สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 7 อัลดิส โกรธจัด
7 อัลดิส โกรธจัด
หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ทิ้งลิตตี้ไว้คนเดียวในป่าปีศาจ อิกดราเซียพบพวกเขาเองอยู่ในข้างหน้าของถ้ำกาลาเดีย ที่อยู่ที่ภูเขาที่ทาเหนือที่สุดของอาณาจักร
บรรยากาศมันไม่ได้ยอดเยี่ยม ขณะที่พวกเขาตั้งแคมป์ที่ปากถ้ำ ซึ่งพวกเขามีแผนที่จะโจมตีพรุ่งนี้ หนึ่งในเหตุผลก็คือ สตูว์ที่ถูกเตรียมโดยแบนเดรา ที่รับผิดขอบอาหารคืนนั้น ไม่ได้มีรสชาติดี
อัลดิสกินที่เหลือครึ่งหนึ่งไม่ได้ ครึ่งของสตูว์ที่ไร้รสชาติและจืด
“เฮ้แบนเดร่า เธอมั่นใจน่าว่าเธอปรุงมันน่ะ?”
“มูลค่าทางโภชนาการมันสมดุลย์อย่างดี”
“นั่นไม่ใช่ที่ชั้นถาม มันเกี่ยวกับรสชาติ! เธอพยายามจะให้อาหารคนป่วยเหรอ?”
“มันดีที่มันสงบในท้อง”
แบนเดร่าเฉยเมยกับทุกสิงทุกอย่างที่ไม่ใช่เวทมนตร์ และการทำอาหารก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
คลารีนและดอร์แลนด์ทั้งสองคน แทบไม่จับสตูว์ แต่ซูล คือคนเดียวที่กลืนสตูว์อย่างเต็มที่
“โอ้น้อง! มันอร่อยมาก! เมื่อโรยเกลือ มันอร่อยขึ้นไปอีก!”
“ซูล หยุดพูดเกินจริง”
“ลองมันสิอัลดิส มันอร่อยจริงๆ ใช่มั้ย?”
“ชั้นกินซุปเกลือยังดีกว่าจานนี้เลย…”
แบนเดร่าจ้องอย่างเย็นชาไปที่อัลดิส ที่โรยเกลือบนอาหารของเขา อัลดิส สังเกตุสายตาของแบนเดร่า จ้องกลับไป
อัลดิส อย่างไรก็ตาม ไม่พูดอะไรทั้งสิ้นในท้ายที่สุด ขณะที่แบนเดร่าไม่ได้หาเรื่อสู้ง
อิกดราเซีย เป็นปาร์ตี้ของพรสวรรค์ที่พิเศษ และพวกเขาเป็นคนที่เก่งที่สุดของคนที่เก่งที่สุด นั่นทำไมพวกเขาไม่อยากให้ปาร์ตี้ ต้องแยกย้ายกันจากเรื่องพิพาทเล็กๆ
แม้แต่อัลดิสเอง ก็รู้เรื่องนี้อยอยู่เต็มใจ
“อัลดิส ถ้ำกาลาเดียนี้ได้ถูกดูแลแล้ว มันไม่ใช่ที่ที่ยังไม่สำรวจ”
“นายตั้งคำถามกับชั้นเหรอ ดอร์แลนด์?”
“เราจะไม่ได้ประสบการณ์ที่นี่ ดังนั้นทำไมเราถึงหยุดที่นี่ล่ะ?”
“แค่รู้สึกเหมือนอยากทำมัน”
“…รู้สึกเหมือนอยากทำมัน นายพูดเหรอ?”
ดอร์แลนด์คำรามใส่คำพูดที่ไม่ใส่ใจของอัลดิส เขาเป็นชายที่ฝึกทักษะ เพื่อท้าทายคนเหล่านั้นที่อยู่ข้างบน นั่นคือสิ่งที่เขาได้ทำมาในบริเวณที่ยังไม่สำรวจ
เขาไม่สนใจเกี่ยวกับทรัพยากรที่ไม่รู้จัก ศึกที่ท้าทาย คือสิ่งที่เขารอคอย
อิกดราเซีย เป็นต้นทางของความสนใจของเขา เขาก็จะอย่างท้าทายพวกอิกดราเซียในอนาคต เพื่อที่จะทำอย่างนั้น เขาต้องอยู่ใกล้กับอิกดราเซีย
ดอร์แลนด์เชื่อว่าในโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ ไม่มีรับประกันว่าพวกเขาจะเจอกันอีกครั้ง ถ้าพวกเขาได้แยกทางกัน ปรกติแล้ว สำหรับคนอื่น คววามกังวลประเภทนี้จะสูงกว่าสูงที่สุด แต่สำหรับดอร์แลนด์ มันใหญ่พอที่จะครุ่นคิด
“เราต้องเป็นอิสระจากบรรยากาศที่มืดมนนี้ ไม่ใช่เหรอ พวกเรา? มาความสุขจากการล่าพวกอ่อนแอซักครั้งนึงเถอะ”
“นายมาเพราะเรื่องนี้เหรอ?”
“ฮ่าาา นายเป็นคนที่น่าเบื่อที่สุดที่ชั้นเคยเจอเลย”
“มันดีที่ได้พักซักครั้งนึ่งหลังจากซักพักแล้ว ใช่มั้ยคลารีน?”
“ใช่ แต่…”
“มันสนุกที่ได้ฉียสนามเด็กเล่นของพวกนักผจญภัยเห็บหมัด ไม่ใช่เหรือ?”
อัลดิสเห็นว่าทุกอย่างไม่มีค่า นอกจากอิกดราเซียที่พรสวรรค์เทียบเท่ากันทุกคน
“ฮ่าาา น่ารำคาญว่ะ…”
“จึ…”
ดอร์แลนด์จึปากและคลารีนกลิ้งลูกตา เธอยินดีทีจะสนิทกับอัลดิส หัวหน้า แต่เธอไม่สามารถซ่อนความไม่พึงพอใจของเธอได้
แบนเดร่าเข้าใจว่าอัลดิสต้องการอะไร แต่เธอได้มองเกี่ยวกับทุกสิ่งต่างออกไป มันเป็นครั้งแรกที่เธอสนใจในอะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์
“ถ้านายหาอะไรที่จะมาทำให้ตัวเองสนุก ทำไมนายทิ้งสาวคนนั้นไว้ข้างหลังล่ะ?”
“สาวคนนั้น?”
“เธอเป็นสาวที่นายรับมาไว้ใต้ปีก นายทิ้งเธอในป่าปีศาจเพิ่งจะไม่นาน”
“ชั้นใช้เธอเพื่อความสนุก รู้มั้ย? แต่เธอไม่ได้สนุกขนาดนั้นนะ”
“เพราะเธอเป็นเด็กฝึกหัดของนาย นายควรมอบดาบหรืออะไรบางอย่างให้เธอไว้ฝึก อย่างน้อยเธอยังได้ความคิดทั่วไป”
แม้ว่ามันแย่มากที่เขาไม่ทำมัน คำถามของแบนเดร่ายังมีเหตุผลจะมีประเด็น
อัลดิสตอบคำถามของแบนเดร่าไม่ได้ทันที เขามีความคิดคร่าวๆว่าทำไม แต่ตัวเขาเอง ไม่อยากจะยอมรับมัน ดังนั้นเขาเลยพูดเพียง
“เด็กอย่างนั้นถือดาบได้ยังไงกัน? เธอไม่แม้แต่จะเป็นของเล่นที่ดี”
“ถ้าเธอไม่สามารถถือดาบได้ งั้นนายจะใช้ข้ออ้างนั่นเพื่อเตะเธอไปรอบๆ ได้ ดังนั้น ทำไมนายไม่เคยให้เธอถือดาบล่ะ?”
“แน่นอนว่ามันไม่ปรกติสำหรับเธอที่จะคุยบางอย่างที่ไม่เกี่ยวกับเวทมนตร์ เธอเป็นอะไรไป?”
“นายเป็นคนเดียวที่รู้เกี่ยวกับมัน ใช่มั้ย?”
“รู้อะไร?”
“นายกลัวเธอ”
แบนเดร่ามอบรอยยิ้มที่ยั่วยุและเย็นชาใส่อัลดิส ถ้าใครก็ตามที่ไม่ได้มาจากอิกดราเซีย พูดอย่างนี้ เขาาจะถูกฆ่าเดี๋ยวนั้นและตรงนั้นเลย
แน่นอนว่า ความโกรธของอัลดิสไปอยู่เหนือหัวของเขาเลย เขายืนขึ้นอย่างรุนรก แต่ไม่ดึงอาวุธขึ้นมา
“ฮ่าาา ถ้านายจะหาเรื่องสู้ พูดมันให้ชัดเจน…!”
“เธอจะสู้? กับชั้นเนื่ยนะ?”
“อัลดิส แบนเดร่า ใจเย็น! มีประโยชน์อะไรที่มาสู้กันที่นี่?”
“ซูล ไม่ต้องยุ่งเลย”
ถ้าพวกเขาเผชิญหน้ากันเอง ไม่มีใครจะออกไปจากการต่อสู้นั้นได้
อัลดิสรู้เรื่องนั้น
“สาวคนนั้นหลบไปโซนที่ปลอดภัยเพื่อที่จะเลี่ยงไม่ให้โดนเวทมนตร์ชั้น หรือจากกระสุนลมที่น่ารังเกียจของดอร์แลนด์ หรือจากเทคนิคของนาย แม้แต่หลบกับดักของซูลที่วางไว้รอบๆเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเธอเป็นคนปรกติ เธอจะตายไปนานแล้ว เธอแทบไม่ได้นอน แต่กระนั้นเธอไม่พัง นายไม่สังเกตุนี่เหรอ?”
“สังเกตอะไร?”
“เธอดูการต่อสู้ของเราอยู่บ่อยครั้ง ตลอดเวลาเลย ถึงจุดที่ว่ามันน่ากลัว”
“เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากดู ดังนั้นเธอน่าจะแคเบื่อ”
“อาจจะไปไปได้ แม้แต่นักผจญภัยแรงค์ 1 หรือ 2 จะหมดความมั่นใจเมื่อพวกเค้าเห็นเราสู้ แต่ไม่ใช่เด็กคนนั้น เธอเฝ้าดูทุกสิ่งอย่างใจเย็น แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์การต่อสู้”
ดอร์แลนด์พยักหน้าเงียบๆ เพราะเขาไม่ได้ไม่รู้เรื่องความแปลกของสาวด้วยเช่นกัน
แต่ความสนใจของเขาอย่างเดียว คือการทำให้ความแข็งแกร่งของเขาสมบูรณ์แบบ แม้ว่าเธอจะมีคุณภาพแค่ไหน ถ้าเธอขาดไปแม้แต่นิดเดียว เขาจะมีความสนใจเธอเป็นศูนย์
ถ้าตามนั้น ความไม่พอใจของเขาที่มีกับลิตตี้ จะไม่ใช่ทั้งหมดไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักเหตุผล มันเป็นเพราะมันจริงที่เธอขาดประสบการณ์
สาวทนทุกอย่าง กัดฟันของเธอ และไม่แม้แต่พยายามทีจะลองตัวเลือกของเธอ ความรำคาญนี้ที่มีกับลิตตี้ ก็เป็นอะไรที่มันทำให้เขาส่งคำพูดที่โหดร้ายใส่เธอ
“นั่นพอแล้ว”
“แบนเดร่า เธอคิดว่าเธอจะทำอะไรครั้งนี้?”
แบนเดร่ายืนขึ้นและกำลังจะจากไป ทำให้อารมณ์ของอัลดิสแย่ลงไปอีก
“ที่ไหนซักที่ อ้า ไม่ต้องกังวล ชั้นจะไม่กลับมาอีก”
“หือห์? หยุดล้อเล่นน่า”
“อะไร? นายจะหยุดชั้นด้วยกำลังเหรอ?”
เวทมนตร์ของแบนเดร่า แผ่ไปที่บริเวณรอบข้าง ทำให้แม้แต่อัลดิสก็ได้รู้ว่ามันเป็นอันตรายแค่ไหน
อัลดิสเอื้อมไปที่ด้ามของดาบเขา แต่เขาไม่สามารถดึงมันออกมาได้ มันเป็นซูลอีกครั้งที่ขัดการยืนเผชิญหน้ากันของทั้งสองคน
“แบนเดร่าเธอไม่ได้จริงจัง ใช่มั้ย?”
“ชั้นจริงจัง จริงจังสุดขีด”
“เดี๋ยว เดี๋ยว! เธอมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆเหรอ?”
เพราะชั้นไม่คิดว่าชั้นจะไปถึงไหนกับพวกนายอีกต่อไปแล้ว”
ครั้งนี้ โดยไม่หันกลับมา แบนเดร่าหายไปกับค่ำคืน ทิ้งให้อัลดิส ทำอะไรไม่ได้นอกจากเตะหม้อและกระทะที่อยู่รอบๆบริเวณแคมป์
ดอร์แลนด์ทำสมาธิ แลคลารีนในที่สุดก็สามารถหลับได้ ซูล รู้สึกมึนงง จับหัวของเขา
อัลดิสโกรธจัดจนเขาอยากจะฆ่าแบนเดร่า แต่เขา ก็รู้ตัวเขาเองว่าต้องควบคุมตัวเขาเอง
“อัลดิส ชั้นจะถามนายอีกครั้งนึงนะ เมื่อไหร่ที่นายจะไปท้าทางเพดานของโลก?
“รออีกหน่อย… และเราขาดสมาชิกเราไปหนึ่งคน จำไม่ได้เหรอ?”
“โอเค ชั้นจะรออีกหน่อย”
“ชั้นได้เครดิตมาจากการพิชิตใต้โลก ชั้นมีเงินทั้งหมดที่ใครๆจะขอได้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนต่อต้านการเข้าหาขอชั้นได้”
เขาต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีก
คงสภาพความรู้สึกเหนือกว่านี้้ไว้ เขาไปหลายที่และถูกให้เกียรติโดยทุกที่ เขาได้ชื่อเสียงมาอย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่อายุน้อยๆ เพราะเขาได้มีพรสวรรค์สุดขีด ไม่ว่าเขาจะทำอะไร
เขาทำอะไรมากกว่านี้ได้? เพดานของโลก จุดจบของโลก และโซนที่ไม่ได้ถูกสำรวจเหล่านี้ พิชิตที่เหล่านั้น จะนำชื่อเสียงมาให้เขามากกว่าเดิม
ไม่มีใครจะท้าทายเขาได้ ไม่มีใครจะตามเขาทัน และนั่นมันดีพอสำหรับเขาแล้ว
แต่ลึกๆลงไปข้างใน อัลดิสยังไม่พอใจ
“นายไม่ได้กลัวการท้าทาย ใช่มั้ย?” (ดอร์แลนด์)
“อะไร?” (อัลดิส)
“ไม่มีอะไร” (ดอร์แลนด์)
มันดั่งดอร์แลนด์ได้ยิงหัวใจของเขา อัลดิสรู้ว่าคำนั้นสื่อถึงสองสิ่ง
ถ้าเขาถ้าทาย”เพดานโลก” และล้มเหลว ชื่อเสียงทั้งหมดที่เขารวบรวมมาจะหายไป พวกราชวงศ์ทั้งหมดจะหันหลังใส่เขา
ในความเป็นจริง “ใต้โลก” ไม่ใช่งานที่ง่าย ปีศาจ ระบบนิเวศน์ และกับดัก ไม่สามารถเข้าใจได้ พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะตาย ไม่ใช่เพียงครั้งเดียว แต่เป็นสองครั้ง
มันเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่เสียใจ ที่ลุยดันเจี้ยน ความจริงที่ว่าเขาสามารถพิชิตและรอดมาได้จากดันเจี้ยน ในทางปฎิบัติแล้วเป็นโชค
นั่นทำไมเขาถึงกลัว
“ทำไมชั้นจะกลัวอะไรทั้งสิ้น!?”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ชั้นปล่อยความกังวลของชั้นไปได้”
มีอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่อยากจะยอมรับ สาว ลิตตี้ ที่อัลดิสทรมานไม่มีสิ้นสุด
ตอนแรก มันแค่เป็นวิธีทีจะระบายความเสียอารมณ์ แต่อย่างช้าๆ ความรำคาญของเขาเรี่มจะเอ่อขึ้นมา
เขาเตะเธอ ตีเธอ ทำให้เธอหิว แม้แต่อดหลับอดนอน ยังไม่พอที่จะขยี้เธอ
ความเครียดนั้นทวีคูณโดยความจริง เธอเธอได้ถูกรับเข้ามาในหมู่บ้านรูอิซ มันแค่อยากจะทำ
เขาก็รู้เรื่องที่เธอเฝ้าดูการต่อสู้
เรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ เขาไม่อยากจะยอมรับมัน
อัลดิสแค่กลัวนิดหน่อยกับสายตาทะลุทะลวง และความใจเย็นบนหน้าของเธอ
มันรู้สึกดั่งเธอได้ดูเหยื่อของเธอ
เขากังวลว่า ซักวันหนึ่ง สาวคนนี้จะตามเขาทัน ลึกๆข้างใน เขารู้สึกว่านั่นเป็นไปได้
เขากลัวแม้แต่จะสัมผัสเธอตรงๆ
“อ๊าาาาา! เวรเอ้ย!”
เขาชักดาบที่เขาเหน็บมา และเหวี่ยงมันไปสู้ทางเข้าของถ้ำ การระเบิดเชื่อมต่อเป็นแนวนอน และขยี้ทางเข้าของถ้ำ ที่ติดกับหน้าผา
อัครอัศวินใช้ดาบเวทมนตร์ได้ สกิลสูงส่งขึ้นจากสกิลของนักดาบเวทมนตร์ ตำแหน่งที่สูงกว่า
ดาบเวทมนตร์ไม่ได้กินพลังเวทมนตร์มากนัก แต่นั่นเพียงพอ ที่จะทำให้แม้แต่นักเวทย์ขั้งสูง วิ่งหนีเพื่อชีวิต
เพราะพวกเขาสามารถจะใช้สกิลนี้ได้ของแต่ละธาตุ มันจะเลี่ยงไม่ได้ ที่มันจะถูกกลัวโดยบางคนที่พิเศษ
“อ้าา มันยอดเยี่ยม มันยอดเยี่ยม ไม่มีทางที่ชั้นจะแพ้ อย่างที่คาดกับตัวชั้น”
ดอร์แลนด์ ไม่ได้มองตรงๆไปที่อัลดิส ที่พึมพำคำนี้กับตัวเอง โดยไม่มีคำพูดเข้านอนลงและหลับ
คลารีนได้ตื่นจากระเบิดที่ถ้ำ ที่เป็นภัยพิบัติ แต่เมื่อเธอรู้ว่ามันเป็นอัลดิส ที่ทำมัน เธอกลับไปปิดตาของเธอ
“…จึ”
เธอโกรธที่การนอนของเธอถูกรบกวนหรือ หรือมันเป็นเพราะความรู้สึกจริงๆที่เธอมีของความไม่พอใจกับอัลดิส
{มันดูเหมือนฉัน คลารีน นางฟ้าที่อารมณ์เสีย ก็โกรธเช่นกัน}
เป้าหมายเดือน 6/66
ค่าเน็ต 200/200
คีย์บอร์ดมือถือ 100/100
พาวเวอร์ซัพพลาย 400/500
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 0/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ Facebook: “wayuwayu แปล” Line: @326jilhj
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน แจ้งได้ที่ Facebook และ Line
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook,Line และ Discord