สาวงามตัวร้าย : ท่านจอมมารได้โปรดโดนตกซะทีเถอะ! - บทที่ 316 แท้จริงเขายังมีชีวิตอยู่!
บทที่ 316 แท้จริงเขายังมีชีวิตอยู่!
บทที่ 316 แท้จริงเขายังมีชีวิตอยู่!
ดวงตาสีม่วงคู่นั้นที่ควรสดใสมีชีวิตชีวาในตอนนี้กลับจ้องไปด้านหน้าอย่างว่างเปล่า
ร่างของเขาดูแข็งเกร็ง และแม้จะยืนเช่นนั้นเขาก็คล้ายกับว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่ผ่านกาลเวลามานับพันปีแล้ว นอกจากเบื้องหน้าที่ร่างกายดูสมบูรณ์แล้ว เกรงว่ากล้ามเนื้อทั้งหลายภายในคงสลายไปหมดแล้ว
แต่ดาบในมือเขาดึงสายตาชิงอวี่ไปได้
นางก้าวไปข้างหน้าเพื่อดูโครงสร้างของดาบให้ละเอียดยิ่งขึ้น แทบจะมองไม่เห็นเงาบนโลหะเลย แต่ก็ยังเห็นตัวอักษรจีนโบราณสองตัวสลักอยู่ที่ด้ามดาบ ใกล้กับตรงที่เขาถืออยู่
แต่เนื่องจากเป็นอักษรเก่ามากไป ชิงอวี่จึงจ้องอยู่นานแต่อ่านไม่รู้เรื่อง
ในใจพลันคิดบางอย่างได้ นางเลิกคิ้วขึ้น กวักมือเรียกเจ้าเด็กน้อยที่กำลังยื่นหน้าเข้าไปมองนั่นนี่ด้วยความสนใจ “เจ้าดูนี่ สองตัวนี้อ่านอย่างไรหรือ?”
นางลืมเขาไปได้อย่างไรกันนะ? เจ้านี่อยู่กับตำราแพทย์แดนเซียนมานานแล้วนี่นา! ตำราแพทย์แดนเซียนไม่ใช่เพียงตำราธรรมดา แต่ยังมีสมบัติล้ำค่าซ่อนไว้ภายในมากมาย น่าเสียดายที่จนถึงวันนี้นางก็ยังไม่อาจนำออกมาได้
เขาเป็นจิตวิญญาณตำราแพทย์แดนเซียน กล่าวได้ว่าคงมีความรู้มาก รู้เรื่องมากมาย ไม่เพียงรอบรู้เรื่องยาและพิษทั้งหลาย ยังล่วงรู้ความลับใต้หล้านับแต่โบราณกาล ถามเขาเรื่องตัวอักษรเพียงสองตัวคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
เด็กน้อยใช้ตากลม ๆ ยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ จากนั้นอ่านออกเสียง “เหมือนจะเป็น….. เหลียน….. ซือ?”
เหลียนซือ?
ชิงอวี่ชะงักไป ดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ตกใจมาก เพราะนางเดาตัวตนเขาไว้แล้ว
แต่ไม่คิดว่าชื่อบนดาบจะเป็นเหลียนซือเหมือนกัน
จำได้ว่านางได้ยินจากปากเขาเลยว่า ‘เหลียนซือ’ ผู้นี้ได้กลายเป็นฝุ่นผงสลายไปแล้ว แล้วทำไมร่างของเขา ….. ถึงได้มาอยู่ที่ก้นทะเลสาบเล่า?
“นายหญิง มีอะไรหรือ?” จั้งไหมสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของชิงอวี่จึงถามขึ้นเสียงเป็นห่วง
ชิงอวี่ส่ายหน้าตอบ “ข้าสับสนเล็กน้อยเท่านั้น พวกเจ้าสองคนเดาตัวตนเขาออกหรือไม่?”
ได้ยินนางแล้ว จั้งไหมก็หรี่ตาน้อย ๆ จ้องมองเขาด้วยความตั้งใจ “เดิมทีอยู่ในร่างอสูร แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นร่างมนุษย์ ดูจากเรื่องราวแล้ว ….. เหมือนจะไม่ใช่ปีศาจไปทั้งหมด เพราะข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเสี้ยวหนึ่งของ ….. เผ่าเทพ!?”
หากจำไม่ผิด นี่คือกลิ่นอายของคนเผ่าเทพนี่!
เขาเองก็สับสนไม่น้อย จั้งไหมหันไปมองดาบในมือของชายหนุ่ม “หรือดาบนี่จะเป็น….. อาวุธศักดิ์สิทธิ์?”
จึงเป็นเหตุที่ทำให้ได้กลิ่นอายเทพมาจากตัวเขากระมัง?
“ชายคนนี้ เป็นชายคนแรกที่เกิดมาจากเผ่าปีศาจตั้งแต่ใต้หล้าถือกำเนิด ว่ากันว่าถือครองพลังมืดอันกล้าแข็ง เขาก่อตั้งเผ่าปีศาจขึ้นมาด้วยสองมือ ดังนั้นจึงถูกพวกคนฝ่ายคุณธรรมรังเกียจเดียดฉันท์ พยายามเอาชนะพลังเขา หยุดเขาไม่ให้แกร่งกล้าขึ้นอีก”
ว่าแล้วชิงอวี่ก็ถอนใจเสียงดัง “น่าเสียดายที่สุดท้ายผู้ยิ่งใหญ่เช่นเขาก็ถูกทำลาย”
กระทั่งกายเนื้อที่ตายแล้วยังต้องมาเก็บไว้ที่นี่เป็นความลับ ซุกซ่อนจากใต้หล้า
หรืออาจจะไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่เลยก็ได้
ได้ยินน้ำเสียงชิงอวี่แต้มความเสียดายน้อย ๆ ดวงตาสีทองและเงินงดงามของจั้งไหมก็ส่องประกายประหลาด ก่อนจะเอ่ยเสียงเชื่องช้าออกมา “ไม่ใช่ว่านายหญิงเกลียดตัวตนชั่วร้ายเช่นเขาหรือ?”
“เกลียด?” ชิงอวี่อึ้งไป “ทำไมเล่า?”
“นายหญิงของข้าเกิดมาในสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดแห่งแสงสว่าง เป็นตัวแทนความดี มีคุณธรรม และจิตใจเมตตา เกิดมาเพื่อต่อต้านพวกนอกรีตและความมืด แล้วนายหญิงไม่ชิงชังคนจากเผ่าปีศาจงั้นหรือ?” จั้งไหมเอ่ยเสียงกระจ่างชัด จ้องตรงไปทางนาง
ชิงอวี่หลุบตาลงพลางยิ้ม “ในใต้หล้านี้ ความดีความชั่วไม่เคยมีเส้นขีดแบ่งชัดเจนหรอก ตัวข้าเองยังบอกว่าเป็นคนดีไม่ได้เลยI”
จั้งไหมพยักหน้า ดูท่าจะเข้าใจคำพูดของนาง
“เอ๋~ แล้วเราจะออกไปอย่างไรกันเล่า?”
เจ้าเด็กน้อยตีขาพูดอย่างเกียจคร้าน ว่ายน้ำไปมารอบกายชิงอวี่ เป่าฟองเล่นอยู่ในน้ำ ดูใสซื่อบริสุทธิ์ยิ่งนัก
ชิงอวี่ไม่สนใจเจ้าเด็กน้อยที่เล่นสนุกไปเรื่อย หันไปหาจั้งไหม “หรือเป็นเพราะเจ้านี่พยายามดึงดาบออกมา ทำให้ก้นทะเลสาบสะเทือนหรือ?”
“เหมือนจะใช่” จั้งไหมพยักหน้าตอบ
“เขาเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์แล้ว หากดึงอีกก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ชิงอวี่ลูบคางเอ่ยเสียงงึมงำ
“ให้ข้าทำ! ให้ข้าทำ!”
เมื่อได้ยินชิงอวี่ว่า เด็กน้อยก็ร้องขึ้นเสียงตื่นเต้น เจ้าตัวเล็กว่ายไปหาชายหนุ่มร่างสูง สองมือเล็กคว้าจับที่ด้ามดาบ ใส่แรงเพียงเล็กน้อยแล้วดึงดาบออกมา หากแต่ดาบกลับไม่เขยื้อน
“หือ?”
เด็กน้อยกะพริบตาปริบ ๆ อย่างสับสน เหมือนไม่อยากเชื่อ จึงใส่แรงลองดึงอีกสักครา
ดาบที่หลุดออกมาแล้วสามส่วนเลื่อนออกมาอีกนิด เห็นแล้วเด็กน้อยจึงดีใจ ยิ่งมุ่งมั่นขึ้นอีก ตัวดาบจึงหลุดออกมาจากฝักได้ในที่สุด
ชิงอวี่พลันเปลี่ยนสีหน้า รีบร้องเสียงดัง “หยุดก่อน!”
เด็กน้อยไม่รู้ว่าเกิดอะไร เพียงแต่สงสัยว่าทำไมดาบมันถึงหลุดออกมาง่ายดายนัก แต่พริบตาต่อมาแขนของชายหนุ่มที่ร่างเขาพิงอยู่กลับค่อย ๆ ยกขึ้นน้อย ๆ
เจ้าเด็กน้อยพลันเข้าใจ ส่งสายตามองแล้วก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
จึงได้รู้ว่าไม่ใช่แรงตนที่ดึงดาบออกมาได้ แต่เพราะมือของชายหนุ่มที่ขยับดันให้มันออกมาทีละนิดต่างหาก ตัวดาบส่องประกายเย็นยะเยียบ
เด็กน้อยหน้าตะลึงยังได้แต่นั่งอยู่บนแขนเขา อึ้งไปไม่อาจตอบสนอง
จั้งไหมนัยน์ตาขรึมลง กลายเป็นแสงสีทองเส้นหนึ่ง พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว คว้าตัวเด็กน้อยไว้ได้
จังหวะนั้นดาบในมือชายหนุ่มก็ออกจากฝักมาจนหมด ไอสังหารชั่วร้ายมุ่งตรงมายังพวกนาง ดวงตาสีม่วงเย็นชา ผ่านไปนานชายหนุ่มจึงเอ่ยคำเย็นชาสามคำออกมาได้ “เจ้าเป็นใคร?”
ตาของเขา….. จ้องตรงมายังชิงอวี่
“ท่าน….. ยังไม่ตายนี่…..” ชิงอวี่มีสีหน้าซับซ้อนพลางมองเขา
คำไร้เหตุผลและสีหน้าของเด็กสาวทำให้ม่านตาดูเย็นชาของชายหนุ่มดูสะอึกไปในพริบตา “หมิงเยว่…..”
“หมิงเยว่คือใครหรือ?” ชิงอวี่เลิกคิ้วประหลาดใจ
นั่นเป็นชื่อที่นางไม่รู้จัก ไม่เห็นจำได้ว่าถูกกล่าวตอนเขาเล่าเรื่อง
แต่ว่า….. ในใจนางรู้ว่าชื่อนี้คงจะเป็นชื่อของสตรีในเรื่องราวเป็นแน่
คำตอบของนางทำให้ชายหนุ่มหน้าขรึมลงทันใด “ไม่ เจ้าไม่ใช่นาง”
นัยน์ตาจึงเย็นชาขึ้นอีก “เช่นนั้นเจ้าเป็นใคร?”
เขาจ้องนางเขม็ง
ใช่แล้ว เขามีพลังระดับนั้น มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเจ้าเด็กตัวจ้อยกับเด็กหนุ่มข้างกายนางไม่ใช่มนุษย์
“ข้าหลงเข้ามาที่นี่โดยบังเอิญ ติดอยู่ที่นี่ หาทางออกไม่พบ ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย” ชิงอวี่อธิบาย
หากแต่สีหน้าชายหนุ่มยังไม่คลาย ยังจ้องนางไม่วางตา น้ำเสียงดูมั่นใจนัก “เจ้ารู้จักข้า”
เขายังไม่ลืมคำแรกที่ได้ยินจากปากนางเมื่อครู่
เขายังไม่ตาย
นางพูดว่าเขายังไม่ตาย
ทั้งคำพูดและสีหน้าของนางดูตกตะลึง แต่ท่าทางท่าทีกลับทำราวกับเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ซึ่งดูผิดปกตินัก
นางจะรู้จักเขาได้อย่างไร?
ชิงอวี่มองด้วยความระวัง พยักหน้าน้อย ๆ “ ใช่แล้ว ข้าได้ยิน….. เรื่องของท่านมาบ้าง ”
เขาพลันหรี่ตา “ แล้วใครเล่าให้เจ้าฟัง? ”
“ เหลียนซือ ”
“ ว่าอะไรนะ? ” เขามุ่นคิ้วแน่น น้ำเสียงเจือแววขุ่นเคืองยามเอ่ยถาม “ ใครอนุญาตให้เจ้ากล่าวนามของข้าออกมาเช่นนั้น? ”
ชิงอวี่ยกมุมปากขึ้น มองหน้าเขาก่อนเอ่ยตอบ “ข้าหมายความว่า คนที่เล่าเรื่องท่านให้ข้าฟังคือคนที่ชื่อว่าเหลียนซือ”
นางหยุดเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยต่อด้วยเสียงเรียบเรื่อยท่ามกลางสายตาประหลาดใจ “หรือพูดตามตรง ก็คือชายที่ท่านใช้หัวใจตนเองคืนชีพให้ เขากลายเป็นเหลียนซือคนที่สองไปแล้ว หรือไม่ก็เป็นคนที่หวังว่าจะได้กลายเป็นเหลียนซือกระมัง”
เขาเงียบไปเล็กน้อย ดูราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง
“แต่ในเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็หวังว่าจะช่วยข้าได้ ซึ่งข้าก็จะช่วยตัวท่านด้วยเช่นกัน”
ชิงอวี่พลันหันไปหา น้ำเสียงจริงใจแววตาใสซื่อ “ความตายของท่านทำร้ายจิตใจใครบางคนอย่างหนักหน่วง จนนางทำเรื่องชั่วช้าทั้งหลายลงไป หมายจะคืนชีวิตให้ท่าน แต่นางกลับไม่รู้ความผิดที่กระทำเลย ข้าหวังว่าท่านจะกล่อมให้นางกลับมาได้”
สายตาชายหนุ่มดูอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบขึ้น “ทำไมข้าต้องช่วย? ข้าเป็นคนตายไปแล้ว”
“ก็เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านก็ยังใส่ใจนางไม่ใช่หรือ? คงไม่อยากเห็นนางกลายเป็นสตรีเลือดเย็นเป็นปีศาจไร้ใจกระมัง ท่านเคยกล่าวไว้ว่านางเป็นเหมือนแสงตะวันในโลกมืดมิด ท่านอยากเห็นแสงตะวันของท่านทำลายตนเองงั้นหรือ?”
ดูจะคิดไม่ถึงว่านางจะเอ่ยเช่นนั้นออกมา ชายหนุ่มพลันพ่นลมหยันแล้วเอ่ยคำ “เจ้านั่นมันบอกเจ้าทุกเรื่องเลยกระมัง? เขากลายเป็นคนเชื่อใจคนง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“เขาบอกว่าเป็นเพราะข้าน่าสนจึงเต็มใจอยากเล่าให้ฟัง” ชิงอวี่ว่าพลางหัวเราะเบา ๆ
“งั้นหรือ?”
สายตาเขาพลันเปลี่ยนเป็นล้ำลึก เหมือนมีแววประหลาดใจฉายอยู่ “ทำไมเจ้าถึงได้เหมือน….. จะมีพลังมืดของเผ่ามารทมิฬอยู่ในร่างด้วยเล่า?”
ล้านปีก่อน เขาเป็นคนเผ่ามารทมิฬไม่กี่คนที่หลงเหลืออยู่ คนจากเผ่าปีศาจเกิดมามีพลังล้ำลึกกล้าแข็ง และเขา….. ก็เป็นคนที่โดดเด่นที่สุด
แต่ผ่านมาล้านปี เผ่ามารทมิฬก็ล่มสลายลงเรื่อย ๆ ตัวเขาเองก็รู้ว่าตนเหลือเวลาไม่มากแล้ว
แต่ในกายของเด็กสาวคนนี้ ทำไมถึงได้มีพลังของเผ่ามารทมิฬ อีกทั้งพลังปกป้องคุ้มครองก็ดูจะทรงพลังอีกด้วย เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
ก็เห็นได้ชัดว่านางเป็นมนุษย์
แล้วพลังในกายนางมาจากไหน? หรือจะมีคนจากเผ่ามารทมิฬคอยช่วยเหลืออยู่ข้างกายงั้นหรือ?
เห็นได้เลยว่าพลังของคนร่วมเผ่ามารทมิฬผู้นี้เทียบกับเขาในสภาพนี้ได้เลย แม้จะยังเทียบเมื่อครั้งเขายังมีพลังเต็มเปี่ยมไม่ได้ ที่เป็นหนึ่งในชนเผ่าก็ตามที แต่อย่างไรก็ไม่น่าจะมีใครแกร่งไปกว่าเขาได้อีกแล้ว
ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ดูถูกไม่ได้เลย
แต่เมื่อชิงอวี่ได้ยินเขาว่า กลับมีสีหน้าฉงนนัก “ท่านบอกว่า….. เป็นพลังมืดเผ่ามารทมิฬ….. มันหมายความว่ายังไงกัน?”
ถ้าอ่าน “สาวงามตัวร้าย_ท่านจอมมารได้โปรดโนตกซะทีเถอะ” แล้วยังไม่จุใจ งั้นไปอ่านกันต่อได้ที่เว็บ Enjoybook.co เพราะที่นั่นลงนำไปแล้วกว่า 30 ตอน !!