สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 1120 ตอนพิเศษ (22)
บทที่ 1120 ตอนพิเศษ (22)
หยางชวนนำเก้าอี้ออกมาแล้วเชิญให้พวกเขานั่ง
“จงซู่เกินไปเกณฑ์ทหาร เรื่องนี้เจ้าไม่รู้จริงหรือ?” หยางชวนเอ่ยถาม
“ท่านพี่ เรื่องสำคัญเพียงนี้ หากข้ารู้ย่อมไม่ปิดบังพวกท่าน” หยางชิงซือเอ่ย “ป้าจงบอกว่าเขาหายไป ข้ายังสงสัยอยู่ว่าเขาจะเข้าเมืองไปหางานทำหรือไม่ ผู้ใดจะคิดว่าเขาอยากเข้าร่วมกองทัพ เพียงแต่ตอนที่ได้ยินข่าวนั้น ท่าทีของเขาก็แปลกมากจริง ๆ เกรงว่าเขาคิดจะทำเช่นนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เขาคงไม่พูดเพราะรู้ว่าข้าจะไม่ยอม”
“สหายซู่เกินดีกับเจ้าไม่เลวจริง ๆ เพียงแต่น่าเสียดาย มารดาผู้นั้นของเขารับมือยากเกินไป หากเจ้าแต่งกับเขา เกรงว่าจะได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจเช่นเดียวกับพี่สะใภ้ของเจ้า”
“ท่านก็รู้หรือว่าพี่สะใภ้ได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจ? ตอนนี้พวกท่านแยกออกมาอยู่เพียงลำพังแล้ว แม้ท่านพ่อท่านแม่คิดจะจัดการเรื่องของพวกท่าน พวกเขาก็ไม่สามารถยื่นมือมาได้ยาวถึงเพียงนี้ ท่านก็ไม่อาจปล่อยให้พี่สะใภ้ได้รับความไม่เป็นธรรมอีก” หยางชิงซือกล่าว “ส่วนเรื่องของข้า ไม่ได้มีอะไรจัดการยาก ข้าหยางชิงซือไม่ได้ขาดบุรุษ ข้าจะเข้าเมืองไปตามหาเขาก่อน พูดคุยกับเขา ดูว่าเขามีความคิดอย่างไร เรื่องภายหน้าภายหน้าค่อยว่ากันเถอะ!”
“คำพูดนี้ของเจ้าทำให้ข้านึกขึ้นได้” หยางชวนเอ่ย “ในเมื่อพวกเราแยกออกมาอยู่ได้ เจ้าก็ทำได้เช่นกัน”
“ป้าจงโวยวายเช่นนี้ก็เพราะกลัวว่าข้าจะคิดอย่างที่ท่านว่า ท่านพี่กับท่านพ่อท่านแม่แยกบ้านกันโดยมีข้าคอยสนับสนุนอยู่ข้าง ๆ ในสายตาของท่านป้าในหมู่บ้าน ข้าเป็นเพียงตัวสร้างปัญหา เมื่อก่อนนางไม่ชอบข้าเป็นทุนเดิม บัดนี้ยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ เพียงแต่เรื่องนี้ไม่สำคัญ ไม่ชอบก็ไม่ชอบไป ข้าก็ไม่ได้ต้องการให้นางมาชอบเสียหน่อย” หยางชิงซือเอ่ย “จู๋จือ ยาอมของเจ้าพร้อมหรือยัง? หากพร้อมแล้ว คราวนี้เข้าเมืองจะได้นำไปลองขายสักหน่อย”
“ใกล้เสร็จแล้ว เพียงแต่…” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “เรื่องของเจ้าสำคัญกว่า ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของข้า”
“จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างไร? หากทำสำเร็จก็จะทำเงินได้ เจ้าทำเพียงคนเดียวไม่ไหวกระมัง? ต้องให้ข้าช่วยหรือไม่? เช่นนี้ หากเจ้ามีเงิน ข้าก็จะมีเงินเช่นกัน”
หลิวจิ่วจู๋รู้สึกขบขันตามนางแล้ว
หลังออกจากบ้านหยางมา หลิวจิ่วจู๋ก็กลับมาทำยาอมต่อ
พวกเขานัดหมายกันเข้าเมืองพรุ่งนี้
คราวนี้ไม่มีเกวียนของจงซู่เกิน พวกเขาตั้งใจว่าจะไปเช่าเกวียนจากหมู่บ้านข้าง ๆ มาสักเล่ม
เช้าตรู่วันถัดมา หลิวจิ่วจู๋ทำอาหารเช้าแล้วเคาะประตูห้องลู่ฉาวจิ่ง
“ตื่นได้แล้ว”
ภายในห้องไม่มีการตอบสนองใด ๆ
หลิวจิ่วจู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าว “ไม่เช่นนั้น วันนี้เจ้าไม่ต้องเข้าเมืองเป็นอย่างไร ข้ากับชิงซือเข้าเมืองก็พอแล้ว”
มีเสียงดังมาจากทางประตูบ้าน
หลิวจิ่วจู๋คิดว่าหยางชิงซือมาหา ทว่าเมื่อเดินออกไปที่ลานบ้านกลับเห็นร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาภายใต้แสงจันทร์
“เจ้า… เหตุใดเจ้าอยู่ข้างนอก?” หลิวจิ่วจู๋จำลู่ฉาวจิ่งได้
ลู่ฉาวจิ่งโยนแพะป่าลงบนพื้นแล้วกล่าว “คราวที่แล้วขาข้าบาดเจ็บยังไม่หายดีจึงไม่กล้าขึ้นไปล่าสัตว์บนเขา ตอนนี้เกือบจะหายดีแล้ว ล่าสัตว์สองสามตัวไม่เหลือบ่ากว่าแรง เช่นนี้ก็จะหาเงินได้เพิ่ม”
หลิวจิ่วจู๋ตะลึงงัน
“ล่าได้สองสามตัวหรือ?”
“ใช่ ยังมีกวางหนึ่งตัว ไก่ฟ้ากับกระต่ายสองสามตัว ข้าขนมาไม่หมดในคราวเดียว ทำได้เพียงแบกแพะกลับมาก่อน แล้วค่อยกลับไปเอาที่เหลือ”
“ข้าจะไปกับเจ้า”
ทั้งสองคนเดินผ่านบ้านหยางชวน หยางชิงซือกับหยางชวนออกมาพอดี
“พวกเจ้าจะไปที่ใด?” หยางชิงซือเอ่ยถาม
“สามีข้าล่าสัตว์ป่าได้ พวกเรากำลังจะขึ้นเขาไปเอาลงมา” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “พวกเจ้าไปรอที่บ้านข้า ประเดี๋ยวข้าจะรีบกลับ”
“ข้าจะไปยืมเกวียนจากหมู่บ้านข้าง ๆ” หยางชวนเอ่ย “ชิงซือ เจ้าขึ้นเขาพร้อมกับจู๋จือไปช่วยอีกแรงสิ”
“รู้แล้ว นี่ยังต้องรอให้ท่านบอกอีกหรือ” หยางชิงซือดึงแขนหลิวจิ่วจู๋ “สามีผู้นี้เจ้าหาได้ดียิ่ง! ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บจึงมองไม่ออกว่าเขามีความสามารถอะไร บัดนี้ดียิ่ง นึกไม่ถึงว่าจะล่าสัตว์ได้ ไก่ฟ้าหนึ่งตัวขายได้หกสิบอีแปะ กระต่ายขายได้แปดสิบอีแปะ แม้จับได้เพียงตัวสองตัวแต่นั่นก็เป็นเงิน! ถึงแม้ยาอมของเจ้าจะขายไม่ออก ภายหน้าเจ้าก็ไม่ต้องอดอยากแล้ว”
หลิวจิ่วจู๋อยากจะบอกว่าไม่ได้มีเพียงไก่ฟ้ากับกระต่าย ทว่ายังมีแพะกับกวางด้วย หากขายของเหล่านั้นออกไป อย่างน้อย ๆ ก็เป็นเงินนับสิบตำลึง
เพียงแต่ นางไม่ได้บอก
นางอยากเห็นหยางชิงซือประหลาดใจ
หลังจากขึ้นเขาไปแล้ว ลู่ฉาวจิ่งก็ส่งสัตว์ตัวเล็ก ๆ ให้พี่สาวน้องสาวทั้งสองถือ ส่วนตนเองก้มลงไปแบกกวางตัวใหญ่ขึ้นมา
หยางชิงซือกำลังถือกระต่ายตัวเป็น ๆ เมื่อเห็นลู่ฉาวจิ่งแบกกวางป่ามา ดวงตาของนางก็แทบจะถลนออกจากเบ้า
“กวางหรือ?” หยางชิงซือตกใจ “นี่ราคากี่มากน้อยกัน?”
หลิวจิ่วจู๋หัวเราะ “เอาล่ะ รีบกลับกันเถอะ”
ที่บ้านยังมี ‘เรื่องน่าประหลาดใจ’ รออยู่อีกนะ!
เมื่อกลับถึงบ้านหลิวจิ่วจู๋และเห็นว่าภายในสวนมีแพะ หยางชิงซือก็แทบจะเซถลาล้มลง
“นี่ก็เป็นสัตว์ป่าที่สามีเจ้าล่ามาหรือ?”
“ใช่แล้ว!” หลิวจิ่วจู๋ยิ้มหวานหยดย้อย “เขาร้ายกาจมากใช่หรือไม่?”
หยางชิงซือแววตาสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่ง
“จู๋จือ เข้าเมืองคราวนี้เจ้าช่วยข้าเลือกบุรุษสักคนเถอะ! ข้าไม่ต้องการให้เขามาเป็นสามี เพียงแค่ช่วยข้าทำงานก็พอแล้ว”
หลิวจิ่วจู๋หัวเราะ “โชคของข้าใช้ไปหมดแล้ว ช่วยเจ้าไม่ได้หรอก”
“โชคขี้หมาอะไรกัน!” หยางชิงซือเกือบอิจฉาแล้ว “ก่อนหน้านี้ข้ายังกังวลว่าเจ้าจะต้องกล้ำกลืน บัดนี้ดูท่าจะไม่จำเป็นต้องกังวลแม้แต่น้อย สามีเจ้ามีความสามารถมากเพียงนี้ หากใครคิดจะทำอะไรเจ้ายังจะอยู่ที่นี่ต่อได้หรือ? ดูเหมือนที่เขากล่าวก่อนหน้านี้จะเป็นเรื่องจริง เขาถูกศัตรูทำร้าย ถึงได้ถูกเจ้าเลือกกลับมา”
เมื่อเห็นสัตว์ที่ล่าได้ในลานบ้าน น้ำลายเขาก็แทบไหลย้อย
“พวกนี้ล้วนเป็นสัตว์ที่สามีจู๋จือล่ามาได้หรือ?”
“ใช่แล้ว ท่านพี่” หยางชิงซือกล่าว “ท่านบอกข้าเถอะ เกิดเป็นบุรุษเช่นเดียวกัน เหตุใดถึงได้มีช่องว่างใหญ่หลวงเพียงนี้เล่า?”
หยางชวน “…”
หรือเขาเป็นบุรุษปลอม?
ลู่ฉาวจิ่งขนสัตว์ขึ้นเกวียน จากนั้นก็หยิบยาอมของหลิวจิ่วจู๋ออกมา
ครั้งนี้นางทำยาอมไม่มากนัก หลัก ๆ เพื่อตรวจสอบความต้องการของตลาดเสียก่อน
หลายชั่วยามต่อมา ขณะที่แม่นางน้อยทั้งสองกำลังง่วงงุน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงตัวเมือง
พวกเขานำสัตว์ที่ล่ามาได้ไปขายก่อน
สัตว์ป่าเหล่านั้นซื้อง่ายขายคล่องเป็นอย่างมาก เดิมทีคิดว่าขายได้ในราคาสิบห้าตำลึงเงินก็ไม่เลวแล้ว นึกไม่ถึงว่าในเมืองมีคนร่ำรวยมากมาย เมื่อเห็นสัตว์ป่าที่สดใหม่เหล่านั้น ยังไม่ทันไปถึงตลาดก็มีพ่อบ้านผู้หนึ่งซื้อสัตว์ทั้งหมดไปในราคาสามสิบตำลึงเงินแล้ว
จากนั้นพวกเขาก็ไปที่ร้านยาเพื่อขายยาอม
“ยาอมที่เจ้าทำค่อนข้างฉลาดทีเดียว” ผู้จัดการร้านลองชิมไปสองเม็ดแล้วเอ่ยขึ้น “อย่างไรก็ตาม ร้านข้าเป็นร้านขายยา ยาอมนี้เข้าท่าจริง ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะมีคนเชื่อในผลลัพธ์ของมันหรือไม่ เอาอย่างนี้ ขวดนี้มีทั้งหมดห้าสิบเม็ด ข้าจะซื้อในราคาสิบอีแปะก็แล้วกัน”
“ในยาอมหนึ่งเม็ดมีสองตัวยา หนึ่งทำให้คอโล่ง อีกหนึ่งเพื่อดับความขม ในขวดมีห้าสิบเม็ด นั่นหมายความว่ามียาอมเทียบเท่ากับหนึ่งร้อยเม็ด คำนวณแล้วสามสิบอีแปะต่อหนึ่งเม็ด ขวดหนึ่งนี้ควรมีราคาหนึ่งตำลึงเงินครึ่ง เมื่อพิจารณาจากการที่ไม่เคยมียาอมเช่นนี้มาก่อน พวกท่านไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ เช่นนั้นพวกเราก็จะขอฝากขายกับพวกท่าน หากขายได้หนึ่งเม็ด พวกเราจะแบ่งค่าขายให้พวกท่านห้าอีแปะ หากขายไม่ได้ พวกเราจะรับผิดชอบความเสี่ยงทั้งหมด พวกท่านไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงใด ๆ” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “ถ้าพวกท่านเห็นด้วย เช่นนั้นก็เขียนหนังสือสัญญา”