สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 1161 ตอนพิเศษ (54/2)
บทที่ 1161 ตอนพิเศษ (54/2)
“นางตื่นแล้ว” หลี่ก๋วงไห่กล่าว “นางอยู่เฉยไม่ได้ ปกติยามนี้นางจะทำงานเย็บปักถักร้อยอยู่บนเตียง บอกว่าจะเย็บผ้าให้ลูก หลังออกจากอยู่เดือนแล้ว นางจะได้ใช้ห่อเขายามอุ้มออกไปสูดอากาศได้”
“ร่างกายนางยังไม่หายดี ควรพักผ่อนให้เพียงพอ” หลิวจิ่วจู๋เอ่ยอย่างเป็นกังวล “หากนางไม่พักผ่อนให้เพียงพออาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนางได้”
“ข้าพยายามโน้มน้าวนางแล้ว แต่ท่านไม่รู้หรอกว่านางดื้อดึงมากเพียงใด”
“อะแฮ่ม” เสียงไอเสียงดังฟังชัดดังมาจากข้างใน
ป้าหลี่ยิ้มพลางกล่าว “เจ้าไม่รู้จักควบคุมปาก อยู่ต่อหน้าฮูหยินลู่ยังพูดจาไร้สาระ ซิ่วเหนียงไม่พอใจแล้วกระมัง?”
“ฮ่า ๆ” หลี่ก๋วงไห่รู้สึกเขินอาย เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่พูดแล้ว ไม่เช่นนั้นซิ่วเหนียงคงไม่ให้ข้าพบนางกับลูก”
“พี่ใหญ่หลี่ช่างเป็นบุรุษที่ดีและรักใคร่ภรรยาจริง ๆ”
“นั่นซี หากผู้ชายทุกคนในหมู่บ้านเรารักภรรยาของตนมากเท่ากับพี่ใหญ่หลี่ ไม่รู้ว่าเรื่องน่าเศร้าจะน้อยลงเพียงใด” หยางชิงซือเห็นด้วย
“นี่เป็นพี่น้องที่ดีของข้า หยางชิงซือ” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “ชิงซือเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาก็ตรงไปตรงมา ดังนั้นขออย่าได้ขุ่นเคือง”
“จะพูดอย่างนั้นได้อย่างไร?” ป้าหลี่กล่าว “ข้าว่าแม่นางผู้นี้เป็นคนร่าเริง สหายของฮูหยินลู่ก็เป็นสหายของเรา หากภายหน้ามาเที่ยวเล่นที่นี่แล้วฮูหยินลู่ไม่อยู่บ้าน เจ้าก็มาเป็นแขกที่บ้านเราได้”
หลิวจิ่วจู๋เดินเข้าไปในห้อง
เฝิงซิ่วเหนียงกำลังนั่งเย็บปักถักร้อยอยู่บนเตียง
เมื่อเห็นหลิวจิ่วจู๋เข้ามา นางก็รีบวางของในมือลงแล้วทักทายด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินลู่มาแล้ว รีบนั่งเร็วเข้า”
“พี่สะใภ้ ท่านควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าได้หักโหมเกินไป หากท่านใช้ดวงตาระหว่างอยู่เดือน ภายหน้าสายตาท่านจะมีปัญหา ท่านคงไม่อยากรอให้ตนแก่เฒ่าแล้วกลายเป็นหญิงชราตาบอด อะไรก็ล้วนทำไม่ได้กระมัง?” หลิวจิ่วจู๋นั่งลงบนขอบเตียงแล้วเอ่ยกับเฝิงซิ่วเหนียง
“ข้าทนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้” เฝิงซิ่วเหนียงเหลือบมองเด็กในเปล แววตาของนางเปี่ยมไปด้วยความรักของแม่ “อีกอย่าง ข้าเป็นแม่แล้วจึงอยากทุ่มเทให้เขา ไม่อยากให้เขาน้อยเนื้อต่ำใจ ท่านไม่รู้ หมู่นี้พ่อสามีกับสามีของข้ากระตือรือร้นในการทำงานนอกบ้านมากขึ้นแล้ว ยังไม่ใช่เพราะเด็กคนนี้หรือ ครอบครัวพวกเราจึงมีแรงใจมากขึ้น”
หลิวจิ่วจู๋ฟังเฝิงซิ่วเหนียงเล่าเรื่องน่าสนใจที่เกิดขึ้นหมู่นี้ให้ฟัง
นางไม่รีบร้อนจึงไม่ได้ขัดจังหวะอีกฝ่าย
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลิวจิ่วจู๋ก็เอ่ยถึงเรื่องน้ำคาวปลา
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฝิงซิ่วเหนียงหายไป
นางลดเสียงลงแล้วเอ่ย “หากสถานการณ์ไม่ร้ายแรง มีน้ำคาวเพียงเล็กน้อยข้าย่อมไม่กังวล เพียงแต่มันมีมากเกินไป อีกทั้งกลิ่นยังเหม็นยิ่ง ข้าไม่กล้าให้สามีเข้าใกล้ กลัวเขาจะได้กลิ่นบนตัวแล้วภายหน้าจะหวาดกลัวจนไม่กล้าแตะต้องข้าอีก น้องสาวข้าเป็นตัวอย่าง หลังจากคลอดลูก ร่างกายของนางเหม็น ใบหน้าเต็มไปด้วยฝ้ากระ ดูแก่ขึ้นสิบปี น้องเขยข้ายอมจ่ายเงินห้าสิบอีแปะเพื่อไปหานางโลมที่ด้อยที่สุดในซ่องดีกว่ายอมแตะต้องนาง”
“ที่นี่ไม่มีผู้อื่น มีเพียงเราสองคน อีกทั้งยังเป็นสตรีทั้งคู่ ท่านอย่าได้กังวล ขอข้าดูก่อนเถอะ” หลิวจิ่วจู๋กล่าว
เฝิงซิ่วเหนียงลังเล
ถึงแม้จะเป็นสตรีทั้งคู่ แต่เฝิงซิ่วเหนียงก็ยังไม่อยากให้ผู้อื่นเห็นด้านที่น่าเกลียดของตน ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นบุรุษหรือสตรี คนในครอบครัวหรือคนนอกก็ตาม
“พี่สะใภ้ ตอนนี้ท่านเพิ่งคลอดลูก เป็นธรรมดาที่จะมีน้ำคาวปลาในร่างกาย หากรักษาได้ทันกาลก็สามารถแก้ปัญหาน้ำคาวปลาในช่วงอยู่เดือนได้ แต่หากปล่อยปละละเลย ร่างกายของท่านจะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อการให้นมลูก ท่านคงไม่อยากให้มีผลกระทบต่อการให้นมลูกกระมัง?”
“ไม่แน่นอน ลูกต้องกินนมแม่ถึงจะดี” เฝิงซิ่วเหนียงมองออกไปด้านนอกแล้วกล่าว “เช่นนั้นท่านปิดประตูให้ข้าหน่อยเถอะ ข้าไม่อยากให้ผู้ใดเข้ามา”
“ได้”
หลิวจิ่วจู๋ปิดประตูจากด้านในแล้วลงกลอนอย่างแน่นหนา
“ใช้ได้แล้ว”
เฝิงซิ่วเหนียงคว้าชายผ้าแล้วถามอย่างกังวลใจว่า “ข้าต้องทำอย่างไร?”
“ท่านเพียงแค่ต้องนอนลง ยกขาขึ้นตามที่ข้าขอ ข้าให้ท่านทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น”
เฝิงซิ่วเหนียงมองดูลูกที่ขาวจั๊วะดูนุ่มนิ่มในเปล ในที่สุดนางก็กัดฟันแล้วนอนลง จากนั้นก็เปลื้องผ้าออกตามคำสั่งหลิวจิ่วจู๋
นางหลับตาลง
หลิวจิ่วจู๋เห็นน้ำอยู่ข้าง ๆ จึงถามเฝิงซิ่วเหนียงว่าน้ำสะอาดหรือไม่ หลังจากได้คำตอบในแง่ดีจึงล้างมือด้วยน้ำสะอาด
กลิ่นเหม็นคลุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง
เฝิงซิ่วเหนียงมีสีหน้าไม่น่าดูชม
หลิวจิ่วจู๋ไม่ได้ปล่อยให้นางรอนาน หลังจากตรวจร่างกายทางด้านรีเวชแล้วก็เอ่ย ‘เสร็จแล้ว’ จากนั้นจึงล้างมืออีกครั้งแล้วค่อยเดินกลับมา
“เป็นอย่างไรบ้าง?” เฝิงซิ่วเหนียงถามอย่างกังวลใจ
“มีสิ่งที่ระบายไม่หมดจริง ๆ” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “ข้าจะเตรียมยาทำความสะอาดเพื่อช่วยให้ร่างกายของท่านกลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์โดยเร็วที่สุด”
“แม่สามีบอกว่าข้าเพิ่งคลอดลูก ไม่อาจสระผมไม่อาจอาบน้ำ แม้เจ้าสั่งยาทำความสะอาดร่างกายให้ ข้าก็คงไม่ได้ใช้”
“ข้าได้ยินท่านย่าบอกว่าเคยเห็นสตรีจากสกุลมั่งคั่งสระผมอาบน้ำในช่วงอยู่เดือน หลังจากสระผมก็ต้องเช็ดให้สะอาด เวลาอาบน้ำยังมีวิธีขัดถู ไม่ได้แช่น้ำโดยตรง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือข้าจะให้ยาชะล้างร่างกายท่าน หลังจากใช้ยานี้ น้ำคาวปลาในร่างกายจะขับออกได้เร็วยิ่งขึ้น หากไม่ใช้ยา น้ำคาวปลาก็จะสะสมอยู่ข้างใน ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างร้ายแรง”
เฝิงซิ่วเหนียงลังเล
“หากท่านไม่เชื่อข้า ข้าสามารถเรียกท่านหมอสักคนมาให้ท่านได้ ท่านสามารถถามท่านหมอดูได้ว่าจริงหรือไม่” หลิวจิ่วจู๋กล่าวแล้วยืนขึ้น
“ฮูหยินลู่ ข้าเชื่อท่าน” เฝิงซิ่วเหนียงเอ่ย “แทนที่จะให้หมอพวกนั้นชี้นิ้วมาที่ตัวข้า ยังไม่สู้เชื่อท่าน อย่างน้อยท่านก็ช่วยชีวิตเราสองแม่ลูกไว้จริง ๆ ข้าเชื่อว่าท่านไม่มีทางทำร้ายเรา และข้าเชื่อว่าท่านมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้”
“เช่นนั้นเรื่องนี้…”
“อย่าเพิ่งบอกสามีข้า” เฝิงซิ่วเหนียงจับผมมันเยิ้มของนางแล้วกล่าวอย่างหงุดหงิด “ไว้ข้าหายดีแล้วจะหาเวลาบอกเขาเอง”
หลิวจิ่วจู๋ออกมาแล้ว
หยางชิงซือคุยกับป้าหลี่จบพอดี เมื่อเห็นนางออกมาจึงเดินเข้าไปถาม “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“เป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กน้อย ข้าจะกลับไปเตรียมยาแล้ว” หลิวจิ่วจู๋กล่าว
“ฮูหยินลู่ ลูกสะใภ้ข้ายังอยู่เดือน ไม่อาจทานยาได้”
“ท่านป้าวางใจ เป็นเพียงยาชำระล้างสิ่งสกปรกในร่างกาย ใช้เพียงทำความสะอาด ไม่มีผลต่อการให้นมลูก” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย
หลี่ก๋วงไห่เอ่ยถาม “เป็นอย่างไรบ้าง? ซิ่วเหนียงป่วยหรือ?”
“เจ้าน่ะ เพียงขยันทำงานหาเงินก็พอ เรื่องการอยู่เดือนของลูกสะใภ้มอบให้ข้าจัดการเถอะ” ป้าหลี่กล่าวกระตุ้นเขา