สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster - ตอนที่ 90 ลิตตี้ ต้อนรับวันก่อนวันเทศกาลโรงเรียน
- Home
- สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster
- ตอนที่ 90 ลิตตี้ ต้อนรับวันก่อนวันเทศกาลโรงเรียน
90 ลิตตี้ ต้อนรับวันก่อนวันเทศกาลโรงเรียน
16 – 20 นาที
วันก่อนวันเทศกาลโรงเรียน ทุกที่ในโรงเรียนเต็มไปด้วยนักเรียนผู้ยุ่งกับการเตรียมการ
ชั้นเรียนชั้นสูงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ทั้งหมดที่พวกเขาต้องการคือการเผยแพร่ตัวเองเรียกคน ไม่เหมือนงานอื่น นี่คือการผจญภัยใหม่และการได้รับชื่อเสียงคือความสำคัญที่หนึ่ง
เพื่อให้ได้นี่มา นักเรียนบนพื้นที่ไม่มีทางเลือกนออกจากกระจายตัวกันไปรอบโรงเรียนและทำงานเพื่อแก้ปัญหา
“ฉันไม่ได้คาดหวังว่าบางคนจากชั้นเรียนขั้นสูงจะช่วยเรา… ขอบคุณมากๆนะ”
“อย่าถือมัน! ฉันทำได้มากขนาดนี้ในฐานะชั้นสูง!”
“แอมบรีซัง เธอต้องเหนื่อยแล้ว นี่ กินน้ำเย็นๆก่อน”
“ขอบคุณ ฉันไม่เป็นไรหรอก! อ่ะฮ่าฮ่าฮ่า…!
แม้เธอพูดเช่นนั้น เธอมีเหงื่อออกเป็นน้ำ ตอนนี้เธอกำลังช่วยกับเรื่องอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นแผนสำหรับงาน แม้แต่ช่วยซื้อวัตถุดิบและบางเวลาก็มอบคำแนะนำกับการปรุงรสชาติ
เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องถูกทำสำเร็จในมาตรฐานสูงสุดขีด มีแค่ชั้นสูงที่ทำงานได้
ช้้นทั่วไปรักษาระยะจากพวกเขาจนถึงตอนนี้ แต่ก็เปลี่ยนวิธีที่พวกเขามองพวกชั้นสูง
“เมริด้าซัง นั่นน่าทึ่ง! อย่างตาดกับนักเรียนขั้นสูง!”
“พวกเธอก็น่าทึ่งด้วย ฉันไม่เคยมีวันได้คิดถึงการเล่นที่ใชสูตรเวทมนตร์ต้นตำรับสำหรับการจัดเวที”
“แค่มันแค่ทำงานได้ต้องขอบคุณเธอนั่นแหละ ตอนนี้เราจะสามารถใช้งานพลังเวทมนตร์ได้น้อยกว่า เราอยู่ได้จนจบการแสดง!”
เมริด้าผู้ช่วยวงแสดงทำการปรับครั้งสุดท้ายก็ซาบซึ้ง
ทุกๆปีคณะละครดึงดูดความสนใจจากบริษัทการแสดงหลายๆบริษัทเพราะระดับความสามารถของกลุ่มตั้งแต่แรกนั้นสูง แต่ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของเมริด้า มันกลายเป็นคุณภาพที่เหนือกว่าการแสดงปีที่แล้ว
ระหว่างมองดูสมาชิกวงละครผู้ตื่นเต้น เมริด้าตั้งคำถามกับตัวเธอเองอีกครั้งเกี่ยวกับหนทางในอนาคตของเธอว่าจะเป็นอะไร
“ถ้ามันทำให้ผู้คนมีความสุขถ้าอย่างนั้นอะไรก็ได้แหละ…”
“อะไรเหรอ?”
“อา ไม่… แค่พูดกับตัวเองน่ะ”
ผ่านงานประจำรายวันเมริด้ากับเพื่อนของเธอเธอค้นพบโลกของสิ่งไม่รู้จัก
พวกเธอค้นพบอะไรไม่รู้จักหลายอย่างที่พวกเธอไม่ได้ค้นพบระหว่างวันเรียนในโรงเรียนระหว่างใช้ชีวิตอย่างเจริญรุ่งเรือง
สำหรับนักเรียนชั้นสูงส่วนใหญ่ในแผนกผจญภัยเป้าหมายนั้นคืออะไรที่แบดริกเรียกว่า ‘สถานะนักผจญภัย’
ความเป็นจริงคือพวกเขามากมายรับรู้คุณค่าของการรเป็นนักผจญภัยโดยเฉพาะตอนนี้ที่สถานะนักกผจญภัยดีขึ้น
สำหรับเหตุผลนี้ เมริด้าและคนอื่นๆไม่ได้เห็นตัวเองต่างจากแบดริกมากจนถึงแค่ไม่กี่วันก่อน
“เมริด้าซัง!”
“ลิตตี้จัง เธอดูยุ่งๆนะ”
ลิตตี้เกือบจะขยับไม่หยุดตั้งแต่เช้า เธอได้ช่วยเกือบจะทั้งหมดของงานโรเรียนถึงปัจจุบัน
นักเรียนผู้ประทับใจโดยความเร็วและพลังงานได้สัญญาที่จะใช้ 【{ห้องทำงานนักผจญภัยสาขาอริสโตเปีย}】ซึ่งลิตตี้กับคนอื่นๆสร้างมาเพื่องานนี้
“พวกเธอทำอะไรน่าทึ่งไปเลย! ตรงนั้น ผู้คนของแผนกอุปกรณ์เวทมนตร์ทำโกเล็มล่ะ!”
“โอ้ที่รัก ปีที่แล้วพวกเขาล้มเหลวที่จะสร้างโกเล็มสำหรับนวด…”
“โอ้! ฉันจำได้แล้วตอนนี้! นักผจญภัยปี 3 จะจัดงานดันเจี้ยน! การผจญภัยล่ะ!”
“พวกเขาเป็รุ่นน้องเรา พวกเขาจำเป็นต้องทำมากเท่านั้น”
ยิ่งพวกเขาใกล้กับปีสุดท้ายคุณภาพและความคาดหวังยิ่งสูงขึ้น
กลิ่นเย้ายวนใจจากแผงร้านแผนกทำอาหารยิ่งกระตุ้นความหิวโหยและได้ดึงดูดผู้คนก่อนเทศกาลจะเริ่ม
การเสนอมื้ออาหารนักผจญภัยของลิตตี้ที่นั้นมีผลลัพธ์คือการยิ่งดึงดูดผู้คนมามากกว่าเดิม
ลิตตี้ ผู้กลายเป็นบุคคลโด่งดังแล้วถูกเข้าหาโดยนักเรียนบนถนน
“เฮ้! ลิตตี้จัง! มาที่ร้านเราเมื่อเธอว่างสิ!”
“ฉันจะไปเข้าร่วมกับพวกนายเมื่อฉันว่าง”
“เธอเป็นคนคิดงานสมาคมนักผจญภัย! ฉันอยู่หลักสูตรสถาปัตยกรรม ดังนั้นฉันไมเคยได้มีโอกาสเกี่ยวข้องเลย ฉันสนใจ!”
“ฉันขาดคนช่วยฉันเลยจะขอเธอถ้าอย่างนั้น!”
เมริด้าตื่นตะลึงกับความจริงว่าในแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ลิตตี้สามารถได้รับผู้ติดตามเช่นนี้ในโรงเรียน ซึ่งเต็มไปด้วยคนแปลก
มากกว่าความเชี่ยวชาญของเธอความอยากจะทำของลิตตี้เป็นส่วนที่ทำให้เห็นอะไรแปลกใหม่เมื่อได้ทำงานร่วมกับเธอ
ด้วยนั่นอยู่ในใจ เธอนึกถึงท่าทางของนักเรียนสู่ 5 อันดับสูงสุดนักเรียนเคยเปิดอกกับพวกเขามากเท่านั้นไหม?
ยิ่งเธอเห็นลิตตี้มากขึ้นเธอยิ่งรู้สึกว่า 5 อันดับสูงสุดยิ่งตื้นเขิน
***
“นี่คืออะไรอันพวกเธอกำลังทำเหรอ?”
ผู้กำลังรอลิตตี้กับเมริด้ากลับมาคือครูแนะแนวผู้หญิง คนที่ถูกกลัวในโรงเรียน
แม้ว่าหน้าผอมบางของเธอเหี่ยวย่น เธอไม่ได้ดูมากกว่า 50 ปี
แม่ชีเอลีน เธอดูแลเรื่องวิชาศิลปศาสตร์และวิชาศาสตร์รักษา และแรงกดดันของเธอไม่ได้เป็นที่รู้กันแค่ในหมู่นักเรียนแต่ก็กับครูคนอื่นด้วย
“แม่ชีเอลีน เป็นยังไงบ้าง?”
“…มันคือแผนกผจญภัย ดังนั้นความคิดหลักน่าจะถูกต้อง อย่างไรก็ตามมีปัญหาอยู่ไม่กี่อย่าง”
ชั้นเรียนชั้นสูงยืนตัวตรงหน้าเอลีน ดูประหม่า
อาจารย์ของสูตรเวทมนตร์ผู้ลิตตี้และคนอื่นๆเจอครั้งแรกเมื่อพวกเธอมากันที่โรเรียน กำลังยกยอเอลีนระหวางเธอจ้องพวกเธอ
“อย่างแรก โรงเรียนมมีการสนับสนุนแบบหนึ่งแล้วในกรณีที่มีปัญหา มันไม่ใช่บางอย่างซึ่งพวกเธอสมคววรทำ”
“แต่ เราได้รับอนุญาตจากอาจารย์ใหญ่ให้ทำนี่”
“เงียบ!”
เสียงเกือบกรีดร้องของเอลีนหยุดนักเรียนจากการถกเถียง
เธอเป็นที่รู้จักีว่าทำให้นักเรียนหลายคนร้องไห้ในอดีต นี่รวมไปถึงพวกชั้นสูง
“ปัญหาต่อไปนั้นคือมันเพียงแค่ไม่ปลอดภัย บนวันของาน มันจะเต็มไปด้วยมือสมัครเล่นเช่นพวกเธอเองวิ่งไปทั่ว ถ้าเธอไม่ดีพอ สาธารณะจะกลายเป็นไม่สะดวก”
“นั่นถูกแล้ว! นั่นถูกแล้ว! เปลี่ยนมันเดี๋ยวนี้!” (อาจารย์สูตรเวทมนตร์)
“นอกจากนี้ เธอมีงานที่เธอต้องสมควรทำ ไม่ใช่เหรอ? แบดริกและคนอื่นๆก็เตรียมการทั้งหมดเสร็จแล้ว”
โรม่าเสริมเข้ามา “ก็พวกเขานั้นเตะพวกเธอออกไปนั้นแหละค่ะ”
คิ้วเอลีนยิ่งขมวดกับคำพูดโรม่า เธอรู้นี่มาบ้างแล้ว
โรม่าช่วยไม่ได้นอกจากคิด ‘ทำไมต้องเวลานี้? ใครส่งสองคนเหล่านี้ออกมา?’
“เราได้ยินจากพวกเขาแล้ว ตราบใดที่พวกเธอยังถูกกล่าวว่าทำตัวเห็นแก่ตัว มันมีเหตุผลที่เธอต้องขอโทษพวกเขา นี่ไม่ใช่แค่กับ 5 อันดับสูงสุดของโรงเรียน เธอ นักเรียนก็เป็นหน้าตาของโรงเรียน ดังนั้นถ้ามาพูดกัน อะไรที่เธอทำตอนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการสร้างความอับอายให้โรงเรียน”
ตราบใดที่มันเป็นข้อถกเถียงที่ฟังขึ้น ผสมกันกับแรงกดดันของเอลีน นักเรียนไม่มีทางเลือกนอกจากฟังในความเงียบงัน
บางคนชำเลืองสมาคมที่เสร็จแล้วด้วยความเสียใจ
บางคนดูเสียกำลังใจในความอารมณ์เสีย
บางคนแม้แต่หลั่งน้ำตาขณะพวกเขาคิดถึงเวลาทั้งหมดที่พวกเขารีบไปทั่วกับลิตตี้และคนอื่นๆเพื่่อทำคำร้องให้เสร็จ
“และเราก็ได้เห็นว่าพวกเธอแข็งขันกันอยู่ในสมาคมนักผจญภัย ฟังนะ พวกเธอ พวกเธอคือปราชญ์ในโรงเรียนนั่นธุระหลักของเธอและสมควรเป็นความสำคัญหลักของเธอ แม้ว่าโรงเรียนเรามีปรัชญาสิทธิ์การเรียนรู้เสรี มัจะไม่สำคัญถ้าพวกเธอเบี่ยงเบนไปนอกโรงเรียนโดยไปทำงานข้างนอก ทำให้วิชาทั้งหมดที่เราสอนกลายเป็นไร้ประโยชน์…”
เมื่อได้ยินเอลีพูดไร้สาระทั้งหมดนั้น โรม่าตัดสินใจพูดแทนเหล่านักเรียน “ด้วยความเคารพนะคะ มันดูกับหนูเหมือนว่าการกระทำของ 5 อันดับสูงสุดก็เบี่ยงเบนไปจากโรงเรียนนะคะ”
“โรม่าซัง ใช่มั้ย? ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ?”
“แบดริก…ใช้ความรุนแรงกับนักเรียนของคุณ นอกจากนี้ เขาจัดฉากเพื่อนร่วมชั้นด้วยเหตุผลไม่ยุติธรรม ถ้าโรงเรียนคือที่สำหรับการเรียนการสอนอันถูกต้องพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรถูกทน… และ…”
“เงียบ!”
ก่อนโรม่าจะพูดจบประโยคของเธอ เอลีนพยายามตบหน้าเธอที่แก้ม โชคดี โรม่าสามารถหลบมันได้เกือบไม่ทันเวลา เธอยังตกใจกับพลังหลังการตบง่ายๆนั่น
“โรม่าซัง!”
“ฉันไม่เป็นไรลิตตี้ แต่เธอต้องใจเย็น…”
“ฉันเคยได้ยินว่าพวกเธอเป็นนักผจญภัยระดับ 3 แต่เธอเด็กมาก โดยเฉพาะเธอตรงนั้น ลิตตี้”
ลิตตี้ผู้ถูกเอ่ยนาม หันหน้าหาเอลีน เธอไม่หันหนีจากสายตาตั้งใจไร้ปรานี
“พ่อแม่เธอทำอะไรอยู่? ส่งลูกๆเหมือนเธอออกมาผจญภัย… ฉันล่ะสงสัยสามัญสำนึกพวกเขาเสียจริง”
“เอลีนซัง เราเริ่มมันไปแล้ว คุณยกเลิกมันไม่ได้”
“ไม่มีจุดหมายในการทำต่อ ฉันได้บอกนักเรียนคนอื่นแล้วว่าไม่ให้ยุ่งกับผู้คนที่นี่”
“…คุณทำมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
โรม่า ไม่มีความสุขกับความคิดเห็นไม่อ่อนไหวของเอลีน และมันเป็นไปไมได้สำหรับลิตตี้ที่จะไม่รู้สึกอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม ลิตตี้ก็รู้สึว่ามันคือบางอย่างที่นักเรียนควรสู้เพื่อมัน แทนจะเป็นคนนอกเหมือนพวกเธอ
เมื่อคิดขึ้นไปถึงจุดนั้น ลิตตี้ตัดสินใจบอกนักเรียนชั้นสูง “สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ถ้าเราปล่อยให้พวกเธอทำอย่างนี้ เราจะต้องยกเลิกงานนี้ นั่นไม่เป็นไรกับพวกเธอเหรอ?”
“…แต่แม่ชีเอลีนพูดอย่างนั้น…”
“จริงๆเหรอ? พวกเธอทั้งหมดทำงานหนักมาถึงจุดนี้ และเธอจะปล่อยให้ 【{คนนี้}】 ควบคุมพวกเธอเหรอ?”
“มาเรียกฉันว่า ‘【คนนี้】’ เรอะ?
หน้าสวยของเอลีนเหี่ยวย่น
เมินการตอบสนองของเอลีน ลิตตี้พูดต่อ “จำได้ไหม มันไม่ง่ายที่จะมาถึงตรงน้ เราผ่านความอยากลำบากมากมาย ตอนนี้ เราเกือบถึงที่นั่นแล้ว”
เหล่านักเรียนช่วยไม่ได้นอกจากพึมพำกับตัวพวกเขาเอง
“ใช่ ถ้าอย่างนั้น เอาชนะความยากลำบากนี้ด้วยสิ บางเวลา คนแบบ【{นี่}】 เข้ามาขวางทางพวกเธอ เธอหลบเลี่ยงพวกเขาไม่ได้ เธอต้องยืนสู้สำหรับสิทธิ์ของเธอ”
“เฮ้เธอ หยุดกับความไร้สาระของเธอเลยนะ!”
ก่อนนักเรียนพูดอะไรได้ เอลีน โมโห จับไหล่ลิตตี้ แต่เธอไม่กระดิก
เอลีนรู้สึกดั่งเธอพยายามขยับก้อนหินใหญ่ด้วยหนึ่งมือ และปากเธอสั่น
“ตอนนี้ ได้โปรดพูดมันออกมาดังๆ”
“อ-เอลีนเซ็นเซ! เรายกเลิกมันไม่ได้! ได้โปรดให้เราทำนี่!”
“”””ได้โปรด!””””
เหล่านักเรียนร้องขอกับเอลีน เธอโดนคนจำนวนเยอะกว่า และเหนือนั่นเข้าไปอีก เธอเหนื่อยจากแรงกดดันของลิตตี้
เอลีนรับรู้ว่ามันจะยากทีจะพลิกสถานการณ์ แต่เธอถอยกลับง่ายๆไมได้
“อย่ามาไร้สาระ! งานนี้มันดีตรงไหน? บอกฉันมาซิ้!”
“มันเป็นมนุษย์”
“เป็นมนุษย์เหรอ?”
“ก่อนเราเป็นนักเรียน ก่อนเราเป็นนักเรียนชั้นสูง เราเป็นเพียงแค่มนุษย์ ไม่สำคัญว่าเรามีความสามารถแค่ไหน มันไม่มีความหมายถ้าหลักการเราผิดไป เราจะมีผลลัพธ์ออกมากับการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”
“หือ…? ถ้าอย่างนั้นแอมบรี!”
“เราต้องรู้จักตัวเราเองก่อน ในการทำอย่างนั้น เราจะู้ว่าเราจะทำอะไรในอนาคต” (แอมบรี)
“นัก-นักเรียนอาเธอร์!”
“ผมรับรู้ว่าแม้ผมจะทุลักทุเลในการเรียน นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่มันมี ดังนั้นได้โปรดเถอะอาจารย์ครับ…” (อาเธอร์)
ไม่มีสักคนที่สำลักคำพูดของพวกเขาขณะพวกเขาบอกความต้องการกับเอลีน เอลีนเข้าใจไม่ได้ว่าทำไมพวกเขาทำตัวแบบนั้นและอารมณ์เสียเพราะนักเรียนไม่ยอมทำตามที่เธอพูด
กับความคิดของเธอ 5 อันดับสูงสุดหมายถึงทุกอย่างสำหรับโรงเรียน แล้วเธออยากให้ทุกคนอื่นเป็นแท่นให้พวกเขาแสดงความรุ่งโรจน์ นั่นทำไมเธออาสาเป็นตัวแทนพานักเรียนชั้นสูงคนอื่นกลับไปอยู่ใต้ 5 อันดับสูงสุด และนั่นทำไมเธอพยายามทำให้พวกเขาเชื่อฟังเธอ อาจารย์สูตรเวทมนตร์ผู้มากับเธอด้วยก็มีความคิดเห็นเดียวกัน
อ่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเธอทุ่มเทตัวเองกับการยกยอ 5 อันดับสูงสุดด้วยคำพูดที่งดงาม เจตนาจริงก็รวมไปถึงการรักษาตำแหน่งปัจจุบันด้วย
“โอ้ อะไรที่เธอขาดไปคือศรัทธา…… ถ้าเธอเชื่อมั่นในพระเจ้ามัทธีอัสเหมือนที่ฉันเชื่อ นี่จะไม่เกิดขึ้น…” (เอลีน)
“ยังไงซะ หนูคิดว่ามันได้เวลาคุณไปแล้ว” (ลิตตี้)
“ลิตตี้พูดถูก เอลีนเซ็นเซ ได้โปรดถอยกลับไป” (นักเรียน)
“ถ้าแค่เธอพวกคนอื่นไม่มาที่นี่…!” (เอลีน)
“…ทำอะไรน่ะ?”
“เจสเตอร์ผมแดง ดังเรียนระดับสูงสุดในชั้นปี ปรากฏบนเวที
ทุกคนตกใจกับร่างอันคาดไม่ถึง
เจสเตอร์เริ่มเฝ้าสังเกตุสมาคมเลียนแบบโดยไม่ได้สนใจรอบข้าง
“เข้าใจแล้ว ไม่แย่นะ แต่มีที่ให้พัฒนาไปอีก”
“เจสเตอร์ซัง…ถูกมั้ย? ให้เราช่วยอะไรดีล่ะ?”
“นั่นเป็นอะไรที่แย่ที่ไว้เรียกฉัน ฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอนะ”
“ใช่ แต่เธอก็ยังเป็น…”
“นัก-นักเรียนเจสเตอร์! ทำไมเธอถึง…?”
เอลีน สั่นชัด ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ดีที่สุด เธอน่าจะโมโหตัวเองที่ไม่ไปไหน
แม้แต่ตอนนี้ สิ่งเดียวเท่านั้นที่อยู่ในใจเธอคือการรักษาตัวเอง
“เอลีนเซ็นเซ อาจารย์กลับไปแล้วปล่อยพวกเขาไป ผมจะเข้าร่วมพวกเขานะพูดถึงแล้ว”
“อะไร? เธอจะเข้าไปอยู่ฝั่งพวกเขาเหรอ?”
“ผมไม่ได้อยู่ฝั่งไหนทั้งนั้น แต่อาจารย์น่ะสมมควรอยู่ฝั่ง 【{เรา}】 ถูกมั้ย? ตอนนี้ อย่ามาขวางทางเรา”
“อึ่ก”
เอลีนไม่พอใจ แแต่เคลื่อนที่ไกลไปจากเขาอย่างช้าๆ เธอจ้องเขาเขม็งอย่างเกลียดชังเป็นครั้งคราว จนกว่าไม่เห็นตัวเธอ แต่เจสเตอร์ไม่ให้ความสนใจ
ลิตตี้ก็มีความสนใจเธออยู่ที่เขา แต่สำหรับเหตุผลต่างออกไป เธอคิดเกี่ยวกับเหตุผลที่เจสเตอร์เข้าร่วมพวกเธอแค่หลังจากเอลีนมายุ่งเกี่ยวกับพวกเธอเท่านั้น
มันเป็นตอนนั้นเองที่โรม่าเริ่มสนทนา
“…ฉันล่ะสงสัยว่ามีอะไรที่ทำให้หนึ่งใน 5 อันดับสูงสุดมาทีนี่”
“พวกเขาคือหนึ่งผู้เริ่มนี่ ฉันแค่มาเก็บกวาดตามพวกเขาแล้วอยากเข้าร่วมกลุ่ม”
“อะไรที่นายได้ทำตลอดเวลานี้? และนายเพิ่งพูดเมื่อกี้ว่าอยากเข้าร่วมกับเราเหรอ?”
“จะอะไรถ้าฉันบอกเธอว่าฉันได้ดูแลนักเรียนผู้ถูกข่มขู่โดยเอลีนล่ะ?”
โรม่าสงสัยว่ามีเหตุผลให้ต้อนรับเขาไหม เมื่อพิจารณาว่าเขาสมควรเป็นสมาชิกของ 5 อันดับสูงสุด โดยไม่รู้เหตุผลที่เข้าร่วมพวกเธอ
แต่การไม่มีคำยืนยันถึงความจริง มันจะไม่ฉลาดที่จะเพียงปฏิเสธการช่วยเหลือของเขา
ลิตตี้แอบมองหน้าเจสเตอร์จากทุกมุม ปล่อยให้นักเรียนเงียบ
“ฉันรู้แล้ว เราเจอกันที่ไหนมาก่อน ไม่ใช่เหรอ? แล้วอย่างน้อยๆสองครั้งด้วย”
“อะไรก็ช่าง”
ลิตตี้สงสัย แมม้ว่าเจสเตอร์หันหน้าไปอย่างห้วนๆ เมื่อคิดเกี่ยวกับมันในที่สุดก็มีแรงบันดาลใจ
“อ้าา! นั่นใช่แล้ว! ร้านอาหารและการทดสอบ! นายใส่เกราะสีดำในเวลานั้น!”
ระหว่างนักเรียนไม่เข้าใจว่าพูดอะไร มีแค่ความตื่นเต้นของลิตตี้ที่สูง เจสเตอร์ก็เอามือแปะหน้าแล้วปล่อยถอนหายใจเล็กมากๆ
แปลโดย: wayuwayu
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl