ซัง!”
ลิตตี้จับแขนของโรม่าที่ถือดาบของเธอ เมื่อเห็นว่าลิตตี้ ที่ส่ายหัวของเธอ โรม่าลดดาบของเธอลง
ลิตตี้น่าจะโกรธด้วย แต่ทำไม่เธอสามารถที่จะเก็บความใจเย็นไว้ได้? ความต่างของสถานการณ์ของเธอและลิตตี้คืออะไร? มันเป็นเช่นไร เมื่อลิตตี้อยู่ในสถานการณ์แบบก่อนหน้า เมื่อเธอเผชิญหน้ากับเขา?
คำตอบ ที่เธอไม่ได้ดูเหมือนจะพบ ทำให้โรม่ากระสับกระส่าย
“โรม่า-ซัง กลับบ้านกันเถอะ”
“…ใช่”
แค่ขณะที่สิ่งต่างๆดูเหมือนจะสงบลง พวกเธอรู้สึกถึงสายตาที่นับไม่ถ้วนจ้องพวกเธอ เสียงพุ่มไม้มาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ กัล์ฟไม่กี่หัว โหม่มาดูหลังต้นไม้
พวกเธอไม่จำเป็นต้องคิดเยอะมากมาย ที่จะสรุปวา ในที่สุดลูกน้องของผู้นำป่าเขาได้รวมตัวกันแล้ว
ไม่มีเวลาให้กังวลเกี่ยวกับสิ่งอื่น โรม่าเริ่มเคลื่อนไหวอย่างต่อไป
“ลิตตี้-ซัง!”
“มาออกมาจากที่นี่ทันทีเลยเถอะ!”
อย่างไรก็ตาม จากเสียงพุ่งไม้ในพุ่มไม้ มันดูเหมือนจะมีกัล์ฟมากขึ้นรวมตัวกันที่นี่ มันจะเป็นเรื่องที่แย่ที่สุด ถ้าการต่อสู้นานไปกว่านั้น
ระหว่างที่เหงื่อเย็นไหลออกมา พวกเธอทำเต็มที่ เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปที่ทางออกของป่า
“อ้า แล้วผู้คุมสอบล่ะ!” (ลิตตี้)
“ชีวิตของเรามาก่อน!” (โรม่า)
“เฮ้ ไม่ใช่ว่าเราควรช่วยเค้าเหรอ?” (ลิตตี้)
ความมึนเมาของโรไกได้สงบลงเล็กน้อย เขาโซเซตามสองคนมมา เขาสามารถที่จะสะบัดกัล์ฟไม่กี่ตัวออกไป แต่ยังมีมากมายที่ไล่ตามหลังเขามาอยู่
โรไกดึงดาบออกกมาและฟันหนึ่งในกัล์ฟสิ้นชีวิต แต่เกือบตกเ็นเหยื่อของอีกตัว การที่สามารถจะฆ่าศัตรูได้ ระหว่างที่อยู่ในสถานการที่โหดร้าย เพียงพอที่จะพิสูจน์ประสบการณ์ของเขา
โรม่าค่อนข้างประทับใจ
“กราดยิงคู่!”
“กานิ”
ลูกธนูสองลูกลอผ่านพวกเธอ ขณะที่พวกเธอพยายามที่จะขับไล่กัล์ฟ
ที่ขึ้นมาต่อจากนั้นเป็นผู้ฝึกสอนเจมส์และโตยโต้ พวกเขาสู้ได้ดีมากจนพวกเขากวดล้านกัล์ฟทั้งฝู้ได้ โดยไม่มีปัญหา
ลิตตี้ประทับใจกับความสามารถที่เลี่ยงกัล์ฟตัวสุดท้ายจากการหนีไป
“ผู้ฝึกสอน!”
“เรามาได้ทันเวลาพอดี เธอบาดเจ็บมั้ย?”
“เราโอเค ต้องขอบคุณพี่!”
“ยังไงซะ ชั้นดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น”
ชายแก่พร้อมกับธนูในมือปรากฏขึ้นข้างหลังผู้ฝึกสอนสองคน โรม่า ที่รู้ว่าเขาเป็นใคร ก้มหัวของเธอทันที
ลิตตี้ไม่ได้คุยกับเขามาก่อน แต่เธอได้เห็นเขาบางครั้งบางคราวที่สมาคมนักดาบ เขาถูกรู้จักเป็นหัวหน้าของสมาคมสาขาโทปาส
หัวหน้าของสมาคมสาขาโทปาสเป็นชายที่มีผมเงิน และร่างกายผอมอย่างไม่ธรรมดา เขามีทักษะที่ฆ่ากัล์ฟได้ในพริบตา แม้ว่าอายุเขาผ่าน 70 ไปแล้ว ชายแก่ ที่เป็นนักธนูที่มีทักษะ ก้าวเข้ามาข้างหน้าผู้ฝึกหัดสงคนอย่างเงียบๆ
“ขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนั้น ชั้นบินมาที่นี่ในความเงียบ เมื่อชั้นได้ยินรายงานจากผู้ฝึกสอนสองคน”
“ไม่ค่ะ…ขอบคุณค่ะ”
“มันดูเหมือนผู้ฝึกหัดนั่นรายงานกับเจมส์และโตยโต้เกี่ยวกับการระเบิดของโรไก ครั้งนี้ ชั้นจะมองข้ามมันไปไม่ได้”
“อ้า ผู้จัดการสาขา ผมไม่รู้ว่าท่านจะกลับมาเร็วมาก ไม่ใช่ท่านเพิ่งไปเมื่อไม่นานเหรอ? ผมถูกบอกว่ามันจะใช้อย่างน้อยสี่วันสำหรับท่านที่จะกลับมา…” (โรไก)
หลังจากได้รับการจ้องจากผู้จัดการสาขา โรไกเก็บดาบของเขา และจัดท่ายืนให้ถูกต้อง แต่มันสายเกินไป เขาดูเหมือนจะไม่รู้ถึงอันตรายที่เขาทำ
ชัดเจน ว่าเขาประเมินผู้จัดการสาขาต่ำเกินไป แต่นั่นแค่เพราะเขาไม่เคยเจอด้านที่เข้มงวดของเขา
“กำหนดการเปลี่ยน โรไก นายเป็นนักผจญภัยที่ฉลาด แม้ว่านิสัยของนายจะเป็นอย่างนั้น ชั้นคิดว่าวันนึง นายจะเปลี่ยนใจและทำการฝึกสอนของผู้สืบทอดอย่างจริงจัง ชั้นบอกนายไปแล้วอย่างนั้นเมื่อชั้นตัดสินใจที่จะให้นายคุมสอบสุดท้าย…”
“มัน มันมีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้…”
“แล้วเหล้าล่ะ?”
เขาได้ถูกอธิบายว่าเป็นนักดื่มตอนกลางวัน แต่นั่นเพียงแค่เพราะความคาดคิดของเขา เขาอยู่ในความทุกข์
“มันง่ายที่จะนำการลงโทษมาสู่นายที่สบควร แต่นี่มันมีปัญหากับชั้น ที่เป็นคนที่แนะนำนาย ในฐานะชายที่ทำเรื่องเลวร้ายหลายอย่างเมื่อนายยังเด็ก ชั้นได้คาดหวังให้นายรัับรู้ความผิดของ