สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 59 ลิตตี้ ดิ้นรนเพื่อสมาคมนักสู้
59 ลิตตี้ ดิ้นรนเพื่อสมาคมนักสู้
แม้ว่าเมื่อสมาคมต่อสู้ จะอยู่ในวันหยุด ลิตตี้และทีมของเธอ ไม่พักผ่อน เพราะพวกเธอได้ประกาศไปแล้วว่า พวกเธอจะปกป้องสมาคมจากไบเดอร์ เพื่อผู้จัดการสาขาดั้กแกม
หลังจากการรวมหัวคิดกัน ลิตตี้และคนอื่นๆ ตัดสินใจที่จะทำคำร้องแรงค์ 6 ให้สำเร็จลุล่วง มากที่สุดเท่าที่ทำได
สมาชิกประกอบไปด้วย ลิตตี้ (แรงค์ 3) โอลิเกอร์ (แรงค์ 4) ไอด้า (แรงค์ 6) และคนอื่นๆอีกสามคน พนักงานต้อนรับ ได้ถามหลายครั้ง เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่ปรกติ ที่ รวมกันแล้วหกคน มารับคำร้องแรงค์ 6
ลิตตี้ คิดเกี่ยวกับการชวนคูฟาด้วย แต่ตัดสินใจที่จะไม่ทำ เพราะเธอหมกตัว อยู่ในสมาคมนักอัญเชิญ เพื่อทำการเรียนรู้
“คำร้องแรงค์ 6 หือห์ จริงๆแล้ว มันเป็นครั้งแรกของชั้นเลย…” (โอลิเกอร์)
“โอลิเกอร์-ซังทำการสอบแรงค์ 5 ทันทีเลยเหรอ?” (ลิตตี้)
“ไม่ทันทีนะ มันใช้เวลาไปหนึ่งปี” (โอริเกอร์)
โอลิเกอร์เป็นนักบวชแล้ว ถ้ามีชื่อเรียกนักสู้ เขาเป็นนักพรตได้ ที่เป็นตำแหน่งที่สูงกว่า
เป้าหมายของเขา คือการเป็นนักพรต และครอบครองวิหารในบ้านเกิดเขาในอนาคต นั่นคือทำไม เขาถึงไม่อยากถูกเบี่ยงความสนใจ โดยคำร้องแรงค์ 6
โอลิเกอร์ ช่วยไม่ได้นอกจากจะชมลิตตี้ “ความคิดของเธอดีจริงๆ นี่จะช่วยให้เราพัฒนาการรับรู้ถึงสมาคมนักสู้ในหมู่คนเมือง และสร้างชื่อเสียง”
“มันแค่ขึ้นมาในหัวกระทันหันน่ะ ถ้านายทำงานหนักและช่วยผู้คน พวกเขาจะขอบคุณ และรับรู้ถึงนาย นี่เป็นบางอย่าง ที่ชั้นมีประสบการณ์ด้วยตัวเองมาก่อน” (ลิตตี้)
“แต่เธอไม่ต้องมาด้วยหรอก ดีมั้ย? เราจะทำของเราเอง เธอควรจะไปเน้นการฝึกมากกว่า” (โอลิเกอร์)
“มีแค่ไอด้า ทำคำร้องแรงค์ 6 มาก่อนหน้านี้ นายต้องการคนที่มีประสบการณ์มากกว่า ดังนั้นชั้นจะไปกับนาย!” (ลิตตี้)
สมาชิกหัวเราะให้กับลิตตี้ ผู้ที่ทำตัวเหมือนสมาชิกรุ่นพี่ ในแบบที่แปลกๆ
ตอนแรก เดิมทีแล้วลิตตี้เสนอไปว่า กลุ่ม ควรจะไปจัดการมอนสเตอร์มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม โอลิเกอร์ได้ชี้ออกมา ว่ากำจัดมอนสเตอร์นอกเมืองหลวงจะไม่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ในระยะเวลาสั้นๆ หรือมีผลทางชื่อเสียง
โอลิเกอร์ เชื่อว่า ถ้าจำนวนของผู้คนที่อยากเข้าสมาคมนั้นสูง ไบเดอร์จะไม่สามารถทำอะไรได้
สิ่งที่เขาเห็น ทำให้ลิตตี้และคนอื่นๆเชื่อมัน หลังจากที่ระดมหัวคิด ลิตตี้เสนอว่า ให้ทำคำร้องแรค์ 6 มากที่สุดเท่าที่ทำได้ นี่ จะพัฒนา ว่าคนอื่นเห็นสมาคมนักสู้ยังใน ในหมู่ชาวเมือง และสร้างชื่อเสียง
และการทำแบนั้นจะเพิ่มจำนวน ของผู้คนที่อยากเข้าสมาคมด้วย
มากกว่านี้ การทำคำร้องแรงค์ 6 ง่ายกว่าสำหรับพวกขา ด้วยความสามารถทางกายภาพ ที่พวกเขาเก็บเกี่ยวมาในสมาคมนักสู้
แน่นอนว่า มีการประหม่า ว่าแผนนี้จะได้ผลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาคิดอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้
“ชั้นก็มีประสบการณ์เรื่องคำร้องแรงค์ 6 ดังนั้นถ้ามีคำถามอะไร โปรดถามชั้นได้เลย” (ไอด้า)
“ขอบคุณไอด้า แต่ชั้นไม่เคยคิดเลย ว่าจะมาทำคำร้องแรงค์ 6 ระหว่างที่แรงค์ 4”
“แค่คิดซะว่ามันส่วนหนึ่ง ของการฝึก รู้มั้ย?” (ไอด้า)
“ใช่ มันรู้สึกดีกว่า เมื่อเธอคิดมันแบบนั้น”
ไม่มีความสงสัย ว่าไอด้าเป็นคนทำงานหนัก แม้นว่าเธอ จะเลือกสมาคมนักสู้ เพราะไม่มีเงิน มันไม่ได้มาจากความไม่สนใจอะไรเลย
เธอมีเป้าหมาย และเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด เพื่อที่จะทำมันสำเร็จ แม้ว่าเธอมีเงินจะซื้ออาวุธ เธอจะใช้มันในการให้ครอบครัวของเธอกินเนื้อทุกๆวัน และส่งพวกเขาไปเรียนหนังสือ
“โอ้ ชั้นคิดว่ารองเท้าชั้นมันขาด…”
“ชั้นแนะนำสแปทไว้หุ้มข้อ พวกมันง่ายที่จะขยับ”
“โอ้ นั่น มันค่อนข้างน่าอายนะ…”
“มันเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มน่ะ”
“มันยากที่จะปฏิเสธมัน เมื่อเธอพูดมันแบบนั้น”
ไม่นาน ขณะที่การสนทนาของพวกเธอ อยู่บนเรื่องโง่ๆ พวกเขามาถึงงานแรก งานคือการช่วยย้ายของไปที่ใหม่
แม้ว่งานจะดูเหมือนเรียบง่าย มันเกี่ยวข้องกับงานมากมาย เพราะมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ และอื่นๆ มันทำไม่ได้ ด้วยคนเพียงคนเดียว
“ขอบคุณมากๆที่ช่วย ชั้นไม่รู้จักใครซักคนนที่นี่ ดังนั้นชั้นกังวลมากเลย ว่าชั้นจะทำยังไงดี ถ้าไม่มีใครรับงานไป”
“ไม่มีปัญหาค่ะ! เราจะทำเต็มที่!”
ภายใต้การออกคำสั่งของลิตตี้ กลุ่มดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็ว สมาชิกของทีม สามารถที่จะแสดงความแข็งแรงออกมา ขณะที่พวกเขาขนของ ไปที่ที่ใหม่ โดยไม่เสียเวลาไปเลย
เมื่อเวลาที่งานทั้งหมดเสร็จ แม้แต่เหล่าสมาชิก ก็ซ่อนความเหนื่อยของพวกเขาไม่ได้ มันดี ที่สามารถจะโอ้อวดเกี่ยวกับแรงกาย แต่บางคนสงสัย ว่าทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วจริงๆหรือไม่
“คนนั้นขอบคุณเรา แต่นั่นมันได้ชื่อเสียงเหรอ?”
“มาทำสิ่งต่างๆทีละอย่างเถอะ”
งานต่อมาคือทำลายบ้านที่ถูกทิ้ง มันไม่เพียงแต่เป็นงานที่ยาก แต่ยังอันตรายด้วย อาคารนั้นเก่า และชายแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของอาคาร กังวลเกี่ยวกับค่าทำลาย
ชายแก่ คิดว่าาราคามันจะเยอะ ถ้าเขาไปขอให้รัฐบาลทำงาน เขาเชื่อว่า นักผจญภัย จะสามารถทำมันได้โดยใช้เงินน้อยกว่า มันเป็นหนึ่งในคำร้องที่ไม่มีใครรับ เพราะงานที่หนัก เพื่อรางวัลที่เล็กน้อย
“พวกเธอตัดสินใจที่จะทำมันจริงๆแล้วเหรอ? อาคารมันเสียหายบางที่ และมันไม่ปลอดภัย เพราะมีเศษต่างๆร่วงลงมา…”
“ปล่อยมันให้เราได้เลยค่ะ!”
ความกลัวของชายแก่ หายไปอย่างรวดเร็ว การถอดทำลาย ต้องการทักษะและความรู้ ซึ่งมันทำได้โดยแรงกายของพวกเธอ
ขณะที่พวกเธอหลบ หรือจับเศษต่างๆ ที่หล่นลงมาบางครั้งบางครา ตาของชายแก่ อยู่กับสมรรภาพของพวกเขาเหมือนติดกาว
กลุ่มพอใจ ที่พวกเขาได้รับงาน เพราะนี่ จะทำให้ใครก็ตามที่เห็นชอบ แม้ว่ามันไม่ใช่การต่อสู้
“ว้าว นั่นมันโดดเด่น มันจบอย่างเร็ว นี่เป็นครั้งแรก ที่ช้นได้เห็นนักผจญภัยทำงานต่อหน้า แต่ชั้นไม่ได้คาดถึงอะไรแบบนี้เลย…”
“เรามาจากสมาคมนักสู้ ที่ไม่ได้คาดถึงอะไรจากสมาชิกน้อยไปกว่านี้”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณ ชั้นก็คิดเกี่ยวกับว่าจะทำอะไร เมื่ออัศวิน มากดดันชั้นให้มอบที่ดินให้เขา”
“คนนั้นคนที่ดูเหมือนงูมั้ยคะ?!”
“ใช่ มันใช่ แตตอนนี้การรื้อมันเสร็จไปแล้ว เค้าจะทำอะไรไมได้ ถ้าเค้ามาอีก ตาแค่จะไล่เค้าไป
ชายแก่ คำนวบหัวของเขาซ้ำๆ เพื่อแสดงความซาบซึ้ง กลุ่มรู้สึกใจหาย ที่เห็นเงาของคณะงูสองหัว ในที่แบบนี้
ลิตตี้ ที่รู้ว่า งานของคณะอัศวิน สมควรจะปกป้อองผู้คนของเขา ความรู้นั้น มันเต็มไปด้วยความสงสัย ที่มากขึ้นและมากขึ้น
***
ลิตตี้และทีมของธอได้ทำงานอย่างหนัก แม้ว่าหลังจากอาทิตย์หนึ่ง ของการฝึกที่เข้มข้นในสมาคมนักสู้ เพื่อที่จะมอบผลประโยชน์ให้ผู้คน
ปรกติแล้ว คนปรกติ จะทำงานเกินไปแล้วตอนนี้ แต่ขอบคุณเวลาแห่งการฝึกที่เข้มข้นของพวกเธอ ที่สมาคมนักสู้ พวกเธอคุ้นกับกิจกรรมทางกายภาพที่หนัก
แม้ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ ผู้คนเริ่มที่จะสนใจกิจกรรมของพวกเธอ โดยเฉพาะลูกค้าที่ลิตตี้คุยด้วยพร้อมรอยยิ้มที่กว้าง
“น้องๆเป็นคนทำงานหนักนะ ไม่ใช่เหรอ? ป้าคิดว่า นักผจญภัยส่วนใหญ่นั่นเป็นกักขฬะ แต่พวกน้องน่ะดีเลย” (ผู้หญิง)
“ขอบคุณมากค่ะ ป้าอยู่คนเดียวเหรอคะ?” (ลิตตี้)
“สามีชั้นเสียไปแล้วน่ะ และลูกชายป้าก็อยู่ในกองประจำการอัศวิน” (ผู้หญิง)
“เข้าใจแล้วค่ะ…”
ผู้หญิงวัยกลางคน ที่ค่อนข้างร่ำรวย ลูบหัวเมียน ขณะที่เธอพูด มันเป็นเวลาพัก หลังจากที่ลิตตี้ เป็นคนซื้อของให้เธอ เพราะขาของเธออ่อนแอ และปวดหลัง
ลิตตี้ รู้สึกถึงสัมผัส แห่งความเหงา ขณะที่ผู้หญิง ปล่อยความรู้สึกจริงออกมา ว่าเธออยากจะให้ลูกชายของเธอได้อยู่กับเธอจริงๆ
“พี่รู้ว่าพวกเค้า เรียกตัวเองว่าอัศวิน แต่มันมีคนหลายคน ที่ถูกขับไล่ โดยคนที่เรียกว่าอัศวิน… ทุกๆครั้ง ที่ป้าได้ยินบางอย่างแบบนั้น ป้ากังวล ว่าลูกชายป้าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”
“อัศวินมันยิ่งใหญ่มากตรงไหนกัน?”
“พวกเค้าสมควรจะเป็นสัญลักษณ์ของความปลอดภัย พวกเค้า ถูกมอบอำนาจให้ทำมันให้เป็นไปได้”
คำถามฝังลึกลงไปในใจลิตตี้ กับอะไรที่อัศวินงูสองหัวภายใต้ไบเดอร์ทำ และทำไม พวกเขาไม่รักษาความปลอดภัย
ลิตตี้ ไม่รู้รายละเอียดแต่เธอหวัง ว่าลูกชายของผู้หญิงคนนี้ ทำสิ่งที่ถูก
***
“…ลิตตี้ ชั้นจะให้รางวัลเธอเป็นชื่อเรียก”
“อะไรคะ! มั่นใจเหรอคะ?!”
คำพูดของดั้กแกม นั้นทำใหลิตตี้ตกใจมาก และทำให้เธอตอบสนองแบบนั้น แต่มันไม่จบที่นี่ ผู้จัดการสาขา มาสู่ไอด้า และมองเธอ
“ไอด้า ชั้นจะให้รางวัลเธอเป็นชื่อเรียกด้วยเหมือนกัน”
“มะ แม้แต่สำหรับหนูเหรอ?”
“ทักษะนักสู้ของเธอ ถูกขัดเกลามานานแล้ว มันเป็นปม ที่อยู่ในหัวใจของชั้น ที่เลี่ยงชั้น ไม่ให้มอบรางวัลเป็นชื่อเรียก นอกจากนี้…”
ดั้กแกม มองไปรอบๆ ที่ลิตตี้ และเหล่าผู้ฝึกสอนคนอื่น ดั้กแกมเห็น ว่าแผลเป็นบนกายของพวกเขา ไม่ใช่ผลของการฝึก
พวกเธอทำอะไร? และเพื่ออะไร ดั้กแกมไม่ได้โง่ จนไม่รู้
“ชั้นแค่ยืนเฉยๆ ระหว่างที่พวกเธอ ทำเต็มที่ไม่ได้”
ดั้กแกม บอกพวกเธอด้วยมือ ว่าให้เอาบัตรนักผจญภัยให้เขา และเมื่อพวกเธอทำ เขาหายไปที่หลังห้อง
เมื่อเขากลับมา ไม่กี่นาทีถัดมา ชื่อเรียกที่รอมานานแสนนาน ก็ได้ถูกสลักลงไป และลิตตี้ แน่นอนว่า สั่นและตื่นเต้น เช่นกันกับไอด้า เมื่อเธอรับบัตรนักผจญภัยของเธอ จากดั้กแกม
“หนูทำมัน… ในที่สุดหนูก็ทำมันได้…”
“ใช่… หนูด้วย…”
“แต่! ชั้นมีอย่างสุดท้ายที่จะพูด!”
“ค่ะ!” “ค่ะ!”
“อย่าตาย ตลอดไป! ถ้าเธอตาย ชื่อเรียกของเธอจะถูกยึด! ในความเป็นจริงสถานะนักผจญภัยเธอจะถูกยึดด้วยเหมือนกัน! เข้าใจมั้ย?”
“ค่ะ!” ค่ะ!”
ไม่มีใครจะแย้งอย่างไม่เหมาะว่าถ้าคุณตาย คุณจะไม่สามารถเป็นนักผจญภัย หรืออะไรทั้งสิ้น พวกเธอรู้ ว่านี่เป็นวิธีของดั้กแกม ที่จะให้กำลังใจพวกเธอ
มันไม่ใช่ว่า โอลิเกร์ แรงค์ 4 ที่อยู่หน้าไอด้า ไม่มีความเสียดายที่ถูกแซงโดยเธอ อย่างไรก็ตาม งานแรงค์ 6 ประจำวัน ได้มอบโอกาส ให้เขาวิเคราะห์สถานการณ์ของตัวเองใหม่
เขาไม่เคยมีโอกาสมากมาย ที่จะได้รับคำขอบคุณจากคนอื่นๆ เพราะเขายุ่งอยู่กับการล่าตลอด ดังนั้น นี่ เป็นประสบการณ์ที่มีค่า สำหรับเขา
โอลิเกอร์ก็ด้วย ได้เติบโตขึ้น
“ยินดีด้วย ไอด้า! อื้ม เพราะเรามีความสุข และเวลามันพอดีเลย ให้ชั้นได้เลี้ยงเครื่องดื่มนะ” (โอลิเกอร์)
“โอ้… โอลิเกอร์-ซัง นายไม่ได้หมายถึง ว่านายจะซื้อเนื้อให้ชั้นเหรอ?” (ไอด้า)
“ไม่ ไม่จำเป็นว่าต้้องเป็นเนื้อ…” (โอลิเกอร์)
“มันเนื้อ! เนื้อ!” (ไอด้า)
“โอเค โอเค เช็ดน้ำลายออกจากหน้าก่อน” (โอลิเกอร์)
“ขอบคุณมากๆสำหรับเนื้อ!” (ไอด้า)
รุ่นน้องก็ขอบคุณโอลิเกอร์ที่เลี้ยงด้วย โอลิเกอร์ มีเจตนาแค่จะเลี้ยงไอด้า แต่มันไม่มีทาง ที่เขาจะถอนตัวจากมันได้อีกแล้ว
“และชั้นพาน้องๆชั้นมาได้มั้ย?!” (ไอด้า)
“เธอไม่ค่อยจะสงวนตัวเลยนะ รู้มั้ย?!” (โอลิเกอร์)
“ชั้นจะจ่ายมันด้วยเหมือนกัน” (ลิตตี้)
“อย่างที่คาดกับแรงค์ 3 ลิตตี้-ซัง!” (โอลิเกอร)
“โอ้ให้ตายซี่…ชั้นคิดว่าชั้นจะไปด้วย” (ดั้กแกม)
ดั้กแกมที่ เข้าร่ามกลุ่ม มองดูอายเล็กน้อย ภาพของเขา เป็นผู้สอนที่ดุดันและเข้มข้น ถูกพลิกผันไป
สมาชิกบางคน ของกลุ่มก็รู้สึกอึดอัด แต่ในท้ายที่สุด ความอยากเนื้อมันยากที่จะต่อต้าน
“ให้ตายซี่ ยังไงซะ นี่ก็เป็นการฝึกด้วย…”
“นี่จะช่วยให้นายเป็นนักพรตนะ รู้้มั้ย”
“เมียน เมียน”
แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน โอลิเกอร์พบว่าความไร้สาระของลิตตี้ มันเกลี้ยกล่อมดีอย่างแปลกประหลาด
ลิตตี้ กังวลเกี่ยวกับความตื่นเต้นของเมียน แต่ไม่นาน เธอก็สงบลง
“เมียน อยากกินเนื้อมั้ย?”
“เมียน!”
เส้นสีเงินของน้ำลายของเมียน ตอบได้โดยไม่จำเป็นต้องถาม
ชื่อ: ลิตตี้
เพศ: หญิง
อาย: 15
แรงค์: 3
อาชีพหลัก: นักดาบ
อาชีพที่เชี่ยวชาญ: นักดาบ, นักรบหนัก, นักอัญเชิญ, นักธนู, นักสู้
เป้าหมายเดือน 8/66
ค่าเน็ต 200/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 1208/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook