สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 1009 สิงเจียซือจะแต่งงานแล้ว
บทที่ 1009 สิงเจียซือจะแต่งงานแล้ว
บทที่ 1009 สิงเจียซือจะแต่งงานแล้ว
หลังจากกลับมายังสกุลลู่แล้ว มู่ซืออวี่ก็บอกผลลัพธ์ที่ได้ในวันนี้กับลู่ฉาวอวี่
ลู่ฉาวอวี่ได้ยินเช่นนั้นก็แสดงทำทีว่าเข้าใจแล้ว
หากฉีซืออี้เป็นคนฉลาดก็ควรเลือกทางนี้ ในฐานะคุณหนูใหญ่สกุลฉี สถานะของนางไม่ได้ต่ำต้อย ไม่จำเป็นต้องไล่ตามบุรุษแม้แต่น้อย มิเช่นนั้นรังแต่จะทำให้นางดูโง่เขลา
วันนี้มีข่าวลือเรื่องในอดีตระหว่างฮูหยินฉีกับลู่เซวียนปรากฏขึ้นในเมืองหลวง หากฉีซืออี้ยังคงยึดติดกับสกุลลู่ไม่ยอมปล่อยวาง สำหรับทั้งสกุลฉีแล้วไม่เป็นผลดีแม้แต่น้อย
ฉีซืออี้ออกจากเมืองหลวงไปแล้ว
วันแต่งงานของลู่ฉาวอวี่กับสิงเจียซือใกล้เข้ามาทุกขณะ
วันก่อนวันแต่งงาน สินเดิมของสิงเจียซือถูกขนย้ายเข้าไปในสกุลลู่
“นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าสินเดิมของคุณหนูสิงจะอู้ฟู้ถึงขนาดนี้” ชาวบ้านต่างพูดคุยกัน
“สินสอดทองหมั้นของสกุลลู่ยิ่งล้นเหลือ พวกเจ้าเห็นแล้วกระมัง?”
“คุณชายใหญ่จวนท่านอ๋องลู่ มีมารดาที่ร่ำรวยอย่างพระชายาลู่ สินสอดทองหมั้นเล็กน้อยนั่นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของสกุลลู่เท่านั้นแหละ”
“กล่าวให้น่าฟัง มองดูทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว นอกเสียจากราชวงศ์ เกรงว่าจะไม่มีผู้ใดใจกว้างให้สินสอดมากเพียงนี้ พวกเราได้เห็นฉากนี้ นับว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”
ขบวนยิ่งใหญ่เกรียงไกรเคลื่อนไปตามท้องถนน ดูจากความใหญ่โตของขบวน หัวแถวออกไปจากจวนท่านอ๋องลู่แล้ว ท้ายแถวกลับยังไม่พ้นประตู แสดงให้เห็นว่าขบวนนี้ยาวเพียงใด
“สกุลสิงนับว่าโชคหล่นทับแล้ว”
“ฮ่า ๆๆ….”
“เจ้าหัวเราะอะไรกัน?”
“ข้าหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของท่านน่ะสิ” คนผู้นั้นเอ่ย “พี่ชายข้าเป็นคนขายผัก ผักของสกุลสิงล้วนเป็นพี่ชายข้าที่ส่งให้ เมื่อวานข้าไปดื่มสุรากับเขา เขาบอกข้าแล้ว สกุลลู่ส่งสินสอดไปมากน้อยเพียงใด สกุลสิงไม่ได้เก็บไว้แม้แต่ชิ้นเดียว ไม่ต้องเอ่ยว่าคุณหนูห้าสิงนำมันไปทั้งหมด แม้กระทั่งสินเดิมของแม่นางก็นำไปแล้ว กล่าวได้ว่าสกุลสิงไม่ได้ประโยชน์แม้แต่ขนเส้นเดียว”
“คุณหนูห้าสิงใจจืดใจดำเสียจริง!”
“นางเป็นแม่นางน้อยผู้หนึ่ง มาไกลถึงเพียงนี้ หากไม่ใจดำพอ คงตายอยู่ข้างนอกนั่นแล้ว”
สินสอดส่งไปแล้ว เพียงแค่รองานแต่งงานในวันรุ่งขึ้น
ถึงแม้ฮูหยินผู้เฒ่าสิงจะโกรธเป็นอย่างมาก ยามนี้นางกลับไม่ได้ทะเลาะกับสิงเจียซืออีก อย่างไรเสียสิงเจียซือก็มีสกุลลู่คอยหนุนหลัง ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะแตะต้องได้แล้ว
บางครั้งฮูหยินผู้เฒ่าสิงก็นึกสงสัย ตอนนั้นนางทำถูกหรือไม่ที่บังคับให้สิงเจียซือรั้งอยู่ที่จวน หากไม่บังคับให้นางรั้งอยู่ คงไม่เกิดความบาดหมางเช่นนี้ นับประสาอะไรกับเรื่องที่ตามมาในภายหลัง บัดนี้ผู้คนข้างนอกต่างโจษจันกันว่าสกุลสิงได้พึ่งพาต้นไม้ใหญ่อย่างสกุลลู่ อันที่จริงแล้วห้าสิงขุ่นข้องหมองใจกับสกุลสิงจะตาย นางจะปล่อยให้พวกเขาพึ่งพาบารมีของสกุลลู่ได้อย่างไร?
“เจ้าห้า นี่เป็นของขวัญแต่งงาน อาสะใภ้สามให้เจ้า เจ้าอย่าได้รังเกียจเล่า!” ฮูหยินสามสิงนำเครื่องประดับศีรษะชุดหนึ่งเข้ามา
สิงเจียซือเหลือบมองแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ทำให้อาสะใภ้สามต้องสิ้นเปลืองแล้ว เพียงแต่เหตุใดข้าจึงจำได้ว่าเครื่องประดับชุดนี้เป็นแม่ข้าให้ท่าน ตอนนี้ท่านกลับนำมาให้ข้า นี่ไม่ค่อยดีกระมัง?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร? นี่เป็นของที่ข้าซื้อมาใหม่” ฮูหยินสามสิงร้อนใจขึ้นมาแล้ว
“อย่างนั้นหรือ?” สิงเจียซือสังเกตอย่างละเอียดแล้วจึงเอ่ยว่า “เป็นของใหม่ มิน่าเล่าคุณภาพจึงไม่เหมือนกัน หยกบนเครื่องประดับศีรษะของแม่ข้าชุดนั้นถึงได้กระจ่างใสยิ่งกว่า”
ฮูหยินสามสิงยิ้มฝืด ๆ “ใช่แล้ว เป็นเช่นนั้น ตอนนั้นแม่เจ้าให้เครื่องประดับศีรษะข้าชุดหนึ่ง ข้าเก็บมันไว้เป็นอย่างดี ตัดใจนำมาใช้ไม่ได้เชียวละ!”
“ของที่แม่ข้ามอบให้อาสะใภ้สาม อาสะใภ้สามก็เก็บไว้เถิด! หลายปีเพียงนี้ แม่ข้าจากไปแล้ว แต่ของของนางยังคงอยู่ เสมือนกับว่านางยังอยู่ อาสะใภ้สามเห็นเครื่องประดับศีรษะของแม่ข้า จะได้รู้สึกว่าท่านแม่ข้ายังอยู่ข้าง ๆ อย่างไรก็เคยผูกพันกัน”
ฮูหยินสามสิงจู่ ๆ พลันไม่กล้ามองเครื่องประดับศีรษะนั้นตรง ๆ
หมายความว่าอย่างไรที่แม่ของนางยังอยู่?
แม่ของนางเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว อีกทั้งยังตายอย่างอนาถ หากมีแม่ของนางคอยอยู่ข้างกาย นั่นไม่เท่ากับมีวิญญาณชั่วร้ายคอยหลอกหลอนหรือ?
ห้าสิงผู้นี้… จัดการได้ยากจริง ๆ ในฐานะผู้อาวุโส ดีกับนางเพียงนี้แล้ว นางกลับไม่แม้กระทั่งแสดงสีหน้าดี ๆ มาให้ อีกทั้งยังกล่าวถึงเรื่องเหล่านั้นให้หวาดกลัวอีก
“คุณหนู ฮูหยินสี่มาแล้วเจ้าค่ะ” ฉิงโหรวกล่าว
“รีบเชิญเข้ามา”
ฮูหยินสามสิงเบ้ปาก
ตอนที่นางฮูหยินสามผู้นี้มา ไม่เห็นพวกนางกระตือรือร้นเพียงนั้น ฮูหยินสายรองผู้หนึ่งมา มีอะไรให้ตื่นเต้นนักหนา?
ฮูหยินสี่สิงเดินเข้ามาพร้อมกับลูกสองคน
“พี่สะใภ้สาม” ฮูหยินสี่สิงเห็นฮูหยินสามสิงจึงรีบกล่าวทักทาย
“อืม” ฮูหยินสามสิงเอ่ยนิ่ง ๆ “เจ้าก็นำของขวัญมาให้สินะ!”
“ข้าเป็นผู้อาวุโส ควรแสดงน้ำใจบ้าง เพียงแต่พี่สะใภ้สามก็รู้ดีว่าครอบครัวข้าเพียงแค่เปิดร้านขายยา ไม่ได้มีภูมิหลังพิเศษอย่างท่าน ด้วยเหตุนี้…”
“ไยต้องพูดพล่ามไร้สาระมากมายเพียงนั้น?” ฮูหยินสามสิงเย้ยหยัน
สิงเจียซือคำนับฮูหยินสี่สิง “อาสะใภ้สี่ ท่านมาได้ เจียซือก็ดีใจมากแล้ว ข้าเตรียมขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ ท่านลองชิมดูเถอะว่ารสชาติเป็นอย่างไร”
“ได้ ได้สิ” ฮูหยินสี่สิงยิ้มบาง ๆ
ฮูหยินสามสิงเบะปาก
“อาสะใภ้สาม เมื่อครู่ท่านบอกว่ามีงานยุ่งไม่ใช่หรือ?” สิงเจียซือเอ่ย “ในเมื่อท่านกำลังยุ่ง เช่นนั้นก็ไปทำธุระของท่านเถอะ”
“ได้ เช่นนั้นข้าไปก่อน” ฮูหยินสามสิงผละจากไป
หลังจากฮูหยินสามกลับไปแล้ว สิงเจียซือก็ทักทายลูกพี่ลูกน้องทั้งสองของนาง แล้วเอ่ยกับฮูหยินสี่สิง “ขอบคุณอาสะใภ้สี่ที่มาหาข้า ทุกครั้งที่พบท่าน ข้ามักจะนึกถึงท่านแม่ ท่านกับท่านแม่ของข้านิสัยคล้ายคลึงกันยิ่งนัก”
“ข้าจะดีเทียบแม่เจ้าได้อย่างไร?”
“ท่านกับแม่ข้าล้วนเหมือนกัน พวกท่านล้วนเป็นมารดาที่ดี” สิงเจียซือกล่าว “พรุ่งนี้ข้าต้องออกเรือนแล้ว อาสะใภ้สี่ หากภายหน้าท่านมีอะไรให้ข้าช่วย ขอเพียงข้าทำได้ ท่านเพียงแค่มาหาข้า”
“ข้าคิดว่า…”
“คนอื่น ๆ ในสกุลสิง ข้าไม่สนใจ ทว่าท่านกับท่านอาสี่ข้าไม่นิ่งดูดายอย่างแน่นอน แน่นอนว่าไม่อาจเป็นเรื่องที่ยากเกินไป ความสามารถของข้ามีจำกัด”
“ได้ ขอบใจเจ้า” ฮูหยินสี่สิงมองบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ
คนรับใช้ยื่นกล่องใบหนึ่งให้
สิงเจียซือรับมาแล้วเอ่ย “ขอบคุณอาสะใภ้สี่”
“ไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร แต่ไรมาเจ้าก็ไม่เคยขาดของเหล่านี้ นี่เป็นเพียงสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของข้า” ฮูหยินสี่สิงเอ่ย “นี่เป็นถุงสมุนไพรที่ข้าเตรียมเอง พกพาประจำดีต่อร่างกาย”
สิงเจียซือเปิดกล่องออก เห็นถุงสมุนไพรจำนวนสิบถุงอยู่ข้างใน กลิ่นของถุงสมุนไพรแต่ละถุงแตกต่างกันไป ทว่ากลิ่นหอมเป็นพิเศษทุกถุง
“ใช้เครื่องเทศหลากชนิดปรุงมา มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ยังนับว่าหอมทีเดียว”
“ขอบคุณอาสะใภ้สี่ ข้าชอบของขวัญชิ้นนี้มาก”
“พรุ่งนี้ข้าไม่ไปส่งเจ้าแล้ว เจ้าไปจวนลู่ก็โบยบินขึ้นไปให้ไกล ไม่ต้องกังวลอะไร” ฮูหยินสี่สิงกล่าว
วันรุ่งขึ้น สกุลสิงง่วนอยู่กับการเตรียมงานแต่งงาน
ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร งานแต่งนี้ก็ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ฮูหยินผู้เฒ่าสิงให้ฮูหยินที่ครอบครัวพร้อมพรั่งสมบูรณ์แต่งหน้าหวีผมให้สิงเจียซือ
“ดูคุณหนูห้าสิงเป็นคนมีวาสนาเสียจริง!” ฮูหยินที่ครอบครัวสมบูรณ์เอ่ย “หวีแรกให้ราบรื่นจนสุดทาง…”
ฉิงโหรวและฉิงฮุ่ยคอยเป็นลูกมืออยู่ข้าง ๆ
ฮูหยินผู้เฒ่าสิงมองเงาร่างของสิงเจียซือ ดวงตาแดงเรื่อเล็กน้อย
วันมงคลใหญ่วันนี้ นางนึกถึงบิดาของสิงเจียซือขึ้นมา หากเขายังมีชีวิตอยู่ ได้เห็นสิงเจียซือแต่งงาน คงต้องสุขใจเป็นแน่
หากเขายังอยู่ สกุลสิงคงไม่แตกซ่านอย่างทุกวันนี้ ลูกหลานสกุลสิงไม่มีคนใดค้ำยันกำแพงได้ ยังต้องให้นางหญิงชราที่ใกล้ลงโรงผู้นี้วางแผนปูลู่ทางให้…
—————————————————-