สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 1004 เขาคงไม่หาไก่มากราบไว้ฟ้าดินแทนกระมัง
- Home
- สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派]
- บทที่ 1004 เขาคงไม่หาไก่มากราบไว้ฟ้าดินแทนกระมัง
บทที่ 1004 เขาคงไม่หาไก่มากราบไว้ฟ้าดินแทนกระมัง?
บทที่ 1004 เขาคงไม่หาไก่มากราบไว้ฟ้าดินแทนกระมัง?
“ไม่ ใต้เท้าลู่เข้าใจ เพียงแต่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ”
“ในเมื่อใต้เท้าฉีรู้ ไยต้องถามให้มากความ?”
“ลูกสาวผู้นี้ของข้าหน้าตาไม่เลวกระมัง? นางเติบโตมาที่ชายแดน รู้เรื่องต่อยตีเล็กน้อย ถึงแม้จะเป็นเพียงกระบวนท่าสวยงามแต่ใช้การไม่ค่อยได้ ทว่าก็เพียงพอสู้กับโจรธรรมดา ๆ แล้ว ข้าคิดว่าใต้เท้าลู่คงชื่นชมสตรีที่มีเอกลักษณ์เช่นนี้”
“ข้ามีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว อีกเพียงไม่กี่วันก็จะแต่งงาน ใต้เท้าฉีไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องเหล่านี้ ข้าเพิ่งบอกสถานการณ์ของคุณหนูฉีกับใต้เท้า จากนี้ท่านสามารถหารือกับนางว่าจะทำอย่างไรต่อไป หากคุณหนูฉียืนกรานจะเข้าร่วมงานแต่งของข้าก่อนไปเมืองถงหยาง ข้าก็จะตระเตรียมที่นั่งไว้ให้ หากแผลย่ำแย่ลงเกินกว่าจะรักษาระหว่างนี้ เช่นนั้นก็อย่าได้ตำหนิข้าน้อยที่ไม่กล่าวเตือน สิ่งที่ควรกล่าวก็กล่าวแล้ว ข้าขอตัว”
ฉีเจินมองเงาร่างของลู่ฉาวอวี่แล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “เจ้าเด็กคนนี้ ไม่ไว้หน้าสกุลฉีจริง ๆ”
“ผู้ใดให้เขาเป็นซื่อจื่อของจวนลู่อ๋องเล่าขอรับ?” ผู้ติดตามที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ย “เขาแซ่ลู่ ควรหยิ่งผยองจริง ๆ”
“กล่าวได้ไม่ผิด” ฉีเจินกล่าว “ซืออี้ยังไม่เฉลียวฉลาดมากพอ หากนางฉลาด นางควรบอกความในใจของนางให้ข้าฟังเร็วกว่านี้ ข้าจะได้วางแผนให้นางตั้งแต่เนิ่น ๆ”
“ได้ยินว่าฮูหยินลองหยั่งเชิงพระชายาลู่แล้ว พระชายาลู่ไม่ได้รับปาก ฮูหยินถึงได้ไม่เอ่ยถึงขอรับ”
“สตรีจะทำอะไรได้? เรื่องสำคัญเช่นนี้ หากข้ารู้เร็วกว่านี้หน่อย….”
สิงเจียซือออกมาจากร้าน เมื่อหมุนกายกลับมาเห็นลู่ฉาวอวี่ แววตาพลันเผยความประหลาดใจออกมา
“เหตุใดใต้เท้ามาอยู่ที่นี่ได้เจ้าคะ?”
“มาหาเจ้า”
“ใต้เท้ามาหาข้าโดยเฉพาะหรือ?”
“ไม่ผิด” ลู่ฉาวอวี่กล่าว “ตอนนี้เจ้ามีเวลาหรือไม่?”
สิงเจียซือมองไปรอบ ๆ เห็นคนมากมายกำลังมองมาจึงรีบร้อน “มีเวลาเจ้าค่ะ พวกเราเปลี่ยนที่คุยกันเถิด!”
ลู่ฉาวอวี่สะดุดตาเกินไปแล้ว
“ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “เจ้าตามข้ามาก็พอ”
สิงเจียซือสงสัยขึ้นมาทันที
ลู่ฉาวอวี่ยุ่งเพียงใด นางพอได้ยินมาบ้าง
คดีของสำนักตรวจการมีเข้ามาเรื่อย ๆ สิงเจียซือมักจะเห็นเขาขี่ม้าผ่านประตูไป บางครั้งนางก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหากเขายุ่งทุกวันเพียงนี้ วันแต่งงานเขาจะมีเวลาว่างหรือไม่?
หากเขาไม่มีเวลา คงไม่หาไก่มากราบไว้ฟ้าดินแทนกระมัง?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สิงเจียซือก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“หัวเราะอะไร?”
“ท่านงานยุ่งถึงเพียงนี้ เกรงว่าจะไม่มีเวลาไปกราบไหว้…” สิ้นคำ สิงเจียซือก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย “ข้าไม่ได้มีความหมายอื่น”
ลู่ฉาวอวี่มองนางแล้วยิ้มบาง ๆ “วางใจ วันนั้นข้าจะให้ทุกคนในสำนักตรวจการจับตาดูความเคลื่อนไหวในเมืองหลวง หากมีคนก่อเหตุในวันนั้น จะเพิ่มโทษอีกขั้นหนึ่ง”
“เช่นนั้นจะไม่เป็นการไม่ยุติธรรมหรือ?”
“ในเมื่อพวกเขากล้าก่อเหตุ กฎแห่งความยุติธรรมในโลกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรักษา หากต้องการความยุติธรรม เช่นนั้นก็อย่าก่อเหตุ” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “ข้าไม่สนว่าผู้อื่นจะคิดอย่างไร ในสายตาข้า ผู้กระทำความผิดที่ไม่อาจอภัย ไม่มีคุณสมบัติจะเอ่ยเรียกร้องสิ่งใด”
“ใต้เท้าลู่ร้ายกาจจริง ๆ”
“ถึงแล้ว”
สิงเจียซือมองดูหอเบื้องหน้า
“ที่นี่คือหอจิ่นซิ่ว”
“ไม่ผิด” ลู่ฉาวอวี่กล่าว “ยืนนิ่งทำอะไร? ไปกันเถอะ!”
“ที่นี่เป็นร้านเครื่องประดับชื่อดังที่สุดในเมืองหลวง”
“แม่ข้าเปิด” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “กิจการของตนเอง ทำตัวตามสบาย”
“กิจการของพระชายาเกี่ยวข้องกับเครื่องประดับทองเครื่องประดับเงินตั้งแต่เมื่อใด?”
“เดิมทีนางไม่ได้คิดจะเปิด เพียงแต่ทุกครั้งที่นางซื้อเครื่องประดับล้วนไม่ถูกใจ นางชอบซื้อเครื่องประดับให้อวิ๋นเอ๋อร์ เลือกหลายครั้งก็ไม่มีของที่นางพอใจจึงออกแบบให้ช่างฝีมือของร้านทำให้ เวลาผ่านไป นางจึงซื้อร้านมาเสียเลย ภายหลังก็ไม่ได้ดูแลเป็นพิเศษ บางครั้งช่างฝีมือทำเครื่องประดับดี ๆ ออกมาไม่ได้ก็จะขอให้นางออกแบบ นางก็เพียงโยนภาพแบบสองสามชิ้นให้ ผู้ใดจะรู้ กิจการนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงขยับขยายมาเป็นอย่างทุกวันนี้”
“พระชายาเป็นเทพแห่งความมั่งคั่งกลับชาติมาเกิดจริง ๆ ขอเพียงนางยินดีทำ ไม่มีอะไรทำได้ไม่ดี”
เพียงแต่ เหตุใดเขาจึงพานางมาที่นี่?
ลู่ฉาวอวี่พาสิงเจียซือเดินเข้าไป ผู้ดูแลจึงเข้ามาต้อนรับ
“คุณชาย”
อยู่ที่นี้ ลู่ฉาวอวี่เป็นเพียงนายน้อยของพวกเขา ไม่ใช่มัจจุราชในราชสำนักผู้นั้น
“ไม่ต้องแนะนำข้าแล้ว” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “ท่านพานางไปเลือกของที่นางชอบเถอะ”
สิงเจียซือเอ่ยขัดลู่ฉาวอวี่ขึ้นมา “ท่านพาข้ามาเลือกเครื่องประดับหรือ? ข้าไม่ต้องการ”
“นี่เป็นความตั้งใจของแม่ข้า” ลู่ฉาวอวี่เดินเข้ามาใกล้ ๆ “นี่เป็นของที่นางจะให้ลูกสะใภ้ หากเจ้าไม่ต้องการ นางจะต้องสงสัยว่าการแต่งงานของเรามีบางอย่างผิดปกติแน่นอน เจ้าคงไม่อยากถูกเปิดโปงกระมัง?”
“เพียงแต่ มันแพงเกินไปนะเจ้าคะ”
“เก็บไว้ก่อน ภายหน้าค่อยว่ากัน”
“เช่นนั้นข้าจะเลือกมาสักชิ้น”
“ผู้คนต่างรู้ดีว่าสกุลลู่ร่ำรวยพอ ๆ กับอาณาจักรหนึ่ง หากเจ้าเลือกที่ถูกเกินไป นั่นเท่ากับกำลังดูถูกมารดาข้า”
สิงเจียซือ “…”
จู่ ๆ ก็รู้สึกว่า หากมู่ซืออวี่เป็นแม่สามีของนางจริง ๆ จะมีความสุขเพียงใดกัน!
สิงเจียซือมองลู่ฉาวอวี่ที่หันมองไปรอบ ๆ ด้วยท่าทีผ่อนคลาย ภายในใจพลันฝาดเฝื่อนขึ้นมา
สตรีเช่นใดกันจึงจะได้แต่งงานกับสามีที่ราวกับเป็นเทพเซียนเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังมีแม่สามีที่ราวกับเทพเซียนเช่นนั้นอีก? สิ่งสำคัญที่สุดคือ น้องสาวของสามีก็งดงามดั่งเทพธิดา เป็นสตรีในดวงใจของบุรุษทั่วหล้า
“อันนี้… อันนี้…” ลู่ฉาวอวี่เลือกไปสองอย่าง “แบบเครื่องประดับที่แม่ข้าออกแบบเองเมื่อไม่กี่วันก่อน เสร็จหรือยัง?”
“ยังไม่เสร็จขอรับ คำนวณเวลาดูแล้ว ก่อนงานแต่งคุณชายน่าจะเสร็จขอรับ”
“ทำเสร็จแล้วก็ส่งไป”
“ขอรับ”
“เครื่องประดับศีรษะ ยังมีกำไลหยกเหล่านี้ ถึงเวลาให้ส่งไปที่จวนสิง”
สิงเจียซือดึงแขนเสื้อของลู่ฉาวอวี่ยิก ๆ “มากเกินไปแล้ว ไม่ได้ใช้มากเพียงนั้นหรอกเจ้าค่ะ”
“นั่นเป็นของขวัญให้เจ้า” ลู่ฉาวอวี่กล่าว “หลายปีมานี้เจ้าไม่ได้เข้าเมืองหลวง ไม่ค่อยได้พบคุณหนูคนอื่น ๆ นั่นเป็นของขวัญที่น้องสาวข้าให้เจ้า ก่อนออกมา นางกำชับด้วยตนเอง วันหลังเจ้าถามนางดูได้”
สิงเจียซือเห็นลู่ฉาวอวี่ยังคงกำชับบางอย่างกับผู้ดูแล จึงเหม่อมองใบหน้าของเขาเป็นเวลานาน
เมื่อลู่ฉาวอวี่หันกลับมา บังเอิญสบตากับสิงเจียซือเข้าพอดีจึงเลิกคิ้วขึ้น
สิงเจียซือทัดผมที่ตกลงมาข้างหู แล้วเฉไฉหันไปมองทางอื่น
“นี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว ไปหาที่ทานข้าวกันเถอะ!” ลู่ฉาวอวี่กล่าว “เจ้ายังมีเรื่องอื่นหรือไม่?”
“ข้า…” สิงเจียซือกำลังเอ่ยปาก กลับเห็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ผู้หนึ่งเดินมาจากฝั่งตรงข้าม
คุณหนูผู้สูงศักดิ์เอ่ยขึ้น “พี่หญิงสกุลสิง ไม่พบกันนานนะเจ้าคะ”
สิงเจียซือมองนางด้วยความสงสัย
นางจำคนผู้นี้ได้ ดูเหมือนจะเป็นคุณหนูสกุลหลี่กระมัง? นางจำไม่ได้ว่ารู้จักมักคุ้นกับอีกฝ่าย
“พอดีข้าอยากเลือกต่างหู เพียงแต่ไม่รู้จะเลือกอย่างไร พี่หญิงสกุลสิงอยู่ที่นี่ ช่วยข้าเลือกหน่อยได้หรือไม่?” หลี่เข่อหรงเอ่ยถาม
ลู่ฉาวอวี่เอ่ยนิ่ง ๆ “นางไม่ว่าง”
“อ๊ะ?” หลี่เข่อหรงประหนึ่งเพิ่งเห็นลู่ฉาวอวี่จึงรีบร้อนคำนับ “คารวะใต้เท้าลู่”
“พวกเราไปกันเถอะ!” ลู่ฉาวอวี่จับมือสิงเจียซือเดินผ่านไปด้านข้างคุณหนูสกุลหลี่
สิงเจียซือเอ่ย “ขออภัย พวกเรายังมีเรื่องต้องทำ เกรงว่าจะช่วยท่านไม่ได้แล้ว ท่านค่อย ๆ เลือกเถอะ ขอตัวก่อนแล้ว”
—————————————————-