สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 1048 ถอนกู่พิษให้เจิ้งซูอวี้
บทที่ 1048 ถอนกู่พิษให้เจิ้งซูอวี้
เมื่อฉินเหวินหานกลับมาถึงจวนก็ราวกับเป็นมะเขือยาวที่ถูกเกล็ดน้ำค้างกัดกิน คนทั้งคนไร้ชีวิตชีวา
ซ่งซูเดินไปหาฉินเหวินหาน เอื้อมมือไปแตะไหล่เขา
ฉินเหวินหานหลบเลี่ยงแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “สิ่งที่เจ้าต้องการข้าก็ให้แล้ว เรื่องไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำ”
ซ่งซูกล่าวเสียงแผ่วเบา “นายท่านฉินช่างทำให้คนเศร้าใจเสียจริง ข้างามไม่พอหรือ? เหตุใดจนถึงตอนนี้ ท่านยังเฉยเมยต่อข้าเพียงนี้เล่า?”
“หากเจ้าไม่ใช้ความปลอดภัยของครอบครัวมาข่มขู่ ข้าย่อมไม่ปล่อยให้เจ้าคิดร้าย” ฉินเหวินหานกล่าว “บัดนี้ข้าล่วงเกินพระชายาแล้ว เจ้าคิดว่าพวกเราสกุลฉินจะยังมีชีวิตที่ดีได้หรือ?”
“นายท่านฉินอย่าได้มองโลกในแง่ร้ายนัก สกุลลู่ไม่ได้มีอำนาจทุกอย่าง ขอเพียงสกุลลู่สูญเสียอำนาจ ท่านล่วงเกินพระชายาลู่จะมีปัญหาอะไร? หากไม่มีอำนาจ นางก็เป็นเพียงสตรีธรรมดาทั่วไปผู้หนึ่งเท่านั้น”
ซ่งซูรินชาแล้วส่งให้ฉินเหวินหาน
ฉินเหวินหานผลักออกไปอย่างหมดความอดทน
“นายท่านฉินไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาเอาเสียเลย” ซ่งซูกล่าว “เมื่อครู่ท่านไปทำอะไรที่จวนลู่ ดูจากท่าทางท่าน หรือว่าถูกพระชายาลู่รังแกแล้ว? ข้าไม่ได้บอกหรือว่าท่านไม่อาจพบพระชายาลู่เพียงลำพัง?”
ฉินเหวินหานคิดอยู่ในใจ ‘ในที่สุดก็เอ่ยถึงแล้ว’
นางปีศาจผู้นี้เพียงแค่อยากรู้ว่าเหตุใดเขาถึงไปที่จวนลู่ เขาพูดอะไรกับพระชายาลู่ เปิดเผยเรื่องที่นางทำแล้วหรือไม่?
“เช่นนั้นต้องถามเจ้าแล้ว” ฉินเหวินหานกล่าว “หากเจ้าล้างพิษฮูหยินกับลูกของข้าตั้งแต่ที่พระชายาลู่มาที่นี่ แล้วทำให้ฮูหยินกลับเป็นปกติ พระชายาลู่คงไม่ใส่ใจจวนฉินของเราเป็นพิเศษ ข้าเคยบอกเจ้าแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าพระชายาลู่ไม่อาจล่วงเกินได้ ด้วยความผูกพันที่นางมีต่อฮูหยิน ยิ่งง่ายที่จะเปิดเผยตัวตนออกไป เช่นนั้น เจ้าย่อมไม่ได้ประโยชน์อะไร”
“พระชายาลู่ทำให้ท่านโมโหแล้วจริง ๆ หรือ?”
“ข้าเลือกของขวัญอย่างระมัดระวังส่งไปให้นาง นางไม่แม้แต่จะมองก็ให้บ่าวรับใช้โยนมันออกไป เจ้าว่าควรโมโหหรือไม่?”
“ข้าเคยบอกแล้ว คนสกุลขุนนางมีหน้ามีตาเหล่านี้เย่อหยิ่ง อีกทั้งยังหยาบคายเป็นที่สุด พูดถึงผู้ทำการค้าอะไร ในสายตาของพวกเขาพ่อค้าต่ำต้อยที่สุด พระชายาลู่ผู้นั้นเพียงแค่ถูกราชสำนักใช้เอาชนะใจพวกท่านเท่านั้น” ซ่งซูกล่าว “เจ้านายข้ากลับต่างออกไป เขาเห็นคุณค่าของพ่อค้าจริง ๆ ทั้งยังเต็มใจที่จะให้สิทธิแก่พวกเขามากขึ้น”
“เมื่อไหร่เจ้าจะถอนพิษให้ฮูหยินกับลูก ๆ ของข้า?”
“ข้าเคยบอกหลายครั้งแล้วว่านั่นเป็นกู่ ไม่ใช่ยาพิษ ขอเพียงข้าอยู่ดี พวกเขาก็จะอยู่ดี ฮูหยินของท่านล้มป่วยก็เพราะไข้ใจ ขอเพียงนางปล่อยวางเสีย อันที่จริงย่อมไม่เป็นอะไรทั้งนั้น”
“ตอนนั้นเจ้ารับปากว่าหากข้ามอบทรัพย์สินให้พวกเจ้า เจ้าจะถอนกู่พิษให้ครอบครัวข้า ข้าทำแล้ว หากเจ้ายังไม่ทำ เช่นนั้นเราก็พังพินาศไปด้วยกันเถอะ!”
“วางใจ ข้าจะถอนกู่พิษให้พวกเขา” ซ่งซูเข้าไปกอดคอฉินเหวินหาน
ฉินเหวินหานผลักนางออก
ซ่งซูมองฉินเหวินหานด้วยสีหน้าเศร้าใจ “นายท่านฉิน ข้าไม่งามหรือ? ผู้อื่นล้วนกล่าวว่าเพื่อข้าแล้วแม้กระทั่งภรรยาแรกของท่านที่เคารพซึ่งกันและกันท่านยังละเลย ทว่าพวกเขาไม่รู้ว่า นายท่านฉินเป็นพระอิฐพระปูน อยู่ในห้องเดียวกันกับหญิงสาวทุกวัน กลับไม่ยินดีแตะเนื้อต้องตัว ท่านทำเช่นนี้ทำให้ข้าสงสัยว่าเสน่ห์ของข้าลดลงแล้วหรือไม่”
“แม่นางซ่งรูปโฉมโดดเด่น ขอเพียงท่านยินดี บุรุษมากมายล้วนหลงใหลในตัวท่าน เพียงแต่ ข้าแก่แล้ว ไร้ซึ่งจิตปรารถนา เช่นนั้นจึงไม่ล่วงเกินแม่นางซ่ง”
เสียงของผู้ดูแลดังมาจากด้านนอก
“มีอะไร?”
“ฮูหยินไม่ไหวแล้วขอรับ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?!” ฉินเหวินหานรีบเดินออกไปข้างนอก เดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็กลับมาคว้าข้อมือซ่งซู พาออกไปด้วยกัน
“โอ๊ย นายท่าน ท่านทำข้าเจ็บแล้ว” ซ่งซูเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวล
ฉินเหวินหานกล่าว “สุขภาพของฮูหยินย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ เจ้าต้องล้างพิษให้นาง หากเจ้าอยากใช้กู่พิษ เช่นนั้นก็ใช้กับข้า ไม่เช่นนั้น เจ้าจะไม่ได้อะไรทั้งสิ้น!”
“นายท่านฉินช่างรักใคร่ฮูหยินเสียจริง ข้าอิจฉานางยิ่งนัก! ได้ เช่นนั้นข้าจะถอนกู่พิษให้นางก็แล้วกัน!” ซ่งซูกล่าวเบา ๆ
ฉินเหวินหานพาซ่งซูไปที่ห้องเจิ้งซูอวี้
“นายท่าน” บ่าวรับใช้ทำความเคารพ
“ฮูหยินเป็นอย่างไรบ้าง?” ฉินเหวินหานเอ่ยถามอย่างกังวล
“ฮูหยินเพิ่งอาเจียนเป็นเลือด หมดสติไปแล้วขอรับ”
ฉินเหวินหานเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
เจิ้งซูอวี้นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ กระดูกเปราะบางราวกับกิ่งไม้ ดูเหมือนคนป่วยหนักยิ่ง
“เหตุใดนางผอมเพียงนี้” ฉินเหวินหานมองซ่งซูด้วยสายตาดุดัน” หากวันนี้เจ้าคิดจะเล่นลูกไม้ ฮูหยินของข้าไม่รอด เจ้าก็อย่าหวังว่าจะรอด ทั้งยังมีของที่ข้าให้เจ้าไปอีก ถึงแม้จะเอาคืนมาไม่ได้ ข้าก็จะทำลายมันให้สิ้น! เจ้าเป็นคนฉลาด ควรรู้ว่าการทำให้ข้ากังวลไม่เป็นประโยชน์ต่อเจ้า”
“ร้อนใจไปไย? ข้าจะถอนกู่ให้นางเดี๋ยวนี้” ซ่งซูกล่าว “เพียงแต่ยามข้าถอนกู่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดอยู่ด้วย ท่านกับคนของท่านออกไปก่อน”
“เจ้าคิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก?”
“หากท่านไม่เชื่อ เช่นนั้นข้าก็ไม่ถอนแล้ว ฮูหยินท่านกำลังจะตาย ดูท่าแล้วคงไม่ผ่านคืนนี้ไปแน่ เตรียมโลงศพไว้ให้นางเถอะ!” ซ่งซูยกยิ้ม ดวงตานางยกขึ้นตามไปด้วย ดูค่อนข้างมีเสน่ห์ทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ชายที่อยู่ตรงข้ามนางราวกับคนตาบอด มองไม่เห็นเสน่ห์ของนาง ในสายตาของเขามีเพียงหญิงสาวใบหน้าซีดเซียวที่นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น
ซ่งซูนึกเหยียดหยาม “โง่จริง ๆ”
หญิงสาวหน้าตางดงามไม่ชอบ ไม่ว่านางจะยั่วยวนเขาด้วยวิธีใดอีกฝ่ายก็ไม่หลงกล ไม่เช่นนั้นนางคงไม่เปิดเผยตนเองและวางกู่พิษแทน อาจเป็นเพราะพยายามยั่วยวนเขาแล้วไม่สำเร็จ ต่อมาจึงต้องวางยาพิษฮูหยินของเขา เขาถึงได้พานางกลับมาในฐานะฮูหยินรอง
ฉินเหวินหานไม่วางใจ เขายืนนิ่งไม่ยอมขยับ
ซ่งซูหัวเราะเยาะ “หากช้าไปกว่านี้ แม้กระทั่งเทพเซียนก็ช่วยนางไม่ได้ ท่านแน่ใจหรือว่าอยากรั้งอยู่ที่นี่? ข้าจะบอกท่านให้ว่า ข้าจะไม่ช่วยนางจนกว่าท่านจะออกไป”
ฉินเหวินหานมองซ่งซู เอ่ยด้วยน้ำเสียงข่มขู่ “จำคำพูดข้าไว้ หากเกิดอะไรขึ้นกับฮูหยิน เจ้าก็อย่าคิดจะไปจากที่นี่ อย่างมากครอบครัวเราก็แค่ต้องตายไปพร้อมกับเจ้า”
“นายท่านฉิน ท่านวางใจ ข้ายังอ่อนเยาว์ทั้งยังงดงาม ไม่ยอมให้ตนเองตายอยู่ที่นี่อย่างไม่ยุติธรรมอย่างแน่นอน” ซ่งซูโบกมือ “ออกไปแล้วปิดประตูด้วย”
ฉินเหวินหานยืนอยู่นอกประตูด้วยสีหน้ากังวล
เกิดเสียงแปลกประหลาดดังมาจากข้างใน ข้างในมีบางอย่างเคลื่อนไหวเป็นปริศนา
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ฉินเหวินหาน เจ้าคนน่ารังเกียจ…”
ก่อนที่เขาจะกล่าวจบก็ได้ยินเสียงโกรธจัดของซ่งซูดังออกมา
ฉินเหวินหานพบว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงเปิดประตูเข้าไป
เห็นเพียงมู่ซืออวี่นั่งอยู่ที่นั่น โดยมีองครักษ์เงาหลายคนอยู่ตรงหน้า เจิ้งซูอวี้ลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง ถึงแม้จะยังซีดเซียวและอ่อนแอ ทว่าสีหน้าก็ดูดีขึ้นไม่น้อย ไม่ได้ไร้ชีวิตชีวาอย่างก่อนหน้านี้
ท่านหมอผู้หนึ่งจับชีพจรเจิ้งซูอวี้ จากนั้นจึงกล่าวว่า “พระชายาวางใจ กู่พิษในร่างกายของฮูหยินฉินถูกถอนออกไปแล้ว”
“วิธีที่นางถอนกู่พิษเมื่อครู่นี้ท่านเห็นแล้วใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่กล่าว
“ข้าน้อยเห็นแล้ว”
“ทำได้หรือไม่?”
“ไม่ยาก ส่วนผสมคือเลือดของนาง ขอเพียงมีส่วนผสมนี้ก็ใช้ได้แล้วขอรับ” ท่านหมอกล่าว