สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 71 ลิตตี้ มีเป้าหมายอยู่ที่การผจญภัยตลอดมา
- Home
- สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster
- ตอนที่ 71 ลิตตี้ มีเป้าหมายอยู่ที่การผจญภัยตลอดมา
71 ลิตตี้ มีเป้าหมายอยู่ที่การผจญภัยตลอดมา
ตั้งแต่อิกดราเซียได้มาถึง ลิตตี้และเพื่อนๆของเธอ ไม่สามารถจะรับคำร้องส่วนใหญ่ที่เคยได้รับ
คำร้องของแรงค์ที่สูง ได้ถูกกวาดล้างไปหมดสิ้น คำร้องที่เหลืออยู่ มีเพียงคำร้องรวบรวบของที่เรียบง่าย สำหรับแรงค์ 5 และการฆ่าสัตว์รบกวน ที่ทำลายนาของหมู่บ้าน
ลิตตี้ พบว่าตัวเธอเองนั้น ติดอยู่ในสถานการณ์ ที่เธอ ไม่สามารถที่จะได้รับคำร้องที่เหมาะสมกับแรงค์ของเธอ คนหนึ่งจำเป็นต้องเก็บสะสมแต้มที่มากเพียงพอ โดยการทำคำร้องแรงค์ 3 เพื่อที่จะได้สิทธิไปท้าทายการสอบเลื่อนขั้นไปสู่แรงค์ 2
ถ้าเธอผ่านการสอบเลื่อนขั้น เธอจะเป็นกึ่งแรงค์ 2 และถ้าเธอได้รับการรับรองของการรับรู้ จากบุคคลที่สำคัญ เธอจะกลายเป็นแรงค์ 2
“โอ้ ขอบคุณพระจ้า ตอนนี้นาจะไม่ถูกทำลายไปซักพัก”
“มันไม่เป็นไรแล้ว ชั้นก็โล่งใจ ว่าทุกคนกินผักที่อร่อยๆได้ตอนนี้”
“ผักที่อร่อย หือห์? เมื่อไหร่กันที่เป็นครั้งสุดท้าย ที่บางคนพูดแบบนั้นกับชั้น…ยังไงซะ ลองกินหน่อยมั้ยหนู?”
ผักที่ลิตตี้และโรม่ากันกัน สดมากและอร่อย นี่พวกมันกินได้สดๆ
ลิตตี้ประทับใจกับมัน เมื่อเทียบกับที่ปลูกในหมู่บ้านของเธอเอง เธอคิด ว่าแค่เรื่องนี้อย่างเดียว มันคุ้มค่าแล้วที่จะมาที่หมู่บ้าน ที่ไกลจากเมืองหลวงแห่งราชวงศ์
“ไม่นานมานี้ นักผจญภัย ไม่มาที่นี่อีกแล้ว เราเคยมีอัศวินที่เป็นคนในหมู่บ้าน แต่เค้าหยิ่งเกินไป… เดชะบุญ เค้าจากไปแล้ว”
“ดังนั้น ในท้ายที่สุด คนหนุ่มสาวในหมู่บ้าน ตัดสินใจที่จะรายงานมันให้กับเมืองหลวงแห่งราชวงศ์ ขอการช่วยเหลือโดยการทำให้มันเป็นงานที่นักผจญภัยรับได้”
“กลุ่มอัศวินนั้นเรียกว่าอะไรแล้วนะ? แมลงวัน ทีมแมลงวันหรือมันอะไรเนี่ยแหละ?”
“…งูสองหัว?” (โรม่า)
ชายแก่ในหมู่บ้านพยักหน้าเห็นด้วยกับคำตอบของโรม่า แม้ว่มันจะไม่นาน ตั้งแต่โรม่าและลิตตี้มาที่เมืองหลวง ชื่อเสียงที่แย่ของงูสองหัว คงอยู่ในใจของพวกเธอ
ลิตตี้ สามารถที่จะมองเห็นเป็นภาพได้ ว่าหมู่บ้านต้องผ่านปัญหามาเช่นไร เมื่ออยู่กับผู้คนเหล่านั้นรอบๆเขา
“หนูจะขอให้บางคนช่วย อัศวินที่ดีกว่า” (ลิตตี้)
“น้องจะทำเหรอ?”
“ค่ะ หนูรู้จักบางคน ที่อาจจะสามารถช่วยพวกลุงได้” (ลิตตี้)
“ลุงเข้าใจเรื่องนั้น แต่…”
ชายชราในหมู่บ้าน รู้ถึงแรงค์ของลิตตี้ แต่ไม่ได้พิจารณา ว่าเธออยู่ในระดับเดียวกับคนอื่นๆที่แรงค์เดียวกัน เพราะที่เธอดูเป็นเช่นไร ไม่เต็มอกเต็มใจ แต่ซาบซึ้งใจ พวกเขาโบกมือลาลิตตี้ ที่ทำคำร้องสำเร็จ และหันไป เพื่อกลับไปที่เมืองหลวง
***
ไม่สามารถที่จะรับคำร้องแรงค์สูงได้ ลิตตี้และโรม่า ตัดสินใจที่จะเน้นไปที่คำร้องแรงค์ 6
เพิ่มเติมจากแรงจูงใจและพลังกายธรรมชาติของลิตตี้ ตอนนี้ เธอมีโรม่ากับเธอ พวกเธอสองคนเหงื่อไหล หัวเราะร่า และคุยเล่นกับลูกค้าของพวกเธอ
มันต่างจากงาน ที่โรม่าอยากจะ่ทำในเมืองหลวง แต่เธอคิดว่ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้น มันเปลี่ยนการหันมามองว่านักผจญภัยเป็นเช่นไรอีกครั้ง
…
“อา เหนื่อยว่ะ…”
“อัลดิสซัง ผมจะไปจ่ายใบราคา”
“โอ้…ไปอีกร้านนึงหลังจากนั้นดีก่า ชั้นว่า”
อิกดราเซียที่แดง และฉลามผู้ยิ่งใหญ่ และนักผจญภัยที่ตามพวกเขามา เข้าสมาคม ก้าวเท้าปัดไปปัดมา เป็นการแสดงอะไรที่ไกลจากสิ่งที่คาดหวังจากนักผจญภัยที่สง่างาม
กลิ่นแรงของเหล้า ที่แผ่ออกมาจากพวกเขา ทำให้รูจมูกของลิตตี้และโรม่าระคายเคือง
โรม่าช่วยไม่ได้ นอกจากจะพึมพำในเสียงที่เบา “เหม็น…”
ลิตตี้พูดกกับโรม่า “โรม่าซัง ตอนนี้ทำเสร็จหมดแล้ว ไปพักกันเถอะวันนี้”
“โอ้? ยัง ไง ซะ… ไม่ใช่ว่าเธอเป็นนักผจญภัยแรงค์ 3 บางอย่างเหรอไง?”
อัลดิสพยายามจะกวนอารมณ์ให้ลิตตี้โมโห แต่เธอไม่ทำแม้แต่จะมองเขา อัลดิส หงุดหงิดกับท่าทีของลิตตี้ จับเธอที่คอเสื้อ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะที่แกหยิ่ง? อ๋า?”
“ปล่อยชั้นนะ”
โจซู หนึ่งในสมาชิกฉลามผู้ยิ่งใหญ่ ตะโกนใส่คำพูดที่บ้าบอ “ลืมไปแล้วเหรือ ว่าอัลดิสซังทำอะไรเพื่อเธอ เมื่อเค้าให้เธอเป็นลูกศิษย์น่ะ?”
อย่างไรก็ตาม ลิตตี้ ไม่แม้แต่จะเสียแรงไปดูโจสู และเอ่ย อย่างช้าๆ แต่เย็นชา ทีละคำ “ปล่อย… ชั้น… ไป…”
ลมหายใจของอัลดิส ที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล่า รดใส่บนหน้าลิตตี้ ที่จุดนี้ เธอแทบหยุดเธอเองไม่ได้ จากการคุมตัวไม่อยู่
“ชั้นเตือนนายสองครั้งแล้วนะ…” (ลิตตี้)
แค่เมื่อทุกคนคิด ว่าลิตตี้ ผู้ที่ถูกจับโดยนักผจญภัยคลาสพิเศษ ไม่มีทางที่จะหนี ลิตตี้ เพียงแค่ตีข้อมือของอัลดิส
ไม่เพียงแค่อัลดิส โดนใช้กำลังเพื่อปล่อยเธอ เขาแม้แต่เซ และล้มไปที่พื้นที่เย็น เพราะเขาเมาหัวทิ่ม
“อ๋า…? โอ้ย!” (อัลดิส)
เมื่อเห็นเช่นนี้ นักผจญภัยคนอื่นสะดุ้ง แม้ว่าอัลดิสเมา มันไม่ใช่ความสำเร็จเล็กๆ ที่จะกระชากออกมาจากนักผจญภัยแรงค์พิเศษ
อัลดิส พยายามจะยืนขึ้น โดยใช้เสาใกล้ๆเป็นที่จับ และล้มเหลวที่จะทำอย่างนั้น และเริ่มอาเจียน
“แก แก อ่าาาา…!” (อัลดิส)
ขณะที่ซูล โจซูและสมาชิกฉลามผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นรีบไปช่วยพยุงอัลดิส นักผจญภัยคนอื่นจากไป เหมือนคลื่นที่มาถึงฝั่ง เพราะทั้งหมด ไม่มีใครอยากจะเข้าไปเละด้วย
ซูล เป็นคนที่ยกอัลดิสขึ้น ขณะที่เขาล้มลงไปบนความเละเทะแหยะๆที่เปื้อนพื้น
“เฮ้! โจซู! พาอัลดิสซังไปที่โรงแรม!” (ซูล)
“อะไร? ผมเหรอ?” (โจซู)
“ก็ใช่สิวะ! รู้ตัวหน่อยว่าแกอยู่ที่นี่เป็นอะไร ไอ้เวรเอ้ย!” (ซูล)
“ครับ!” (โจซู)
สมาชิกทั้งสามของฉลามผู้ยิ่งใหญ่ แบกอัลดิสที่โสโครกไว้ในมือ ซูล ที่เป็นพยานของฉากที่ผ่านมา มองดูลิตตี้ อย่างจริงจัง
โรม่า กลัวมากกว่าที่เธอคาดไว้เมื่อไปปลุกความโกรธาของนักผจญภัยคลาสพิเศษ แต่ลิตตี้ มองซูลในดวงตา
“เฮ้ สาว อย่าไปสร้างปัญหาเพราะมีบางคนน่ากลัว คอยดูเราอยู่”
“เอ่ะเฮ่ม?”
คาตาลาน่าตอบเหมือนเด็ก แต่เธออยู่ไกลออกไป เพราะการเปื้อนที่พื้น
นักผจญภัยชำเลืองมองเธอ ผู้ที่สมาชิกอิกดราเซีย อธิบายว่าน่ากลัว
“การทะเลาะกับเพื่อนร่วมงน มันก็เป็นส่วนนึงในการผจญภัยด้วย ตราบใดที่มันไม่เกินไปมาก ชั้นจะแค่สังเกตๆ” (คาตาลาน่า)
เมื่อได้ยินคำตอบของคาตาลาน่า ซูลพูดในเสียงที่เย็นชา “หืมม… ไม่ว่ายังไง พวกเธอสาวน้อยอย่าคิด ที่จะไปไหนมาไหนมากจากตอนนี้ไป โดยเฉพาะ เมื่อห้องของสมาคมมันเต็มแล้ว”
“อย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น โรม่าซัง เราจะไปนอนที่อื่น” (ลิตตี้)
“อุ้ย ไร้จุดหมาย ที่ที่อยู่ได้ดีที่สุดถูกเราจองหมดแล้ว และมีแต่นักผจญภัยที่อิกดราเซียอนุญาตเท่านั้นที่ให้ใช้พวกมันได้” (ซูล)
“หือห์? พวกนายรอดได้ยังไงแบบนั้น?” (โรม่า)
โรม่าเป็นคนแรกที่ตอบสนอง อย่างไรก็ตาม ลิตตี้ไม่ตกใจ เพราะเธอรู้ว่าพวกนี้เขาทำได้ต่ำขนานั้น
“เราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายนี่ ทำไมเราจะรอดไม่ได้ล่ะ? ฮี่ฮี่… เราได้รับอนุญาตจากราชาแล้ว ไม่มีใครทำอะไรเกี่ยวกับมันได้” (ซูล)
“นายมันบ้า…!” (โรม่า)
โรม่ารู้สึกแบบนี้ ไม่เพียงแค่เกี่ยวกับอิกดราเซีย แต่เกี่ยวกับประเทศด้วยเหมือนกัน ถ้าพวกเธอใช้สถานที่อำนวยความสะดวกไม่ได้ พวกเธอ จะต้องไปอยู่ข้างนอก
ถ้าไม่มีห้องน้ำ เธอจะไม่ดีไปกว่าคนเร่ร่อน ซูล เหมือนจะรู้สึกถึงความกังวลของโรม่า หัวเราะร่า
“ชั้นละสงสัยว่าอัลดิสจะทำอะไร เมื่อเค้าสร่างเมา” (ซูล)
“ไอการฝึกนักผจญภัยนี่มันไร้ค่า แค่เหมือนกับลิตตี้บอกชั้นเลย….ไม่มีทางที่เรื่องนี้มันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป” (โรม่า)
“เราจะยังเป็นคนที่ได้หัวเราะท้องแข็งคนสุดท้าย ตอนนี้ ขอตัวก่อนนะน้อง ไปนอนข้างนอกหนาวๆไป” (ซูล)
“โรม่าซัง ไปกันเถอะ” (ลิตตี้)
ลิตตี้เดินออกจากสมาคม โดยไม่ได้ตอบโต้แม้แต่คำเดียวกลับไปหาซูล เธอมีสองสมาคมให้เลือก: สมาคมนักสู้ และสมาคมนักอัญเชิญ
ทั้งสองสมาคมมีเสนอที่พักให้ ลิตตี้ตัดสินในที่จะไปอยู่ทั้งสองที่ได้
***
“โอ้ พวกน้องไม่ได้อยู่ในรายชื่อ พวกน้องจะต้องไปหาที่อื่นกิน”
ปัญหาคืออาหาร ฝายของอัลดิส ก็ได้ยื่นมือเข้ามาด้วยเหมือนกัน ปฏิเสธ ที่จะรับทุกคน แต่รับเพียงแค่นักผจญภัยที่อยู่ในรายชื่อ ร้านอาหาร อยู่ภายใต้คำสั่งจากราชา และพวกเขาขัดคำสั่งไม่ได้
หลังจากที่ตรวจดูร้านอาหารอีกไม่กี่ร้าน ลิตตี้และโรม่า ยอมแพ้ และยอมทานอาหารเรียบง่ายที่ทานได้โดยไม่ต้องทำ
“เราจะต้องไปพึ่งงานที่สมาคม ที่มีอาหารให้เราด้วย ถ้าเราหาได้นะ”
“ใช่ เราทำเนื้อให้สุกในเมืองไม่ได้…”
“เฮ้! เฮ้! พวกเธอทำอะไรอยู่ที่นี่!”
คนที่เรียกออกมาด้วยคววามโมโห เป็นอัศวินขออาณาจักร เธอจำสัญลักษณ์งูสองหัวได้ ว่าเป็นงูสองหัว ไบเดอร์ กัปตัน ไม่ถูกเห็นได้ที่ไหนเลย
แทนที่ของเขา คือสองทรงกายที่ตรงข้ามกัน หนึ่งกลมๆ อีกคนสูงและผอม นำอัศวินมา
“คะ?”
“เฮ้ ทั้งสองคนเลย ไปที่สถานี!”
“เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“นี่มันเป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการร่วมกับอิกดราเซียเหรอ?”
อัศวินไม่ตอบคำถามของโรม่า แต่พยายามจะจับกุมตัวพวกเธอด้วยกำลัง
เหล่างูสองหัว เป็นตัวแทนอำนาจของรัฐ ถ้าพวกเธอต่อต้าน มันจะถูกพิจารณาว่า พวกเธอขัดขวางสันติสุข ไม่สำคัญว่าอิกดราเซียอยู่เบื้องหลังหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ถ้า พวกเธอถูกจับ ไม่มีใครรู้ ว่าพวกเขามีแผนอะไรกับพวกเธอ มันจะยังไม่เป็นไร ถ้ามันมีแค่เธอ แต่โรม่า อยู่ที่นั่นกับเธอด้วย
“เงียบๆแล้วมากับเรา”
ลิตตี้ แม้แต่คิดที่จะหนีเมืองหลวงระหว่างเวลานี้ ด้วยกำลังปัจจุบันของเธอ เธอมั่นใจ ว่าหนีจากวงล้อมของอัศวินได้ แต่แล้วโรม่าล่ะะ?
ลิตตี้ ผู้ที่ไม่มีเจตนาจะทิ้งโรม่า คิดอย่างสิ้นหวัง ขณะที่ความคิดของลิตตี้วิ่งแล่น เธอเห็นสองกายยืนอยู่ ที่อาคารตรงหน้าของเธอ
“มากับชั้น โรม่าซัง!”
“อะไร…ที่เธอ…?”
โดยไม่ลังเล ลิตตี้จับข้อมือของโรม่า และลากเธอไปหากายนั้น ระหว่างที่หนีจากวงล้อม อัศวินก็ตอบสนองอย่างเร็วด้วย และและใกล้เข้ามาประชิด
อย่างไรก็ตาม พวกเขาหยุด เพราะมีชาย ที่พวกเขาแตะต้องไม่ได้
“โอ้ อัศวินที่รักของชั้น ทำอะไรกันที่นี่ดึกดื่นยามค่ำคืน”
“อา เธอคือ…”
ขุนนางที่งดงาม ตัวเล็กๆ อวบๆ ผู้หญิงท่ผลยาวไหลดั่งสายน้ำที่มีสีฟ้าสด และสาวน้อยที่มีผมน้ำตาล ยืนอยู่ที่นั่น
พวกเธอคือมามุ ผู้ที่ถูกคุ้มกันโดยลิตตี้ ในเมืองโทปาส; พ่อของเธอ ดี ไมล์ และคนคุ้มกันของเธอ นาตาชา
“ดี เคานต์ ดี ไมล์?!”
“สองคนนั้นเป็นแขกที่มีเกียรติของชั้น…มีอะไรปัญหามั้ย?” (ดี ไมล์)
“ไม่ ไม่ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ…”
“มันดูเหมือนพวกนายไล่ตามพวกเธออยู่นะ” (ดี ไมล์)
“มันเป็นความผิดพลาดของเรา! เราขอโทษ!”
อัศวินโค้งคำนับ และจากนั้นหายไป ด้วยความเร็วที่หันตามกันคอหัก
หายใจลึกๆ ลิตตี้ตกใจ ที่ได้้เห็นพวกเขาอีกครั้ง
แม้ว่าพวกเธอไม่เคยเจอกันมาก่อน โรม่า สามารถจะรู้ได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร เพราะการทักทายของอัศวิน
“ทุกคน… ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย”
“โอ้ ไม่ไม่ ชั้นแค่บนทางกลับจากการไปรับลูกสาวมาน่ะ มันแค่บังเอิญ” (ดี ไมล์)
“โอ้ มามุน่ะ เธอเห็นมั้ย เธอเข้าสมาคมนักเวทย์แล้วตอนนี้ ดี ไมล์ ไปรับไปส่งที่สมาคมนักเวทย์ทุกกวัน มากเท่าที่จะทำได้” (นาตาชา)
“โอ้ นั่นน่าทึ่งเลย…แต่ว่า มันดูเหมือน หนู อาจจะทำให้พวกท่านเขาไปเกี่ยวข้องกับความเละเทะนี้
ลิตตี้มองมามุอย่างงุนงง และสังเกตุ ว่าเธอไม่ได้อยู่ในชุดที่สง่างาม ที่เธอเคยใส่
เธอเป็นผู้ฝึกหัด ใส่เสื้อสีดำ กระโปรงและกางเกงรัดรูป และแม้จะแค่ในรูปลักษณ์ เธอดูเหมือนผู้วิเศษที่ดีๆคนหนึ่ง ในมือของเธอคือคทาไม้ และเธอดูต่างไปมากมาย จากรูปลักษณ์ก่อนหน้าของเลดี้น้อย
เมื่อลิตตี้บอกเขา ถึงอะไรที่เกิดขึ้น ดี ไมล์ปล่อยการถอนหายใจในความเหนื่อยใจ
“เข้าใจแล้ว ชั้นว่า ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับความเหลื่อมล้ำระหว่านักผจญภัย มันคล้ายกับสังคมขุนนาง…” (ดี ไมล์)
“ชั้นไม่มั่นใจ ว่าชั้นจะมีโอกาสชนะการต่อสู้กับอิกดราเซียได้มั้ย โดยเฉพาะเมื่ออัศวิน อยู่ฝั่งพวกเค้า” (นาตาชาา)
แม้แต่นาตาชา นักผจญภัยแรงค์ 2 ที่ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์เดียวกันเหมือนลิตตี้และโรม่า นักผจญภัย ที่ไม่ได้ติดตามอิกดราเซีย ถูกเลือกปฏิบัต เธอกังวล เกี่ยวกับการที่ประเทศ อนุญาตให้ในผจญภัยคลาสพิเศษ ทำอะไรตามอำเภอใจของเขา
ดี ไมล์ ก็รู้สึกแบบเดียวกันกับนาตาชา และมันเป็นโอกาสสำหรับเขา ที่จะส่องกระจก ดูสถานะของเขาเอง ในฐานะขุนนาง และสิ่งที่เขาควรทำ
เขาคิดว่า “ถ้าเรา ในฐานะขุนนาง จะอนุญาตให้นักผจญภัยแรงค์สูงทำอะไรตามใจ ถ้าอย่างนั้น อย่างน้อยเราควรทำบางอย่างเกี่ยวมกับมัน ถ้าสิ่งต่างๆมันควบคุมไม่ได้”
“พ่อ เราให้ลิตตี้และคนอื่นๆ ใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ไม่ได้เหหรอ?” (มามุ)
“ยังไงซะ ถ้ามันเป็นลูกสาวขอ เราดูและพวกเธอซักพักได้” (ดี ไมล์)
“เอ๋ มันไม่เป็นไรจริงๆเหรอคะ?” (ลิตตี้)
“มันไม่เป็นไร ยังไงซะถ้าอย่างนั้น ชั้นมีงานต้องทำ” (ดี ไมล์)
ลิตตี้โล่งใจ แต่เธอก็ยังรู้ด้วยว่า เธอถูกดูแลไปตลอดไม่ได้ ในฐานะนักผจญภัย อุบัติเหตุนั้นแค่รอวันเกิดขึ้น และบางเวลา เธอต้องฝ่าฟันมันไป ด้วยตัวเธอเอง
แค่เมื่อเธอคคิดเกี่ยวกับการจะแข็งแกร่งขึ้น โรม่าจับมือลิตตี้ ด้วยสองมือของเธอ
“ลิตตี้ การช่วย และได้รับการช่วยคนอื่น ก็เป็นส่วนหนึ่งในการผจญภัยด้วย” (โรม่า)
“…ใช่ มันเป็นอย่างนั้น” (ลิตตี้)
แม้ว่ามันด้วยอุบัติเหตุ เธอได้สร้างความรู้จักสนิทสนมกับขุนนาง แน่นอนเลยว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในคุณสมบัติ ที่ลิตตี้ทะเยอทะยานจะหามัน เมื่อมาเป็นนักผจญภัย และนี่ ไม่ใช่บางอย่าง ที่ทุกคนจะทำได้
ลิตตี้ ได้วางเท้าไปที่ขั้นบันไดของแรงค์ 2 และไกลออกไปแล้ว
“ลิตตี้ซัง นองห้องชั้นนะวันนี้! มาคุยกันเยอะๆเลย!” (มามุ)
“เดี๋ยว! มามุซามะ นั่นกล้าไปแล้วนะคะ!” (นาตาชา)
“นั่นใช่แล้ว! หนูไม่คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี ที่จะร่วมห้องกับลูกสาวขุนนางนะ!” (โรม่า)
ข้อเสนอของมามุ มาพบกับความขุ่นเคืองใจโดยโรม่าและนาตาชา คำพูดของโรม่า เป็นข้อโตะแย้งที่ดีเป็นพิเศษ แต่วิธีพูดของเธอ นั้นไม่เหมาะสม
เธอแสดงออกถึงอารมณ์มาก จนเธอลืมไปเลยว่าเธอพูดเกี่ยวกับอะไรอยู่
“ถ้าอย่างนั้น…ถ้าเราทั้งหมดมานอนด้วยกันเลยล่ะ?” (มามุ)
“ยังไงซะ นั้นได้ค่ะ” (นาตาชา)
“ค่ะ นั่นทำได้ ไม่มีปัญหา” (โรม่า)
ตัวโรม่าเอง ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอเอง ไม่รู้ตัว ว่าเธอขัดแย้งกับคำพูดก่อนหน้านี้ของเธอ
ลิตตี้ อย่างไรก็ตาม แค่โล่งใจ ที่จะสามารถนอน ใต้ผ้าอุ่นๆ
***
ในที่พักของอัศวิน ชายหนุ่ม เปิดสมุดจด และขีดเขียน เขาเก็บบันทึกการโกงกินในหน่วย ที่เขาอยู่
ขอมูลที่ไบเดอร์หลุดออกมา ระหว่างที่เมานั้นมีความสำคัญเป็นพิเศษ เขารู้ เกี่ยวกับการโกงกิน เขามี ความเกี่ยวข้องข้างในนั้น และกับคนที่เขาได้ทำธุรกิจด้วย
ไม่สามารถที่จะทนความรุนแรงรายวัน จิตวิญญาณของชายหนุ่ม ไปถึงขีดจำกัดแล้ว
“ชั้นต้องทำมัน… ตอนนี้…”
ไม่เพียงแค่คำแนะนำของเขาระหว่างการปราบหนูที่ถูกปัดไปขางๆ ไบเดอร์ รู้สึกว่าเขาโดนกระทำผิดใส่ และแม้แต่นำวันหยุดของเขาไป และให้เขาทำงานหนัก ทุกวัน ทุกวัน
วันนี้ หลังจากที่สงบลงแล้ว ชายหนุ่มตัดสินใจ
“ชั้นต้องบอกความจริง แต่กับใครล่ะ? ราชา? ใครอีก? แล้วสมาคมนักผจญภัยล่ะ? แม้แต่สมาคมนักผจญภัยก็ถูกครอบงำไปแล้ว…”
เขาพึมพำและพึมพำ แต่ไม่มีทางใด สำหรับผู้ฝึกหัดอัศวินที่ต่ำต้อยแบบเขา ที่จะไปรู้จักสนิททสนมกับใครเลย เมื่อเขาไม่ทำอะไรเลย นอกจากอุทิศตนทำงาน ยังมีทางเลือกให้ติดต่อคณะอัศวินอื่น แต่เขาไม่มั่นใจ ว่าเขาเชื่อคณะนั่นได้หรือไม่
หลังจากคิดสุดหัว เขาได้มาความคิดหนึ่ง เขาคิดถึงผุ้คนที่เขาไปเยี่ยมเยือนกับไบเดอร์ในอดีต
“ชั้นต้องไปแล้ว… แม่ครับ… ผมจะไปอยู่ข้างแม่เร็วๆนี้…”
ชายหนุ่มยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคง เขาก้าวออกไปปข้างนอก งุนงง ขณะที่เขาคิด ว่าเขาจะทำอะไร
“ชั้นจะเป็นอัศวินที่น่าเคารพนับถือ… ชั้นจะปกป้องประเทศของชั้น…”
ชายหนุ่มที่จริงจัง นั้นก็พิจารณาแล้วว่า ตัวเขานั้นมีความผิดเท่ากัน ที่อยู่ในหน่วงที่โกงกิน แต่ยังไงก็ตามแต่ ด้วยสมุดจดในมือของเขา ชายหนุ่มเดินจากไป
มันคือความสิ้นหวัง หรือมันเป็นความรับรู้ถึงฝันกันล่ะ? มันไม่ชัดเจน แม้แต่กับชายหนุ่ม
เป้าหมายเดือน 8/66
ค่าเน็ต 200/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 1208/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook