สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 78 ลิตตี้ เป็นพยานจุดจบของเหล่าฮีโร่
- Home
- สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster
- ตอนที่ 78 ลิตตี้ เป็นพยานจุดจบของเหล่าฮีโร่
78 ลิตตี้ เป็นพยานจุดจบของเหล่าฮีโร่
อัลดิสดิ้นรน ที่จะกักเก็บความเดือดดาลที่มากมายของเขา มันจะเป็นภัยพิบัติไปแล้ว ถ้ามันไม่ใช่เพราะข้อจำกัดของห้องพิจารณาความผิด ตระกูลราชวงศ์ และคนคุ้มกันที่มาพร้อมอาวุธ ที่พวกเขามอบไว้วางใจให้พวกเขา
เพิ่มเติมจากนี้ การมาอยู่ที่นี่ของคนที่ทรงอำนาจ ที่ชื่อว่าอิลิซิส ได้ทำให้เขาอยู่ไม่สุข คนที่ทรงอำนาจคนนี้ ไม่แสดงถึงความเกรงกลัวเล็กน้อย แม้ว่าจะต่อปาร์ตี้ของฮีโร่
“อย่างที่ทุกท่านทราบดี อิกดราเซียเป็นปาร์ตี้ที่มีความสำเร็จมากมาย มากพอที่จะถูกเรียกว่าฮีโร่ ยังไงก็ตาม ภายหลังฉาก พวกเค้าได้ทำร้ายร่างกายลิตตี้คนนี้ อย่างรุนแรง แม้ว่าจะพูดว่าน้องเค้าเป็นลูกศิษย์” (อิลิซิส)
“เอ่ ได้โปรดรอก่อน มีความเข้าใจผิดบางอย่าง เกี่ยวกับเรื่องนี้” (ซูล)
“ถ้าอย่างนั้น หนูจะให้พยานมอบคำให้การของพวกเค้า” (อิลิซิส)
“ฮะ เฮ้ย” (ซูล)
ซูลพยายามจะแทรกเข้าไป แต่อิลิซิสปัดเขาออกไป เธอไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้การนำหน้า และรักษาจังหวะ ตั้งแต่แรกเริ่ม
ความเป็นจริงที่ว่าราชาอนุญาตเธอ ให้ยึดครองการคุยกันอยู่คนเดียว นั้นเป็นโบนัสเพิ่มเติม
คนแรกที่เริ่มพูดเป็นเจ้าของร้านที่ลิตตี้ได้รับการดูแลมา
“เราเปิดร้านอาหารอยู่ในเมืองโทปาส พวกเค้ามาที่ร้านอาหารของเราวันนึง และลิตตี้จัง… เป็นคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ถูกอนุญาตให้สั่งอะไรทั้งสิ้น” (เจ้าของ)
“เฮ้ ไอ้แก่เวร! อย่างี่เง่าดิวะ! พิสูจน์มันดี้!” (อัลดิส)
การสาบแช่งนี้ ดูเหมือนจะยืนยันคำพูดของเจ้าของร้าน แต่อัลดิสที่ร้อนมากเกินไป ไม่รู้เรื่องนี้เลย
คำแนะนำของซูล ที่ให้อัลดิสเก็บความสงบนิ่งไว้ ได้เสียความหมายของพวกมันไปแล้ว
คู่รักแก่ กลัวอัลดิส หยุดพูด แต่อิลิซิสยืนอยู่ข้างพวกเขา และวางมือของเธอลงบนไหล่ของเจ้าของร้าน
“ผมจะยอมรับความคิดเห็นของเขาอย่างเคารพ ว่าอาหาร อาจจะไม่ดีเท่าที่พวกเขา อยากจะให้มันเป็น แต่วิธีที่เค้าเตะโต๊ะ และล้มใบแจ้งราคา… อืมมม?” (เจ้าของ)
“กูบอกให้มึงแสดงข้อพิสูจน์ไง!” (อัลดิส)
“ข้อพิสูจน์จะมาจากคำให้การของพวกเค้า” (อิลิซิส)
ขณะที่อิลิซิสพูดโดยไม่ลังเล พยานคนต่อไปเริ่มพูด พวกเขาเป็นผู้คนของเมืองข้างเคียง ที่ต่างจากโทปาส
พวกเขามีต้นกำเนิด เพศ และอายุที่ต่างๆกันไป อิลิซิสทำงานหนัก เพื่อที่จะรวบรวมพยานเหล่านี้
ตามข้อมูลที่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่สุดไป อิลิซิสขุดทุกอย่างขึ้นมา ทุกอย่างที่เธอหาได้ เกี่ยวกับอิกดราเซีย และการกระทำผิดของมัน อิลิซิสแลเหล่าอัศวินของเธอ ทำงานหนัก เพราะเวลานั้นน้อยนิด ระหว่างการที่ลิตตี้โดนจับกุมตัว และตัดสินความผิด พวกเขาแม้แต่ข้ามการนอนและการพักผ่อนของพวกเขาไป
อิลิซิส แม้ว่าจะมีภาพลักษณ์ภายนอกที่สงบ เธอเต็มไปด้วยอารมณ์ เพราะรู้ว่า ปาร์ตี้เช่นอิกดราเซีย พยายามจะทำลาย อัญมณีที่มีค่าเม็ดหนึ่ง ที่ชื่อว่าลิตตี้
“สาวตรงนั้น… ผมเห็นเธอมาก่อน พวกเค้าน่ะเตะน้องเค้าเข้าที่หลัง ระหว่างที่ให้น้องเค้าแบกของหนักๆ ชั้นก็จำได้ด้วยว่าน้องเค้าโดนด่าหยาบๆคายๆ” (พยาน 1)
“หนูไปเพื่อหาพวกเค้า หวังที่จะได้ดูการที่พวกเค้ามาถึงในเมือง แต่ชั้นเห็นสาวคนนึง ที่แต่งตัวได้ย่ำแย่และโทรมๆ เหมือนทาส… หนูรู้สึกไม่สบายใจ” (พยาน 2)
“มันต้องขอบคุณสาวตรงนั้นที่ผมถูกช่วยเหลือ… ผมจำน้องเค้าได้อย่างดี น้องเค้าวิ่งหนีในการระเบิดนั่น สาวที่ไม่มีอาวุธ หรือทักษะในรูปแบบไหนๆเลย… แต่ทันที ที่เธอเห็นผมอยู่ในปัญหา เธอทำเต็มที่ที่สุด เพื่อที่จะช่วย จนเราหนีได้ ขอบคุณนะน้อง” (พยาน 3)
“ไม่มีปัญหาค่ะ….” (ลิตตี้)
ลิตตี้ทำได้เพียงตอบไปอย่างคลุมเครือเท่านั้น เพาะเธอเพียงแค่ทำอะไร ที่เธอคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มากไปกว่านั้น เธอยอมรับคำขอบคุณจากใจไม่ได้ ที่มาจากบางคน ที่เธอจำไม่ได้
“ถ้าแกถูกช่วยโดยบางคนจากปาร์ตี้เรา แกควรจะขอบคุณเราด้วย ใช่มั้ยวะ?” (อัลดิส)
“แน่ แน่นอน! ขอบคุณสำหรับเวลานั้น…” (พยาน 3)
“ดู ดู เราเป็นฮีโร่เว้ย เราช่วยผู้คนอย่างถูกต้อง!” (อัลดิส)
“ถ้านายช่วยผู้คนอย่างถูกต้องจริงๆ นายสู้ระหว่างปกป้องลิตตี้และคนนั้นได้”
ซูลได้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เมื่อความโกรธาของอัลดิสกำลังจะระเบิด
เขาชำเลืองมองราชวงศ์ทั้งสองคน และสำรวจสีหน้าของหน้าของพวกเขา แต่เขาอ่านเจตนาของพวกเขาไม่ได้เลย เขาชื่นชมราชวงศ์ สำหรับความจริงที่ว่าพวกเขา แทบจะไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาในสีหน้าของพวกเขาเลย
“เอ่อ… บางเวลา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยทุกคน คุณไม่รู้เกี่ยวกับมันเหรอ?” (ซูล)
“คนต่อไป ได้โปรด” (อิลิซิส)
“เฮ้ ฟังก่อน” (ซูล)
โดยการปฏิเสธที่จะฟัง ประสาทของซูลสั่นไหวอย่างช้าๆ คำให้การทั้งหลายกองกันขึ้นมา และคนดูเริ่มเสียงดังมากขึ้นและมากขึ้น
จากนั้น มันเป็นตาของคนเหล่านั้นที่มาจากเมืองหลวงแห่งราชวงศ์ อัลดิสได้ทำร้ายร่างกานนักผจญภัยรุ่นน้อง ในร้านอาหารชั้นสูง
การกระทำผิดอื่นๆทั้งหมดที่มาจากที่ทำการก่อตั้ง ก็ถูกเปิดเผยด้วย เรื่องนี้ ทำให้ราชาทำการเคลื่อนไหวของเขาเป็นคร้งแรก
“ฉันสนับสนุนอิกดราเซีย ด้วยอำนาจแห่งราชา และถ้าสิ่งที่ถูกกล่าวกันมานั้น เป็นความจริง อัลดิส เจ้านั้น ทำเหมือนกับการโยนโคลนใส่บนหน้าของฉัน” (ราชา)
“เดี๋ยวก่อน ท่านเชื่อเรื่องพวกพวกมันมากกว่าของเราเหรอ? มันไม่มีข้อพิสูจน์นะ” (อัลดิส)
“เจ้าคิดว่าพวกเขา ทั้งหมดนั้นสมรู้ร่วมคิดด้วยกัน เพื่อที่จะโค่นล้มเจ้าลงไปเช่นนั้นหรือ?นั่นคือสิ่งที่เจ้าคิดใช่หรือไม่?” (ราชา)
“ใช่ เพราะทั้งหมด นั่นคืออะไรที่ผมพูดไง…” (อัลดิส)
“เข้าใจแล้ว นั่นเป็นที่เจ้าเห็นผู้คนของเราหรือ?” (ราชา)
บรรยากาศรอบๆราชาเปลี่ยนไป ขณะที่ความโกรธเคืองเดือดดาล ของชายคนหนึ่ง ผู้ที่ปกครองประเทศ แทงทะลุทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้
บางคนสะดุ้งและถูแขน คนอื่นๆสั่นเทาและหดตัว บางคน กลัวเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง พยายามที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้ของพวกเขา
แม้แต่เหล่าพยานที่ถูกพามาโดยอิลิซิส และคนที่มาด้วย เสียใจ กับการตัดสินใจที่จะไปอยู่ตรงนั้น ลิตตี้ก็รู้สึกได้ถึงศักดิ์ศรี ของชายคนหนึ่ง ที่อยู่ในตำแหน่งของราชา
ในระหว่างทั้งหมดนี้ ซูลยกสัญญาณสัญญาณสำหรับการโจมตีสวน
“พระองค์ครับ เราขอโทษเท่าไหร่ก็ไม่พอสำหรับข้อบกพร่องของเรา ยังไงก็ตาม เราได้ทำอย่างดีที่สุดมาตลอด เพื่อทำงานเราให้สำเร็จ” (ซูล)
“ถ้ามันเป็นเช่นนั้น ถ้าเรามาดูผลของการกระทำที่ผ่านมาไม่นานมานี้ของเจ้าดีหรือไม่” (ราชา)
“ผลอะไร?” (ซูล)
“การฝึกรุ่นต่อๆไป มันเป็นเวลาที่นานมาแล้วตั้งแต่ตอนนั้น แต่ ฉันยังไม่เห็นผลใดๆเลย” (ราชา)
“ยังไงซะ เกี่ยวกับนั้น ท่านเห็นมั้ย…” (ซูล)
“พระองค์คะ หนูอยากจะร้องขอคำให้การ จากเหล่าพยานบางคน เกี่ยวกับเรื่องนี้” (อิลิซิส)
เพื่อพูดอย่างนั้น อิลิซิสส่งสัญญาณให้อัศวิน เพื่อนำเหล่านักผจญภัยที่รออยู่ข้างนอกห้องพิจารณาความผิดเข้ามา ตอนแรกพวกเขานั้นติดสอยห้องตามอิกดราเซีย และมีความสุขกับคำหวานๆและการกระทำของพวกเขา แต่พวกเขาได้เปลี่ยนใจไปแล้ว
หลังจากความไม่เชื่อใจทีซ้ำซากของอิกดราเซีย พวกเขาบางคนแม้แต่ได้รับความสำเร็จ เมื่อพวกเขาทำงานห่างไกลจากอิกดราเซีย
“ผมซาบซึ้งกับความจริงที่ว่าผมสามารถที่จะได้เห็นอิกดราเซียต่อสู้กับตัวเอง ยังไงก็ตาม ผมไม่คยได้ถูกฝึกโดยพวกเค้าเลย ผมแม้แต่ถูกบอกว่า มันเป็นความผิดผม ที่ไม่สามารถที่จะเรียนรู้จากพวกเค้าได้” (พยาน 4)
“พวกเค้านำวัตถุดิบผิดมา – ชรูมแห่งความตาย” (พยาน 5)
“ยังไงซะ ในความประทับใจของหนู พวกเค้าไม่ดีเท่าที่ข่าวลือบอกเลย หนูได้รับรู้สายเกินไป ว่าพวกเค้าน่ะแค่อยากจะแสดงออก ถึงทักษะของพวกเค้า” (พยาน 6)
“อีเวรเอ้ย!” (อัลดิส)
อัลดิสเตะโต๊ะ และดันเก้าอี้ออกไป เหล่าอัศวินที่ทำการคุ้มกันอยู่ เตรียมพร้อมตัวเอง สำหรับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงใดๆ
อัลดิสได้ทำผลงานสำเร็จ ตั้งแต่เขายังเด็ก และถูกยกย่องเชิดชูเป็นฮีโร่ มันเป็นผลข้างเคียงของพรสวรรค์ของเขา ที่นำเขามาสู่ความสำเร็จ โดยไม่มีความลำบากยากเข็ญใดๆ
เขาไม่มีสภาพจิตใจ ที่เทียบได้กับความสามารถของเขา เขาเพียงแค่ยอมรับการกระทำผิดของเขาได้ ขอโทษ และสาบานที่จะเปลี่ยนใจ หรือเพียงแค่แกล้งทำแบบนั้นก็ได้
นั่นเป็นเพียงแค่ทางออกเดียวจากสถานการณ์นี้เท่านั้น แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะทำมัน
“มึงแค่พ่นห่าอะไรทั้งหมดที่อยากทำนั่นออกมาก็ได้! แล้วไงถ้ามันจริงวะ? พวกกูมันฮีโร่โว้ย! เราไปพิชิตใต้โลก! พวกมึงทำอย่างเดียวกันได้มั้ย? มึงแม้แต่ทำนั่นกันก็ไมได้!” (อัลดิส)
ถ้าไม่มีตระกูลราชวงศ์ คนคุ้มกัน อิลิซิส และคนที่ทรงพลังอื่นๆ คนส่วนใหญ่นั้นจะตื่นตกใจ และหนีไปแล้ว
ระหว่างที่ความสนใจของทุกคนอยู่บนอิกดราเซีย มีเพียงลิตตี้เท่านั้น ที่มองดูเหล่าคนที่นั่งเก้าอี้ผู้ตัดสินความผิดที่เป็นประธาน ตรงหน้าห้อง
อัลดิส หงุดหงิดโดยเรื่องนี้ ขยับไปข้างลิตตี้ อัศวินทีทำการคุ้มกันรีบไปทันที แต่อัลดิสนั้นทำอย่างรวดเร็ว
“มึงยิ้มอะไรไรวะ? มึงคิดว่ามึงน่ารักเหรอไงวะ? เฮ้…!” (อัลดิส)
“ชั้นไม่มีอะไรจะพูดกับนาย” (ลิตตี้)
“ฮ๋าาา?” (อัลดิส)
ในที่สุด อัลดิสก็ได้ต่อยลิตตี้ เข้าไปในใบหน้า พลังของการโจมตี มันตรงพลังมาก จนลิตตี้ เกือบกระเด็นไปถึงเหล่าคนดู
ภายในเสียงกรีดร้อง ลิตตี้ยืนขึ้นช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากนั้น
“แกทำอะไรวะ?”
“พอแล้ว! นั่นพอแล้ว! แกควรจะหยุด!”
“หุบปาก! พวกมึงทุกคนเลย หุบปาก!” (อัลดิส)
อัลดิสตะโกนใส่คนดู ผู้ที่กลัวด้วยเหมือนกัน ราชวงศ์ทั้งสองคนนั้นยังอยู่ในความเงียบ
เหมือนเรดเนอร์ ราชา ก็สนใจในตัวลิตตี้ นักผจญภัย ด้วยเหมือนกัน
แม้ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ ลิตตี้ ยังสามารถเก็บความสงบของตัวเธอ และพูดกลับไปหาอัลดิส เป้าหมายที่เป็นไปได้ ของความกลัวของเธอ
นี่ไม่ใช่แนวคิดที่ธรรมดา ราชารู้สึกถึงบางอย่าง ที่ไม่สามารถจะมีใครรับรู้ได้เลย เกี่ยวกับลิตตี้
“พวกมึงทั้งหมดปกป้องอีเด็กเวรนี่กันเหรอ? อีเด็กเวรที่แม่งมาเทียบกับขี้ตีนของความสามารถกู ก็ยังไมได้เลย? พวกมึงจินตนาการกันได้มั้ย ว่ามันเป็นยังไงที่ไปอยู่ในภูมิภาคที่ไม่ถูกสำรวจ? แม่งมีมอนสเตอร์ ที่พวกมึงจินตนาการกันยังไม่ได้เลยโว้ย” (อัลดิส)
“มอนสเตอร์ที่จินตนาการไม่ได้…” (ลิตตี้)
ลิตตี้สะดุ้งกับคำพูด แม้ว่ามันเพิ่งจะหลังจากที่อัลดิส ต่อยเธอ
ทุกคนก็รู้สึก ว่าอัลดิส กำลังจะโกรธจนควบคุมไม่อยู่อีกแล้ว
“อีเด็กเวรเอ้ย…” (อัลดิส)
“นั่นพอแล้ว นายน่ะแพ้ไปแล้ว” (อิลิซิส)
มันเป็นอิลิซิส ผู้ที่หยุดหมัดของอัลดิส ททุกคนทึ่ง กับวิธีที่เธอหยุดหมัดของฮีโร่ ด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งบนใบหน้าของเธอ
อัลดิส ผู้ที่รับความหมาย ของคำพูดของอิลิซิส อย่างที่มันพูดออกมา เดือดดาลมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก
“กูไปแพ้เมื่อไหร่วะ!?” (อัลดิส)
“ตอนนี้!” (อิลิซิส)
อิลิซิสเบี่ยงการโจมตีเป็นชุดของอัลดิส ถ้ามันเป็นการต่อสู้ อิลิซิสเกือบจะไม่สามารถรั้งอัลดิสไว้ได้ โดยเฉพาะตอนนี้ ที่อัลดิสอยู่ในสภาพของความเดือดดาล
อัลดิสก็ไม่ได้ไร้เดียงสามากขนาดนั้น ที่เขาจะคิดว่า เขาขะฝ่าไปโดยการเหวี่ยงหมัดของเขาในความโกรธได้
“เธอไม่ได้แม้แต่จะรับรู้ความรู้สึกของนายเลย และมันดูเหมือน เธอไม่ได้แม้แต่จะเห็นนายเป็นบางอย่างที่มีค่ากับเวลาของเธอ นายน่ะ ไม่ได้อยู่ในสายตาของสาวคนนั้นอีกต่อไป” (อิลิซิส)
“มึง มึง อีหน้า…!” (อัลดิส)
“มันดูเหมือนเธอแค่มองหาการผจญภัย ถ้านายอากจะไปขัดเธอ นายต้องเรียกร้องมากพอ ที่เธอจะสังเกตนาย” (อิลิซิส)
“กูไม่เข้าใจโว้ย!” (อัลดิส)
“พอ เจ้าเพียงแต่ทำให้ตัวเจ้าเองอับอาย” (ราชา)
ราชามองอิกดราเซียอย่างเย็นชา เขา ไม่เหมือนกับเรดเนอร์ จริงๆแล้วสนับสนุนเหล่านักผจญภัย และแม้แต่รวมพวกเขาไว้ด้วยในโยบายการปกครองของเขา
หลังจากที่แสดงความผิดหวังของเขาแล้ว เขาตามไปด้วยการถอนหายใจ
“ปรกติแล้ว เจ้าจะได้รับการตัดสินโทษไปถึงการลงโทษขั้นสูงที่สุด แต่ฉัน ไม่สามารถมองข้ามความสำเร็จในอดีตของเจ้าได้ ดังนั้น ฉันจะกำหนดการตัดสินโทษกับเจ้าด้วยตัวของฉันเอง” (ราชา)
ทุกคนรู้สึกถึงลมเย็นวาบที่พัดผ่านห้องพิจารณาความผิด มันไม่ใช่ผู้ตัดสินความผิดที่เป็นประธาน แต่เป็นอำนาจที่สูงที่สุดในประเทศ ผู้ที่ผ่านการรับรองแล้วให้ทำเช่นนั้น
โดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว ผู้ตัดสินความผิดที่เป็นประธาน มอบหน้าที่ไปให้สู่ราชา
“ฉันขอให้สมาคมนักผจญภัย ถอนใบอนุญาตการเป็นนักผจญภัย ของอิกดราเซีย ด้วยกันกับการถอนตำแหน่งกิตติมศักดิ์ของพวกเขา สินทรัพย์ทั้งหมดของพวกเขาจะถูกยึด และพวกเขาจะต้องทำงานในเหมือง 10 ปีนับจากนี้ หลังจากนั้น พวกเขาจะถูกเนรเทศ” (ราชา)
“หือห์? ฮ๋าาา?” (อัลดิส)
อัลดิสสั่น แต่ไม่ใช่เพราะเขาโกรธ มันเป็นการตอบสนอง ของความไร้ความสามารถของเขา ที่จะยอมรับความเป็นจริง
“เฮ้! พ่อชั้นจะไม่อนุญาตเรื่องนั้นนะ!” (คลารีน)
คลารีน นักบุญของศาสนามาไธอาส ร้องในครึ่งหนึ่งของความคลุ้มคลั่ง แต่ราชา ไม่สะทกสะท้าน
“เจ้าได้ทำการหลอกลวงฉัน ราชา และใช้พลังของเจ้า เพื่อความละโมบส่วนตัวของเจ้าเอง ฉันนั้นโกรธเคืองมากกว่าครั้งไหนๆ ฉันดิ้นรนอยู่ ที่จะไม่มอบการลงโทษที่เป็นที่สุดให้กับเจ้า!” (ราชา)
ราชาเดือดดาลโกรธจัด ขณะที่เขากระแทกหมัดไปบนโต๊ะ อิกดราเซีย ไม่ว่ามันจะยิ่งใหญ่เพียงใด มันจะไม่ปลอดภัย ถ้ามันได้สร้างศัตรูเป็นประเทศหนึ่ง
ทุกคนในประเทศจะกลายเป็นศัตรู และพวกเขาจะไม่สามารถ เข้าเมืองใดๆเลย พวกเขาจะถูกบังคับให้ตั้งแคมป์ ออกไปในที่ที่อันตราย ที่มอนสเตอร์อยู่ไปทั่ว
อาหารและเสบียงอื่นๆทั้งหมดจะถูกตัดออกไปและพวกเขาจะถูกไล่ตามโดยคนไล่ตาม ทุกวี่ทุกวัน
“…ถ้าเราหายไป มันจะเป็นจุดจบของนักผจญภัยที่นี่เว้ย! แม่งมีพวกนักผจญภัยคนไหน ที่เก่งกว่าเรามั้ย? สำนักงานใหญ่สมาคมนักผจญภัยงั้นเหรอ? พวกแม่งอาจจะหยิ่งพอ ที่จะคิดว่าพวกแม่งดีที่สุด แต่พวกแม่งจริงๆแล้วมันแค่กองขยะของผู้คน ที่ไม่มีที่ไปที่จุดจบของโลก” (อัลดิส)
อัลดิสพล่ามต่อไปบนห้องพิจารณาความผิดที่เงียบงัน ลิตตี้ ยังคงไม่มองเขา
“พวกกูได้ไปถึงส่วนลึก ที่ไม่มีใครได้เคยไปถึง… มันจะผิดอะไรกับที่จะถูกปฏิบัติดีกว่าพวกมีงพวกมึง ที่ใช่ชีวิตอยู่บนเศษเงิน ทำงานที่ปลอดภัย ในบริเวณที่ปลอดภัย? แล้วหินเวทย์กับแหล่งพลังงานหนังหมด ที่พวกกูเจอที่ใต้โลกล่ะ นั่นมันอะไรวะ?” (อัลดิส)
“นั่นใช่แล้ว อัลดิสพูดถูก” (ซูล)
“นั่นใช่แล้ว อัลดิส และชั้นเป็นนักบุญนะ! ไม่เข้าใจตำแหน่งของชั้นเหรอไงวะ?” (คลารีน)
“ฉันเหนื่อยหน่ายที่จะฟังการพูดของเจ้าแล้ว อิลิซิส นำพวกเขาออกไปจากที่แห่งนี้” (เรดเนอร์)
เรดเนอร์สั่งอิลิซิสในน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย เธอและอัศวินคนอื่นๆ นำ “กุญแจมือ” ใส่ที่แขนของอัลดิส และคนอื่นๆ
กุญแจมือนำกำลังของพวกเขาออกไปอย่างมาก จนพวกเขารู้สึกดั่งมันถูกตัดออกไป และแม้แต่อัลดิสก็ยังต่อต้านไม่ได้
“อ๊าาา! พวกนักผจญภัยแม่งจบแล้วโว้ย! ใช่เว้ย แม่งจบแล้ว! เฮ้ มึง อีเด็กเวร! มึงจำนี่ไว้นะ! เฮ้! เฮ้!” (อัลดิส)
มันไม่ได้หมายถึงว่าลิตตี้ ไม่ได้ยินมัน ในความเป็นจริงแล้ว ณ ช่วงเวลาที่ลิตตี้ถูกต่อย อะไรบางอย่างในน้องเค้าเกือบจะขาดหลุดออกมา
อยางไรก็ตาม “มอนสเตอร์” ที่จินตนาการไม่ได้เลย ที่อัลดิสพูดถึง เก็บลิตตี้เป็นชิ้นเป็นอันไว้ได้อย่างเฉียดฉิว
“ยังไงซะถ้าอย่างนั้น ไปได้ ลิตตี้ แค่เมินพวกเค้านะน้อง” (อิลิซิส)
อิลิซิสครุ่นคิด ขณะที่เธอออกไป ลิตตี้สามารถที่จะกลับมายืนบนเท้าของเธอได้ แม้ว่าจะหลังจากได้รับการโจมตีที่จริงจังจากอัลดิส
เธอลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วมากได้อย่างไรกัน? อิลิซิสสงสัยว่า น่าจะมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้้นในห้องนี้ ที่สังเกตเรื่องนี้
หมัดของอัลดิสโดนจริง แต่มันไม่ได้โดนเต็มๆจริง และลิตตี้สามารถที่จะลดกำลังของการโจมตี แค่ก่อนที่มันจะโดนเธอได้ มันเป็นเพราะเธอ ได้เห็นอัลดิสู้ เธอถึงสามารถทำอย่างนั้นได้ แม้ว่าการโจมตีมันเกือบจะคาดไม่ถึงหรือ? หรือ–
“…ชั้นรู้สึกถึงความเย็นวาบนึงได้” (อิลิซิส)
อิลิซิสพึมพำ ไม่ใช่ไปสู่ใครเป็นพิเศษ
เป้าหมายเดือน 9/66
ค่าเน็ต 0/200
กาแฟ 0/300
คอมใหม่ 0/2000
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 2000/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook