สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 1131 ตอนพิเศษ (33)
บทที่ 1131 ตอนพิเศษ (33)
ณ ร้านยา เจ้าของร้านยิ้มแย้มพลางเอ่ย “ยาอมของเจ้าขายดีมาก จะดีกว่านี้หากมีรสชาติมากขึ้น ตอนนี้ยังขาดความหลากหลายอยู่บ้าง”
“ข้าทำรสซานจามาบ้าง ยาอมชนิดนี้เหมาะสำหรับกระตุ้นความอยากอาหาร มีผลมหัศจรรย์กับเด็กที่ทานอาหารไม่ค่อยได้ คราวหน้าจะพยายามทำขนมคลายร้อนให้สดชื่นบ้าง อย่างไรเสีย ไม่นานก็จะร้อนแล้ว คนส่วนมากย่อมอารมณ์ร้อนตามไปด้วย”
“แม่นางผู้นี้ฉลาดจริง ๆ” เจ้าของร้านกล่าว “นั่นเป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ข้าขอเตือนท่าน ไม่นานมานี้ร้านยาอื่น ๆ ก็เปิดตัวยาอมแล้วเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ดีเท่าของเจ้า แต่ข้าส่งคนไปซื้อมาลองดู ผ่านไปสักระยะ ข้าเกรงว่ายาอมของเจ้าอาจจะขายไม่ดีแล้ว เจ้าต้องคิดกลเม็ดใหม่ ๆ ให้มากขึ้นและทำให้เร็วกว่าพวกตามกระแส ยึดโอกาสในการทำการค้านี้ไว้ให้มั่น”
“เจ้าของร้าน ยังมีลูกอมอมรสปั้วเหอ*[1] อยู่หรือไม่? เสียงหนึ่งดังมาจากประตู “เอ๋ แม่นางหลิ่วก็อยู่ที่นี่หรือ?”
คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากชายหนุ่มในชุดคลุมหรูหราผู้หนึ่ง
ชายหนุ่มจับมือเด็กชายตัวเล็ก ๆ ไว้ เด็กน้อยดูผ่ายผอมจนดวงตากลวงโบ๋
“คุณชายถัง” หยางชิงซือเห็นแขกมาเยี่ยมก็ดีใจเป็นอย่างมาก “พวกเราอยากตามหาท่านอยู่พอดี!”
“ตามหาข้าหรือ?” ถังลี่เฉิงนึกสงสัย “เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณชายถังต้องการซื้อลูกอมรสปั้วเหอจึงบังเอิญเจอกันพอดี” หลิวจิ่วจู๋กล่าว “อ้อ นอกจากยาอมรสปั้วเหอแล้ว คราวนี้ข้าก็ทำรสซานจาด้วย ให้นายน้อยลองชิมดูเถิด”
“เจ้าของร้าน ข้าต้องการยาอมทั้งรสซานจาและรสปั้วเหอ” หลังจากถังลี่เฉิงเอ่ยกับเจ้าของร้านแล้ว เขาก็หันมาพูดกับหลิวจิ่วจู๋และหยางชิงซือว่า “แม่นางทั้งสองมีอะไรกับข้าหรือ? หากท่านมีอะไรจะเอ่ย เราข้ามถนนไปนั่งที่ร้านข้า ดื่มชาพลางค่อย ๆ พูดคุยกันเถอะ”
ความสัมพันธ์ของหยางชิงซือกับหลิวจิ่วจู๋และคุณชายถังผู้นี้เริ่มต้นจากการที่พวกนางเข้ามาในเมืองเพื่อขายยาอมเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนั้นพวกนางถูกเด็กน้อยน่าสงสารผู้หนึ่งคว้าชายเสื้อเอาไว้
เด็กชายดูขี้อาย ทว่าทั้งคู่ล้วนมีความอดทน เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาก็รู้สึกสงสาร หลังจากถามเขาอย่างอารมณ์ดีอยู่นานสองนานจึงพบว่าเด็กน้อยหลงทางแล้ว เขาพลัดหลงกับบิดาตอนออกไปซื้อของ
เรื่องราวต่อจากนี้แทบจะเดาได้ กล่าวคือ แม่นางทั้งสองพาเด็กชายไปทุกที่เพื่อตามหาพ่อ เพราะเขาเพิ่งย้ายมาที่นี่ไม่นาน อีกทั้งยังอายุน้อยจึงมีอุปสรรคบางอย่างในการสื่อสาร ใช้เวลานานสองนานกว่าจะพบถังลี่เฉิง
ถังลี่เฉิงรู้สึกผิดต่อลูกชายอย่างสุดหัวใจ เขาจึงต้องขอบคุณแม่นางน้อยทั้งสองที่ช่วยเหลือ เขาสั่งอาหารและเครื่องดื่มเลิศรสมากมายมาที่ร้านเพื่อเลี้ยงตอบแทน
หยางชิงซือเก่งด้านการเจรจา นางพูดคุยกับถังลี่เฉิงมากมาย ไม่นานก็รู้เหตุผลที่ถังลี่เฉิงมาที่นี่ ถือได้ว่าทั้งสามได้เป็นคนรู้จักกันแล้ว
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านแพรต่วนขนาดใหญ่ มีผ้าแพรไหมมากมายหลายหลายชนิด หลาย ๆ ชิ้น ไม่อาจหาซื้อได้ในที่แร้นแค้นห่างไกลแห่งนี้
“หากแม่นางหยางชอบ อีกประเดี๋ยวเลือกสักพับเถอะ ข้าจะขายให้ท่านในราคาที่ต่ำที่สุด”
“จริงหรือ?” หยางชิงซือประหลาดใจ “มีเนื้อผ้าแบบที่เหมาะกับเด็กแรกเกิดหรือไม่?”
“แน่นอนว่ามี”
“เช่นนั้นท่านก็ลดราคาพับนั้นให้ข้าเถอะ!”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เชิญแม่นางทางนี้”
ถังลี่เฉิงพาแม่นางน้อยทั้งสองขึ้นไปชั้นบน โดยชั้นที่สองนี้มีผ้าอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หยางชิงซือรู้ดีว่าผ้าไหมงดงามเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถซื้อหาได้ นางทำได้เพียงอิจฉา ไม่กล้าเหลียวมอง และยิ่งไม่กล้าร้องขอในสิ่งที่ไม่คู่ควร
ไม่ต้องเอ่ยถึงว่านางมีความสัมพันธ์กับคุณชายถังอย่างคนพบหน้ากันเพียงครั้งเดียว เพราะแม้อีกฝ่ายจะเป็นญาติสนิท นางก็ไม่ควรนึกถึงสิ่งที่ไม่ควรเป็นของตนเอง เมื่อครู่นี้หยางชิงซือประหลาดใจกับราคาของสินค้าเหล่านี้เป็นอย่างมาก ทว่าก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่ราคาที่นางสามารถจับจ่ายออกไป
อย่างไรก็ตาม หากนางต้องการซื้อผ้าเนื้อดีให้ลูกหลานตน ขอเพียงไม่แพงมาก หญิงสาวก็พอจะนำเงินส่วนตัวเพียงเล็กน้อยออกมาใช้ได้
“แม่นางทั้งสอง พวกท่านมีปัญหาอะไรเพียงกล่าวมา ขอเพียงผู้แซ่ถังสามารถช่วยเหลือได้ ข้าจะต้องทำอย่างสุดความสามารถแน่นอน” ถังลี่เฉิงรินชาให้ทั้งสองคน
“อันที่จริง พวกเราเพียงแค่อยากจะสอบถามบางอย่าง” หลิวจิ่วจู๋กล่าว “เถ้าแก่ถังเป็นคนกว้างขวาง รู้จักผู้คนมากมาย ไม่รู้ว่าเคยได้ยินเรื่องการรับสมัครทหารเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่?”
ถังลี่เฉิงฟังทั้งสองคนเล่าอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลังจากได้ฟังแล้ว เขาก็เอ่ยขึ้น “เรื่องนี้ข้าพอได้ยินอยู่บ้าง เพียงแต่ขอกล่าวตามตรง ข้าเพิ่งมาที่นี่ ยังไม่มีเส้นสายของตนเอง หากแม่นางทั้งสองรอได้ ข้าจะลองสอบถามเรื่องนี้ดู”
“เช่นนี้จะยุ่งยากสำหรับเถ้าแก่ถังเกินไปหรือไม่?” หลิวจิ่วจู๋เอ่ยถาม
“ไม่ได้ยุ่งยากแม้แต่น้อย ข้าเพิ่งมาใหม่ อย่างไรก็ต้องหาเส้นสายไว้บ้าง ตอนนี้ถึงเวลาที่จะสร้างสัมพันธ์ไปทุกที่แล้ว” ถังลี่เฉิงกล่าว “ท่านเล่าข่าวเรื่องสามีของท่านให้ข้าฟังเถอะ ข้าจะลองไปสอบถามดู”
“ยังมีสหายของข้าด้วย” หยางชิงซือกล่าว “เขาชื่อจงซู่เกิน เป็นเจ้าโง่ผู้หนึ่ง…”
ถังลี่เฉิงยิ้มรับ “ได้”
ถังจื่อหลิงเดินเข้ามา ในมือถือขนมชิ้นหนึ่ง เด็กชายส่งให้กับหลิวจิ่วจู๋
หลิวจิ่วจู๋ประหลาดใจ “ให้ข้าหรือ?”
ถังจื่อหลิงพยักหน้าน้อย ๆ
ดวงตาของถังลี่เฉิงฉายแววประหลาดใจ “เด็กคนนี้ชอบท่านมากจริง ๆ”
เขาเกิดมาพร้อมกับปัญหาด้านการสื่อสาร แม้กระทั่งถังลี่เฉิงซึ่งเป็นบิดายังใช้เวลาหลายปีกว่าจะเข้าใกล้เด็กชายได้ นับประสาอะไรกับผู้อื่น ด้วยสถานการณ์พิเศษของเขาทำให้บ่าวรับใช้ไม่สามารถดูแลใกลล้ชิดได้ ดังนั้นถังจื่อหลิงจึงต้องอยู่กับถังลี่เฉิงตลอดเวลา
“ข้าก็ชอบเขามากเช่นกัน” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “ไม่รู้ด้วยเหตุใด พอได้พบเขา ข้ากลับรู้สึกใกล้ชิดผูกพันราวกับรู้จักเขามาเนิ่นนาน”
“บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ เขาจึงชอบท่าน พวกท่านมีโชคชะตาต่อกัน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ติดตามท่านยามที่หลงทางเป็นแน่ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยพลัดหลงกับข้ามาก่อน แต่เขาจะยืนนิ่งจนกว่าข้าจะกลับไปหา”
“ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนหรือ?” หยางชิงซือเอ่ย “เถ้าแก่ถัง ท่านต้องคอยจับตาดูเขาให้ดี เขายังเล็ก หากเกิดสถานการณ์เช่นนั้นอีก คราวหน้าอาจไม่ดีโชคดีอย่างคราวนี้แล้ว”
“แม่นางหยางกล่าวได้ถูกต้อง ภายหน้าข้าจะต้องดูแลเขาให้มากขึ้นอย่างแน่นอน”
“เช่นนั้น พวกเราไม่รบกวนท่านแล้ว” หลิวจิ่วจู๋ลุกขึ้นยืน “เถ้าแก่ถัง พวกเราขอบคุณท่านมาก”
ถังลี่เฉิงพาพวกนางไปเลือกผ้าที่ชั้นหนึ่ง
เริ่มแรกหลิวจิ่วจู๋ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ หากแต่เมื่อเห็นผ้าพับหนึ่งที่เหมาะสำหรับตัดเสื้อผ้าบุรุษ นางจึงซื้อมาจนได้
หยางชิงซือซื้อผ้าที่เหมาะกับการตัดเสื้อผ้าให้เด็กทารก แม้ว่าเงินส่วนตัวของนางจะพร่องลงไปกว่าครึ่ง ทว่าเมื่อคิดถึงหลานสาวตัวน้อยนุ่มนิ่มผู้นั้น ใบหน้านางก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ข้าจะต้องทำให้อิงฮวาหลานของข้าเป็นนังหนูน้อยที่มีความสุขที่สุด”
อย่าได้เป็นเหมือนตัวนางที่บิดาไม่สนใจ มารดาไม่รักใคร่ เป็นเพียงคนน่าสงสารผู้หนึ่งเท่านั้น…
[1] รสปั้วเหอ : รสมินต์