สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 27 ลิตตี้ ส่งเลดี้สาว
27 ลิตตี้ ส่งเลดี้สาว
ลิตตี้ไปส่งดี ไมล์และมามุที่ทางเข้าของเมือง เธอโล่งใจเพราะนาตาชาและคนคุ้มกันอีกสองคนปกป้องเธอ แม้ว่าตอนนี้พวกเขาหนึ่งคนไม่อยู่
อย่างไรก็ตาม ลิตตี้ยังมีความเสียดายอยู่บ้าง เธออยากจะอยู่กับมามุจนกว่าเธอจะเรียนรู้พื้นฐานเวทมนตร์กับมามุ
บางทีมันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะสนิทเกินไปกับลูกค้า แต่เธอช่วยไม่ได้นอกจากจะอยากรู้บางอย่างที่เธอไม่รู้
“ลิตตี้-ซัง ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือครั้งนี้ และยินดีด้วยที่เดินหน้าไปแรงค์ 4”
“ขอบคุณมากมามุ ดูแลตัวเองนะ ซักวันหนึ่ง หนูจะไปที่เมืองหลวง” (ลิตตี้)
“ค่ะะ ได้โปรดมา และเมื่อเธออยู่ที่นั่น อย่าลืมมาเจอหนูนะ”
“ได้ จะทำอย่างนั้น”
มามุมองออกมานอกรถม้า ขณะที่ดี ไมล์นั่งข้างเธอ ฟังการสนทนาของสาวสองคน ในขณะทที่ดี ไมล์ยังอยู่ ลิตตี้ลังเลว่าเธอจะพูดถึงความต้องการที่แท้จริงของมามุดีมั้ย
อย่างไรก็ตาม ลิตตี้ยังเรียกความกล้าของเธอ”มามุ ถ้ามีอะไรที่เธออยากจะทำ หนูจะช่วยเธอ” (ลิตตี้)
“เอ๋ อืมม?” (มามุ)
“หนูคิดเกี่ยวกับมันเมื่อวาน คนคุ้มกันสงสัยหนูนิดหน่อย แต่พวกเค้าเชื่อคำพูดของดี ไมล์-ซัง นี่หมายถึงว่าพวกเค้าเชื่อชั้นในฐานะบุคคลไม่ได้แล้วตอนนี้” (ลิตตี้)
ไม่ทั้งมามมุหรือดี ไมล์จะคืนคำพูดของเธอ โดยไมม่รู้ว่าการสนทนาจะนำไปไหน อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่ามามุรู้สึกถึงบางอย่างข้างใน
มามุไม่มีความกล้าที่จะพูดมันที่นี่ แต่ลิตตี้มองทะลุเธอ
“ตอนนี้ หนูแค่ถถึงแรงค์ 4 หนูไม่มีความสำเร็จ และความน่าเชื่อถือ และความสามารถที่จะหนุนคำพูดหนูมากพอ มันธรรมชาติที่พวกเค้าจะไม่เชื่อหนู แต่…ถ้าหนูสร้างทั้งพลังและชื่อเสียง หนูมั่นใจว่าหลายคนจะรับรู้หนู และคำพูดหนูจะมีค่าอยู่ในมันอยู่บ้างในอนาคต” (ลิตตี้)
“ลิตตี้-ซัง หนูซาบซึ้งกับความเป็นห่วงของเธอ แต่…” (มามุ)
“มันจะมีซักวันหนึ่งในชีวิต ที่หนูทำสิ่งที่หนูอยากทำไม่ได้ ยังไงก็ตาม หนูดีใจที่ได้เป็นนักผจญภัยในท้ายที่สุด นั่นทำไม หนูไม่อยากให้เธอเสียดายมัน และก้าวตามความฝันของเธอ”
มามุกระพริบตาหลายครั้งขณะที่ลิตตี้ต้อนเธอจนมุมม วางมือไว้บนหน้าอกของเธอ มามุคิดยาวๆและหนักๆเกี่ยวกับบางอย่าง
บางอย่างที่เธออยากจะทำ บางอย่างที่พ่อของเธอน่าจะคัดค้านถ้าเธอบอกเขา เธอกลัวที่จะบอกเขา
อย่างไรก็ตาม ลิตตี้ยังให้กำลังใจให้เธอทำแบบนั้น
“พ่อ หนู…” (มามุ)
“มามุ?” (ดี ไมล์)
เธอทำคำพูดออกมาไม่ได้ เธอจะทำให้เขากังวล และเขาอาจจะโกรธเธอ หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้น แต่ปากของเธอปฏิเสธที่จะเปิด
ทันใดนั้น นาตาชาปรากฏจากด้านนอกรถม้า กำหมัดขณะที่เธอพยักหน้าให้มามุ มามุบอกได้ว่ารอยยิ้มของนาตาชาเป็นกำลังใจให้เธอ
จากนั้นลิตตี้ทำท่าแบบเดียวกัน
เมื่อรู้สึกมั่นใจ มามุสูดหายใจลึกๆและกำหมัดของเธอ
“หนูอยากจะเป็นนักเวทย์” (มามุ)
“อะไรกัน?” (ดี ไมล์)
“หนูได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับมัน และหนูอยากเป็นนักเวทย์มาตลอด หนูก็คิดว่าถ้าหนูใช้เวทมนตร์รักษาได้ จะไม่มีใครต้องทุกข์ทรมานอย่างที่แม่เป็น…” (มามุ)
“มามุ แต่…” (ดี ไมล์)
“หนูเข้าใจว่าพ่อรู้สึกอย่างไร ดังนั้น เราไมจำเป็นต้องไปถึงข้อสรุปตอนนี้” (มามุ)
ด้วยนั่น เธอหันสายตาไปหาลิตตี้ จากนั้นกลับไปสนใจพ่อของเธอ และยื่นมือออกมาจากรถม้า
ลิตตี้และนาตาชา รู้สึกถึงเจตนาของเธอ และก้าาวถอยไปเล็กน้อย
“…ไฟ!” (มามุ)
ไฟที่รุนแรงปะทุขึ้นจากฝ่ามือของมามุชั่วครู่ มันไม่พอที่จะเรียกว่าเวทมนตร์โจมตี แต่มันทรงพลังมากกว่าของลิตตี้
ดี ไมล์เปิดปากของเขากว้าง พยายามที่จะพูด
“มา มามุ เมื่อไหร่กันที่หนู…” (ดี ไมล์)
“หนูขอโทษ ที่หนูไม่ได้บอกพ่อ แม้ว่าหนูควรจะบอก หนูอยู่แค่สภาวะนี้ แต่หนูอยากจะพัฒนาเทคนิค และอยากเรียนรู้มากๆจากตอนนี้ไป… ลิตตี้-ซังพูดถูก… ถ้าหนูมีความแข็งแกร่งและความสำเร็จมากพอ พ่อจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับหนู…” (มามุ)
“มามุ…” (ดี ไมล์)
ดี ไมล์ค้นหาคำมาอธิบายการกระทำของเธอ และคำพูดท่ไม่เหมือนลูกสาวที่สุภาพและเงียบที่เขารู้จัก
มันมีอะไรผิดกับวิธีที่เขาเลี้ยงลูกสาวเหรอ? แน่นอนว่าไม่ใช่
ในฐานะพ่อ เขาไม่ได้รู้เลยว่าลูกของเขาคิดไปไกลขนาดนี้ บางทีเขาไม่เหมาะกับการเป็นพ่อ เขาเริ่มสงสัย
“ได้โปรดรับรู้ถึงหนูเมื่อหนูพัฒนา!” (มามุ)
“…เข้าใจแล้ว” (ดี ไมล์)
มันเป็นทั้งหมดที่เขาบีบออกมาได้ในเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน เขาแม้แต่พูดอะไรกับลูกสาวเขาได้ ลูกสาวผู้ที่คิดมากขนาดนั้นเกี่ยวกับเขา? เขาได้ยุ่งอยู่กับหน้าที่ในฐานะขุนนางเกินไปที่จะคุยทุกเรื่องกับลูกสาวของเขาได้
ระหว่างเวลาที่เขาห่างไกลเธอ เธอน่าจะครุ่นคิดเกี่ยวกับหัวเรื่องแบบนั้น ดี ไมล์รับทราบ ว่าทั้งหมดมันเป็นความผิดเขา ที่ล้มเหลวในการใกล้ชิดกับลูกสาวมากกว่านี้
“มาคิดเกี่ยวกับมันมากขึ้นด้วยกันเถอะ…” (ดี ไมล์)
“พ่อ…!” (มามุ)
“พ่อไม่รู้เลยว่าจะพูดอะไร เพราะทั้งหมด หลังจากเวทมนตร์ที่เพิ่งเอาให้พ่อดู พ่อต้องใช้ใจคิดให้ได้” (ดี ไมล์)
“ค่ะ มาคิดเกี่ยวกับทุกอย่างเมื่อเรากลับบ้านเถอะ!” (มามุ)
“พ่อขอโทษ พ่อมีหลายอย่างต้องไล่ตามเกี่ยวกับชีวิตและฝันของลูก” (ดี ไมล์)
ดี ไมล์กอดลูกสาวของเขา นาตาชา และคนคุ้มกันอีกสองคนหยุดน้ำตาซึมไม่ได้ พวกเขารู้จักดี ไมล์และลูกสาวของเขามาเป็นเวลานานแล้ว มันน่าเสียดายที่พวกเขาใกล้ชิดกับดี ไมล์และลูกสาว แต่ทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ไม่ได้
ลิตตี้เห็นตัวเธอเองและพ่อแม่ของเธอที่บ้านในแสงเดียวกัน มันไม่เหมือนว่าเธอคิดถึงบ้าน แต่เธอหวังที่จะเจอพวกเขาเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่ใช่เพื่อเหตุผลอื่นนอกจากจะได้ความรับรู้ของพวกเขา
“มามุ-ซัง หนูยังไร้ประสบการณ์ตอนนี้ แต่ซักวันหนึ่ง เมื่อหนูสร้างความสำเร็จที่หนูภาคภูมิใจ… หนูจะมาเพื่อรับตัวเธอไป!” (ลิตตี้)
“ลิตตี้-ซัง…” (มามุ)
“ดี ไมล์-ซังไม่ควรจะกังวล…ไม่! หนูจะเป็นนักผจญภัยที่มอบความไว้วางใจลูกสาวได้โดยไม่ต้องกังวล! ได้โปรดรอจนถึงตอนนั้น!” (ลิตตี้)
“…เข้าใจแล้ว หนูก็จะเรียนให้หนักมากเท่าที่หนูจะทำได้ด้วย” (มามุ)
มามุนำมือออกมาจากรถม้า และจับมือกับลิตตี้ พวกธอทั้งสองยิ้มให้กัน และจากนั้น ปล่อยมือกัน
นาตาชายืนยันว่ามามุกลับเข้าไปในรถม้าอย่างถูกต้องแล้ว และปีนข้างหน้ารถม้า และในที่สุดจับบังเหียนแน่นๆ
“ยังไงซะ เพื่อจะสำเร็จสิ่งนั้น เราต้องกลับไปที่เมืองหลวงก่อน หนูจะช่วยจากด้านข้าง” (นาตาชา)
“ค่ะ! นาตาชา-ซัง!” (มามุ)
“หืมม? ช่วย? อะไร? เธอหมายความว่ายังไง?” (ดี ไมล์)
“อ้า…! ยังไงซะ ไปกันเถอะ!” (นาตาชา)
“เฮ้ นาตาชา! นี่มันมีความหมายว่ายังไง?” (ดี ไมล์)
นาตาชาหลุดปากออกมมาครึ่งหนึ่ง และดี ไมล์สอบสวนเธอ ขณะที่รถม้าขับออกไป
ลิตตี้มองดูในแง่ดี จนกว่ารถม้าจะออกไปจากภาพที่เห็น ภาวนาว่าสิ่งต่างๆจะเป็นไปได้ด้วยดี
***
กลับไปที่สมาคมนักผจญภัย ชายที่ไม่คุ้นเคยพูดกับผู้จัดการสาขาของสมาคม นักผจญภัยที่ผ่อนคลายที่โต๊ะ ก็ฟังการสนทนาของพวกเขาอย่างตั้งใจด้วย มันชัดเจน ว่าบรรยากาศไม่ดี
“ดังนั้น ผู้จัดการสาขา ตราบใดที่เราไม่สร้างความผิดพลาด ไม่ควรจะมีปัญหา ที่นั่นยังมีค่าทางทรัพยากรอยู่” (ชายที่ไม่รู้จัก)
“ชั้นเห็นด้วยกับนายไม่ได้ คนอย่างพวกนายไม่เข้าใจความน่ากลัวของสคาร์ป” (ผู้จัดการสาขา)
“พวกมันเป็นกลุ่มของความว่างเปล่า พวกมันมีแค่จำนวน” (ชายที่ไม่รู้จัก)
โรม่ากวักมมือเรียกลิตตี้ ที่เฝ้าดูการแลกเปลี่ยนระหว่างชายและผู้จัดการสาขา เธอมอบคำอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดอย่างเรียบง่าย
“โรม่า-ซัง เกิดอะไรขึ้น?” (ลิตตี้)
“ชายที่คุยกับผู้จัดการสาขา เป็นพ่อค้าจากจังหวัดข้างๆ เขาเห็นซากปรักหักพังเหมืองบิคกี้ และอยากจะขุดมัน” (โรม่า)
“เฮฮฮ๋ แต่มันมีสคาร์ปอยู่ที่นั่นเยอะนะ” (ลิตตี้)
“ใช่ นั่นทำไมเค้ามาขอความช่วยเหลือจากสมาคมนักผจญภัย” (โรม่า)
*
“มอนสเตอร์แบบนั้นมันไม่มีอะไรต้องกังวล ด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เรามีตอนนี้” (ชายอ้วน)
ชายอ้วนเข้าหาพวกเขา นักผจญภัยหลายคนก็ตามเขามาจากข้างหลังด้วย พวกเขาน่าจะเป็นคนคุ้มกัน
หนึ่งในพวกเขา ชำเลืองมองสมาคมอย่างระวัง
“เห็นได้ชัดว่า ชื่อของพ่อค้าที่ร่ำรวยเดวิดไม่เป็นที่รู้จักมากในประเทศนี้ พวกนายไม่รู้จักเค้าเหรอ? ชายคนนี้เป็นพ่อค้าอัญมณีที่พบมูลค่าสินทรัพย์ของเหมืองที่ถูกทิ้งและได้ฟื้นมันมาหลายครั้ง ความจริง ไม่มีใครในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเขา นายคงได้ยินเกี่ยวกับเหมืองเร็กเกลีย ใช่มั้ย? เพราะทั้งหมด เรื่องราวของเหมืองเร็กเกลียมันโด่งดัง” (ชายที่่ไม่รู้จัก)
“ฮึ่ม สมาคมที่ขี้ขลาดแบบนี้มันไม่มีประโยชน์ ไปกันเถอะ” (เดวิด)
เดวิดออกจากสมาคมกับคนคุ้มกันไปส่งติดสอยห้อยตาม แต่คนหนึ่งรับรู้ได้ว่านักผจญภัยบางคนโกรธเคืองท่าทีที่ไม่เกี่ยวข้องของเขา การฟาดลิ้นและด่าทอเป็นหลักฐานของเรื่องนี้
“ฟิ้ว มันเป็นซักพักแล้วที่คนแปลกหน้ามาที่นี่” (คนดู 1)
“แต่ถ้าเหมืองบิคกี้ถูกฟื้นฟู ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องดีเหรอ?” (คนดู 2)
“เราไม่รู้แม้แต่ขนาดของรังสคาร์ป มันเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่เกินไป” (คนดู 1)
“ไม่ดีเลย… ชั้นหวังว่าพวกเค้าจะไม่ทำอะไรโง่ๆ” (คนดู 2)
ลิตตี้รู้ด้วยตัวเองว่าสคาร์ปเป็นปัญหาได้มากแค่ไหน ดังนั้นเธอเข้าใจความเสี่ยง
อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามีพวกมันมากกว่านั้น? ลิตตี้เข้าใจว่าทำไมผู้จัดการสาขา อาจจะไม่เต็มใจ ไม่ว่ามันจะเป็นบาฟโฟโล่ หรือสคาร์ปถ้าพวกมันล้อม ภัยจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า
เป้าหมายเดือน 7/66
ค่าเน็ต 200/200
รับยา ยาหมด 0/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 460/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook