สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 70 ลิตตี้ เจอกันกับอิกดราเซียอีกครั้ง
- Home
- สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster
- ตอนที่ 70 ลิตตี้ เจอกันกับอิกดราเซียอีกครั้ง
70 ลิตตี้ เจอกันกับอิกดราเซียอีกครั้ง
สมาคมนักผจญภัยนั้นมีผู้คนเยอะมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน ไม่ได้มีแค่นักผจญภัยเท่านั้น แต่ก็ยังมีคนทั่วไปด้วย และเจ้าหน้าที่สมาคม ได้กดดันหาเวลาเพื่อที่จะจัดระบบระเบียบงานทั้งหมด
คาตาลาน่า ก็ดันตัวเธอ ผ่านผู้คนที่แออัดกัน เพื่อสร้างพื้นที่ ลิตตี้และโรม่า ก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
“พวกเค้าน่าจะมาถึงที่นี่แล้วตอนนี้ ใช่มั้ย?”
“พวกเค้าเข้ามาแล้ว!”
ทันทีที่อิกดราเซีย ปรากฏขึ้นมาในสมาคม มีเสียงโห่ร้องยินดี ดัลดิส ดอบสนอง โดยการโบกไม้โบกมือ และคลารีน ก็ยิ้มต่อไปเรื่อยๆ
เพิ่มเติมจากซูล ที่น่ารัก สมาชิกปาร์ตี้ฉลามผู้ยิ่งใหญ่ก็ดูอยู่ไม่ถูกที่ถูกทางด้วย แม้ว่าพวกเขาเป็นที่นิยม น้อยกว่าอิกดราเซีย
“ทำไมพวกเค้าล่ะ?”
“อาจจะเพราะพวกเค้าเก่ง อิกดราเซียเลยรับพวกเค้าเข้าไว้ข้างใน แม่ง…อย่างที่คาดกับอิกดราเซียเลย”
“เฮ้ พวก ชั้นไม่เคยคิด ว่าจะถูกต้อนรับอย่างอบอุ่นอย่างนี้” (อัลดิส)
อัลดิสยิ้มอย่างรีบๆ ไปที่ฝูงชน และผู้หญิงบางคนนั้นเกือบจะสลบไป ปากของลิตตี้ โค้งไปเป็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว กับเสียงที่แหบกร้านของเขา
ผู้คนที่นั้น แม้แต่เดายังไม่ได้เลย ว่าเขานั้นสาปแช่งลิตตี้ ด้วยคำพูดที่หยาบคาย และระบายอารมณ์ออกไปใส่เธอ ไม่นานมานี้
“…ลิตตี้ เธออยู่ที่นี่ไม่เป็นไรเหรอ?” (โรม่า)
“ชั้นสบายดี ไม่ต้องกังวลหรอก” (ลิตตี้)
ลิตตี้ได้บอกโรม่าแล้ว เกี่ยวกับอดีตของเธอ และ อดีตกับอิกดราเซีย ระหว่างที่เธอฟังอยู่นั้น โรม่า ปกปิดปากของเธอด้วยมือ พร้อมสีหน้าที่โศกเศร้าบนหน้าของเธอ และไม่พูดแม้แต่คำเดียว
แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เธอพูดเกี่ยวกับมันไม่ได้ เพราะมันเป็นต้นกำเนิดของพลัง ของลิตตี้ แต่ในเวลาเดียวกัน ราคาที่ลิตตี้ต้องจ่ายไป มันโหดร้ายเกินไป ไร้หัวใจเกินไป
โรม่า แม้แต่เสียใจ ที่อิจฉาเธอ โดยไม่รู้ไปถึงสถานการณ์ของเธอ และรู้สึกว่า ไม่มีการให้อภัยจำนวนเท่าใด ที่จะเพียงพอ ที่จะบรรเทาความไม่รู้ภาษาของเธอ
“มันฟังดูเหมือนพวกเธอบางคนไม่ใช่นักผจญภัย แต่มันเป็นโอกาสที่ดี ให้ชั้นได้พูดตรงๆ ชั้นอยากจะเพิ่ม ระดับของนักผจญภัยที่นี่ ที่เมืองหลวง มันไม่มีการปฏิเสธ ว่านักผจญภัยน่ะ สำคัญมากขึ้นและมากขึ้้น ในหลายๆประเทศทุกวันนี้ ไม่เหมือนในอดีต บางประเทศ แม้แต่แสดงเจตจำนง ที่จะใส่ความพยายาม เข้าไปในธุรกิจการผจญภัย และในระหว่างเรื่องพวกนี้ที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด มันเกิดขึ้นกับชั้น ว่า สิ่งที่เรา ในฐานะอิกดราเซีย ทำได้นั้น คือการฝึกรุ่นต่อๆไปของนักผจญภัย” (อัลดิส)
อัลดิส นั้นหลงลืมเกี่ยวกับลิตตี้ไป พูดกับฝูงจน ในเสียงที่สงบ และมั่นคง
ลิตตี้มองไปรอบๆ เธอรู้ว่าคำพูดของอัลดิสนั้น ความหมายของมันคือความว่างเปล่า กระนั้นเธออทำสิ่งใดไม่ได้ เธอได้เพียงแค่หวัง ว่าพวกเขาจะไม่ถูกหลอก
“อย่างที่พวกเธอรู้ การเพิ่มระดับขึ้น นั้นไม่ได้ฟังดูเหมือนง่ายเหมือนที่ได้ยิน มันจะมีความยากลำบาก แต่ เราจะอยู่ที่นั่น และช่วยเธอ อย่างที่เธอรู้ ฉลามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักผจญภัยที่ยอดเยี่ยม และพวกเขาเกินกว่าความมีความสุข ที่จะเข้าร่วมภารกิจนี้ของเรา ไม่เพียงแค่พวกเขา จะมีคนอื่น ที่เข้าร่วมกับเราด้วย… นี่ไง พวกเค้ามาแล้ว!” (อัลดิส)
ปากของลิตตี้ เปิดอ้า กับการปรากฏตัวที่คาดไม่ถึง ของคนคนนั้น คนนั้น ไม่ใช่ใครเลย นอกจากไบเดอร์ ผู้ที่โบกไม้โบกมือ กับฝูงชน
ชื่อเสียงที่ไม่ดีของเขา ก็มีเห็นได้ชัดในที่นั่นด้วย ทันที ที่นี่ได้เงียบลงไป
“อะไร…? เกิดอะไรขึ้นวะ?”
“อัลดิสซัง พี่แน่ใจเหรือว่าไม่ถูกหลอกน่ะ?”
มองข้ามเสียงตะโกนของนักผจญภัย ไบเดอร์เริ่มพูด “ชั้นยอมรับ ชั้นเคยคิดไม่ได้ดีเต็มที่กับนักผจญภัยมาก่อน”
เมื่อไบเดอร์เริ่มพูดบางอย่าง นักผจญภัยทั้งหมด เงียบไป เพราะพวกเขาเชื่อในอัลดิส ไบเดอร์แสยะยิ้ม ไม่ใส่ใจว่าเขาถูกไม่ชอบ
“แต่เมื่อชั้นเจออัลดิส และคนอื่นๆ… ชั้นคิดว่าใจชั้นเปลี่ยนไป รู้มั้ย… ดังนั้น แม้ว่ามันเป็นคำสั่งจากรัฐบาล เรา งูสองหัวก็ได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับพวกเขา ด้วยหัวใจทั้งดวง” (ไบเดอร์)
อัลดิสเพิ่มเติม “จะมีสถานการณ์ที่จะเป็นอุปสรรคในการฝึกของเรา ในกรณีนั้น เราจะพึ่งพาพวกเค้า”
“พี่หมายถึงอะไรครับที่ว่า 【การฝึก】 ?”
นักผจญภัยหนึ่งคน ยกมือขึ้นและถาม อัลดิสตอบเขาด้วยรอยยิ้ม “อย่างแรก มาทำคำร้องให้สำเร็จ ในบริเวณรอบเมืองหลวงแห่งราชวงศ์ มันจะช่วยได้ที่พวกเธอ จะทำตามตัวอย่างของเรา”
“อย่าบอกนะว่าพี่จะสอนเราโดยตรง?”
“แน่นอน แน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้น จะมีจุดหมายอะไรล่ะ?”
“ครับ แน่นอนเลย มันจะเป็นเกียรติมาก!”
ลิตตี้ ถึงจุดจบของความอดทนของเธอ เธอมั่นใจ ว่าอัลดิส จะไม่ทำอย่างที่เขาพูด และเธอ กำลังจะตะโกน
“อัลดิสซังคนนั้น! เค้าคิดถึงเราด้วย!”
“ถ้ามันไม่ใช่แบบนี้ พวกเค้าไม่ถูกเรียกว่าฮีโร่หรอก…”
“ชั้นตอบแทนพ่อแม่ได้ โดยการแข็งแกร่งขึ้น และได้เงินมากขึ้นได้แล้ว!”
คำพูดเหล่านี้ที่มาจากนักผจญภัยหญิง จูงใจให้ลิตตี้ ใส่จุดจบเข้าไปในเรื่องหลอกลวงที่ตลกขบขันนี้ เพราะทั้งหมด ไม่มีสิ่งดี ที่จะออกมาจากอัลดิส และมันอาจจะแม้แต่ทำให้นักผจญภัยเหล่านี้บาดเจ็บด้วย
ลิตตี้ แยกผ่านฝูงชนไป เพื่อไปข้างหน้า อัลดิสและคนอื่นๆ
“อัลดิสซัง มันเป็นซักพักแล้วนะ” (ลิตตี้)
“อ้า…อ๋า?” (อัลดิส)
อัลดิสไม่มีความคิดอยู่เลย ว่าสาวที่ปรากฏ ที่จุดสูงสุดของอารมณ์คือใคร เขาแข็งไปซักพัก และในที่สุด ก็ดึงชื่อของลิตตี้ขึ้นมาจากส่วนลึก ของความทรงจำของเขา
หน้าเขาเข้มขึ้น ขณะที่เขารับรู้ ว่ามันเป็นสาว ที่ครั้งหนึ่ง เขาทิ้งไว้ที่ป่าปีศาจ
‘{ทำไมวะ ทำไม มันควรจะเป็นไปไม่ได้}’ เขาคิด
มันคือภาพลวงตาหรือ หรือเขาจำคนอื่นผิดไป? หรือเขาถูกนำไปไม่ถูกทาง โดยทักษะ หรือเวททมนตร์บางอย่าง
แต่ไม่มีใครที่นี่ ผู้ที่ทำแบบนั้นกับเขาได้ และเขาต้องยอมรับมัน ไม่ว่าเขาจะอยากทำหรือไม่
“โอ้ โอ้ เธอ เอ๋…!” (อัลดิส)
“ขอบคุณที่พี่ช่วยใจอดีต” (ลิตตี้)
“เธอ อะไรของเธอ?” (อัลดิส)
โจซูของฉลามผู้ยิ่งใหญ่กังวล “อะ อัลดิสซังมีอะไร?”
แม้แต่ไบเดอร์ ก็ชะงักไปผู้ที่พูดอย่างสง่างาม ตอนนี้ใจหาย พวกเขาทั้งหมด ไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์
“ชั้นคิดว่านั่นลิตตี้หรือซักอย่างเนี่ยแหละ…”
“สาวคนนี้ฝังมอนสเตอร์มมีนามหลายตัวคนเดียวเลย ชั้นได้ยินมาว่า ในทางปฏิบัติน้องเค้าน่ะแรงค์ 2”
“ชั้นได้ยินมาว่า น้องเค้าไปทำงานด้วยกันกับธงแดง และชั้นคิดว่าน้องเค้าถูกมองอย่างใกล้ชิด”
“น้องเค้ารู้จักกับอัลดิสซังเหรอ?”
การประเมินลิตตี้ที่หลากหลายบินผ่านมา ลิตตี้อยาก ที่จะวิพากษ์วิจารณ์อัลดิส แต่เธอระงับมันไว้ และบอกเขา บอกถึงสิ่งที่เธอคิด
“ชั้นฝึกในป่าปีศาจมา แต่ครั้งนี้ ได้โปรดรักษาคำพูด และอย่าให้พวกเธอทั้งหมด อยู่ในอันตราย” (ลิตตี้)
“ไม่ เธอ ทำไม ทำไม…!” (อัลดิส)
“โอ้ชั้น… สาวน้อย เธอต้องล้อเล่นกับชั้นแน่”
“โอ้ ไม่ ไม่…”
อัลดิส อยู่ในความตกตะลึงต่อไป และคลารีนและซูล เผชิญหน้ากับความเป็นจริง สิ่งที่ลิตตี้พูด จุดประกายชุดของคำถาม จากพวกเขาทั้งหมด
ความสัมพันธ์ระหว่างลิตตี้และอัลดิสคืออะไร? สัญญาอะไร? มันเป็นซูลนั้นเอง ที่เคลื่อนไหว ก่อนที่มันจะกลายเป็นคำพูดที่เชื่อถือได้
“ยังไงซะ! ไม่ใช่นั่นยอดเยี่ยมเหรอ! ชั้นได้ยินมาว่า เธอได้เอาชนะความยากลำบาก ที่อัลดิสให้เธอฝ่าฝันมัน!” (ซูล)
“โอ้?” (ลิตตี้)
“ทุกคน! นี่ คือลูกศิษย์ของอัลดิส! เธอพยายามที่จะเอาชนะป่าปีศาจด้วยตัวเธอเอง ในท้ายที่สุด แต่เธอ ไม่เคยได้กลับมา… เราไปตามหาเธอ แต่เราไม่พบเธอ ชั้นดีใจ ที่เธอยังมีชีวิตอยู่!” (ซูล)
“โอ้ จริงอ่ะ! อัลดิสซัง พี่มีลูกศิษย์แล้ว!”
ลิตตี้ กัดฟัน กับการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เธอรู้ว่าซูลช่วยอัลดิส ที่ไม่รู้จะพูดอะไร ด้วยวิธีบางอย่าง
เขาเป็นเพียงคนเดียวในอิกดราเซีย ผู้ที่ไม่ทำร้ายลิตตี้ โดยตรง แม้ว่า เขาแกล้งทำตัวเป็นธรรมชาติ ในวิธีหนึ่ง ชายคนนี้ นั้นโหดร้ายที่สุดแล้ว
“ชั้นขอโทษ ที่รัก แต่อัลดิสนั้นจริงจัง เกี่ยวกับการตามหาเธอ และเค้ายังคงเสียใจกับมันอยู่เลย ใช่มั้ย อัลดิส?” (ซูล)
“โอ้…พี่ดีใจมากเลยที่น้องยังมีชีวิต” (อัลดิส)
“พวกนายมัน!” (ลิตตี้)
“ลิตตี้!” (โรม่า)
โรม่า มาที่ข้างลิตตี้ และจับมือเธอ พยายามที่จะระงับอารมณ์ที่ร้อนรุ่มของลิตตี้ อัลดิสจึ้ปาก ชั่ววินาที ตอบกับโรม่า ซึ่งทำให้ลิตตี้ไม่สบายตัว
“ชั้นสงสัยว่ามันต้องขอบคุณอัลดิสซังด้วยมั้ย ที่สาวคนนั้นสามารถเป็นแรงค์ 3”
“แรงค์ 3 เลยเหรอ?!”
“นั่นถูกต้อง”
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราต้องทำงานหนักๆด้วยนะ”
“เฮ้สาว ชั้นรู้ว่าเธอรู้สึกยังไง แต่มันจะฉลาดกว่าที่จะไม่ทำที่นี่ เธอรู้สถานการณ์นี่ ใช่มั้ย?”
ลิตตี้อยากจะปัดคำพูดที่รำคาญอยู่เต็มหูของซูลทิ้งไป แต่หัวเธอ สงบลงเล็กน้อย เธลอคิดเกี่ยวกับมัน ซูลพูดถูกแล้ว แม้ว่าถ้าเธอได้บอกทุกอย่าง มันจะไม่เปลี่ยน อะไรทั้งสิ้น
นอกจากนี้ เหตุผลของเขานั้นคืออะไรกัน? ลิตตี้มองดูโรม่า พยักหน้าเล็กน้อย และไปที่กระดานคำร้อง
“โอ้ เดี๋ยว นี่… นี่คือคำร้อง เราจะจัดการมันเอง”
“อะร่ะ…!”
อัลดิสเข้ามาขัด และฉีกกระดาษประกาศคำร้องทั้งหมดออก นักผจญภัยธรรมดาจะล้มเลิกที่โต๊ะพนักงานต้อนรับ ถ้าเขาได้ทำบางอย่างแบบนี้ เพราะทั้งหมด ไม่มีทาง ที่พวกเขาจะทำคำร้องทั้งหมดสำเร็จ แต่ด้วยอิกดราเซีย เรื่องราวนั้นจะต่างออกไป
“เราจะจัดการล่ามอนสเตอร์ที่ทุกคนมีปัญหากับมัน…เธอตามเรามาได้”
หมัดของลิตตี้สั่นเทา และเธอใกล้ กับขีดจำกัดของเธอแล้ว
อัลดิสพูดกับลิตตี้เล็กน้อย
“เธอมาถึงแรงค์ 3 ได้ด้วยโชค แต่อย่าคิดเกินตัว โอเคมั้ย? ดู นี่คืออำนาจ ของความสำเร็จ”
ลิตตี้หันหาอัลดิส ผู้ที่อยู่ในอารมณ์ดี ด้วยการจ้อง
ในที่สุดอัลดิสก็จำมันได้ มันเป็นบางอย่างเกี่ยวกับลิตตี้ ที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว หรือการข่มขู่จากเธอ หลายครั้งหลายครา
มันก็เป็นเพราะเรื่องนี้ ที่เขาจงใจ ทำให้มั่นใจ ว่าลิตตี้จะไม่รอดชีวิต เมื่อกลับไปตอนนั้น
เมื่อมองดูสถานการณ์ ไบเดอร์ก็เข้าร่วมการสนทนา “อัลดิส เธออาจจะเป็นลูกศิษย์นาย แต่เธอมันหนาด้าน รู้มั้ย เราก็ลำบากกับเธอมาด้วย”
“อย่ากังวล ตอนนี้ชั้นอยู่ที่นี่แล้ว ชั้นจะไม่ให้เธอทำอะไรที่เธออยากทำหรอก”
“นั่นโล่งใจนะ”
จากข้างใน ลิตตี้ รำคาญ สงสัยว่าทำมัน มันมีแค่พวกกลุ่มคนนิสัยไม่ดีในโลกนี้กัน คำตอบของลิตตี้กับคนเหล่านี้นั้นเรียบง่าย
“โรม่าซัง ไปผจญภัยกันเถอะ”
“อะไรเหรอ? ได้ ไปกันเถอะ”
ลิตตี้และโรม่า เพียงแค่เดินออกจากสมาคมนักผจญภัย อัลดิสสงสัย ว่าเขาพลาดคำร้อง ที่พวกเธอรับไปแล้วหรือ
ไม่ชอบเรื่องนั้นเอาเสียเลย เขาขยำกระดาษคำร้อง ในมือของเขา
“อะ อัลดิสซัง?”
“อุ้ย โทษที”
ความโกรธเดือดดาลของอัลดิส อุ่นลง ขณะที่เขาคลี่กระดาษคำร้อง ที่บางคนชี้บอกเขา สาว ที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว ยังคงมีชีวิตอยู่ และยังต่อต้านเขา แค่เมื่อเขากำลังจะก่อตั้ง สวรรค์ของเขาเองในเมืองหลวง
“กัปตันไบเดอร์ ชั้นอยากให้นายไปบอกสถานที่ที่เกี่ยวข้อง เราจะจองห้องนอนทั้งหมด ในสมาคมนักผจญภัยที่นี่”
“รับทราบ”
อัลดิส พึมพำกับตัวเขาเอง ซ้ำแล้วซ้ำอีก ธรรมชาติที่บิดเบี้ยวของเขา เติบโตไปบิดเบี้ยวมากขึ้น ในการเผชิญหน้ากับสาว ที่เขาแม้แต่จำชื่อก็ยังไม่ได้
***
“อืม…เธออยู่คนเดียวเหรอ?”
ไกลออกไปจากสมาคมนักผจญภัยนิดหน้อง คูฟาเจอสาวน้อยโทรมๆคนหนึ่ง ตัดสินจากรูปลักษณ์ของเธอ เธอไม่ได้ปรากฏว่าจะมีพ่อแม่
สาวยกหัวขึ้นกับเสียงเรียกของคูฟา แต่ไม่พูด
“หิวมั้ย?”
เธอพยักหน้าในครั้งนี้ และเคี้ยวอย่างเหม่อลอย กับอาหารว่างของนักผจญภัยที่เรียบง่ายที่คูฟาเสนอให้
โล่งใจ คูฝาสังเกตุสาวน้อย และเห็นภาพกระจกที่สะท้อนมาของเธอ กับเธอคนเก่า
“ไม่มีพ่อกับแม่เหรอ? หรือที่ที่ให้เรียกว่าบ้าน?”
สาวกินเสร็จ แต่ยังไม่ตอบคำถามคูฟา ตัดสินใจไปว่า ถ้าสิ่งต่างๆมันดำเนินไปแบบนี้ เธออาจจะขโมย จากบางคน เหมือนที่เธอเคยทำ คูฟาเลยเสนอมือของเธอไป
“จะ…จับมือชั้นไว้มั้ย?”
คูฟานึกไปถึงลิตตี้ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ ว่าทำไมเธอถึงนึก สาวตรงหน้าของเธอยังอยู่ในความเงียบ แต่ในท้ายที่สุด เอื้อมออกไปสู่เธอ
“ตามชั้นมาได้นะ”
คูฟาไม่รู้ ว่านี่เป็นการทำในสิ่งที่ถูกไหม กับสาวที่ตัวตนนั้นไม่เป็นที่รู้จัก เธอเพียงแค่ทำมันอย่างเป็นธรรมชาติ
สาว ที่ถูกปฏิบัติอย่างยำแย่ โดยนักผจญภัยที่เลวทราม และไม่เคยจะไม่เคารพพวกเขา เดินไปอย่างช้าๆ
ความทรงจำ เมื่อเธอยังเป็นแค่เด็กน้อย ย้อนกลับเข้มาหาเธอ เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่ง เธอเคยถูกปฏิบัติอย่างไรด้วย
“เฮ้ ร้องไห้อยู่เหรอ…?”
หยดหนึ่งของหยาดน้ำตา ไหลลงจาก แก้มมันๆที่เละเทะของเธอ มันเป็นช่วงเวลา ที่สาวตั้งสติได้ แม้ว่า จะแค่ เล็กน้อย
เป้าหมายเดือน 8/66
ค่าเน็ต 200/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 1208/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook