สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 40 อัลดิส แพ้
40 อัลดิส แพ้
“งั้้นนี่ก็ไกลที่สุดเท่าที่ไปได้”
ป่าเขาเบิร์นด์อยู่ไกลออกมาทางเหนือของเมืองหลวง ใกล้กับชายแดน ที่นี่มันอ้างว้างโดยไม่มีสัญญานของสิ่งมีชีวิตใดๆ และปีศาจที่อาศัยอยู่ที่นี่ เหมือนอากาศกับอิกดราเซีย
ในที่นี้ ดอร์แลนด์มองขึ้นไปหาอัลดิส ทั้งสองคนมีอาการบาดเจ็บที่ตัวของพวกเขา แต่อัลดิส เป็นคนที่ลุกขึ้นไม่ได้
มันเป็นผลของการต่อสู้ที่ดุดัน ที่ทิ้งรูใหญ่และการยุบตัวที่เหมือนแอ่งดินรอบๆพวกเขา
“นั่นคือทั้งหมดที่นายมีเรอะตอนนี้?” (ดอร์แลนด์)
“อย่าคิดว่านายชนะแล้วนะ!” (อัลดิส)
“งั้นก็ยืนขึ้น” (ดอร์แลนด์)
อัลดิสพยาายามจะยืนขึ้นขณะที่ดอร์แลนด์พูดให้เขาทำ แต่กระดูกและเครื่องในของเขามันถึงขีดจำกัดของมันแล้ว มากไปกว่านั้น เขาได้ใช้พลังเวทมนตร์์ไปหมดแล้ว จากการใช้การโจมตีที่ทรงพลังและเวทมนตร์รักษา การแข่งนี้เป็นการต่อสู้ที่ดูว่าใครอดทนกว่า
ซูล ผู้ที่อยู่ดูการดวลนี้ ตื่นตกใจ และคลารีน คนดู หาวโดยไม่สนใจ
“ดอร์ ดอร์แลนด์!” (ซูล)
“อะไร ซูล นายกังวลเกี่ยวกับอัลดิสเหรอ? นายปกป้องมากเกินไปนะ” (ดอร์แลนด์)
“ไม่! ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น!” (ซูล)
“เฮ้ เสร็จกันรึยัง?” (คลารีน)
คลารีน ที่ป้องกันตัวเองได้ดี ไม่ได้รับบาาดเจ็บ และนั่งอยู่บนหินก้อนเล็กๆ ที่มันรอดมาจากการต่อสู้ ได้อย่างไรก็ไม่รู้ แม้ว่าเหตุผลมันจะต่างกัน เธออยู่ในความคิดเห็นเดียวกันกับดอร์แลนด์
การดวลนี้มันเริ่มขึ้นเมื่อดอร์แลนด์บ่นเกี่ยวกับกัปตัน ที่ทุกคนรู้จักว่าคืออัลดิส ที่เดินทางไปที่ที่ระดำต่ำอย่างต่อเนื่อง เพราะอัลดิสมีเวทมนตร์ มันไม่มีทางที่เขาจะแพ้ดอร์แลนด์ แต่มันเป็นความหยิ่งยโสของอัลดิส
“ยังไงซะ ถ้าอย่างนั้น” (ดอร์แลนด์)
“เฮ้! นายจะไปไหน?!” (อัลดิส)
“ชั้นไม่สนใจในนายอีกแล้ว” (ดอร์แลนด์)
“ไปตายซะ….ก่ะะะ! เก๊ะโฮ่ะ!!!” (อัลดิส)
อัลดิสอาเจียนออกมาเป็นเลือด ทันทีที่เขายกตัวของเขาเองขึ้นมาและเริ่มด่าทอ โดยที่ขนแค่สัมภาระของตัวเขาเอง ดอร์แลนด์เดินจากไป เขาไม่สนใจคนเหล่านั้น ที่อยู่เฉยๆในความภาคภูมิใจ และหายไปเมื่อเวลาหนึ่งผ่านไป
“ชั้นแค่ลดการป้องกัน…เดี๋ยวก่อน!” (อัลดิส)
“ยังไงซะ อัลดิส นายคิดว่าเค้าเป็นหนึ่งในพวกเราและไม่เต็มที่ ใช่มั้ย?” (ซูล)
ซูลเสนอไอเท็มรักษาให้อัลดิส โดยทิ้งคลลารีนที่ไร้แรงจูงใจไว้ข้างหลัง และอัลดิสน่าจะโล่งใจโดยคำพูดของซูลเล็กน้อย และระงับจากการตะโกนใส่คลารีนที่ดูสถานการณ์
“งั้น นายจะทำอะไรจากนี้ต่อไป?” (คลารีน)
“ชั้นจะไม่ยกโทษให้อีเวรแบนเดร่านั่นเลย แม่งคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหนี้ทรัพย์สินและเกียรติยศกับใครวะ คลานรีน และนั่นก็หมายถึงเธอด้วย!” (อัลดิส)
“มันจริงที่ว่ามันต้องขอบคุณนายที่ชั้นออกมาจากชีวิตที่น่าเบื่อ ในฐานะนักบุญ แต่…” (คลารีน)
“งั้นเธอก็จะไปด้วยเหรอ?” (อัลดิส)
“ประหม่าเหรอ?” (คลารีน)
คำพูดจากคลารีนที่ทำให้ประสาทกิน ได้ใกล้กับการทำให้ความโกรธของอัลดิสปะทุขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตาม อัลดิสบังคับให้เธอทำอะไรไม่ได้เพราะเธอเป็นสูกสาวของของนักบวชสูงของโบสถ์มัทธีอัสใน เรสโตน่า แม้แต่ฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างอัลดิส ก็ไม่สามารถสร้างศัตรูเป็นพวกเขาได้
“ยังไงซะ ชั้นจะตามนายไปก่อน ซักพักน่ะนะ” (คลารีน)
“จึ…” (อัลดิส)
การตอบของอัลดิส พิจารณาได้ว่าเป็นเรื่องดี ขณะที่เขาแค่จึ้ปากของเขา เขามีผู้หญิงคนในที่เขาต้องการก็ได้ แต่ไม่ใช่คลารีน เขาไม่กล้าที่จะแตะต้องเธอ
แม้แต่เขา ก็จะรับความทุกข์ยากที่แย่กว่าการถูกประหาร ถ้าเขาได้ไปทำลายความบริสุทธิ์ของนักบวชของโบสถ์มัทธีอัส โดยเมื่อรู้ถึงความคิดของเขา คลารีนก็ได้ล้ออัลดิสด้วย
“คลารีน อัลดิสเป็นคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆนะ ดังนั้นอย่าพูดอะไรบางอย่างเหมือนเธอจะแค่อยู่กับเค้าซักพักเหอะ รู้มั้ย?” (ซูล)
“ซูล นายมันสิ้นหวังนะ ไม่ใช่เหรอ? พูดถึงแล้ว นายหายไปคืนที่แล้วนี่ ไม่ใช่เหรอ?” (คลารีน)
“ใช่ ชั้นต้องไปทำธุระน่ะ (ซูล)
“เป็นชั่วโมงๆเลยเหรอ?” (คลารีน)
“ชั้นได้ยินมาวามันมีการอาละวาดของสคาร์ปในเมืองโทปาส” (ซูล)
หลบการไล่ตามของคลารีน ซูลช่วยให้อัลดิสยืนขึ้น และคลารีน ไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้อีก
เธอรู้ว่าซูลทำให้ความภาคภูมิใจของอัลดิสเพิ่มขึ้น จากปฏิสัมพันธ์ของพวกเขา เธอได้รู้ว่าจริงๆแล้วซูลเป็นคนอย่างไรมาอย่างช้าๆ เขาอาจจะดูเป็นชายทีมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ แต่มันไม่ใช่ธรรมชาติที่แท้จริงของเขา
แม้ว่าคลารีนจะมองทะลุเรื่องนี้ทะลุปรุโปร่ง เธอไม่อยากจะจัดการกับเขา อย่างจริงจังด้วยเหมือนกัน
“เรื่องนั้นมันอะไรกัน?” (อัลดิส)
“ยังไงซะ นายเห็นมั้ย มันมีเหมืองร้างอยู่ที่นั่น ใช่มั่ย? ไม่ว่าอะไรจะทำให้มันเกิดขึ้น มันดูเหมือนเค้าเจอรังสคาร์ปใหม่อยู่ใกล้ๆ ชั้นได้ยินมาว่าเมืองอยู่ในปัญหาเพราะเรื่องนั้น” (ซูล)
“ชั้นมั่นใชว่าพวกหนอนจิ๋วนั้นจัดการได้ด้วยนักเลงพื้นที่แถวๆนั้น” (อัลดิส)
“ชั้นได้ยินมาว่ามีตัวเหมือนราชินีเกิดขึ้นมา ละพวกเขาเกือบจะไม่สามารถกำจัดมันได้ มันตลก ใช่มั้ยล่ะ?” (ซูล)
“พรื่ดดด แน่นอน ชั้นหมายถึง ราชินีมันมากที่สุดก็แรงค์ 1 ใช่มั้ย?” (อัลดิส)
“ใช่ ใช่!” (ซูล)
การถอนหายใจที่ลึกของคลารีนไม่ไปถึงคู่นั้น
ซูลพยายามให้อัลดิสอยู่ในอารมณ์ดี เขาจะใช้เล่ห์กลการบอกเรื่องราวต่างๆไม่ว่าเมื่อไหร่ที่อัลดิสอารมณ์เสีย เรื่องนี้มันเป็นการกระทำที่เรียบง่ายที่ทำให้อัลดิสมีความสุข ซึ่ง มันจะทำให้เขาควบคุมได้ง่ายกว่า
คลารีนเริ่มเข้าใจเจตนาของซูล ดีมากขึ้น
“นายรู้มั้ยว่าชั้นคิดอะไร ชั้นคิดว่าพวกคนที่น่าสงสารเหล่านั้น จำเป็นต้องเข้าใจ ของจริง” (ซูล)
“โอ้ แน่นอน พวกเค้าแค่รู้ว่าเรามีความสามารถผ่านข่าวลือ” (อัลดิส)
“ใช่ ใช่ เริ่มไปที่เมืองหลวงแห่งราชวงศ์กันก่อนดีมั้ย?” (ซูล
“มันเป็นที่ทิ้งขยะของพวกนักผจญภัยชั้นต่ำๆ ใช่มั้ย? โอเค มันตัดสินใจแล้วถ้างั้น” (อัลดิส)
“ใช่ ใช่” ซูลตอบ
อิกดราเซียจะไม่มีวันท้าทายบริเวณที่ไม่ถูกสำรวจอีกต่อไป พวกเขาจะแกล้งทำเป็นรุ่งโรจน์ต่อ แค่เหมือนที่ในอดีต และรังแกคนอ่อนแอ
แม้ว่าคลารีน ที่คิดว่ามันก็ยังดีกว่าชีวิตแสนน่าเบื่อของนักบุญ เธอเกือบที่จะยอมแพ้กับพวกเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า! มันไม่มีอะไรนอกจากพวกอ่อนแอที่นี่!”
อัลดิสฟันแยกโทร์ลหินด้วยการโจมตีทีเดียว ปรกติแล้ว คนหนึ่งจะต้องเล็งไปที่ส่วนที่ผิวของหิน ไม่ใช่หินจริงๆ ขณะที่พวกมัน ดูเหมือนการรวมกันของหิน และผู้ชายตัวใหญ่มากกว่า
อัลดิส อย่างไรก็ตาม จะกวาดล้างพวกมันได้ ไม่ว่าพวกมันจะอยู่เป็นฝูงหรือไม่ บางชิ้นส่วนของปีศาจเหล่านี้ อาจจะมีค่า แต่พวกเขาจะไม่หยิบมันขึ้นมา เพราะสำหรับอิกดราเซีย งานมากเท่านั้น มันจะลำบากเกินไป มันจะมีค่าแค่เท่ากับโชคก้อนเล็กๆ
“เราไปหาที่ยากกว่านี้ได้มั้ย?”
“ไม่มีหรอกแถวนี้ และมันก็คือว่าทำไมเมืองหลวงแห่งราชวงศ์อยู่ที่นี่ด้วย”
“นั่นใช่แล้ว ชั้นจะต้องสั่งสอนพวกอ่อนแอเวรนั่นที่ดิ้นรนแม้แต่กับขยะระดับนี้ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
‘{แม้ว่านายเพิ่งแพ้ดอร์แลนด์ที่อวดดีไม่นานมานี้}’ คลารีนคิด แต่เธอไม่ส่งเสียงคำพูดของเธอออกมา
เธอมองออกไปจากอัลดิส ที่ยิ้มกว้าง ค่อนข้างที่จะหัวเราะอย่างโง่เขลาและสังเกตบางอย่างเข้าหาจากระยะไกล ที่มาจากระยะไกล เป็นกลุ่มของพวกที่ปรากฏว่าเป็นนักผจญภัย จากที่พวกเขาแต่งตัว คุณบอกได้ว่าพวกเค้าแรงค์ประมาณหนึง
“อ๋า? อะไร…นักผจญภัยเรอะ?”
“พวกโทรลหินตรงนั้น พวกนายกำจัดมันเหรอ?”
“ถ้าชั้นพูดว่าใช่จะมีอะไร?”
“เราไม่อยากสร้างปัญหา นายจะถือมั้ยถ้ามอบข้อพิสูจน์การปราบมันมาให้เรา?”
บางเวลามันมีนักผจญภัยที่ช่วงชิงความสำเร็จไปจากคนอื่น พวกเขาส่วนใหญ่เหมือนไฮยีน่า ที่แอบหายไป หลังจากที่งานเสร็จ
“แต่กลุ่มนี้ต่างออกไป 【ฉลามผู้ยิ่งใหญ่】 เป็นปาร์ตี้ของโจรที่โด่งดังประกอบไปด้วยสมาชิกที่โดดเด่นของสมาคมนักผจญภัยเมืองหลวงแห่งราชวงศ์
“นายได้รู้จักฉลามผู้ยิ่งใหญ่ ใช่มั้ย?”
“อัลดิส ฉลามผู้ยิ่งใหญ่เป็นพวกที่ค่อนข้างเก่ง ผู้นำของฉลามผู้ยิ่งใหญ่เป็นนักผจญภัยแรงค์ 2 พวกเค้ารังแกนักผจญภัยมากมาย และพวกเค้าแม้แต่เนรเทศนักผจญภัย”
“ยังไงซะ พวกมมันเป็นพวกคนเลวใช่มั้ย โอเค ชั้นเข้าใจแล้ว”
“อัลดิส…?”
อัลดิสชี้มือของเขาไปที่ผู้นำ ที่เพิ่งถามเขา ทันที ผู้นำติดไฟ กรีดร้องและกลิ้งไปทั่วจากนั้นซูลไปฟันเฉี่ยวๆสมาชิกท่ี่เหลือด้วยมีด ด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ ทีละคน พวกเขาทั้งหมดเสียกำลังที่เข่าไป และยืนขึ้นไม่ได้
ภายในการเจอเป็นวินาที ปาร์ตี้ที่รวมไปถึงนักผจญภัยแรงค์ 2 ได้ถูกกำจัดอย่างสิ้นเชิง
“ชั้นยืนไม่ได้ ชั้นทำไม่ได้…”
“มีดนั้นมันมีพิษ ดังนั้นการโจมตีเมื่อกี้นี้มันทำให้พิษนิดหน่อย เข้าไปอยู่ในระบบประสาทของนาย”
“ซูล ชั้นจะใช้พวกมัน”
“โอเค นั่นดี ไม่ว่ายังไงเราแค่ต้องการความช่วยเหลืออีกไม่เท่าไหร่”
อัลดิสดับไฟด้วยเวทมนตร์ที่ทำให้ผู้นำของปาร์ตีฉลามผู้ยิ่งใหญ่บาดเจ็บ จากนั้น หลังจากที่สู้กันอีกไม่กี่ยก การเหยืยบย่ำดำเนินต่อไป จนนกว่าจะร้องไห้น้ำตาแตก
เมื่อพอใจกับการขอโทษขอโพยที่เต็มไปด้วยน้ำตาขอผู้น้ำ ในที่สุด อัลดิสก็หยุด
“ชั้นขอโทษ ชั้นขอโทษ”
“ชั้นหวังว่านายจะเข้าใจ พวกนายทำงานบ้านจนกว่าเราจะไปที่เมืองหลวงแห่งราชวงศ์”
“โอ้ เราเหรอ…? เราจะ….? นั่น…”
“แกมันแแรงค์ 2 ไมม่ใช่เหรอ ชั้นแสดงรูปลักษณ์ที่แย่ๆกับบุคคลสำคัญที่จำชั้นได้ไม่ได้ ใช่มั้ย?”
“ครับ…”
“อื้มม เราสัญญาว่าจะไม่ทำให้ท่านดูแย่ มั้ง”
บางทีมันอาจจะเป็นเพียงความบังเอิญที่โชคดี ที่อัลดิสได้ของเล่นใหม่
แต่ครั้งนี้มันเป็นปาร์ตี้ที่คนรู้จักดี คลารีนกังวล ว่ามันเสี่ยงไปนิดหน่อยที่จะทำอะไรน่าสงสัยขนาดนี้
คลารีนนึกไปถึงสาวที่พวกเธอทิ้งไว้ในป่าปีศาจ แค่เมื่อเธอคิดถึงสาวคนนั้นทันใดนั้นสาวกระโดดออกมาสู่สายตาของคลารีน
“โอ้? เด็กคนนั้นมันอะไรกัน เธอดูผอมมาก” (คลารีน)
“ยังไงซะ นั่นเป็นเด็กกำพร้าครับ เราใช้เธอเพื่อทำงานประจำวัน และงานบ้านมาซักพักแล้ว” (หัวหน้าฉลาม)
“ฮ่า นายมันมีรสนิยมที่แย่” (คลารีน)
“ไม่ครับ นั่นไม่ใช่ที่ผมพยายามจะ…” (หัวหน้าฉลาม)
สาวอยู่ในเสื้อผ้าที่สกปรก มันเด็กกว่าสาวคนนั้น
ตอนแรก คลารีนคิดว่าจะใช้สาวคนนี้ เป็นที่ระบายความเครียด แต่เธอรู้สึกว่าสาวคนนี้ จะไม่รอดได้นาน
คลารีนคิดกับตัวเอง ‘{คนก่อนมันเป็นเด็กผิดปรกติจริงๆ เธอรอดจากที่นั่นได้มั้ย? ไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้}’
อย่างไรก็ตาม แค่ตอนที่เธอคิดเกี่ยวกับสาวที่แปลก เธอรู้สึกถึงความเย็นวาบกระทันหัน
“เฮ้ คลารีน? มีอะไร? ไปกันเถอะ”
“ได้”
แม้ว่าเธอพยายามจะทำร้ายสาวที่แปลกมากมายระหว่างการเดินทางของพวกเธอ สาวคนนั้นไม่ตาย ตอนนี้คลารีนสงสัย ว่าทำไมเธอรู้สึกอย่างนั้นจากที่ไหนก็ไม่รู้ และความรู้สึกที่ไม่สบายใจที่มาอย่างไรก็ไม่รู้ ได้เริ่มเติบโตข้างในเธอ
เป้าหมายเดือน 7/66
เป้าค่าเน็ต 200/200
รับยา ยาหมด 200/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 928/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook