สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 1047 เหตุผลเบื้องหลัง
บทที่ 1047 เหตุผลเบื้องหลัง
“พระชายามีความสัมพันธ์อันดีกับพี่สะใภ้ บัดนี้พี่สะใภ้กำลังป่วยหนัก สกุลฉินยิ่งยุ่งวุ่นวายมากขึ้น พระชายารู้เรื่องสกุลฉินแล้ว ย่อมไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน”
“ท่านฉลาดมาก เช่นนั้นคงเดาเดาจุดประสงค์ข้าได้กระมัง”
“อาการบาดเจ็บของข้าเป็นอุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นในสกุลฉิน”
“เท่าที่ข้ารู้ ท่านเคยเป็นรองผู้นำสกุลฉิน”
“พี่ใหญ่เชื่อใจข้าจึงมอบอำนาจให้ข้าบ้าง เพียงแต่จะกล่าวว่าข้าเป็นรองผู้นำสกุลฉิน อันที่จริงแล้วก็ไม่ถูกต้องนัก”
“อย่างไรก็ตาม ท่านคงรู้สถานการณ์ในสกุลฉิน คิดว่าท่านคงพบบางอย่างเข้า ส่วนการบาดเจ็บของท่านใช่อุบัติเหตุหรือไม่ ในเมื่อท่านบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แน่นอนว่าข้าย่อมเชื่อในการตัดสินของท่าน อย่างไรเสีย ท่านก็เป็นคนสุขุมเช่นนี้ ในใจคงไม่มีข้อตำหนิใด”
“พระชายา เกรงว่าจะทำให้ท่านผิดหวังแล้ว ข้าไม่สนใจกิจการของสกุลฉินอีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสกุลฉิน”
มู่ซืออวี่มองดูเด็กทั้งสอง “ลูกชายลูกสาวของท่านน่ารักยิ่ง”
“ใช่ ขอเพียงพวกเขาสุขสบาย ข้าก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น” นายท่านเจ็ดฉินกล่าว “ไม่ว่าความมั่งคั่งหรืออำนาจ สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่สำคัญเท่าคนในครอบครัว ข้าคิดว่าพี่ใหญ่ก็คิดเช่นเดียวกัน”
“นี่ก็มืดค่ำแล้ว เช่นนั้นพวกเราไม่อาจรบกวนนายท่านเจ็ดไปมากกว่านี้”
“ขออภัยที่ผู้น้อยไม่อาจลุกขึ้นคำนับพระชายา”
หลังจากออกมาจากบ้านของนายท่านเจ็ดฉิน ชิงไต้ก็เอ่ยขึ้น “พระชายา พวกเรายังไม่ได้ถามอะไรเลยนะเจ้าคะ!”
“ข้าถามแล้ว” มู่ซืออวี่เอ่ย “ข้าพอคาดเดาได้บ้าง”
จวนฉิน
ฉินเหวินหานกลับมาถึงบ้าน เมื่อเห็นว่าซ่งซูไม่อยู่ในห้องจึงถามว่า “ฮูหยินน้อยเล่า?”
“ฮูหยินน้อยไปคารวะฮูหยินใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
ฉินเหวินหานโบกมือไล่บ่าวรับใช้ออกไป
ไม่นานนัก พ่อบ้านก็รีบร้อนเดินเข้ามา “นายท่าน ฮูหยินน้อยถูกพระชายาพาตัวไปแล้วขอรับ”
“ว่าอย่างไรนะ?!” ฉินเหวินหานตกใจ
“ได้ยินคนของพระชายาบอกว่า พระชายารู้สึกว่าฮูหยินน้อยเป็นหายนะจึงคิดจะฆ่านางขอรับ”
“พระชายาอยู่ที่ใด?”
“คงเป็นเรือนย่อยจวนลู่ขอรับ”
“เตรียมม้า!”
ฉินเหวินหานห้อม้าไปยังเรือนย่อยจวนลู่อย่างกระวนกระวายใจ
บ่าวรับใช้ของจวนลู่ขวางฉินเหวินหานเอาไว้
ฉินเหวินหานเอ่ย “ข้ามีเรื่องด่วนต้องรายงานพระชายา”
“ข้าต้องเข้าไปรายงานก่อน”
“ไม่ต้องแล้ว ข้ามาจากจวนฉิน พระชายาต้องพบข้าเป็นแน่” ฉินเหวินหานกล่าว “เรื่องที่ข้าจะกล่าวสำคัญมาก หากเกิดความล่าช้า พระชายาจะตำหนิท่าน ท่านจ่ายราคานี้ไหวหรือไม่?”
ฉินเหวินหานรุดเข้าไปในจวนลู่
เขาถามที่อยู่ของมู่ซืออวี่กับบ่าวรับใช้ในจวนลู่ บ่าวรับใช้จึงชี้ทางให้
เขาเดินไปตามทางที่บ่าวรับใช้ชี้ จากนั้นก็เห็นคนสนิทของมู่ซืออวี่หลายคนเฝ้าประตูอยู่ ข้างในมีเสียงกรีดร้องออกมา
“โอ๊ยยยยยย…”
เป็นเสียงของซ่งซูนั่นเอง
“ข้าต้องการพบพระชายา!” ฉินเหวินหานตะโกน “พระชายา ได้โปรดเมตตาด้วยเถิด!”
“นายท่านฉิน พระชายาของเรากำลังยุ่งอยู่ ไม่มีเวลามาพบท่าน” ชิงไต้กล่าว
“ข้ามีเรื่องสำคัญจะพูด”
“พระชายาให้โอกาสท่านก่อนหน้านี้ ท่านกลับไม่คว้าไว้ บัดนี้สายเกินกว่าจะพูดอะไรแล้ว”
“ไม่ได้! ไม่อาจทำร้ายนาง!”
“ดูเหมือนว่านายท่านฉินช่างรักใคร่คนรักใหม่เสียเหลือเกิน พอได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับนาง ท่านก็รีบบึ่งมาทันที ดูสิเสื้อผ้าเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก เกรงว่านายท่านฉินคงจะไม่เคยรู้สึกจนตรอกเพียงนี้มาก่อนกระมัง?”
ประตูเปิดออก มู่ซืออวี่เดินออกมา
ครั้นฉินเหวินหานได้กลิ่นเลือดฉุนกึก เท้าของเขาพลันอ่อนเปลี้ย จิตใจว่างเปล่า ทั่วทั้งตัวรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
คนที่อยู่ข้าง ๆ พยุงเขาไว้
“นายท่านฉิน ท่านวางใจเถอะ คนรักใหม่ของท่านยังเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายอยู่”
“พระชายา โปรดเมตตา” ฉินเหวินหานกล่าว “หากนางตาย อวี้เอ๋อร์กับลูกทั้งสองจะไม่รอดแล้ว”
“เพราะเหตุใด?”
“นางเป็นหญิงชาวเหมียว เก่งกาจเรื่องการใช้กู่พิษ นางเอากู่ใส่ร่างกายของอวี้เอ๋อร์และลูกทั้งสอง หากนางตาย พวกเขาก็ตายเช่นกัน” ฉินเหวินหานเอ่ยด้วยความเจ็บปวด “ข้าไม่อาจไม่ฟังนาง ไม่เช่นนั้นอวี้เอ๋อร์และลูก ๆ จะทำอย่างไร? หรือเพื่อสิ่งที่เรียกว่าเงิน แม้กระทั่งความเป็นความตายของพวกเขา ข้าก็จะไม่สนใจไยดีหรือ?”
“ร่างกายท่านไม่มีกู่พิษหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม “หากอยากควบคุม ควบคุมท่านโดยตรงไม่ดีกว่ารึ?”
“พระชายาประเมินธรรมชาติของมนุษย์ต่ำไป หากข้าถูกวางกู่พิษ ข้าจะสู้ตายไปพร้อมกับพวกเขา หากครอบครัวข้าถูกวางกู่พิษ เพื่อความปลอดภัยของบุตรและภรรยา ข้าไม่อาจไม่ยินยอม สตรีนางนั้นฉลาดยิ่ง รู้ว่าควบคุมครอบครัวข้าจะมีประโยชน์กว่าควบคุมข้า”
“ดังนั้น ท่านยอมรับแล้วหรือ?” มู่ซืออวี่กล่าว
“ใช่ ข้ายอมรับ ทั้งหมดนี้ล้วนถูกบังคับ ครึ่งหนึ่งของร้านข้าถูกโอนไปให้คนของนางปีศาจแล้ว ที่เหลือนางให้ข้าเก็บไว้ ไม่ใช่ว่านางไม่อยากกลืนลงไปทั้งหมด เพียงแต่นางคิดจะใช้เงินข้าหาเงินให้นางต่อไป”
“นายท่านฉิน ท่านดูข้างในเถอะ” เจ๋อหลานเปิดประตูออก
จึงได้เห็นว่าข้างในไม่มีซ่งซู มีเพียงผู้คุ้มกันหนุ่มผู้หนึ่ง
ผู้คุ้มกันผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงของซ่งซู “นายท่านฉินวางใจ ฮูหยินฉินน้อยผู้นั้นยังสบายดีอยู่ในจวนท่าน ไม่ได้เกิดเรื่องอะไร”
ฉินเหวินหานหน้าเปลี่ยนสี
มู่ซืออวี่มองเขา “ในเมื่อเปิดปากแล้ว เช่นนั้นก็เล่าออกมาให้ชัดเจน กล่าวครึ่งปิดบังครึ่ง นั่นจะน่าเบื่อเพียงใด?”
“หากนางปีศาจรู้ว่าข้าเล่าทุกอย่าง ภรรยาและลูกทั้งสองของข้าจะไม่ยิ่งอันตรายหรือ?” ฉินเหวินหานประกบมือขึ้น “พระชายา หากข้ามีทางเลือก ข้าจะยอมแลกทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีเพื่อความสงบสุขของพวกเขา นางปีศาจผู้นั้นชอบทรัพย์สินของข้า ข้ามอบให้นางก็สิ้นเรื่องแล้ว ข้าไม่กล้าเอาชีวิตครอบครัวข้ามาเสี่ยง”
“หากนางดูดเลือดท่านจนหมดแล้วนางยังไม่พอใจเล่า?” มู่ซืออวี่กล่าว “ในเมื่อคนผู้นี้โหดเหี้ยมเพียงนั้น ท่านคิดว่าอีกฝ่ายจะเมตตาท่านหรือ?”
“ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือกอื่น”
“ซูอวี้ไม่สบายเพราะถูกวางยาพิษรึ?”
“ขอรับ”
“แล้วท่านไม่หาท่านหมอมารักษานางหรือ?”
“เหตุใดจะไม่เล่า? เพื่อป้องกันไม่ให้นางปีศาจทำร้ายนาง ข้าจึงจงใจเมินเฉยเก็บซูอวี้ไว้ห่างตัว ทุกครั้งที่นางปีศาจหลับ ข้าจะพาคนมาจับชีพจรให้ฮูหยิน ทว่าข้าไม่กล้าปล่อยให้ฮูหยินรู้ ทุกครั้งจึงได้แต่ทำอย่างเงียบเชียบ”
“นางปีศาจผู้นั้นจะต้องถูกกำจัด กู่พิษของซูอวี้กับเด็ก ๆ ก็ต้องหาทางแก้” มู่ซืออวี่เอ่ย “ท่านกลับไปก่อน แสร้งทำเป็นโกรธข้า แล้วข้าจะหาทางบ่งหนามนี้ออกให้”
“ขอบพระทัยพระชายา”
“หากท่านบอกข้าตั้งแต่แรก คงไม่ต้องเสียเวลามากมายเพียงนี้”
“นางปีศาจผู้นั้นคอยจับตาดูข้าอย่างใกล้ชิด ครั้งนี้ข้ามาที่นี่ ไม่พบคนของนางปีศาจจึงคิดว่าพระชายาทำร้ายนางแล้วจริง ๆ” ในยามนั้นหัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น
จนกว่าจะถอนกู่พิษของฮูหยินกับลูกทั้งสองได้ นางปีศาจผู้นั้นยังไม่อาจตายได้
เมื่อฉินเหวินหานออกจากจวนลู่ บ่าวรับใช้ของจวนลู่ได้โยนกล่องหลายกล่องออกมา กล่องเหล่านั้นมีโสมคุณภาพเยี่ยมและของอื่น ๆ ที่คล้ายกัน
“เจ้านายเราบอกแล้ว นางไม่สนใจของที่ท่านมอบให้ หากท่านมีเวลายังไม่สู้เอาไปดูแลฮูหยินเจิ้งให้ดีเถอะ!”
ผู้คนที่ผ่านไปมาชี้ไปที่ฉินเหวินหานทำให้เขาดูน่าอับอาย